ตอนที่ 15 การแต่งงานที่เป็นโมฆะ
ถัดจากธารน้ำใส ชายสง่างามกำลังหยอกล้อกับผู้หญิงทรงเสน่ห์ในชุดแดง พวกเขาวิ่งไล่กันรอบธารน้ำ หัวเราะกันอย่างเริงร่า
ลั่วหยุนชางรู้สึกเสียใจขณะเฝ้าดูคู่ชู้ แต่เพื่อตระกูล นางจึงรั้งตัวเองไว้และก้าวไปข้างหน้า“พี่ชายเซียวถิง…”
อารมณ์ของชายคนนั้นเปลี่ยนไป“ลั่วหยุนชาง ข้าคิดว่าข้าชัดเจนแล้วนะ นับจากนี้ไป ข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้าอีก ในสายตาข้ามีแค่ยู่เฟย”
“ใช่ ตอนนี้ไปซะ พี่สาวเซียวถิงไม่รักเจ้าอีกต่อไปแล้ว”ผู้หญิงในชุดแดงหัวเราะเยาะนาง
นางกัดริมฝีปาก ดวงตาของลั่วหยุนชางเปียกชื้น
ตอนที่ตระกูลลั่วกับตระกูลไช่เกี่ยวดองกัน พ่อแม่ของสองตระกูลได้จัดให้พวกนางแต่งงานกัน นางกับไช่เซียวถิงเติบโตมาด้วยกัน สาบานว่าจะรักกัน ไม่ทอดทิ้งกัน
นี่เป็นสาเหตุให้คนแรกที่นางนึกถึงคือคู่หมั้นของนางเมื่อนางต้องการความช่วยเหลือ
แต่ความจริงก็โหดร้าย นับตั้งแต่พวกเขามาที่นี่ นางและน้องชายต้องโดนไช่เซียวถิงกัลคุณหนูตระกูลซุนรังแก
นางรู้ว่าความหวังทั้งหมดที่จะแต่งงานกับตระกูลไช่หายไปแล้ว แต่เพื่อสร้างตระกูลขึ้นใหม่ นางหวังว่าผู้นำตระกูลไช่จะเห็นแก่ถึงความสัมพันธ์ในอดีตของสองตระกูลและให้ความช่วยเหลือ
แต่ผู้นำตระกูลไช่ก็เย็นชา ไม่สนใจชะตากรรมของพวกนางสักกะนิด
สองพี่น้องอยู่ที่นี่มาสิบวัน หวังเพื่อจะได้รับความช่วยเหลือ แต่เนื่องจากไช่หรงไม่สนใจนาง นางจึงทำได้แค่หันไปหาไช่เซียวถิง
“พี่ชายเซียวถิง ข้าไม่ได้ขอให้ท่านแต่งงานกับข้า ข้าแค่หวังให้ท่านช่วยโน้มน้าวพ่อของท่าน เพื่อเห็นแก่วันวาน โปรดช่วยเหลือตระกูลลั่วด้วย”
“มันไม่เกี่ยวกับข้า ไปบอกพ่อข้าเอง”ไช่เซียวถิงโบกมืออย่างเย็นชา
ลั่วหยุนชางคุกเข่าพร้อมน้ำตาที่ไหลนองหน้า
“พี่ชายเซียวถิง ถ้าท่านไม่ยอมช่วย ข้าจะคุกเข่าที่นี่จนตาย”
เมื่อเหลือบมองนาง ไช่เซียวถิงก็ขมวดคิ้วและรู้สึกลังเล
แต่จากนั้นซุนยุ่เฟยก็กระโดดมาคั่นกลาง ตบหน้าลั่วหยุนชาง แรงตบทำให้เลือดนางไหลซึมออกจากปาก
“ฮึ่ม นางแพศยา ไช่เซียวถิงเป็นของข้า อยู่ให้ห่างจากเขา”
ดวงตาสีแดงของซุนยู่เฟยจ้องเขม็ง นางหันไปหาไช่เซียวถิงและพูด“เจ้าเองก็อยู่ให้ห่างจากนางด้วย ถ้าข้าพบว่ามีอะไรระหว่างพวกเจ้า ข้าจะทิ้งเจ้า”
ราวกับตื่นขึ้น เขาพยักหน้าและสาบาน“ยู่เฟย ใจเย็นๆ หัวใจของข้าเป็นของเจ้า ผู้หญิงคนอื่นเป็นแค่ของสกปรก”
ดวงตาของไช่เซียวถิงแสดงความจริงใจ มองนางเหมือนสุนัขที่หลงเจ้านาย
ซุนยู่เฟยพยัหกน้าพอใจ ขณะที่ใบหน้าของลั่วหยุนชางซีดเซียง นางรู้ว่าความหวังสุดท้ายของนางหายไปแล้ว…
ซวบ!
เงาแวบผ่านและเสียงตบสองครั้งก็ดังขึ้น ซุนยู่เฟยและไช่เซียวถิงยังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อรอยมือสีแดงปรากฏบนหน้าพวกเขา
จั๋วฝานยืนตรงหน้าลั่วหยุนชาง“คู่ชู้บัดซบกล้าดียังไงถึงมาทำลายแผนการของข้า?”
“เจ้าเป็นใคร?”
ซุนยู่เฟยกับไช่เซียวถิงได้สติ พวกเขาคืออัจฉริยะแห่งเมืองเนตรสายลม ผู้เชี่ยวชาญกลั่นปราณ และไร้เทียมทานในรุ่น
แต่จั๋วฝานผู้นี้ ซึ่งมีอายุใกล้เคียงกันกลับเร็วกว่าพวกเขา พวกเขายังโดนตบหน้าก่อนทันตอบสนอง
เป็นไปได้ด้วยหรือที่จะมีบุคคลเช่นนี้ในโลก?
จากนั้น หัวหน้าผางกับลั่วหยุนไห่ถึงวิ่งมาถึง
เมื่อเห็นร่างบางตรงหน้า หัวหน้าผางก็ยิ่งตกใจ
แม้เขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญกลั่นลมปราณขั้นสี่ ส่วนไช่เซียวถิงเป็นขั้นสาม ต่ำกว่าเขา แต่พวกเขามีการเลี้ยงดูต่างกัน ถ้าพวกเขาปะทะกัน เขาอาจแพ้
แต่อัจฉริยะที่หยิ่งผยองเช่นนั้นกลับโดนจั๋วฝานตบหน้า เมื่อคิดถึงพลังที่เขาแสดงในป่า หัวหน้าผางก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้ได้อย่างไร
โดยไม่สนใจทั้งสองและหัวหน้าผางที่ตกใจ จั๋วฝานหันไปมองลั่วหยุนชางที่กำลังร้องไห้และรู้สึกเจ็บหัวใจ
“มารหัวใจ”จั๋วฝานกัดฟัน
ด้วยนิสัยของจักรพรรดิปีศาจ เขาสามารถมองข้ามคนทุกข์ทรมานทั้งโลกได้ ความน่าสงสารของเด็กผู้หยิงจะทำให้เขาเจ็บปวดได้อย่างไร?เขาสามารถระบุได้ว่ามันเป็นวิญญาณของอดีตเจ้าของร่างนี้ที่รู้สึกโกรธ
“ดูเหมือนข้าจะต้องติดกับตระกูลลั่วไปอีกสักพัก”
จั๋วฝานถอนหายใจขณะปาดน้ำตาของลั่วหยุนชาง“ไปกันเถอะ”
ลั่วหยุนชางพยักหน้า ไม่มีประเด็นอะไรให้อยู่ที่นี่อีก นางอุ้มลั่วหยุนไห่ที่ขมขื่น เดินไปพร้อมการผยุงของหัวหน้าผาง
“ฮึ่ม อย่าคิดว่าจะหนีไปไหนได้”
ซุนยู่เฟยร้องเสียงหลงขณะวิ่งมาขวางทางพวกเขา
ไช่เซียวถิงเองก็เข้ามา“ลั่วหยุนชาง เจ้าคิดว่านี่คือสถานที่ที่เจ้าคิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไปได้ตามใจชอบหรือยังไง?”
ลั่วหยุนชางเต็มไปด้วยความเสียใจและกำหมัดแน่น นางเสียใจที่มาเพื่อขอความช่วยเหลือ เจอกับคู่รักที่เอาแต่ใจ นางเสียใจอย่างยิ่ง
ถ้านางอยู่คนเดียว นางคงสู้เพื่อเกียรติของนาง แต่นางยังมีน้องชาย ถ้าเขาตาย นางคงละอายใจเกินกว่าจะไปพบพ่อแม่นางในปรโลก
“จะ-เจ้าต้องการอะไร?”เสียงของลั่วหยุนชางสั่นเทา
“ฮึ่ม ง่ายมาก คุกเข่าและโขกหัวสามครั้ง”ซุนยู่เฟยแสยะยิ้มและชี้จั๋วฝาน“โดยเฉพาะเขา!”
หัวหน้าผางกัดฟัน ตาของเขาแดงก่ำ ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าทุบตีคู่รักคู่นี้ นี่มันจะข่มเหงกันเกินไปแล้ว!
ลั่วหยุนชางลังเล จากนั้นก็หลับตาขณะคุกเข่าลง
“คุกเข่าซะ พวกเจ้าทุกคน”
พวกเขาสามารถได้ยินน้ำเสียงเศร้าเศกของนาง ซุนยู่เฟยเชิดคางด้วยความหยิ่งผยอง ยิ้มด้วยความภาคภูมิ
ปัง!
ก่อนพวกเขาจะคุกเข่า ซุนยู่เฟยกับไช่เซียวถิงก็ริเริ่มคุกเข่าก่อนพร้อมร้องออกมาเสียงดัง แทนที่จะบอกว่าพวกเขาคุกเข่า มันถูกกว่าที่จะบอกว่าพวกเขาโดนบังคับให้คุกเข่า