บทที่ 32 ยุ่นหลิงปะทะสาวกนิกาย
บทที่ 32 ยุ่นหลิงปะทะสาวกนิกาย
ณ โลกพสุธา
เขตปกครองของนิกายวารพาดผ่าน - ทางเข้าหุบเขาพันภูเขา
สัปดาห์ละครั้ง นิกายวารีพาดผ่านจะส่งสาวกบางคนเข้าไปในหุบเขาพันภูเขาเป็นประจำเพื่อควบคุมอารมณ์ตัวเอง แน่นอนพวกเขาจะไม่ส่งไปทุกคน ในนิกายมีการพิจารณาหลายอย่างก่อนที่จะส่งสาวกเข้าไปในหุบเขาพันภูเขา สาวกของนิกายวารีพาดผ่าน จะต้องได้รับการทดสอบบางอย่างในนิกายของพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะเห็นว่าเหมาะสมที่จะถูกส่งไปยังหุบเขาพันภูเขา นี่คือการลดอัตราการบาดเจ็บล้มตายอันเป็นผลมาจากการขาดการเตรียมการหรือขาดทักษะของเหล่าสาวก
นิกายวารีพาดผ่านไม่ต้องการสูญเสียสาวกไปโดยไม่จำเป็นเนื่องจากพวกเขาใช้ทรัพยากรจำนวนมากไปกับพวกเขา ทางนิกายจึงจะไม่ส่งตัวสาวกที่ขาดความรับผิดชอบและความพร้อมไปยังสถานที่อันตรายเช่นหุบเขาพันภูเขาเพราะนั่นก็ไม่ต่างกับการส่งพวกเขาไปสู่ความตายเท่านั้น นั่นจะเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรและกำลังคน พวกเขาจะไม่ได้อะไรเลยนอกจากมีแต่เสียกับเสีย
เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้นิกายวารีพาดผ่านได้ทำมาตราการเพื่อเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของเหล่าสาวก นอกเหนือจากการให้สาวกของพวกเขาทำการทดสอบแล้วพวกเขายังถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มโดยมีผู้อาวุโสจากนิกายเป็นหัวหน้าคอยดูแลพวกเขา ผู้อาวุโสมักจะคอยอยู่ข้างๆในขณะที่ปล่อยให้สาวกทำอะไรด้วยตัวเอง เฉพาะเมื่อพวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายซึ่งเหล่าสาวกไม่สามารถรับมือได้เท่านั้นผู้อาวุโสจะยื่นมือช่วยเหลือพวกเขา
ด้วยเหตุนี้ เหล่าสาวกจึงสามารถปรับอารมณ์ตัวเองได้โดยไม่ต้องเสี่ยงชีวิตมากเกินไป นี่เป็นพื้นฐานจำเป็นสำหรับสาวกของ นิกายวารีพาดผ่าน
นี่คือเหตุผลที่สาวกเหล่านี้ประหลาดใจเมื่อเห็นหญิงสาวที่สวยงามพร้อมกับรัศมีอันสูงส่งรอบตัวเธอเมื่อเธอเดินไปที่ทางเข้าหุบเขาพันภูเขาด้วยตัวเธอเอง พวกเขาไม่เห็นใครเลยนอกจากเธอ ไม่มีแม้แต่ผู้อาวุโส เธออยู่คนเดียว
เมื่อเห็นแบบนี้ชายกลุ่มหนึ่งจึงตัดสินใจเข้าหาเธอ
“เฮ้ สุดสวย เจ้าจะเข้าไปในหุบเขาพันภูเขาด้วยตัวคนเดียวงั้นหรือ?” ชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งเดินมาหาเธอและถาม
“นั่นมันอันตรายมากสำหรับเจ้าเลยนะ ทำไมเจ้าไม่ไปกับพวกเราล่ะ ข้ารับประกันว่าเจ้าจะปลอดภัยกว่าถ้าเจ้าไปกับพวกเรานะ” หนึ่งในเพื่อนของชายหนุ่มรูปงามกล่าวเสริมขณะที่เขาจับร่างของเธออย่างสุขุมและเลียริมฝีปากของเขา
ผู้ชายส่วนใหญ่ที่ทางเข้า หุบเขาพันภูเขาเริ่มให้ความสนใจเธอ หญิงสาวคนนี้สวยเกินไปดังนั้น มันจึงมีแรงดึงดูดจำนวนมากพุ่งออกจากเธอ แต่การอยู่อย่างโดดเดี่ยวนี้ทำให้เธอโดดเด่นยิ่งขึ้น เธอไม่เพียงแต่ได้รับความสนใจจากผู้ชายเท่านั้นแม้แต่ผู้หญิงบางคนในบริเวณนั้นก็มองเธอด้วยความหวาดกลัวในขณะที่คนอื่นๆ ก็อิจฉาในความงามของเธอ
อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้ทั้งหมดที่นี่เข้าใจผิดเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง หญิงสาวที่สวยงามคนนี้แท้จริงแล้วเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง นั่นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูกชายคนที่สองของตระกูลยุ่น ยุ่นหลิง
ยุ่นหลิงมองดูทั้งสองคนที่เข้ามาใกล้เขาอย่างเย็นชา การจ้องมองของเขาทำให้ชายคนที่สองตกใจ เขาคิดว่าเขาไม่ได้สังเกตเห็น แต่สายตาของยุ่นหลิงนั้นดีกว่าของคนอื่นมาก เขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าชายคนที่สองมองเขาด้วยเล่ห์เหลี่ยมทำให้เขารู้สึกรังเกียจอย่างไม่น่าเชื่อ ยุ่นหลิงไม่ต้องการทำอะไรในตอนนี้มากไปกว่าการจ้องตาของเขาและควักมันออกมาเพื่อดูหมิ่น แทนการมองเขาด้วยความตั้งใจเช่นนั้น อย่างไรก็ตามเขาระงับความคิดดังกล่าวเนื่องจากนี่ไม่ใช่ถิ่นของเขา แต่เป็นของพวกเขา ที่นี่มีสาวกของนิกายวารีพาดผ่านมากกว่าที่เมืองเชินหลัน เขาจะต้องเผชิญกับการโจมตีของสาวกนิกายอื่นๆ อย่างแน่นอนหากเขาทำตามในสิ่งที่เขาคิดจะทำ
เมื่อชายคนที่สองสังเกตเห็นว่ายุ่นหลิงกำลังมองมาที่เขาราวกับว่าเขาเป็นเพียงแมลงเขาก็โกรธทันที
“นี่เจ้าหูหนวกเหรอ? พูดอะไรสักอย่างสิวะ!” เขาตะโกนขณะที่จับไหล่ของยุ่นหลิงอย่างแรง
ก่อนที่มือขวาของเขาจะสัมผัสกับไหล่ของยุ่นหลิงยุ่นหลิงก็จับมือซ้ายของเขาอย่างรวดเร็วและเหวี่ยงไปรอบๆ โดยวางมือของเขาไว้ที่ชายคนนั้น จากนั้นเขาก็ดึงไปข้างหน้าและโยนเขาลงที่พื้น
รอยแยกยาวคล้ายใยแมงมุมปรากฏขึ้นบนพื้น
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก พวกเขาเพียงแค่เฝ้าดูชายคนนั้นกำลังจะวางมือบนไหล่ของหญิงสาวสวยแล้วสิ่งต่อไปที่พวกเขารู้คือเขาอยู่นอนอยู่บนพื้นแล้วร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด โดยที่เขาไม่ทันได้โต้ตอบแม้แต่นิดเดียว
ชายคนนั้นมองไปที่ยุ่นหลิงอย่างเกลียดชังขณะที่เขาชี้นิ้วที่สั่นเทาไปที่เขา
“เจ้า… บังอาจมาก…!!”
ยุ่นหลิงเย้ยหยันขณะที่ยุ่นหลิงมองเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม
“เอามือที่สกปรกของเจ้าออกจากตัวข้า ไอ้สวะ”
ชายคนนั้นกระอักออกมาเป็นเลือดและเป็นลมล้มไปทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความเงียบขณะที่พวกเขาจ้องมองไปที่ยุ่นหลิงอย่างหวาดกลัว เหล่าสาวกบางคนแอบสบตากันโดยคิดว่าจะลงมือกับเขาดีหรือไม่ บางคนชักอาวุธเตรียมเข้าต่อสู้
ชายที่เข้าใกล้ยุ่นหลิงเป็นคนแรกรีบถอยหลังไปสองสามก้าวในขณะที่เขาชักดาบและชี้ไปที่ยุ่นหลิงด้วยความเป็นปรปักษ์
“เจ้ากล้าทำร้ายสาวกของนิกายวารีพาดผ่านได้อย่างไร?! แม้ว่าเจ้าจะเป็นผู้หญิงข้าก็จะไม่มีความเมตตาใดๆให้กับเจ้า !” ชายคนนั้นประกาศกร้าวในขณะที่จ้องมองเขา
สาวกที่เหลือทำตามเขาและหยิบอาวุธออกมาขณะที่พวกเขาล้อมยุ่นหลิง
“หืม ดูเหมือนจะเป็นเรื่องวุ่นวายแล้วสิเนี่ย” ยุ่นหลิงเดาะลิ้นของเขาด้วยความรำคาญ หลังจากความอดทนที่เขาพยายามอดกลั้นมันเพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสาวกเหล่านี้ในที่สุดมันก็ถึงจะเดือดแล้ว
เขาไม่โทษใครนอกจาตัวเองสำหรับเรื่องนี้ เขาสูญเสียความเยือกเย็นจากคำพูดที่น่าสมเพชของชายคนหนึ่งพยายามแตะต้องเขา
“เอาล่ะๆ” ยุ่นหลิงถอนหายใจ
เขาจะทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยตัวเอง
“เข้ามาหาข้าสิ ทั้งหมดทุกตัวเลยนั่นแหละ” เขากวักมือเรียกพวกเขาด้วยนิ้วชี้มือซ้ายขณะที่เผชิญหน้ากับพวกเขาอย่างไม่เกรงกลัว