ตอนที่แล้วบทที่ 159 วันพักผ่อนของผู้เล่น [4]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 161 แผนการพัฒนาของซีเว่ย

บทที่ 160 สิ้นสุดฤดูหนาว


ห้องทำงานในปราสาทเอิร์ลแห่งแลงคาสเตอร์

ห้องทำงานนี้ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราและซับซ้อนมาก พนักทุกด้านของห้องถูกทำเป็นชั้นหนังสือ เต็มไปด้วยต้นฉบับหนังสือล้ำค่าต่าง ๆ แต่ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครอ่านมันออก

เตาผิงที่กำลังลุกไหม้ทำให้ห้องอุ่นขึ้นราวกับเป็นฤดูใบไม้ผลิ มันเป็นโลกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นภายนอก

ก๊อก ๆ

ประตูที่แกะสลักจากไม้หอมเทสเลียทั้งชิ้นซึ่งมีราคาแพงยิ่งกว่าทองคำ ถูกเคาะจากด้านนอก

"มีอะไร?" เอิร์ลโคริน ลอร์ดแห่งเมืองแลงคาสเตอร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม ‘กวางดำ’ ลดปากกาลงและถามเสียงเบา

“เราพบศพของบารอนตระกูลไนเจลาเนียแล้วขอรับท่านลอร์ด” ผู้ดูแลที่ประตูรายงานด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก แต่เพียงพอให้ลอร์ดของเขาได้ยิน

"ฮึ ข้าเตือนเขาแล้วว่าอย่าผลีผลาม…“โครินพูดอย่างเย็นชา”เข้ามา”

ด้านนอกประตูมีชายคนหนึ่งที่สวมเครื่องแบบของทหารของเมืองแลงคาสเตอร์เดินเข้ามาในห้องด้วยความเคารพ เขาโค้งคำนับและวางแผ่นกระดาษไว้บนโต๊ะทำงานของโคริน จากนั้นก็ออกจากห้องไป

โครินหยิบมันขึ้นมาดูอย่างรอบคอบ

ไม่นานเขาก็โยนมันลงบนโต๊ะทำงาน ใบหน้าที่แก่ชราของเขาเต็มไปด้วยความทุกข์

เขาเคยได้ยินข่าวมานานแล้วว่าทายาทตระกูลขุนนางเก่าแก่คนหนึ่งของวัลลาที่จักรพรรดิส่งมายังแลงคาสเตอร์ กำลังดูถูกพลเมืองของเขาอย่างหยาบคาย

แม้ว่าโครินจะเป็นผู้ปกครองแลงคาสเตอร์ โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเอิร์ลจากจักรวรรดิ และมีตำแหน่งสูงกว่าขุนนางตระกูลไนเจลาเนีย 2 ลำดับ แต่ในความเป็นจริงเขาไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก

เหตุผลนั้นง่ายมาก แลงคาสเตอร์เป็น 1 ใน 4 เมืองใหญ่ของเทียร์ร่าที่รอดพ้นจากการโจมตีของอาณาจักรเพื่อนบ้าน ทั้งหมดเป็นเพราะโครินยอมได้จำนนในทันที และมีเพียงพลเมืองเทียร์ร่าที่อยู่ทางตอนเหนือของเมืองเท่านั้นที่เสียชีวิตจากการถูกกวาดล้าง

ดังนั้นเพื่อเป็นตอบแทนความมีไหวพริบของเขา และเป็นแบบอย่างให้เมืองอื่น ๆ ยอมจำนน จักรพรรดิในเวลานั้นจึงยอมให้โครินผู้แปรพักตร์ รักษาตำแหน่งของเขาในฐานะเจ้าเมืองต่อไปอย่างมั่งคง

แต่ตอนนี้จักรวรรดิได้มีอำนาจควบคุมดินแดนเทียร์ร่าในอดีตอย่างสมบูรณ์แล้ว คนเช่นโครินที่ไม่ได้เกิดในอาณาจักรวัลลา ก็เป็นเพียงหนามยอกอกของจักรพรรดิองค์ใหม่เท่านั้น

ขุนนางตระกูลไนเจลาเนียคนนั้นถูกส่งมาที่นี่เพื่อก่อเรื่อง และค่อย ๆ กลืนกินอำนาจหน้าที่ของเขาในฐานะเจ้าเมืองตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา

โครินรู้ถึงแผนการของจักรพรรดิเป็นอย่างดี หากเขาทนไม่ได้และเริ่มจัดการกับไนเจลาเนีย อีกฝ่ายก็จะฉวยโอกาสนั้นกำจัดเขาอย่างแน่นอน! แม้ว่าเขาจะสร้างเครือข่ายผู้ติดต่อจำนวนมากขึ้นมาได้อย่างยากลำบากเพื่อรักษาตำแหน่งของเขาในฐานะเจ้าเมืองเอาไว้ แต่เขาก็คาดเดาได้ว่าคนสนิทที่อยู่ใกล้ตัวเขา คงจะถูกแทนที่ด้วยคนอย่างขุนนางไนเจลาเนีย ในขณะที่ตัวเขาเองในฐานะเจ้าเมืองถูกลดบทบาทลงให้เป็นเพียงหุ่นเชิดที่ไม่มีอำนาจแท้จริง

และถึงแม้ว่าโครินจะทนการยั่วยุของไนเจลาเนียได้ อีกฝ่ายก็ยังแย่งชิงอำนาจของเขาไปที่ละนิดได้อยู่ดี แม้ว่ากระบวนการนี้จะน่าเกลียดมาก แต่ถ้าเขาไม่สามารถหยุดมันได้ทันเวลา ผลลัพธ์สุดท้ายของเขาก็อาจจะเลวร้าย ไม่ว่าวิธีไหนเขาก็จบไม่สวยทั้งนั้น

ความจริงมีข้าราชกาลชั้นสูงบางคนในเมืองที่จิตใจไม่มั่นคงพอ หรือไม่มีวิสัยทัศน์เพียงพอ เริ่มลังเลและขยายกิ่งมะกอกไปยังไนเจลาเนียแล้ว

เมื่อใดก้ตามที่เขาได้รับรายงานลับเกี่ยวกับเรื่องนี้ โครินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าสมองของเจ้าหน้าที่เหล่านั้นมีบางอย่างผิดปกติหรือไม่ เหตุผลที่พวกเขาทุกคนสามารถรักษาอำนาจและตำแหน่งของตนเอาไว้ได้ก็เป็นเพราะโคริน ทำไมพวกเขาถึงคิดว่าสิ่งต่าง ๆ จะจบลงด้วยดีหากเขาล้มลง?

อันที่จริงโครินก็ได้เริ่มวางแผนกำจัดไนเจลาเนียแบบลับ ๆ แล้ว

แต่สุดท้าย เพื่อนผู้ละโมบคนนั้นก็ตายเพราะความโลภของตัวเอง ก่อนที่แผนการของเขาจะพร้อมอย่างง่ายดายโดยพลเรืองเพียงไม่กี่คน

"ช่างเป็นวิธีตายที่เหมาะสมกับคนที่โง่เขลาแบบนั้นจริง ๆ” โครินพึมพำอย่างเย็นชา

ต้องบอกว่าการตายของไนเจลาเนียเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่สำหรับตัวเขาเอง มันค่อนข้างเป็นปัญหา

แม้ว่าเขาจะมีหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ ที่พิสูจน์ได้ว่าไนเจลาเนียถูกฆ่าตายเพราะวิ่งไปที่แลงคาสเตอร์เขตเหนือเอง แต่จักรพรรดิองค์ใหม่คงไม่สนใจหลักฐาน

โครินถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขารู้สึกเหนื่อยล้าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้มากกว่าในอดีต

ไม่เพียงแต่เขาจะต้องทนต่อการปกครองอย่างเลือดเย็นของราชวงศ์วัลลา แต่เมืองแลงคาสเตอร์เองก็กำลังแย่ลงเรื่อย ๆ แถมเขายังต้องรับมือกับเหล่าขุนนางอีก

ในช่วงเวลานั้น เขาคิดถึงกษัตริย์ผู้โง่เขลาและตาบอดแห่งเทียร์ร่า ที่สนับสนุนให้เขาดำเนินการปฏิรูปการค้า และในที่สุดก็พัฒนาแลงคาสเตอร์ให้เป็นเมืองการค้าได้สำเร็จ

“วันนี้มานั่งเสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว”

โครินเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ คิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป

ในเวลานั้นประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออกเป็นช่องเล็ก ๆ

ชายชรามองไปที่ประตูโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะพบใบหน้ากลม ๆ เล็ก ๆ น่ารักโผล่เข้ามา

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่หืม? เกวนโดลิน” ชายชราถามหลานสาวอย่างใจดี

“คุณปู่กำลังถอนหายใจอีกแล้ว!” เด็กซนตัวน้อยเปิดประตูอย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่าเธอถูกพบแล้ว เธอรีบเข้ามาข้างในและปีนเข้าไปในอ้อมแขนของโคริน “ข้าอยากไปเที่ยวที่ชานเมืองในช่วงเทศกาลหว่านเมล็ด แต่คุณแม่บอกว่าข้าต้องมาขออนุญาติจากคุณปู่ก่อน! เราไม่ได้ไปเที่ยวที่ชานเมืองนานแล้ว คราวนี้เราออกไปเล่นน้ำได้ไหม”

ชายชราลูบหัวเธอ “แน่นอนปู่อนุญาต แต่ปู่จะจัดให้มีคนคอยปกป้องพวกเจ้าทั้งคู่ ดังนั้นอย่าวิ่งไปไหนมาไหนเองตกลงไหม”

เด็กหญิงตัวน้อยเลิกคิ้วทันทีแล้วพยักหน้าอย่างหนักแน่น ก่อนจะหอมแก้มชายชราฟอดหนึ่ง “ขอบคุณค่ะ คุณปู่!”

ครึ่งหนึ่งของใบหน้าชายชราเต็มไปด้วยน้ำลายของเด็กหญิง เขามองเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่กำลังดีใจวิ่งออกไปอย่างอ่อนโยน

“ข้าจะต้องทำงานให้หนักขึ้นเพื่อเกวนโดลิน…”

ดังนั้นเขาจึงหยิบรายงานบนโต๊ะขึ้นมาอ่านซ้ำ ๆ อีกครั้งและอีกครั้ง คราวนี้เขาเห็นเบาะแสบางอย่างจากข้อมูลที่เขาไม่เข้าใจในตอนแรก “หมายความว่าก่อนที่เขาจะถูกฆ่า ไนเจลาเนียต้องการผูกขาดโพชั่นแปลก ๆ ที่เป็นที่นิยมในขณะนี้จากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก? และแหล่งที่มาของมันแม้แต่คนของข้าก็ยังไม่รู้ด้วย”

โครินดูแลแลงคาสเตอร์มานานหลายสิบปี แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่พบที่มาของโพชั่นเหล่านั้น เบื้องหลังเรื่องนี้น่าสนใจมาก

"ดูเหมือนว่าข้าคงต้องพบกับมิสเตอร์มาร์นี่ผู้อมตะคนนั้น...สักครั้ง"

ชายชรามองออกไปนอกหน้าต่างอย่างครุ่นคิด

ในเวลานั้น ดวงอาทิตย์เพียงหนึ่งเดียวก็ได้ส่องแสงทะลุผ่านเมฆดำหนาทึบ นำความอบอุ่นเล็กน้อยแทรกเข้ามายังผืนดินที่เต็มไปด้วยหิมะ

ฤดูหนาวสิ้นสุดลงแล้ว

------------------------------------------------------------

เพจ FC-Translate

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด