ระบบใช้จ่ายตอนที่270
บทที่ 270: น้องสาวแคนนอนในตำนาน?!
ขณะนี้ร่างกายของหลิวหมิงซินเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็นเช่นกัน
ในตอนนั้นเขาครุ่นคิดถึงปัญหานี้มาหลายวันแล้ว แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหงต้าหลี่ถึงอยากให้เขาเริ่มเล่นเกมออนไลน์
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว เด็กคนนี่ร้ายมาก เขาไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใด ๆ ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับความคิดเจ๋ง ๆ เหล่านี้เลย
หลิวหมิงซินที่ฉลาดก็รู้ดีว่าเกมนี้จะได้รับความนิยมแน่นอนเมื่อได้ยินความคิดของหงต้าหลี่
ทำไม? เพราะเกมนี้มันสมดุลยังไงล่ะ!
ถูกต้อง มันสมดุล!
เกมนี้ดูเรียบง่ายมาก พื้นผิวมีเพียงแผนที่และห้าคนต่อฝ่ายต่อสู้กันเองโดยไม่มีอะไรที่ไม่เหมือนใคร อย่างไรก็ตามเมื่อไตร่ตรองอย่างรอบคอบเขาก็สามารถคิดถึงปัญหานี้ได้
ความสมดุล!
เนื่องจากผู้คนทั้งสองฝ่ายสามารถเลือกฮีโร่ร่วมกันหรือฮีโร่ที่แข็งแกร่งและอ่อนแอได้ อย่างไรก็ตามแต่ละฝ่ายสามารถเลือกฮีโร่ที่แตกต่างกันเพื่อชดเชยสิ่งที่พวกเขาขาดไป ดังนั้นเมื่อรวมกันแล้ว ความสามารถของทั้งสองฝ่ายแทบจะเหมือนกัน!
ด้วยการเพิ่มแผนที่ซับซ้อนและอุปกรณ์ที่มีประโยชน์และพิเศษมากมาย หากใช้ในการแข่งขัน E-Sports ...
โอ้ พระเจ้า หลิวหมิงซินเชื่อว่า.. เมื่อเกมนี้เปิดตัว เกมจะได้รับความนิยมไปทั่วโลกในทันที!
ทำไมน่ะเหรอ? เนื่องจากเกมนี้มีวิธีการเล่นมากมายและแผนที่ซับซ้อนในเกมทำให้มีรูปแบบมากมายนับไม่ถ้วน! นอกเหนือจากสิ่งอื่น ๆ แล้ว หงต้าหลี่ยังบอกว่าเกมนี้มีพุ่มไม้ ซึ่งหมายความว่าศัตรูจะไม่สามารถมองเห็นฮีโร่ที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ได้!
แค่นี้มันก็สุดยอดไปเลยไม่ใช่หรือไง?
ยิ่งไปกว่านั้นตามสิ่งที่หงต้าหลี่พูดไว้ ในเกมนี้จะมีฮีโร่และประเภทของฮีโร่ค่อนข้างมากและในส่วนของเกมมังกรยุคทวีปของเขา พวกเขาสามารถแบ่งออกเป็นอาชีพประเภทต่าง ๆ ได้เช่นกัน ...
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
หลังจากคิดเรื่องเหล่านี้ สิ่งที่ทำให้หลิวหมิงซินกลัวจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องนี้
เหตุผลที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้เขากลัวก็คือ เขานึกถึงตัวละครของหงต้าหลี่
เขาเป็นศูนย์รวมของเทพเจ้าแห่งความโชคลาภ! ด้วยการใช้จ่ายจำนวนมากของเขา เหล่าอีสปอตมืออาชีพระดับแนวหน้าที่เล่นเกมมังกรยุคทวีปของเขาจะได้รับคัดเลือกแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการปรากฏตัวของกลุ่มซุปเปอร์แฟมิลี่,สมาคม ในเกมของเขา ดังนั้นการร่วมมือกับเขาในการจัดงานเทศกาลเกมนั้น มันเทียบเท่ากับการมอบกลุ่มเกมเมอร์ที่เก่งที่สุดในเกมให้กับเขาเป็นการส่วนตัว!
โอ้ ไม่ บางทีเขาเองก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน!
ดังนั้นคราวนี้หลิวหมิงซินยอมรับอย่างแท้จริง “ในอนาคต ฉันจะไม่สู้กับนายน้อยต้าหลี่อีก เด็กคนนี้ร้ายเกินไปจริง ๆ ร้ายกาจมาก …”
โชคดีที่ตอนนี้หงต้าหลี่ดึงเขาเข้ามาเริ่มสร้างเกมนี้แล้ว หลิวหมิงซินค่อนข้างพอใจ ดูเหมือนว่าในอนาคตการได้ร่วมทำงานกับนายน้อยต้าหลี่นั้นดีจริง ๆ ใครก็ตามที่รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาไว้ก็จะทำให้รุ่งเรืองและใครก็ตามที่ต่อต้านเขาก็จะพบเจอแต่เรื่องโชคร้าย
“คือว่า นายน้อยต้าหลี่” หลิวหมิงซินถามอย่างระมัดระวัง “เกมนี้จะมีฮีโร่ทั้งหมดกี่ตัว?”
“ฮีโร่กี่คน?” หงต้าหลี่ลูบคางของเขา “ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจเลย ตั้งไว้ที่ 70 ถึง 80 ตัว ก่อน ตอนนี้จือซานกำลังวาดตัวละครมากมายที่เธอสามารถวาดออกมาได้จะเป็นจำนวนฮีโร่ที่เราจะสร้าง”
น้ำตาของหลิวหมิงซินไหลอย่างกับฝนตก
ยังไม่เห็นเหรอ? เด็กคนนี้เริ่มวาดตัวละครไปแล้วด้วย ...
ขณะที่พวกเขาสองสามคนกำลังพูดคุยกัน เสี่ยวหมิงก็เข้ามาและพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ท่านหลิวค่ะ ฉัน.. ฉันควรกลับแล้วตอนนี้ ฉันกลัวเด็ก ๆ จะกังวลถ้าฉันอยู่ที่นี่นานเกินไปค่ะ…”
เมื่อพูดถึงตอนนี้ก็เวลา 21.00 น. แล้ว ได้เวลาเดินทางกลับ
“โอเค ได้เลย ฉันจะส่งเธอกลับ” หลิวหมิงซินยิ้มและลุกขึ้นทันที ทันใดนั้นเขาก็ถามหงต้าหลี่ว่า “นายน้อยต้าหลี่อยากมาด้วยหรือเปล่า? เด็ก ๆ อยากเจอนายน้อยต้าหลี่มาตลอดเลยนะ”
"หา? ได้สิ!" หงต้าหลี่รู้สึกสงสัยทันที “ไปเถอะ พาฉันไปดูเด็ก ๆ พวกนั้น!”
ก่อนที่จะมาอยู่ในโลกนี้ เขาเป็นเด็กกำพร้ามาก่อน ดังนั้นเขาจึงสนิทกับเด็กกำพร้าเป็นพิเศษ นี่เป็นธรรมชาติของเขาและสองช่วงชีวิตไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้
“ไปกันเลย!” หลิวหมิงซินสั่งให้หลิวหมิงเฉิงน้องชายของเขา “หมิงเฉิง นายพานายน้อยต้าหลี่ไปด้วย ฉันจะขับรถไปกับเสี่ยวหมิง”
"ได้สิ!" หลิวหมิงเฉิงเชิญหงต้าหลี่ทันที “นายน้อยต้าหลี่ ถ้าไม่รังเกียจมานั่งในรถของฉันได้นะ รถพี่หลิวมีที่ว่างสำหรับสองคนเท่านั้น”
"โอเค!" หงต้าหลี่ไม่ได้แกล้งอะไรหมิงเฉิง ดังนั้นเขาจึงตกลงทันที “ไปกันเถอะ!”
สี่คนและรถสองคันออกเดินทางทันที
ระหว่างการเดินทางหลิวหมิงเฉิงก็ขอโทษหงต้าหลี่ขณะที่เขาขับรถ “นายน้อยต้าหลี่ ครั้งก่อนที่โรงเรียน อย่าคิดว่าฉันเป็นคนแบบนั้นเลย ย้อนกลับไปตอนนั้น ฉันคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวของเราทั้งสอง… เพราะว่ามันเป็นแบบนั้นก็เลยทำให้ฉันต้องทำแบบนั้น”
“อืม ไม่เป็นไร ตอนนี้มันจบแล้ว” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หงต้าหลี่ไม่รู้จริง ๆ ว่าหลิวหมิงเฉิงทำอะไรกับเขา จริง ๆ แล้วผู้ชายคนนี้ก็เป็นคนที่น่าสงสารเช่นกัน รถของเขาพังยับเยินและเขาก็เสียหน้าเพราะตัวเขาเองและสุดท้ายเขาก็ยังต้องขอโทษตัวเอง ...
“ฮ่าฮ่า ตามที่คิดไว้นายน้อยต้าหลี่นั้นพูดตรงเสมอ!” หลิวหมิงเฉิงรู้สึกขอบคุณ “ในอนาคต บอกฉันได้เลยหากนายน้อยต้าหลี่มีปัญหาอะไร! ท่านปู่หลิวฟื้นตัวได้เป็นเพราะนายน้อยต้าหลี่แท้ ๆ ฉันจะไม่พูดหยาบคายกับนายน้อยอีกแล้ว ที่ทำไปก็อาจจะเพราะฉันเก๊กหล่อไปงั้น”
“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น…” หงต้าหลี่แสยะยิ้มและพูดว่า “ว่าแต่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้นอีก”
หลิวหมิงเฉิงยิ้มอย่างเขินอาย “ใช่ ใช่ นายน้อยต้าหลี่เป็นคนใจกว้างมากเลย ฮ่าฮ่าฮ่า”
ในขณะที่พวกเขายังคุยกันอยู่ พวกเขาก็มาถึงสถานที่ที่เด็กกำพร้าที่เป็นลูกบุญธรรมของหลิวหมิงซินพักอยู่ เมื่อเขาลงจากรถ หงต้าหลี่มองไปรอบ ๆ และรู้สึกไม่พอใจ “ฉันว่า.. พี่หลิว พี่ก็มีฐานะร่ำรวย แต่พี่ยังปล่อยให้เด็ก ๆ อยู่ในสถานที่แบบนี้…”
หลิวหมิงซินแทบสำลักตายเมื่อได้ยินคำพูดของหงต้าหลี่ คุณคิดว่าทุกคนใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเหมือนเขาไหม? ก็ ไม่! แน่นอนว่าเขาไม่กล้าพูดออกไปดัง ๆ ...
หลังจากจอดรถเสร็จ พวกเขาก็ขึ้นบันไดและไปถึงประตูใหญ่อย่างรวดเร็ว เสี่ยวหมิงหยิบกุญแจออกมาเพื่อเปิดประตูและเมื่อหงต้าหลี่เข้าไป เขาก็ตะลึง อพาร์ทเมนต์มีขนาดประมาณ 800 ตารางเมตรและเป็นอพาร์ตเมนต์ธรรมดา แน่นอนว่านี่ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต่อหน้าเขาตอนนี้มีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่สอนเด็ก ๆ อีกห้าคนที่แกะอักษรจีนได้อย่างไม่น่าเชื่อ!
“เด็กน้อยคนนี้…เธออายุประมาณ 7 หรือ 8 ขวบเท่านั้น…” หงต้าหลี่ตะลึง “เธอดูแลน้อง ๆ ได้ตั้งแต่อายุแค่นี้? ผู้หญิงคนนี้ ... โตเกินวัยจริงๆ!”
ทันใดนั้นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูและรู้สึกประหลาดใจขณะที่เธอหันไปมอง เมื่อเธอเห็นหลิวหมิงซิน เธอก็ลุกขึ้นยืนยิ้มและพูดว่า “พี่หลิว พี่กลับมาแล้ว!”
หงต้าหลี่จ้องมองไปที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้อย่างระมัดระวังและต้องยอมรับว่าเธอน่ารัก
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่กลมโตเหมือนเด็กผู้หญิงในการ์ตูน ใบหน้าเล็กบอบบางและสวยงาม เธอน่ารักมาก ผมสั้นของเธอที่แตะไหล่มีสีน้ำตาลธรรมชาติอยู่ภายใต้แสงที่ส่องประกายและยังมีความน่ารักแบบเด็ก ๆ อีกด้วย
บนผมของเธอมีกิ๊บติดผมและเธอสวมเสื้อสเวตเตอร์ขนสัตว์สีขาวที่ดูน่ารักและกระโปรงสั้นสีเทา เหมือนอย่างกับเด็กผู้หญิงที่อยู่ในฤดูร้อนในเดือนมิถุนายนและเด็กผู้หญิงก็สวมถุงเท้าสีขาวและรูปร่างที่เพรียวบางของเธอก็ทำให้เธอดูน่ารัก
เธออายุเพียง 7 หรือ 8 ขวบเท่านั้นและรูปร่างก็ค่อนข้างจ้ำม่ำ แต่ด้วยความสูงของเธอ เธอสูงประมาน 1.4 เมตร เนื่องจากความสูงของเธอ กระโปรงของเธอจึงค่อนข้างสั้นเผยให้เห็นต้นขาและน่องของเธอ ...
โลลิตัวน้อยน่ารักอะไรอย่างนี้!
หงต้าหลี่ยิ้มขณะที่เขาพูด “สาวน้อย เธอชื่ออะไร?”
"คะ?" ดวงตากลมโตและสดใสของเธอจ้องไปที่หงต้าหลี่ ทันใดนั้นเธอก็ยิ้มและพูดว่า “คุณเป็นพี่ต้าหลี่ใช่มั้ย? หนูชื่อว่า ยูเหมยจิน! สวัสดีค่ะพี่ต้าหลี่ พี่หลิวมักจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับพี่ต้าหลี่ให้เราฟังเสมอเลย!”
โอ้ ยูเหมยจิน ชื่อนี้ฟังดูดี แต่ทำไมฉันรู้สึกว่ามันคุ้น ๆ นะ ...
นี่รู้สึกแปลก ๆ หงต้าหลี่ยิ้มและถามว่า “น้องสาวเหมยจิน แล้วพี่หลิว เขาเล่าอะไรเกี่ยวกับฉันบ้าง?”
“พี่หลิวเล่าว่า..” ยูเหมยจินพูดเหมือนเป็นผู้ใหญ่ตัวเล็ก ๆ “พี่หลิวบอกว่าคุณเป็นอาเสี่ยอิจฉริยะและโชคดีมาก!”
“พี่หลิว…” หงต้าหลี่รู้สึกอายทันที หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หันไปทางหลิวหมิงซิน “พี่หลิวสอนเด็ก ๆ อะไรแบบนี้กัน…”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…” หน้าผากของหลิวหมิงซินเต็มไปด้วยเหงื่อ “แค่…เล่าเรื่องให้เด็ก ๆ มีความสุขเอง ฮ่าฮ่า…”
หลิวหมิงซินที่ดูจริงจังและชอบทำหน้านิ่งกลายเป็นสับสนเล็กน้อย
"เอ่อ.." หงต้าหลี่มองไปที่เด็กคนอื่น ๆ “จะว่าไปแล้ว เด็ก ๆ เหล่านี้น่าจะเข้าสู่วัยเรียนแล้ว ถ้าอย่างนั้นทุกคนก็มาเรียนที่โรงเรียนหลานเซียงของฉันสิ ทั้งอาหารและที่พัก พวกเขาจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ!”
เดี๋ยวก่อน ยูเหมยจิน? แคมปัสซิตี้?
หงต้าหลี่จ้องมองไปที่เด็กสาวตรงหน้าเขาราวกับว่าเขาเห็นผี นี่อาจเป็นน้องสาวแคนนอนในตำนาน (มิซากะ มิโคโตะ)?! (นางเอกในเรื่องเรลกัน)
เมื่อได้ยินหงต้าหลี่ขอให้เธอไปเรียนที่โรงเรียนของเขา ยูเหมยจินก็กระโดดด้วยความตื่นเต้นในขณะที่เธอยิ้มและพูดว่า "พี่ต้าหลี่ พี่เป็นคนดีมาก! พี่หลิวยังกังวลอยู่เลยว่าเราควรเรียนที่ไหน แต่ตอนนี้เราจะไปโรงเรียนของพี่ต้าหลี่ นั่นต้องเยี่ยมมากแน่ ๆ!
ใช่ไหม?
หงต้าหลี่หัวเราะอย่างมีความสุข “ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา ทุกคนจะได้ไปที่นั่น พวกเธอทุกคนเลย!”
การเผชิญหน้ากับเด็กกำพร้าไม่กี่คนเหล่านี้ ทำให้หงต้าหลี่อารมณ์ดีขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ย้อนกลับไปตอนที่เขาอยู่บนโลกก่อน ทุกคนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั้นดีกับเขามาก น่าเสียดายที่ตอนนี้เขามาอยู่โลกใหม่แล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่มีความหวังที่จะตอบแทนเพื่อนที่ดีเหล่านั้นเลย ดังนั้นเขาจึงรักษาเด็กพวกนี้ไว้ ดูแลพวกเขาให้ดีขึ้น
ในที่สุดเขาก็ไม่พบอะไรเลยแม้จะค้นทั่วร่างกายก็ตาม เขาทำได้เพียงแค่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “เอาล่ะ ฉันรีบมากตอนที่ฉันออกมา ดังนั้นฉันจึงไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาด้วย ไม่มีแม้แต่เงินเลย ดังนั้นตอนนี้ฉันเลยแจกเงินค่าขนมให้พวกเธอไม่ได้…” ในขณะที่เขาพูด เขามองไปที่หลิวหมิงซิน “พี่หลิว ทำไมพี่ไม่ช่วยฉันให้เงินค่าขนมเด็ก ๆ พวกนี้แทนล่ะ!” เพื่อนคนนี้มักจะมีผู้ติดตามอยู่ข้าง ๆ เสมอเมื่อเขาออกไปข้างนอกและตอนนี้ผู้ติดตามของเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาไม่มีทางเลือกเลยจริง ๆ
“ฮ่าฮ่า นายน้อยต้าหลี่ต้องล้อเล่นแน่ ๆ” หลิวหมิงซินยิ้มและพูดว่า “นายน้อยให้พวกเด็ก ๆ ได้เรียนที่โรงเรียนหลานเซียงก็ถือว่าเป็นของล้ำค่ากับพวกเขาที่ใหญ่ที่สุดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังอายุน้อย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมายหรอก”
“นั่นก็จริง…” หงต้าหลี่คิดอยู่พักหนึ่ง มันอาจจะไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเด็กเล็ก ๆ ที่จะมีเงินติดตัวมาก ๆ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนใจและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันจะไม่แจกเงิน หลังจากพวกเธอทุกคนเริ่มเข้าโรงเรียน ฉันจะให้เงินพวกเธอแทน โอเคมั้ย?”
"ยังไงก็ได้ครับ/ค่ะ!" เด็กน้อยตอบพร้อมเพรียงกัน ยูเหมยจินดึงมือของหงต้าหลี่และพูดอย่างเขิน ๆ ว่า “พี่ต้าหลี่ พี่ช่วยเล่าเรื่องของพี่ให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหม?”
"เรื่องของฉันงั้นเหรอ?" หงต้าหลี่ขยิบตาให้และพยักหน้า "ได้สิ!"