Ep.607 - ว่าจ้างหยวนเสี่ยวกวง
2/5
Ep.607 - ว่าจ้างหยวนเสี่ยวกวง
หยวนเสี่ยวกวงเป็นคนเดียวที่แยกตัวจากทีม สำรวจลึกเข้าไปในเขตของผีเสื้อผงหอมพร้อมฉินเฟิงกับไป๋หลี ผลลัพธ์คือถูกกับดักผงดึงดูดสัตว์ร้ายของกลุ่มชินระ ชักนำแมลงสัตว์นับไม่ถ้วนมารุมล้อมพวกเขา สุดท้ายเป็นตนเองถูกพิษ จนเกิดภาพหลอน
แต่หลังจากถูกฉินเฟิงสับคอจนสลบไสล เจ้าตัวก็ไม่ทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นอีก เมื่อถูกปลุกขึ้นมา เขาที่กำลังสับสนมึนงงก็เร่งเข้าร่วมการต่อสู้ จนภารกิจลุล่วง ทว่าตั้งแต่กลับไป เขานอนไม่หลับทั้งคืน
เพราะไม่ทราบจริงๆว่าตัวเขาสามารถหนีรอด หลุดพ้นจากสถานการณ์คับขันเช่นนั้นได้อย่างไร
จนมาถึงตอนนี้ หยวนเสี่ยวกวงถึงค่อยเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ว่าแท้จริงแล้วเป็นฉินเฟิงกับไป๋หลีนี่เอง ที่สังหารจักรพรรดิผีเสื้อ ทำลายรังแมลง แล้วลากตนออกมา
‘เดี๋ยวก่อนนะ นี่มันหมายความว่ายังไงกัน? มันหมายความว่าพวกเขาแค่สองคน สามารถสังหารจักรพรรดิแมลงกับทำลายรังของพวกมันได้โดยลากเอาตัวถ่วงอย่างฉันไปด้วยงั้นหรอ? บ้าน่า ต้องฝันไปแน่ๆ หรือว่าตอนนี้ฉันยังมีอาการหลอนจากพิษอยู่?’
หยวนเสี่ยวกวงอดไม่ได้ที่จะสงสัย แต่สักพัก เขาก็ขมวดคิ้วและกล่าว “ไม่น่าใช่ ถ้าฉันยังติดอยู่ในภาพลวงตาจริงๆ ตอนนี้ต้องเป็นฉันต่างหากที่สมควรมีอำนาจมากที่สุด ต้องเป็นฉันต่างหากที่เกิดภาพจินตนาการว่าตัวเองเป็นคนกำจัดจักรพรรดิแมลง และทำลายรังของมัน เพราะงั้นทั้งหมดนี้ … เป็นเรื่องจริง!”
แน่นอน ว่ามันเป็นเรื่องจริง พลังสมาธิของหยวนเสี่ยวกวงสามารถรับรู้ได้ทุกสิ่ง ความรู้สึกในตอนนี้ มันไม่เหมือนกับกำลังตกอยู่ในภาพหลอนอย่างสิ้นเชิง
ผลลัพธ์นี้ช่างน่าเหลือเชื่อนัก ระหว่างหยวนเสี่ยวกวงกำลังพูดกับตัวเอง ฝูงชนโดยรอบบังเกิดความโกลาหลขึ้น
ซื่อฉิงเป็นคนแรกที่ก้าวออกมา อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“เมื่อวานนี้นายไปพื้นที่เขต 13 แล้วสามารถบุกทำลายรังแมลงได้งั้นหรอ?”
ฉินเฟิงพยักหน้าไม่ปิดบัง “ใช่ หลังแยกจากคุณ ผมก็รับภารกิจของมิสเตอร์คงโบะ เข้าไปในเขต 13 พร้อมกับเขา”
“นี่นาย … เอาเถอะ ถ้าเป็นแบบที่พูดจริงๆ บางทีนายอาจออกสำรวจเขต 5 คนเดียวก็ได้ แต่ไม่คิดจะชักชวนคนอื่นๆไปด้วยจริงๆน่ะหรอ?”
ฉินเฟิงขบคิด และกล่าว “อา อาจจะชวนไปสักสี่ห้าคน แต่ไม่ใช่ให้ช่วยสู้ เป็นช่วยเก็บกวาดสนามรบ”
ซื่อฉิงไร้คำจะกล่าว ที่เขาถามหมายถึงพาคนไปสู้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ลุยเพียงลำพังอาจไม่ปลอดภัย แต่ผลลัพธ์คือฉินเฟิงเข้าใจผิด คิดว่าเขาเตือนว่าจะเก็บกวาดสนามรบยังไงถ้าไปคนเดียว
ครั้งนี้ไป๋หลีพยักหน้าบ้าง และกล่าว “รังแมลงก่อนหน้านี้ ยังเหลือวัตถุดิบสัตว์ร้ายอีกมากที่ตายอยู่ในรัง แต่เนื่องจากพวกเราคนไม่พอ เลยไม่มีเวลาทันได้เก็บกวาดมัน”
--ไม่มีเวลาทันได้เก็บกวาดมัน!!
ผู้ใช้พลังบางคน ได้ยินถึงคำนี้ต้องหูผึ่งทันใด
ที่พูดนั่นเป็นความจริงใช่ไหม? งั้นถ้าไปยังเขต 13 ตอนนี้ บางทีอาจได้รับโชคก้อนใหญ่ก็ได้
“เอาล่ะๆ พวกนายไปเถอะ ระมัดระวังตัวด้วยแล้วกัน จำไว้ว่าหลังจากกลับมาตอนเย็นแล้ว ต้องมารายงานภารกิจที่ตึกผู้ใช้พลังด้วย”
“รับทราบท่านนายพล”
ฉินเฟิงกล่าว และในที่สุดก็ได้ออกจากตึกผู้ใช้พลังสักที
ภายนอกตึกผู้ใช้พลัง มีคนกลุ่มหนึ่งได้มารวมตัวกันอยู่ก่อนแล้ว คนเหล่านี้มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับ D บางคนก็แค่ E เท่านั้น
ทั้งหมดที่ว่ามานี้มีอาชีพเป็นมือปืน มารอเพื่อเฝ้าหวังว่าจะมีใครบางคนรับสมัครพวกเขาไปยังแนวหน้า แล้วแบ่งปันแต้มสงครามกัน
ทว่าบุคคลที่เลือกทำแบบนี้ ทั้งหมดคือคนที่พร้อมตายได้ทุกเมื่อ
ไปอยู่แนวหน้าพร้อมผู้ใช้พลังระดับสูง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเขาแทบต่อสู้ไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าจะทำอะไรไม่ได้เลย เพราะอย่างน้อยก็ยังสามารถรับหน้าที่สอดแนมศัตรู รับผิดชอบในด้านสำรวจค้นหา กระทั่งในช่วงวิกฤต ก็ยังสามารถเป็นตัวล่อให้ผู้ใช้พลังที่ว่าจ้างหลบหนีไป ปล่อยให้พวกเขาถูกทิ้งไว้ กลายเป็นอาหารของเผ่าแมลง
อาจกล่าวได้ว่าเป็นเหยื่อล่อชั้นดีสำหรับแผนหลบหนี
แต่จะโทษใครได้ ก็แล้วใครใช้ให้พวกเขาอ่อนแอกัน?
อย่างไรก็ตาม งานพวกนี้แม้มีความเสี่ยงสูง แต่ก็ให้ผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน สิ่งใดก็ตามที่ได้รับจากมือของผู้ใช้พลังระดับสูง แค่ภารกิจเดียวก็เทียบเท่าได้กับพวกตนต้องทำงานอย่างหนักเป็นเวลาครึ่งปี
ฉินเฟิงกับไป๋หลีเดินออกมา ผู้ใช้พลังระดับต่ำเหล่านี้ มองมาทางสองร่างของพวกเขา แต่สักพักก็ต้องผิดหวัง และลดศีรษะลง เพราะตระหนักดีว่าต่อให้ถูกว่าจ้างไป ก็คงได้กินแต่น้ำ มิได้เนื้อ
เนื่องจากคนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเลเวล D แล้ว ความแข็งแกร่งห่างชั้นจากผู้ใช้พลังในโถงแค่ช่วงชั้นเดียวเท่านั้น ต่อให้ถูกเลเวล C จ้างก็ไม่ค่อยมีประโยชน์อะไร เป้าหมายของคนกลุ่มนี้คือเลเวล B
แต่สำหรับเลเวล E บางส่วน พวกเขาถือว่ายังห่างชั้นกับผู้คนในโถงผู้ใช้พลัง ไม่มีความแข็งแกร่ง ดังนั้นไม่มีคุณสมบัติที่จะเลือกมากเหมือนพวกเลเวล D
“รับสมัครผู้ใช้พลังเลเวล E จำนวน 5 คน ออกสำรวจพื้นที่เขต 5 เป็นเวลาหนึ่งวัน รับผิดชอบในการเก็บรวบรวมวัตถุดิบ” ฉินเฟิงอ้าปากตะโกน
ท่ามกลางฝูงชน ฉันมองนาย นายมองฉัน บางคนเห็นได้ชัดว่าในแววตาเกิดความเคลือบแคลงสงสัย ในหัวใจนึกคิดว่า หากฉินเฟิงพาพวกเขาไป คงไม่อาจปกป้องชีวิตของพวกเขาได้ คาดว่าน่าจะแค่ต้องการมองหาเหยื่อไว้คอยรับเคราะห์แทนมากกว่า!
ส่งผลให้ในเวลานี้ ไม่มีใครยอมขยับ
ฉินเฟิงเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้
แต่ในตอนนั้นเอง คนๆหนึ่งได้วิ่งไล่ตามฉินเฟิงออกมา กล่าวอย่างเร่งร้อน “ฉันสมัคร! ฉันขอไปด้วยคน”
ฉินเฟิงหันหลังกลับไป และพบว่าเป็นหยวนเสี่ยวกวง!
ฉินเฟิงไม่ทราบว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ขอโทษที ผมกำลังมองหาเลเวล E”
“ไม่เป็นไร! นายแค่คิดว่าฉันเป็นเลเวล E ก็ได้” หยวนเสี่ยวกวงเร่งกล่าว
ฉินเฟิง “เรื่องนั้นน่ะทำได้ แต่คุณสามารถยอมรับรางวัลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่ากับความสามารถของคุณจริงๆน่ะหรอ รางวัลภารกิจในครั้งนี้คือแก่นนายพลสัตว์ร้ายเลเวล E นะ”
หยวนเสี่ยวกวงกลายเป็นบื้อใบ้ “เอ่อ .. นั่นมันต่ำเกินไป แต่ฉันก็ไม่ต้องการอะไรมากมาย ขอแค่แก่นนายพลสัตว์ร้ายเลเวล C ก็พอ!”
ดูเหมือนว่าหยวนเสี่ยวกวงจะยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
สำหรับฉินเฟิงในปัจจุบัน เขามีแก่นนายพลสัตว์ร้ายเลเวล C สะสมอยู่มากมาย จากบรรดาสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วนที่เคยล่าในอดีต ขอแค่เพียงหยิบออกมาอย่างลวกๆ ก็มอบเป็นรางวัลได้แล้ว อย่างแย่ที่สุด ถ้าไม่อยากให้มันก็แค่จ่ายด้วยเหรียญพลังงาน
ฉินเฟิงก็เหมือนกับคงโบะ ที่มอบรางวัลว่าจ้างด้วยแก่นนายพลสัตว์ร้าย
ยังไงก็ตาม สำหรับผู้ใช้พลัง การได้รับแก่นนายพลสัตว์ร้ายในเลเวลเดียวกัน สัตว์ร้ายที่ตนไม่สามารถสังหารได้ด้วยตัวเอง รางวัลนี้ถือว่ามีเสน่ห์ดึงดูดมาก
“ไม่ต่ำต้อย! รางวัลนี้ไม่ต่ำต้อยเลย มิสเตอร์โปรดนับรวมฉันเข้าไปด้วยหนึ่งคน”
ผู้ใช้พลังเลเวล E ถึงกับกล้าเถียงคำพูดของหยวนเสี่ยวกวง เร่งร้องขอสมัคร
แก่นนายพลสัตว์ร้ายเลเวล E แลกกับการทำงานแค่วันเดียว นั่นไม่เท่ากับว่าภายในหนึ่งเดือนสามารถรวมกันเป็นเม็ดเงินได้มากกว่าร้อยล้านหรอกหรอ? ภารกิจนี้เทียบเท่ากับการเข้าร่วมสงครามครั้งใหญ่เลยนะ!
“มิสเตอร์ ได้โปรดนับรวมฉันด้วย”
“ฉันด้วย! ฉันก็ขอเข้าร่วมเหมือนกัน!”
ไม่นาน คนกลุ่มหนึ่งก็มารุมล้อมรอบกายฉินเฟิง
หยวนเสี่ยวกวงอดรู้สึกขมขื่นไม่ได้ เหมือนว่าภารกิจครั้งนี้เขาคงอดซะแล้ว
“แต่หลังจากที่ฉันลองคิดดูดีๆ จ้างคุณเพิ่มอีกคนก็ไม่น่าจะเป็นอะไร แต่รางวัลจะเป็นแค่แก่นนายพลสัตว์ร้ายเลเวล C กับเงินอีก 50 ล้านเท่านั้นนะ ตกลงไหม”
ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฉินเฟิง เหนือล้ำชนิดเลเวล C ด้วยกันไม่อาจเอื้อมถึงได้ ในความคิดของเขา รางวัลที่หยวนเสี่ยวกวงเอ่ยขอไม่นับว่าเป็นสิ่งใด เพราะอย่างเลวร้ายที่สุด ที่พอจะอยู่ในสายตาฉิน ต้องเป็นแก่นราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล C ที่ราคามากกว่าแก่นนายพล 1,000 เท่า ไม่ก็แก่นระดับจักรพรรดิ ที่ราคามากกว่า 10,000 เท่า
แต่สำหรับเรื่องนี้ ฉินเฟิงไม่พูด คิดว่าคนอื่นๆก็คงไม่เข้าใจ
“ตกลง ตกลง! ฉันยอมรับ!”
ซึ่งผู้ที่ถูกเลือก คือเลเวล E 5คนแรกที่เอ่ยปากตะโกน คนเหล่านั้น ตอนนี้มีความสุขมาก
ทีมขนาดเล็กทั้งสิ้นแปดคน ขึ้นนั่งบนรถศึกสองคัน ขับออกจากเมืองกลางตู่ซาน
ปัจจุบันลุ่มน้ำตู่ซานย่างเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว สัตว์ร้ายส่วนใหญ่ไม่ยินดีที่จะเคลื่อนไหว ดังนั้นความถี่ที่จะพบเจอพวกมันระหว่างทางจึงไม่สูงมาก อีกทั้งสิ่งนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้พลังสามารถจัดวางกองกำลัง ปิดล้อมเข้าปราบปรามรังของพวกมันได้ แต่หากเฝ้ารอจนฤดูร้อนมาถึง การจะปิดล้อมรังแมลง คงทำไม่ได้ พวกแมลงจะออกจากรัง กระจายกันไปทั่ว มนุษย์ภายในพื้นที่ลุ่มน้ำตู่ซาน ได้แต่เข้าสู่สภาวะป้องกัน ไม่ก็ยื่นเรื่องเรียกร้องผู้ใช้พลังเลเวล A ให้มาเก็บกวาดรังแมลงที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ ลดปริมาณสัตว์ร้ายที่รุกรานลง
แต่หากเป็นช่วงเวลานี้ หากยังไม่ถึงอาณาเขตของรังแมลง การออกมาข้างนอกถือว่าค่อนข้างปลอดภัย
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
อุปกรณ์สื่อสารของฉินเฟิงดังขึ้น เป็นสัญญาณสื่อสารของทีมที่สร้างขึ้นมาชั่วคราว
“ฉินเฟิง พวกเรากำลังเข้าสู่เขตสีเหลือง คุณต้องการให้ขับรถศึกต่อไปรึเปล่า?” หยวนเสี่ยวกวงเอ่ยถาม
บนแผนที่ ฉินเฟิงและคนอื่นๆ ได้เข้ามาในลุ่มน้ำซึ่งเป็นพื้นที่สีเหลืองแล้ว นั่นหมายความว่ามีอันตรายอยู่บ้าง แต่ไม่มีแมลงสัตว์ร้ายกระจุกตัวกันหนาแน่นเกินไป ดังนั้นไม่ต้องหวาดกลัว
“ขับต่อไป”
“รับทราบ” หยวนเสี่ยวกวงรับคำสั่ง ขับรถศึกลอยฟ้าติดตามฉินเฟิง
ฉินเฟิงใช้ออกด้วยพลังสมาธิ รูนมืดโถมเข้าปกคลุมพาหนะทั้งสอง