ตอนที่แล้วตอนที่ 259 แค่มดปลวก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 261 ข้าจะปกป้อง…ปกป้อง

ตอนที่ 260 หานี่อยู่เหรอ


เฮงเฮงเบิกตากว้าง พร้อมกับเลือดไหลทะลักออกมาจากปาก ก่อนจะคอพับก้มหน้านิ่ง ราวกับไร้ซึ่งชีวิต

ดูเหมือนว่าเรื่องจะจบลงเช่นนี้ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น

ดวงตาที่เคยเป็นสีเทาเข้มของเฮงเฮง แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำราวกับเลือด  นัยน์ตาขาวค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นดำสนิทดูมืดมิดและหม่นหมอง ผิวกายของเฮงเฮงดูซีดเซียว  รูขุมขนทั่วผิวกายปลดปล่อยควันดำอันชั่วร้าย ที่ส่งผลให้บรรยากาศเย็นยะเยือก

“ต้องปกป้อง”

เสียงดุดันด้วยความดุร้ายดังออกมา ขณะที่เฮงเฮงเริ่มขยับกาย เตชินท์และสวาหะรีบชักมือออกจากร่างเฮงเฮงทันที ด้วยใบหน้าตื่นตระหนก

‘เป็นไปได้ยังไง ?’

สีหน้าของสวาหะงงงัน เขาเพิ่งจะเคยพบเจอผู้ที่ถูกแทงทะลุปอดและหัวใจพร้อมกัน แล้วยังไม่ตาย

ทั้งเตชินท์และสวาหะต่างถอยกาย แยกไปคนละทางเพื่อตั้งหลัก

บาดแผลขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเตชินท์และสวาหะค่อย ๆ ถูกควันเทาดำเยียวยา ในขณะที่เฮงเฮงร่างมืดก้าวเดินเข้าหาสวาหะอย่างต่ออย่างเนื่อง ท่าทางการเคลื่อนที่ดูเอื่อยเฉื่อยเชื่องช้า ทว่าทรงพลังยิ่ง และทุก ๆ ครั้งที่มันก้าวเดิน กระแสอาคมของวิญญาณชั่วร้ายที่วนเวียนอยู่รอบตัวเฮงเฮงร่างมืด ก็เพิ่มความรุนแรงเกรี้ยวกราด จนทำให้สวาหะต้องก้าวถอยหลังด้วยความสั่นกลัวอย่างบอกไม่ถูก

ร่างของเฮงเฮงร่างมืดในเวลานี้ มีควันดำปกคลุมเป็นจำนวนมาก ค่อย ๆ เปลี่ยนรูปร่างของเฮงเฮงไปจากชายหนุ่มที่สูงเพียง 180 เซนติเมตร ให้สูงขึ้นไปเกือบสามเมตร รูปร่างหน้าตาดูเปลี่ยนไปราวกับวิญญาณร้าย ผิวกายซีดเซียวราวกับผีดิบ

มือขวาของเฮงเฮงมีควันสีเทาดำเอ่อล้นมาตัวกันเป็นจำนวนมาก ก่อนมันจะเปลี่ยนเป็นดาบสีเทาดำเล่มหนึ่ง

ดาบรูปร่างธรรมดา ไร้ประกาย ไร้ลวดลาย ไร้ซึ่งที่กั้นดาบ กำลังปล่อยควันวิญญาณดำออกมาจำนวนมาก ควันวิญญาณร้ายต่างส่งเสียงกรีดร้องหลากหลาย

เตชินท์สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความตายลี้ลับ ที่ออกมาจากร่างของเฮงเฮงร่างมืด และสัมผัสที่เขารู้สึกถึงไม่ใช่ทั้งขอบเขตพลังหรืออะไรทั้งสิ้น แต่เป็นบางอย่างที่เขาเองก็ไม่อาจอธิบายได้ บางอย่างที่เหนือกว่าพลังของปราณ แต่มันคือ

‘ความตาย’

“รีบเก็บสร้อยไปใส่คอมันเหมือนเดิม ไม่งั้นพวกเราแย่แน่”

เตชินท์บอกแผน  สวาหะได้ยินนั้นก็พยักหน้าตอบรับ

“มันสนใจข้า เจ้ารีบไปเอาสร้อย ข้าจะยื้อมันไว้เอง”

เฮงเฮงร่างมืดใช้สองเท้าดีดยันพื้นราวกับสปริง จนก่อเกิดหลุมลึกไว้เบื้องหลัง ขณะที่ร่างของเขาพุ่งตรงไปราวกับกระสุนปืนใหญ่

ดาบวิญญาณเทาดำที่อยู่ในมือขวา ฟันเฉียงใส่สวาหะด้วยความรวดเร็ว จากบนซ้ายไปล่างขวา จากบนขวาไปล่างซ้าย การโจมตีที่ไร้ซึ่งแบบแผน ไม่มีเทคนิคหรือศิลปะ ทุกการฟันแต่ละครั้งมีแค่ความรุนแรงและเฉียบขาด

สวาหะได้แต่ยกแขนที่เคลือบไปด้วยสสารมืดขึ้นต้านรับ ก่อเกิดสะเก็ดไฟดำแล่นแปร๊บ !  พร้อมกับที่สสารเคลือบผิวสีดำแตกร้าว

แต่ทันใดนั้นเองเหนือฟากฟ้าขึ้นไป ก็ปรากฏสรรพาวุธมีคมหลายร้อยเล่ม พวกมันต่างพร้อมใจกันร่วงกราวตรงลงมาปานดาวตก ณ บริเวณที่สวาหะยืนอยู่

สวาหะได้แต่เบี่ยงกายหลบพร้อมกับทำลายมัน ในขณะเดียวกันโซ่ตรวนสีดำก็ผุดพุ่งขึ้นมาจากที่พื้น หวังพันธนาการร่างของสวาหะให้อยู่กับที่ แต่สวาหะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น

‘วิถีหัตถ์มาร เส้นทางที่ 2 ดับดวงดาราสองฝ่ามือ’

นี่เป็นครั้งแรกที่สวาหะใช้วิชาต่อสู้ออกมาอย่างไม่ปิดบัง

ฝ่ามือซ้ายขวาของสวาหะเคลือบไปด้วยแสงสีเทาดำ โอบคลุมมือเอาไว้เป็นทรงกลม  ปราณมารต่างรวบรวมอัดแน่น จนอากาศรอบ ๆ ฝ่ามือสั่นไหว

ขณะที่เฮงเฮงร่างมืดที่พุ่งเข้าฟาดฟันดาบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และยังคงปล่อยโซ่ตรวนสีดำออกมาอีกนับร้อยเส้น พุ่งเลื้อยไม่ต่างจากอสรพิษหมายรัดพันร่างของสวาหะ

“ทำลาย !!”

สวาหะดันฝ่ามือทั้งสองข้างออกไปเบื้องหน้าพร้อมกัน อย่างรวดเร็วรุนแรง

ปึง !!

อากาศถูกกระแทกก่อเกิดคลื่นกระแทกอากาศที่รุนแรง แรงกระแทกจากวิชา ‘ดับดวงดาราสองฝ่ามือ’ ยังไม่ทันได้กระทบโดนดาบหรือร่างกายของเฮงเฮง ก็ก่อเกิดคลื่นพลังมารที่กระจายออก ผลักดันและทำลายทุกอย่างที่อยู่เบื้องหน้าในระยะห้าเมตรทั้งหมด

ร่างของเฮงเฮงที่อยู่ในระยะ ผิวกาย เสื้อผ้า ชุดเกราะถูกฉีกกระชากออกเป็นริ้ว เลือดสีสดสาดกระจาย พร้อมกับถูกแรงอัดกระแทกจนกระเด็นกระดอนไป ไกลกว่าสามสิบเมตร พร้อมกับหน้าดินถูไถออก

ริ้วรอยบาดแผลที่เกิดขึ้นบนตัวของเฮงเฮงร่างมืดค่อย ๆ ถูกควันเทาดำเยียวยา จนหายกลับมาเป็นปกติ

ทางด้านเตชินท์ที่พุ่งเข้าไปจุดเริ่มต้นการต่อสู้ เพื่อหาสร้อยเบี้ยแก้ที่เฮงเฮงทำตกไว้ตามพื้น  แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็หามันไม่เจอ ทันใดนั้นเองเตชินท์ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันน่าขนลุกและคุ้นเคย

“หานี่อยู่เหรอ”

เหนือภพยิ้มเย็น ขณะใช้นิ้วชี้หมุนควงสร้อยเบี้ยแก้ ราวกับมันเป็นเพียงของเล่น

“เหนือภพ  !” เตชินท์กัดฟันกรอดพุ่งเข้าใส่เหนือภพในทันที

เปรี้ยง !!

