บทที่ 290
กลางหุบเขามีหมู่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ บ้านเรือนส่วนใหญ่ทำมาจากไม้ยกสูงด้านข้างมีชานสำหรับตากสมุนไพรและเนื้อสัตว์อสูร แสงไฟส่องสว่างไปทั่วบริเวณผู้คนด้านในยังคงเดินขวักไขว่ไปมา ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงดังโวยวายมาจากหน้าหมู่บ้าน เอียนไป๋หู่ถูกหามเข้ามาอย่างเร่งรีบ ชายชราหัวหน้าหมู่บ้านสวมชุดสีเทาขลิบสีขาวรีบออกจากบ้านพักเพื่อมาตรวจดูอาการบาดเจ็บ หลังจากนั้นก็ป้อนยาสองเม็ดให้แก่เอียนไป๋หู่
“เกิดสิ่งใดขึ้น”
เอียนไป๋หู่รีบกล่าววาจาออกมา
“เรียนท่านหัวหน้าข้าพบเจอชายหนุ่มผู้หนึ่งรับรู้ถึงการมีตัวตนของข้าระหว่างใช้วิชากำบังกาย อีกทั้งยังมีความสามารถใช้ทักษะตัดสายฟ้าได้อีกด้วย ชายหนุ่มผู้นี้ตั้งแต่ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ก็สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับพวกเราเจียงเยี่ย แต่ไม่ต้องห่วงขอรับข้าให้คนของเราไปล่อให้มันผู้นั้นไปอีกทางแล้ว”
ชายชราเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมองทางหน้าหมู่บ้านพร้อมกับเอ่ยวาจาออกมา
“ชายหนุ่มที่คนของข้ากล่าวออกมาคงเป็นเจ้าสินะพ่อหนุ่ม”
เนี่ยฟงก้มศีรษะคารวะพร้อมกับสะบัดมือขวานำจดหมายออกมา
“ข้าน้อยมีนามว่าเนี่ยฟง นำจดหมายของท่านเหมาหนานมาส่งให้แก่หัวหน้ากลุ่มเจียงเยี่ยขอรับ”
ชายชรายกยิ้มพยักหน้าตอบรับทันใดนั้นชายชราก็สะบัดมือขวาจดหมายในมือของเนี่ยฟงก็พุ่งมายังมือขวา ทันทีที่ชายชราเปิดอ่านถึงกับขมวดคิ้วเงยหน้ามาจ้องมองเนี่ยฟงไม่นานก็ก้มลงไปอ่านจดหมายต่อ หลังจากอ่านจดหมายเสร็จสิ้นชายชราก็ใช้พลังปราณทำลายจดหมายเป็นชิ้นๆ
“ได้ข้าตอบรับคำของเหมาหนาน แต่เจ้าต้องทำงานให้ข้าหนึ่งอย่าง”
เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้ว
“งานเพียงง่ายๆ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงส่งเอียนไป๋หู่ไปที่เมืองแห่งการค้า นั้นเพราะมีสายรายงานมาว่าจะมีคนของอ๋องมู่บุกมาที่นี่ และตอนนี้พวกมันกำลังบุกมาที่นี่แล้ว ข้าจะให้เจ้าและบุตรชายของข้าจัดการพวกมันหากทำสำเร็จข้าจะให้บุตรชายข้าติดตามเจ้ากลับไปด้วยเพื่อเป็นการยืนยันแก่เหมาหนาน”
เนี่ยฟงยังคงยืนนิ่ง หลายคนในหมู่บ้านแล้วต่างตื่นตกใจกับสิ่งที่ชายชรากล่าว ทันใดนั้นก็มีสายลมพัดเข้ามายังหมู่บ้านพร้อมกับชายผู้หนึ่งพุ่งทะยานเข้ามารูปร่างสูงใหญ่มัดผมหางม้าสวมชุดสีดำพร้อมกับมีผ้าดำปิดปาก ทันทีที่ชายผู้นั้นมาถึงก็รีบคุกเข่าคารวะชายชรา
“คารวะท่านพ่อ คนของอ๋องมู่ได้บุกเข้ามาแล้ว ตอนนี้พวกมันติดอยู่ค่ายกลแปดเหลี่ยมมีประมาณพันกว่าคนขอรับ”
ชายชราพยักหน้าตอบรับพร้อมกับเอ่ยวาจาสอบถามเนี่ยฟง
“ว่าอย่างไรละพ่อหนุ่มเนี่ยฟง เจ้ายินดีตอบรับคำขอของข้าหรือไม่”
เนี่ยฟงก้มศีรษะคารวะ
“แน่นอนขอรับ”
ชายชรายกยิ้ม
“กุยจางชายหนุ่มผู้นี้มีนามว่าเนี่ยฟงเป็นคนของเหมาหนาน เขาและเจ้าจะต้องจัดการสังหารคนของอ๋องมู่ทั้งหมด เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นข้าจะให้เจ้าออกเดินทางไปกับเนี่ยฟง”
กุยจางรีบลุกขึ้นพร้อมกับดึงผ้าปิดหน้าออก
“แต่ท่านพ่อ”
ชายชรายกมือขวาขึ้นห้าม
“ข้าเข้าใจ เอาละนี้คือคำสั่งเจ้านำทางชายหนุ่มผู้นั้นไปเถอะ”
กุยจางทำได้แต่ก้มหน้าตอบรับแต่หรี่ตาหันมาจ้องมองเนี่ยฟงอย่างไม่วางตา เนี่ยฟงเองก็พอจะรับรู้จึงเอ่ยวาจาออกมา
“เอาแบบนี้เป็นอย่างไรเราลองมาพนันกันดีหรือไม่พี่ชายกุยจาง หากผู้ใดสังหารคนของอ๋องมู่ได้มากที่สุดก็สามารถทำอย่างไรต่อผู้แพ้ก็ได้แบบนี้ดีหรือไม่ เราจะได้วัดกันไปเลยว่าเป็นข้าหรือท่านที่เก่งกาจกว่ากัน”
กุยจางแสยะยิ้มตอบรับอย่างไม่ต้องคิดเพราะพื้นที่ที่นี่เขาเชี่ยวชาญกว่าผู้ใดอีกทั้งค่ายกลนั้นเขาก็เป็นคนสร้างมันเอง
“ได้ หากข้าชนะข้าขอหักแขนเจ้าได้หรือไม่”
ชายชราถึงกับขมวดคิ้วเอ่ยวาจาออกมาเสียงดัง
“กุยจางเสียมารยาท”
เนี่ยฟงยกยิ้มกล่าวตอบรับเช่นกัน
“ได้ขอรับข้าตอบรับ แต่หากข้าชนะท่านต้องนำตำราศึกษาเกี่ยวกับค่ายกลของท่านทั้งหมดมาให้ข้า”
กุยจางหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอาสิข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะทำได้อย่างที่เจ้ากล่าวหรือไม่”
กุยจางหลังจากกล่าววาจาเสร็จสิ้นก็หันไปก้มศีรษะต่อชายชรา
“เช่นนั้นข้าคงต้องขอตัวก่อนขอรับท่านพ่อ”
เมื่อกล่าวเสร็จสิ้นกุยจางก็ดึงผ้าสีดำมาปิดปากหลังจากนั้นก็หันไปมองเนี่ยฟงไม่ถึงสองลมหายใจก็จางหายไป หลายคนรีบหันไปมองชายหนุ่มอีกคนก็พบว่าจางหายไปแล้วเช่นกัน เอียนไป๋หู่หันมาเอ่ยวาจากับชายชรา
“ท่านหัวหน้า”
“ดีแล้วที่ชายหนุ่มนามเนี่ยฟงปรากฏกายขึ้นที่นี่ กุยจางจะได้ตื่นเสียทีว่าต่อให้เจ้าเก่งกาจมากมายเพียงใดย่อมมีผู้ที่เก่งกาจกว่าเราเสมอ ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งข้าเบื่อที่จะต้องสั่งสอนเรื่องนี้แล้วให้พบเจอของจริงเสียบ้าง”
“ท่านหัวหน้าคิดว่าชายหนุ่มผู้นั้นสามารถสังหารคนของอ๋องมู่ได้มากกว่าคุณชายอย่างนั้นรึขอรับ”
“หากเจ้าไม่เชื่อก็แอบตามไปดูสิ”
สิ้นเสียงกล่าวชายชราก็หันหลังเดินจากไปเอียนไป๋หู่รีบนั่งโคจรลมปราณรักษาอาการบาดเจ็บทันที ทางด้านกุยจางก็เร่งฝีเท้าอย่างเต็มกำลังหันไปมองด้านหลังเมื่อไม่เห็นเนี่ยฟงติดตามมาก็แสยะยิ้มหาได้รับรู้ไม่ว่าเนี่ยฟงพุ่งทะยานติดตามมาอยู่ข้างๆ เกือบสองชั่วยามกุยจางก็ขึ้นมาบนเขาลูกหนึ่งจ้องมองลงไปด้านล่างเห็นกำลังทหารพันกว่าคนเดินวนเวียนไปมาตรงทางเดินกลางป่า บางส่วนนั่งพักเอาแรง เนี่ยฟงที่เห็นเช่นนั้นก็ยกยิ้มเอ่ยวาจาออกมา
“มาดูกันว่าท่านและข้าใครจะสังหารมากกว่ากัน”
กุยจางได้ยินถึงกับขมวดคิ้วหันไปมองตามเสียงที่ได้ยินแต่ก็ไม่พบเจอสิ่งใด ไม่ถึงสิบลมหายใจก็ได้ยินเสียงดังสนั่นมาจากด้านล่างเมื่อหันไปมองก็พบว่าเนี่ยฟงพุ่งทะยานลงไปด้านล่างแล้ว กรงล้ออาวุธที่ได้มาใหม่หมุนวนรอบกายมือทั้งสองถือแส้แข็งเอาไว้ในมือ เนี่ยฟงพุ่งผ่านไปทางไหนมีแต่คนล้มตาย ปราณแส้แข็งสีฟ้าปลิวว่อนจากแส้แข็งในมือทั้งสอง ส่วนกรงล้อก็พุ่งเข้าสังหารทหารรอบด้านเช่นกัน เลือดสีแดงสาดกระเซ็นตามพื้นซากศพค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มองเห็นเพียงเงาวูบวาบเท่านั้น เอียนไป๋หู่ที่คิดตามมาทีหลังถึงกับตื่นตกใจกับภาพที่เห็น ซากศพกองอยู่เกลื่อนพื้นได้ยินเพียงเสียงปะทะต้นไม้น้อยใหญ่หักโค่น
“เห็นทีคุณชายคงเจอขอแข็งเข้าเสียแล้ว พวกเจ้าดูเถอะชายผู้นั้นเมื่อปะทะกับพวกเราหาได้เอาจริง”
ชายฉกรรจ์ที่ติดตามมาสองคนพยักหน้าตอบรับกับคำของเอียนไป๋หู่ที่กล่าวออกมา การปะทะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่นานอรุณก็เริ่มที่จะทอแสงการปะทะที่เสียงดังสนั่นก็เงียบเสียงลง หลงเหลือเพียงควันไฟลุกโชนเป็นบางจุดเท่านั้น เนี่ยฟงนั่งโคจรลมปราณอยู่บนก้อนหินด้านหลังมีซากศพกองอยู่นับร้อย ทันใดนั้นก็เป็นกุยจางที่ปรากฏกายออกมาด้านหน้าพร้อมกับชี้ดาบในมือขวามาที่เนี่ยฟง
“เจ้าสนใจประลองกับข้าหรือไม่”
“ท่านคิดดีแล้วใช่หรือไม่ที่กล่าวเช่นนั้น”
“แน่นอน”
เนี่ยฟงส่ายศีรษะไปมาลุกขึ้นทันใดนั้นกุยจางก็พุ่งทะยานเข้ามาพร้อมกับฟาดฟันดาบในมือปราณดาบสีเขียวสี่เล่มพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เนี่ยฟงสะบัดมือขวาเกราะสายฟ้าปรากฏออกมาสี่วงต้านรับปราณดาบ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง กุยจางถึงกับขมวดคิ้วเช่นเดียวกับพวกเอียนไป๋หู่ที่แอบดูอยู่ ในระหว่างที่ทุกคนกำลังตกตะลึงเนี่ยฟงก็ปรากฏกายด้านหน้าของกุยจางกระหน่ำหมัดทั้งสองต่อยไปที่หน้าท้อง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง กุยจางถึงกับกระตุกตัวงอจากแรงปะทะ เลือดสีแดงถูกกระอักออกมา เนี่ยฟงแสยะยิ้มยกเข้าขวาเหยียบไปที่เท้าซ้ายของกุยจางพร้อมกับเอ่ยวาจาออกมา
“หวังว่าท่านจะจดจำความเจ็บปวดครั้งนี้นะขอรับ”
สิ้นเสียงกล่าวประกายสายฟ้าก็พุ่งออกจากมือทั้งสอง เนี่ยฟงกระหน่ำต่อยไปที่หน้าท้องอีกครั้ง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง หมัดสุดท้ายเนี่ยฟงต่อยเสยเข้าไปที่ปลายคาง เปรี้ยง กุยจางร่วงลงไปนอนกับพื้นเนี่ยฟงก็เอ่ยวาจาออกมาเสียงดัง
“รบกวนพวกท่านพาคุณชายกุยจางกลับหมู่บ้านด้วย”
เมื่อกล่าวสิ้นเสียงเนี่ยฟงเดินเข้าไปยังกองซากศพเพื่อค้นหาแหวนสร้างความประหลาดใจแก่เอียนไป๋หู่ไม่น้อย เกือบชั่วยามเนี่ยฟงก็พุ่งทะยานกลับไปยังหมู่บ้านอีกครั้ง เมื่อมาถึงก็ถูกพาตัวไปพบกับชายชราหัวหน้าหมู่บ้าน เนี่ยฟงถูกพาตัวเดินเข้ามายังบ้านหลังหนึ่ง ตรงกลางบ้านมีชายชรานั่งอยู่ ไม่นานคนที่พาเนี่ยฟงมาก็เดินจากไปทิ้งให้เนี่ยฟงอยู่กับชายชราเพียงสองคน ชั่วน้ำเดือดชายชราก็เอ่ยวาจาออกมา
“เจ้าคือเด็กในคำทำนายใช่หรือไม่”
เนี่ยฟงได้ยินเช่นนั้นก็รีบแผ่ลมปราณออกมาตรวจสอบโดยรอบพร้อมกับเอ่ยวาจาตอบรับ
“เด็กในคำทำนายเป็นข้าเอง”
ชายชรายกยิ้มสะบัดมือขวานำของบางอย่างออกมาเป็นมีดสั้นหนึ่งเล่มยืนให้แก่เนี่ยฟงพร้อมกับเอ่ยวาจาออกมา
“ข้ามีนามว่าซืองวนเป็นอีกหนึ่งคนที่ติดตามสังหารเจ้าในอดีต”