บทที่ 289
กิเลนอัสนีพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าสู่ดินแดนที่ถูกเรียกว่าเจียงเยี่ย เป็นดินแดนรกร้างผู้คนส่วนใหญ่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มอยู่ไม่เป็นที่ย้ายพื้นที่ไปทั่วเลี้ยงแกะและแพะเป็นอาชีพมีทั้งน้ำนมแพะ เหล้าแพะ และเสื้อขนสัตว์ที่ทำจากขนแกะเอาไว้ขายให้แก่พ่อค้าจากดินแดนอื่น ตลอดการเดินทางพบเห็นชนเผ่าต่างๆอยู่โดยรอบ เห็นการเดินทางของคาราวานผู้คนเหล่าพ่อค้าที่เดินทางมาซื้อสินค้าถึงที่นี่ด้วยเช่นกัน ถึงแม้สภาพอากาศโดยรวมจะร้อนในตอนกลางวันและหนาวเย็นในตอนกลางคืน ไม่นานเนี่ยฟงก็พบเห็นค่ายขนาดใหญ่ด้านหน้าที่เป็นแหล่งซื้อขายขนาดใหญ่ก่อนที่จะเข้าพื้นที่ของเจียงเยี่ย ชนเผ่าต่างๆจะนำสินค้าของตนมาวางขายรวมกันที่นี่ มีทั้งสมุนไพร อาหาร เหล้านมแพะ เนื้อสัตว์ รวมไปถึงทาสด้วยเช่นกัน
เนี่ยฟงสวมชุดสีเทาก้าวเดินเข้ามาในค่าย มีทหารสวมชุดขนสัตว์ถือดาบยืนประจำการอยู่แต่ก็หาได้มีการตรวจใดๆ ด้านหน้าเป็นตลาดขนาดใหญ่ส่วนใหญ่นำสินค้ามาวางขายตามพื้น เนี่ยฟงไม่รีรอเดินเลือกซื้อสมุนไพรหลากหลายชนิดอีกทั้งยังนำของตนที่มีอยู่เยอะออกมาขายเช่นกัน แต่ละร้านที่เนี่ยฟงเดินเข้าชมก่อนเดินจากเขาไม่ลืมที่จะสอบถามเกี่ยวกับเจียงเยี่ยแต่ก็หาได้มีผู้ใดเอ่ยกล่าวสิ่งใดมากนัก เนี่ยฟงใช้เวลาอยู่ที่แห่งนี้สองวันสำหรับหาข่าวแต่ก็ไม่ได้อะไรเพิ่มเติมมากนัก ทันทีที่อรุณเริ่มลาลับขอบฟ้าเนี่ยฟงก็หลบออกมาพักด้านนอกของค่าย หลายกลุ่มเลือกพักที่ด้านนอกด้วยเช่นกัน โดยใช้ซอกหินก้อนใหญ่สำหรับบังลมยามค่ำคืน หลายกลุ่มเริ่มที่จะก่อไฟสำหรับทำอาหารเย็น และมีหลายกลุ่มเช่นกันที่นำอาหารแห้งออกมาทาน เนี่ยฟงแยกออกมาห่างจากทุกคนเพื่อความสงบ
ยามจื่อ เสียงกรนดังแว่วมาจากกระโจมที่พักของเหล่าพ่อค้า เนี่ยฟงนั่งโคจรลมปราณอยู่ด้านหน้ากองไฟ แสงจากเปลิวไฟวูบวาบทันใดนั้นเนี่ยฟงก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับสะบัดมือขวาซัดมีดสั้นสีดำไปทางขวามือของตนบริเวณทุ่งหญ้า ฟิ้ว เคร้ง ประกายไฟสว่างวาบเนี่ยฟงหรี่ตามองเห็นชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งผมยาวสวมชุดสีเทาขลิบดำยืนยกยิ้มอยู่
“ไม่คิดว่าชายหนุ่มเช่นเจ้าจะเปิดเผยร่องรอยของข้าได้ น่าสนใจเจ้าคงไม่ใช่เป็นเพียงพ่อค้าธรรมดา”
เนี่ยฟงนิ่งเงียบไม่กล่าวสิ่งใดตอบ
“ในเมื่อเจ้าพบร่องรอยของข้าแล้วเช่นนั้นก็ทิ้งชีวิตของเจ้าเอาไว้ที่นี่เถอะ”
ต้นหญ้าสั่นไหววูบวาบชายฉกรรจ์สวมชุดดำสามคนพุ่งทะยานเข้ามา เนี่ยฟงยกยิ้มสะบัดมือขวากำชับแส้แข็งสีดำฟาดหวดด้วยทักษะตัดสายฟ้า ปราณแส้แข็งสามเล่มพุ่งเข้าหาชายฉกรรจ์ทั้งสาม ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนดังแว่วมาจากด้านหน้า
“ถอยออกมา”
ชายฉกรรจ์ทั้งสามถีบเท้าพุ่งถอยออกมาอย่างรวดเร็ว ปราณแส้แข็งทั้งสามพุ่งเฉียดร่างของทั้งสามไป เปรี้ยง ปะทะกับพื้นดินเกิดเสียงดังสนั่น เนี่ยฟงเองถึงกับขมวดคิ้ว ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มที่จะตื่นขึ้นจากแรงปะทะ
“น่าประหลาดใจยิ่งนักที่เด็กน้อยเช่นเจ้ารู้จักใช้ทักษะตัดสายฟ้า”
เนี่ยฟงกำชับแส้แข็งในมือแน่นจ้องมองชายฉกรรจ์ด้านหน้าอย่างไม่วางตา
“ข้าชักสนใจเจ้าแล้วไอ้หนู ข้าคือชาวเจียงเยี่ย”
เนี่ยฟงได้ยินเช่นนั้นก็ยกยิ้มแต่ทว่าก็ต้องกำชับแส้แข็งในมือเตรียมพร้อมเมื่อได้ยินเสียงเอ่ยวาจาดังแว่วออกมา
“พวกเจ้าไม่ต้องยุ่ง คนที่ใช้ทักษะตัดสายฟ้าได้พวกเจ้าไม่ใช่คู่มือ”
ทันใดนั้นชายฉกรรจ์ผู้นั้นก็พุ่งทะยานเข้าหาเนี่ยฟงพร้อมกับสะบัดมือขวากำชับดาบในมือแน่น
“ข้ามีนามว่าเอียนไป๋หู่ ไอ้หนูเจ้าแสดงพลังฝีมือให้ดูหน่อยสิ”
เนี่ยฟงพุ่งเข้าหาเช่นกันมองเห็นเพียงเงาวูบวาบไปมาพร้อมกับเสียงปะทะของดาบและแส้แข็ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง ไม่นานก็มีเสียงตะโกนดังลั่นมาจากทหารกลุ่มของเอียนไป๋หู่ก็รีบหลบหนีจากไป เนี่ยฟงถูกทหารรีบเข้ามาควบคุมตัวเองไว้ หลังจากนั้นก็ถูกพาเข้าไปในค่ายกองกำลังทหาร มีชายชราศีรษะล้วนตัวอ้วนสวมชุดเกราะนั่งทานอาหารอยู่บนโต๊ะด้านหน้า เนี่ยฟงเมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบก้มศีรษะคารวะ มีทหารหนึ่งนายรีบเข้าไปรายการเรื่องที่เกิดขึ้น
“เจ้าไม่รู้รึว่าห้ามมีการต่อสู้ขึ้นที่นี่”
“เรื่องนั้นข้าทราบดี ข้าเพียงแค่ป้องกันตัวเท่านั้น”
“คนกลุ่มที่เจ้าเข้าปะทะคือใคร”
“มีคนผู้หนึ่งกล่าวอ้างตัวเองว่าเป็นชาวเจียงเยี่ย มีนามว่าเอียนไป๋หู่”
ทันทีที่ชายชราได้ยินชื่อที่เนี่ยฟงเอ่ยวาจาออกมาถึงกับมืออ่อนน่องไก่ในมือถึงกับร่วงลงพื้น เนี่ยฟงหรี่ตามองทหารหลายคนถึงกับตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว เนี่ยฟงรีบเอ่ยวาจาออกมา
“หากไม่มีสิ่งใดแล้วข้าคงต้องขอตัวก่อน”
เนี่ยฟงรีบก้มคารวะอีกครั้งหลังจากนั้นก็เดินออกจากกระโจมออกมา แน่นอนว่าเขาได้ยินคำสั่งให้ทหารแอบสะกดรอยตามเขาเอาไว้ รุ่งเช้าเนี่ยฟงก็เดินตลาดอีกครั้งเขาเองก็พอรับรู้ว่ามีทหารแอบสะกดรอยตาม เขาเดินวนเวียนไปมาในตลอดหลังจากนั้นก็หายไปกับฝูงชน ไม่นานเขาก็ตัดสินใจออกเดินทางอีกครั้งเข้าไปในเขตของเจียงเยี่ย เนี่ยฟงซื้อม้าสำหรับเดินทางหาได้ใช้สัตว์อสูรเพราะว่าราคาของมันที่นี่ถูกที่สุดหากจะใช้กิเลนอัสนีก็จะเป็นการเปิดเผยตัวมากเกินไป ดินแดนเจียงเยี่ยหาใช้เป็นดินแดนรกร้างมีทุ่งหญ้าขึ้นอยู่เต็มไปหมด สองข้างทางมองเห็นฝูงแกะและแพะขนาดใหญ่ถูกเลี้ยงอยู่โดยทั่ว อีกทั้งยังมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเรียงรายเป็นระยะๆ
แสงอรุณลาลับขอบฟ้าเนี่ยฟงมัดม้าไว้ใต้ต้นไม้ ส่วนตัวเขานั้นนั่งย่างเนื้อสัตว์อสูรอยู่ใต้ต้นไม้แอบสะบัดมือขวาซัดแผ่นหินออกไปรอบด้าน หลังจากทานจนอิ่มเนี่ยฟงก็นั่งพิงต้นไม้โคจรลมปราณ ทันใดนั้นเองเนี่ยฟงก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับโยนกิ่งไม้ไปที่กองไฟ เปลิวไฟลุกโชนให้แสงสว่างเนี่ยฟงมองเห็นกลุ่มคนเกือบสิบคนปรากฏกายที่ด้านหน้า
“ข้าเฝ้ารอพวกท่านอยู่นานเช่นกันคิดว่าจะไม่มาเสียแล้ว”
“ปากดีนักไอ้หนู เมื่อคืนหากไม่มีทหารพวกนั้นมาเจ้าคงตกตายไปแล้ว ดีที่เจ้านำพาตัวเองมาสู่ความตาย”
เนี่ยฟงค่อยๆลุกขึ้นยืนแอบโคจรลมปราณไปที่มือขวาเอาไว้ เขายกมือซ้ายขึ้นมากวักเรียก
“พวกท่านเข้ามาพร้อมกันเถอะ”
“สังหารไอ้เด็กเวรนี้ซะ ระวังมันใช้ทักษะตัดสายฟ้า”
เงาดำนับสิบพุ่งกระโจนเข้ามาพร้อมกับฟาดฟันดาบในมือ ปราณดาบปลิวว่อน เนี่ยฟงก้มตัวซัดฝ่ามือขวาลงพื้น เปรี้ยง ประกายสายฟ้าพุ่งไปตามพื้นไปที่แผ่นหินเถาวัลย์สีฟ้าพุ่งรัดตัวเงาสีดำทั้งหมด เสียงร้องโหยหวนดังแว่วออกมา เนี่ยฟงสะบัดมือทั้งสองกำชับแส้แข็งสีดำและสีขาวในมือพุ่งเข้าหาเงาดำ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เนี่ยฟงเลือกที่จะทุบตีขาและมือทั้งสองหาได้สังหาร เสียงกระดูกแตกดังลั่นตามเสียงปะทะ ทันใดนั้นเองเนี่ยฟงก็ต้องถีบเท้าหลบปราณดาบสีเขียวสามเล่มที่พุ่งเข้ามา เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้วเพราะปราณดาบที่พุ่งออกมาใช้ออกด้วยทักษะตัดสายฟ้า เอียนไป๋หู่หลังจากฟาดฟันดาบออกมาก็พุ่งเข้าหาเนี่ยฟงอย่างรวดเร็ว เคร้ง เคร้ง เคร้ง
ปราณดาบและปราณแส้แข็งพุ่งเข้าปะทะกันเสียงดังสนั่น เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง พื้นดินโดนรอบถูกทำลาย พวกที่ถูกเถาวัลย์รัดถูกปล่อยตัวร่วงลงพื้น ทั้งสองผลัดกันรุกรับเนี่ยฟงใช้ออกด้วยความเร็วโยกตัวหลบไปมาบางครั้งใช้แส้แข็งในมือทั้งสองต้านรับ ทันใดนั้นเองเอียนไป๋หู่ก็ฟาดฟันดาบลงมาเนี่ยฟงใช้แส้แข็งสีขาวเข้าต้านรับ เคร้ง แต่ทว่ากลับมีปราณดาบพุ่งผ่านออกมาฟันไปที่หัวไหล่ขวาอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง เนี่ยฟงกระเด็นออกไปโชคดีที่ใช้ทักษะอาภรณ์สายลมได้ทัน เสื้อที่สวมใส่เป็นเพียงรอยขาดเท่านั้น เอียนไป๋หู่ยกยิ้มพุ่งทะยานเข้าหาเนี่ยฟงอีกครั้ง เคร้ง เคร้ง เปรี้ยงไม่นานเนี่ยฟงก็ถูกฟันกระเด็นออกมา
“ต่อให้เจ้ามีความเร็วก็หาหลบปราณดาบของข้าได้ไอ้หนู”
เนี่ยฟงยกยิ้มกล่าววาจาตอบ
“มันก็ไม่แน่เสมอไปหรอกพี่ชาย ไม่เชื่อท่านจะลองดูก็ได้นะขอรับ”
“เจ้าจะได้เห็นดีกัน”
เอียนไป๋หู่กวัดแกว่งดาบในมือพุ่งเข้าหาเนี่ยฟงอีกครั้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง ในจังหวะที่เอียนไป๋หู่ฟาดฟันดาบออกมาเนี่ยฟงยกแส้แข็งสีดำต้านรับ เคร้ง เนี่ยฟงคลายมือซ้ายออกให้จังหวะฟันไม่ให้กระทบกันหลังจากนั้นก็สะบัดมือซ้ายอย่างรวดเร็ว เคร้ง ดาบในมือของเอียนไป๋หู่กระเด็นออกไปเนี่ยฟงก้าวเท้าขวาโยกตัวหมุนตามฟาดหวดแส้แข็งสีขาวในมือไปที่ชายโครงด้านซ้ายถนัดถนี่ เปรี้ยง แต่ทว่ามีเกราะสีเขียวปรากฏออกมาต้านรับ เนี่ยฟงหาได้สนใจง้างแส้แข็งสีขาวฟาดหวดลงไปอีกครั้งพร้อมกับเร่งโคจรลมปราณไปที่แส้แข็ง เปรี้ยง เกราะสีเขียวแตกกระจายแส้แข็งฟาดหวดเสียงดังสนั่น เอียนไป๋หู่ถึงกับกระเด็นออกไปทางขวาพร้อมกับกระอักเลือดออกมา ในจังหวะนั้นก็มีเงาสีดำพุ่งเข้ารับตัวเอียนไป๋หู่พุ่งหายไปในเงามืด เนี่ยฟงรีบหันไปมองคนที่เหลือก็พบว่าหายไปหมดแล้วเช่นกัน
“พวกมันไปทางไหนขอรับ”
“มุ่งหน้าขึ้นเหนือ”
เนี่ยฟงยกยิ้มหลังจากนั้นก็ถีบเท้าพุ่งติดตามอย่างรวดเร็ว