ทั้งสองพุ่งเข้าประสานหมัดเหล็กด้วยกันทั้งคู่ เพียงคนละหมัดปะทะกัน ก่อเกิดคลื่นกระแทกกระจายเป็นระลอกอย่างรุนแรง ทำลายสภาพแวดล้อมที่อยู่ระหว่างกลางทั้งสองคนเป็นร่องลึก ที่ค่อนข้างเอนเอียนไปทางเตชินท์ บ่งบอกได้ชัดเจนว่า เพียงแค่กำปั้นธรรมดาเหนือภพก็ยังเหนือกว่าเตชินท์อยู่ขั้นหนึ่งเสมอ แค่นั้นก็ทำให้เตชินท์กัดฟันกรอด รู้สึกถึงความอัปยศ

ถุงมือเกล็ดโลหะของเตชินท์ปรากฏรอยแตกร้าว ขณะที่เกราะมือโลหะสีทองดำของเหนือภพยังคงไร้ซึ่งรอยขีดข่วน

เหนือภพชักมือกลับ พลางจ้องมองเตชินท์ที่กำลังตาขวางอย่างสมเพช เขาไม่ได้ดูถูกพลังฝีมือของเตชินท์แต่อย่างใด ที่เขารู้สึกสมเพชก็เพราะเตชินท์ตกอยู่ในสถานะคนชั่วของแคว้นอมตะโดยที่ไม่รู้อะไรเลย ไม่เพียงกลายเป็นคนชั่ว เตชินท์ยังต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง มันทำให้หัวใจของเหนือภพกำลังเต้นรัวไปด้วยความตื่นเต้น อย่างบอกไม่ถูก

“เจ้าจะต้องชดใช้กับสิ่งที่ทำกับน้องข้า”

น้ำเสียงของเหนือภพเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก ไร้ความปรานี

แน่นอนว่าเหนือภพได้พบเจอกับฌายินและน้องสาวแล้ว เขาได้เห็นสภาพของนาง ทำให้เขารู้สึกปวดใจ แต่เขาไม่รู้สึกเสียใจสักนิดที่เลือกไปหาองค์เจ้าแคว้นก่อน เพราะเขายังเชื่อมั่นว่านั่นเป็นทางเลือกที่ทำให้น้องสาวเขาสามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้

แต่หากแผนของเขาไม่สำเร็จ เขาก็แค่หนีในวันพรุ่งนี้ หากไม่มีอะไรผิดพลาดคณะเดินทางสำนักงานฮันเตอร์สาขาใหญ่ก็จะมาถึงในช่วงเย็น เขาก็แค่พาน้องสาวติดตามพวกนั้นไป ไปสู่ดินแดนใหม่ เขาไม่เชื่อหรอกว่าโลกนี้จะไม่มีที่ให้พวกเขาสองพี่น้องอยู่

“ถ้ามีปัญญานักก็มาฆ่าข้าซะสิ อย่าดีแต่ปาก เหนือภพ”

เตชินท์ท้าทาย แต่เหนือภพส่ายหน้าหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ

“ข้ามีวิธีฆ่าเจ้าที่ดีกว่านั้นเยอะ ไม่ต้องรีบไป”

ต่อให้เวลานี้เหนือภพสามารถฆ่าเตชินท์ได้อย่างง่ายดาย แต่เขาจะไม่ทำ ไม่เพียงเขาจะปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ แต่เขายังจะให้มันมองดูเขาย่ำยีคนรักของมัน คนที่มันรัก ทุกสิ่งที่มันปกป้อง ขณะที่ตัวมันก็ทำได้แค่หลบหนี แล้วเมื่อถึงตอนนั้นเขาค่อยฆ่ามัน ให้สาสมกับที่ทำให้น้องสาวเผชิญกับเรื่องโหดร้ายเพียงนี้

‘อาณาเขตพื้นพิภพ ขั้นที่ 1 แรงดึงดูดขีดสุด !’

ตึง !!

เสียงร่างของเตชินท์ถูกกระชากลงจนกระแทกติดพื้นในทันที แรงโน้มถ่วงของโลกที่เพิ่มอย่างเฉียบพลันนั้น มากจนแม้แต่พื้นดินที่เตชินท์นอนราบอยู่ถูกบีบกดจนจมลึกไปในดิน พร้อมกับพื้นดินรอบกายยุบแตกร้าว

เตชินท์กัดฟันกรอดสองมือผลักดันพื้น เพื่อดันร่างกายตัวเองขึ้น แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรมันก็ไม่ต่างจากการที่เขากำลังวิดพื้น โดยมีน้ำหนักถ่วงหลังนับพันตัน ไม่ว่าจะออกแรงมากเท่าไหร่ก็ดันตัวเองไม่ขึ้น

แน่นอนว่าเตชินท์ไม่อาจจะลุกขึ้นได้ เพราะเหนือภพโกรธแค้นมาก จนทุ่มพลังลงไปอย่างขีดสุด

‘เจ้าทำแบบนี้ เจ้าจะคงวิชาอาณาเขตได้เพียง 30 วินาที หากเจ้าไม่จัดการมันให้ได้ในเวลานี้ เจ้าจะสูญเสียพลัง อยู่ในสภาพอ่อนแอ เจ้าอาจจะต้องตายนะ รีบ ๆ ทำอะไรสักอย่างสิ’

เมทินีตกใจ เมื่อเหนือภพทุ่มพลังปราณมารอสูรลงไปยังไปในวิชานี้ทั้งหมด โดยไม่มีหมกเม็ด เพียงเพื่อตึงร่างของเตชินท์เอาไว้

‘เจ้าทำไปเพื่ออะไรกัน ?’

