บทที่ 21 สิทธิพิเศษ
บทที่ 21 สิทธิพิเศษ
องค์ชายที่สี่มองไปที่ทุกคนและพูดต่อว่า “ข้าขอให้ทุกท่านได้โปรดเงียบเพราะข้ายังพูดไม่เสร็จ มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในการคัดเลือกมังกรทองที่พวกท่านทุกคนต้องรู้ ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสามอัจฉริยะสูงสุดของ เมืองหลวงทอง”
แสงไฟได้พุ่งส่องเข้าใส่ที่โต๊ะของ ยุ่นหลิง ยู่ฉานและมกุฎราชกุมารทันทีโดยรวบรวมความสนใจของทุกคนที่มีต่อพวกเขา
ยุ่นหลิง เลิกคิ้วด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาเคยคิดเรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่มันแปลกจริงๆ การคัดเลือกมังกรทองในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย เมื่อก่อนไม่เป็นแบบนี้แล้วทำไมถึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันในตอนนี้?
‘นี่อาจเกี่ยวข้องกับสิ่งที่มกุฎราชกุมารพูดก่อนหน้านี้หรือไม่?’ ยุ่นหลิงคิดกับตัวเองพลางขมวดคิ้ว ‘ถ้าเป็นเช่นนั้นดูเหมือนว่าสถานการณ์จะเลวร้ายกว่าที่มกุฎราชกุมารคาดการณ์ไว้ แต่แรก ข้าสงสัยว่าท่านพ่อของข้ารู้เรื่องนี้ไหม?’
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ยิ้มออกมา "เขาจะต้องเป็นนายพลของจักรวรรดิในภายภาคหน้าอย่างแน่นอนข้ารู้ดี"
“พี่ชายยู่ฉาน พี่ชายยุ่นหลิง และท่านพี่ของข้า ข้ารบกวนพวกท่านสามคนมาที่นี่บนเวทีกับข้าได้ไหม” องค์ชายที่สี่ถามด้วยรอยยิ้ม
มกุฎราชกุมารเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืน เขาไม่ได้พูดอะไรและเดินไปข้างหน้าบนเวทีอย่างสง่างาม ยู่ฉานเดินตามหลังเขาไปโดยที่ยุ่นหลิงเป็นคนสุดท้ายที่ลุกจากที่นั่ง
“รออยู่ที่นี่แปปนึงนะเซี่ยเซี่ย ข้าจะกลับมาเร็วๆ นี้” ยุ่นหลิงพูดกับลูกสาวก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับอีกสองคน
ยุ่นเซี่ยเพียงพยักหน้าขณะที่เธอมองดูพ่อของเธอขึ้นไปบนเวที
ณ ตอนนี้ทุกท่านต่างสงสัยว่าทั้งสามคนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงการคัดเลือกมังกรทองอย่างไร พวกเขาทั้งมีบทบาทอะไรในเรื่องนี้? พวกเขาทั้งหมดคาดเดาบางอย่างอยู่ในใจขณะที่มองไปที่ทั้งสามคน
แม้แต่ ยุ่นหลิงและ ยู่ฉาน ก็สงสัยว่าพวกเขาจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ พวกเขาเหลือบมองไปยังมกุฎราชกุมารและส่งสัญญาณให้เขาอธิบายให้ฟัง เพราะทั้งสองกำลังคิดว่ามกุฎราชกุมารรู้เรื่องนี้แน่นอน
มกุฎราชกุมารทำเหมือนกับว่าเขาไม่สังเกตเห็นและยังคงมองตรงไปข้างหน้า
“พี่ชายยู่ฉาน พี่ชายยุ่นหลิงขอโทษด้วยที่จู่ๆข้าก็เรียกพวกท่านขึ้นมา นี่ไม่ใช่การตัดสินใจของข้าแต่เป็นขององค์จักรพรรดิ” องค์ชายที่สี่กล่าวขอโทษทั้งสอง ที่เขาไม่ได้พูดถึงมกุฎราชกุมารนั้นเนื่องจากพ่อของพวกเขาบอกรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการคัดเลือกมังกรทองแล้ว
“สบายมากองค์ชายที่สี่” ยู่ฉานตอบ
ยุ่นหลิงยังคงเงียบ เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่งค์ชายที่สี่ยังคงสามารถรักษาท่าทีที่เป็นมิตรต่อเขาได้ หากเป็นคนที่มีฐานะน้อยกว่าพวกเขาก็จะไม่สามารถทำสิ่งนี้ต่อเขาได้ดี อย่างไรก็ตามองค์ชายที่สี่ยังคงต้องพยายามอีกมาก แม้ว่าเขาจะพยายามมากขึ้นในการซ่อนความคิดที่คิดร้ายของเขา แต่ยุ่นหลิงก็ยังสามารถมองการกระทำของเขาออกได้ เขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนถึงความเป็นปรปักษ์ที่องค์ชายที่สี่มีต่อเขาไม่ว่ามันจะเป็นอะไร
องค์ชายที่สี่มองไปที่ข้ารับใช้ของเขาและสั่งว่า “เอามันขึ้นมาได้เลย”
คนที่องค์ชายที่สี่พูดด้วยพยักหน้าและจากไปทันที ไม่ถึงนาทีต่อมาเขาก็กลับมาพร้อมกับหีบสีทองขนาดเล็กกับเขา เขาเดินไปที่เวทีและมอบหีบให้กับองค์ชายที่สี่ หลังจากนั้นเขาก็ถอยออกไป
เมื่อได้รับหีบแล้วองค์ชายที่สี่ก็จ้องมองไปที่ฝูงชน
“ข้าแน่ใจว่าพวกท่านทุกคนคงสงสัยว่ามีอะไรอยู่ในหีบใบนี้ ไม่ต้องกังวลไปข้าจะอธิบายทุกอย่างในภายหลัง สำหรับตอนนี้ข้าขอให้ทุกท่านคนอดรอทนต่อไป”
ขณะที่กำลังพูดอยู่ องค์ชายที่สี่หันไปหาสามอัจฉริยะสูงสุดของเมืองหลวง
“ท่านพี่ พี่ชายยู่ฉาน พี่ชายยุ่นหลิงภายในหีบนี้มีม้วนกระดาษห้าม้วน ทุกม้วนมีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร อันที่จริงแล้วทุกๆม้วนจะมีลายลักษณ์อักษรที่แตกต่างกัน ซึ่งสมเด็พระจักรพรรดิได้ตรัสว่าพวกท่านแต่ละคนต้องเลือกหนึ่งม้วนในหีบนี้” องค์ชายที่สี่อธิบายขณะที่เขาเปิดหีบ เช่นเดียวกับที่เขาพูดมีห้าม้วนอยู่ในหีบ “ท่านพี่ท่านได้เลือกก่อนหนึ่งม้วน”
มกุฎราชกุมารเดินไปข้างหน้าและสุ่มคว้าม้วนกระดาษ หลังจากนั้นเขาก็กลับไปยังจุดที่เคยยืนอยู่
“พี่ชายยู่ฉานท่านเป็นคนต่อไป”
องค์ชายที่สี่มองมาที่เขา
ยู่ฉานเดินไปด้านหน้า ต่างจากมกุฎราชกุมารเขาไม่ได้เลือกม้วนใดม้วนหนึ่งในทันที เขาหยุดนิ่งอยู่สองสามวินาทีพยายามจ้องมองม้วนกระดาษ แล้วถอนหายใจในไม่ช้าเขาก็ยอมให้กับการคิดครั้งนี้แล้วเขาก็เลือกแบบสุ่มมาหนึ่งม้วน
“พี่ชายยุ่นหลิงถึงตาท่านแล้ว” องค์ชายที่สี่กล่าว
ยุ่นหลิงก้าวไปข้างหน้าและยืนอยู่ตรงหน้าหีบนั้น เขาสังเกตดูม้วนกระดาษแล้วขมวดคิ้ว “ทุกม้วนดูเหมือนกันหมด ข้าพยายามหยั่งรู้ถึงความหมายในแต่ละม้วนนั้นด้วยความญาณอันศักดิ์สิทธ์ของข้า แต่ข้ามองไม่เห็นเลย เป็นเพราะมีม่านพลังที่มองไม่เห็นที่เคลื่อนที่ไปมาซึ่งป้องกันไม่ให้ใครก็ตามได้ทำข้ากำลังทำอยู่’
เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ยุ่นหลิงก็เลือกม้วนกระดาษแบบสุ่มเช่นเดียวกับอีกสองเล่มที่ถูกเลือกไปก่อนหน้านี้
หลังจากยุ่นหลิงหยิบม้วนหนังสือของเขาแล้วองค์ชายที่สี่ก็ปิดหีบและให้ข้ารับใช้คนหนึ่งของเขานำมันออกไป จากนั้นเขาก็มุ่งความสนใจไปที่อัจฉริยะสูงสุดทั้งสามและเริ่ม “ตอนนี้ทุกคนเลือกม้วนกระดาษของตนได้แล้วก็ได้เวลาดูรายละเอียดข้างในแล้ว อย่างที่ข้าได้กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้แต่ละม้วนจะมีข้อความอักษรที่แตกต่างกัน ท่านพี่ , พี่ชายยู่ฉาน , พี่ชายยุ่นหลิงพวกท่านทั้งสามคนต้องทำภารกิจที่เขียนไว้ในม้วนหนังสือของท่านให้สำเร็จ หากท่านทำสำเร็จท่านจะข้ามไปได้สองด่านในการคัดเลือกมังกรทองโดย ไม่มีข้อแม้”
ผู้เข้าร่วมการคัดเลือกมังกรทองต่างตกตะลึง
"อะไรนะ?! ข้ามไปได้ถึงสองด่าน? นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังเริ่มในด่านที่สามแทนที่จะเป็นด่านแรก! นี่คือการได้รับสิทธิพิเศษ! ช่งไม่มีความยุติธรรมเสียเลย!”
“เจ้าโง่! นี่เจ้ากำลังตั้งคำถามถึงความเป็นกลางของสมเด็กพระจักรพรรดิงั้นรึ? พวกเขาจะข้ามไปด่านต่อไปได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาสามารถทำภารกิจได้สำเร็จ”
“มันยังเป็นสิทธิพิเศษอยู่ดีนี่แหละที่ข้าจะบอกกับเจ้า! แทนที่ได้เพียงแค่สามคนทำไมพวกเขาไม่มอบหมายภารกิจให้พวกเราทุกคนเหมือนพวกเขาล่ะ”
“ใจเย็นๆ ข้ารู้สึกว่ามันจะต้องมีอะไรมากกว่านี้ แทนที่จะรีบร้อนเราควรฟังก่อน”