เมทินีย่อมไม่เข้าใจในความคิดของเหนือภพ เพียงแค่แรงโน้มถ่วงมหาศาลย่อมไม่สามารถฆ่าเตชินท์ที่มีขอบเขตกายเหนือมนุษย์ช่วงปลายได้ ร่างกายของเตชินท์แข็งแกร่งและยากที่จะสูญสลายไป

แต่ว่าเธอต้องตกตะลึงอยู่ในใจ เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของเหนือภพที่เขยิบเข้าใกล้ร่างของเตชินท์ ที่ตัวสั่นนอนหมอบราบติดพื้นด้วยท่าทางทรมาน เหงื่อจำนวนมากพร่างพรมทั่วใบหน้าและร่างกายของเตชินท์ จนเสื้อผ้าแพรเปียกชื้น

‘หรือว่าเจ้า ?’

‘ไอมารมากมายเช่นนี้หากปล่อยทิ้งไว้ก็น่าเสียดาย ฮิ ฮิ ฮิ’

‘ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า เจ้านี่มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ วิธีนี้ยังคิดออกมาได้’

เหนือภพคุกเข่าลงข้างเดียว ข้างหัวของเตชินท์ที่ยังคงส่งสายตาเคียดแค้นอยู่ตลอดเวลา ขณะที่เขาทาบฝ่ามือเรืองแสงสีไวน์แดง ลงไปที่หัวของเตชินท์ ก่อนจะเพ่งจิตเปลี่ยนฝ่ามือของตัวเองให้เหมือนกับแม่เหล็กแผ่นหนึ่ง

ไอมารที่แทรกซึมอยู่ในร่างของเตชินท์ต่างพากันสั่นไหว จากนั้นทั่วร่างของเตชินท์ก็มีควันสีดำพวยพุ่งออกมา ก่อนที่ควันดำเหล่านั้นจะพากันหลั่งไหลพุ่งเข้าไปในแขนขวาของเหนือภพ ไม่ต่างจากเศษเหล็กที่พุ่งเข้าหาแม่เหล็ก เพียงพริบตาไอมารจำนวนมากก็หลั่งไหลเข้ามารวมกันที่เหนือภพ

ร่างกายของเตชินท์สั่นเกร็ง ขอบเขตพลังค่อย ๆ ลดต่ำลงไปเรื่อย ๆ ผิวกายเริ่มซีดเซียว

ความรู้สึกของเตชินท์ในเวลาเหมือนตกอยู่ในขุมนรก แม้เหนือภพจะคลายแรงดึงดูดโลกไปแล้ว แต่เตชินท์ก็ไม่อาจขยับตัวได้ ความรู้สึกเหมือนถูกสูบเลือดออกจากร่างกาย ทำให้ร่างกายของเตชินท์ชาด้านอย่างบอกไม่ถูก แต่ไม่ว่าเขาจะอ่อนแอเพียงใด เขาก็จะกัดฟันทน โดยไม่มีทางปริปากออกมาให้เหนือภพเย้ยหยันได้เด็ดขาด

ระดับขอบเขตพลังของเตชินท์ลดระดับลงต่อเนื่อง จนกระทั่งเหลือเพียงปราณอาคมแท้ก่อเกิด ขั้น 5 เทียบเท่ากับสวาหะ

ฝ่ามือขวาของเหนือภพรวบรวมไอมารเข้มข้น จนเทียบเท่าลูกนิมิตขนาดใหญ่

‘ทำไมเจ้าไม่ดูดมันให้หมดเลยล่ะ หากเจ้าดูดหมดรวมกับไออสูรที่หลงเหลือในกายเจ้า  จะทำให้เจ้าเข้าสู่ขอบเขตกายเหนือดินทันที’

‘ถ้าเป็นแบบนั้น ข้าก็ทำให้เจ้านี่หลุดพ้นจากข้อครหาน่ะสิ ให้มันเหลือปราณมารมากหน่อย จะได้สมจริงว่ามันเป็นตัวร้าย’

เหนือภพตอบเมทินีในใจอย่างมาดร้าย จิตใจของเขามั่นคงไม่หวั่นไหว ไม่เสียใจ ไม่เห็นใจ และไม่ลังเลใจแม้แต่น้อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด