สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 28
ตอนที่ 28 การร่วมสอบสวนจาก FBI
ลุคอารมณ์ดีจากเดิมขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ลุคพบว่าการเพิ่มค่าสถานะทีละแต้มไม่ได้ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของเขามากนัก
หลังเลิกงานลุคก็ไปซ้อมยิงปืนตามปกติ ในตอนนี้เขาไม่จำเป็นจะต้องให้เซลิน่าช่วยสอนวิธีการยิงปืนอีกแล้ว
และหลังจากซ้อมยิงปืนเสร็จพวกเขาก็จะไปฝึกซ้อม Brazilian jiu-jitsu ต่อ
ซึ่งปกติแล้วหลังจากยิงปืนเสร็จเซลิน่าจะมารับลุคและจะมุ่งหน้าไปที่โรงยิมของกรมตำรวจเพื่อฝึก Brazilian jiu-jitsu
และวันนี้ทุกอย่างก็ยังคงเป็นเหมือนวันที่ผ่านๆ มา
หลังจากที่ลุคยิงปืนจนแม็กกาซีนหมดไปหลายสิบอันแล้ว ไม่กี่นาทีต่อมาเซลิน่าก็ขับรถตำรวจและเดินตรงเข้ามาเรียกเขา จากนั้นทั้งสองก็มุ่งหน้าไปที่โรงยิมเพื่อฝึกซ้อมอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง
หลังจากการฝึกซ้อมลุคส่งน้ำหนึ่งแก้วให้เซลิน่า
เซลิน่าดื่มช้าๆ เธอหายใจแทบไม่ทันเธอพูดว่า“นายนี่ประหลาด ทำไมฉันรู้สึกว่านายแข็งแกร่งขึ้น มันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ดีขึ้นเลยและก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ!”
ลุคยิ้ม “ไม่! เซลิน่าคุณพัฒนาขึ้นมากนะ อันที่จริงในตอนนั้นผมใช้เวลามากกว่าสามเดือนกว่าจะถึงระดับเดียวกับคุณนะ ในตอนที่ผมฝึกช่วงแรก”
เซลิน่าตอบว่า“แน่ใจเหรอ”
ลุคตอบว่า“ใช่ ก็ถ้าคุณฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆ คุณจะสามารถใช้เทคนิคส่วนใหญ่ของ Brazilian jiu-jitsuในการต่อสู้จริงได้ภายในไม่เกินหนึ่งปี แต่ก็นะถ้าจะให้เทียบกับพวกมืออาชีพเลย คุณก็ต้องฝึกเพิ่มอีกพอตัวเลยหละ”
เซลิน่าเข้าใจในคำพูดของลุคและเธอไม่ท้อถอยที่จะตั้งใจฝึกต่อ
เซลิน่ารู้ดีว่าความหมายของคำพูดของลุคที่ว่า “มืออาชีพในวงการต่อสู้” ลุคกำลังหมายถึงผู้ที่ฝึกฝนมาโดยเฉพาะเพื่อรับมือกับ Brazilian jiu-jitsu
แต่เอาจริงๆ แล้วคนเหล่านี้มีจำนวนน้อยมากในชีวิตจริง
แม้แต่สมาชิกในแก๊งต่างๆ พวกนั้นส่วนใหญ่ก็มีความรู้แค่ทักษะการชกมวยขั้นพื้นฐานและไม่มีทางที่จะเก่งไปกว่า Brazilian jiu-jitsu ที่เซลิน่ากำลังฝึกอยู่ หรือต่อให้ใช้ศิลปะการต่อสู้แขนงอื่นๆ พวกนั้นก็เชี่ยวชาญแค่ขั้นพื้นฐาน
ดังนั้นเซลิน่าจึงพอใจกับอัตราความก้าวหน้าของเธอ
เพราะขนาดลุคยังต้องใช้เวลาถึงสี่ปีเพื่อไปถึงระดับปัจจุบันของเขา เซลิน่าไม่คิดว่าเธอจะมีความสามารถมากกว่าเขาในเรื่องของศิลปะการต่อสู้
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของลุคก็ดังขึ้น
ปัจจุบันเป็นปี คศ. 2003 และโทรศัพท์มือถือก็มีแพร่หลายในช่วงเวลานี้
แต่แน่นอนว่าโทรศัพท์มือถือในยุคนี้ ก็ยังไม่ได้คล้ายกับสมาร์ทโฟนในยุคที่ลุคจากมา
ลุคหยิบโทรศัพท์มือถือที่ดูเหมือนก้อนอิฐออกมา และรับสายที่โทรเข้ามา
เสียงของโรเบิร์ตดังขึ้น "แกอยู่ที่ไหน? ยังอยู่ที่กรมตำรวจรึเปล่า?”
ลุคตอบว่า“ครับ ผมอยู่ในโรงยิม ผมเพิ่งฝึกกับเซลิน่าเสร็จ”
โรเบิร์ตนิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะพูดว่า“ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วเข้าไปรอฉันที่ห้องทำงานของฉัน พวกนายทั้งคู่เลยนะ”
ลุคถามว่า“มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า”
โรเบิร์ตตอบว่า“มีคนจากเอฟบีไอและกำลังอยู่ที่นี่ เป็นเรื่องเกี่ยวกับพวก Carlos Family”
ลุคตอบว่า“โอเค” จากนั้นเขาก็วางสายด้วยใบหน้าดูหม่นหมอง
เซลิน่าถามว่า“มีอะไรเหรอ”
ลุคตอบว่า“มีคนมาจากเอฟบีไอและกำลังอยู่ที่นี่ โรเบิร์ตบอกให้พวกเราไปอาบน้ำแต่งตัวและรอพวกเขาในห้องทำงานของโรเบิร์ต ไปกันเถอะ.”
เซลิน่าลุกขึ้นยืน “พวกเขาที่นี่ทำไม?”
ลุคตอบว่า“โรเบิร์ตบอกว่ามันเกี่ยวข้องกับพวก Carlos Family”
เซลิน่าหยุดเดินขณะที่ใบหน้าของเธอสว่างขึ้นด้วยความตื่นเต้น “จริงหรือ? หึหึ ดูเหมือนว่าครั้งนี้ฉันจะมีโอกาสได้สนุกบ้างหล่ะนะ”
ลุคยิ้มอย่างขมขื่น "ทำไมคุณดูมีความสุขมากขนาดนั้น? หรือว่าคุณต้องการตกเป็นเป้าของพวก Carlos Family?”
เซลิน่าตะคอกอย่างเย็นชา “อย่าลืมว่าพวกเราทั้งคู่เป็นคนจับผู้ค้ายาเสพติดทั้งสองคน นายคิดว่าพวกนั้นจะไว้ชีวิตฉันหลังจากที่พวกเขาจัดการกับนายเรียบร้อยแล้วหรอ”
นั่นทำให้ลุคเถียงไม่ออก
แม้ว่า Carlos Family อาจไม่สนใจเธอในตอนนี้เนื่องจากลุคเป็นคนที่ฆ่า ฟรานซิสโก คาร์ลอส แต่ใครจะการันตีได้บ้างหล่ะว่าอาชญากรเหล่านี้จะทำอะไรต่อไป
ดังนั้นจึงต้องมีบางอย่างเกี่ยวกับพวก Carlos Family
แววตาเย็นชาวูบวาบในดวงตาของลุคเมื่อเขาตัดสินใจเช่นนี้
เมื่อพวกเขามาถึงหน้าห้องน้ำเซลิน่าก็ก้าวไปข้างหน้าก่อนที่พูดเย้าแหย่ลุคว่า "นายต้องการอาบน้ำพร้อมกับฉันไหม? สกายวอคเกอร์ของฉัน?”
ลุคตัวสั่นและพูดว่า“ไม่ ผมไม่กล้าหรอก คุณไปสนุกกับตัวเองเถอะ คุณผู้หญิง”
เซลิน่าคำรามด้วยเสียงหัวเราะก่อนจะเข้าห้องน้ำ
ทั้งสองผลัดกันอาบน้ำและสวมเครื่องแบบ
โชคดีที่ปกติแล้วพวกเขาจะเปลี่ยนเครื่องแบบจากตำรวจเป็นชุดกีฬาในตอนฝึก ไม่งั้นพวกเขาคงไม่มีเสื้อผ้าชุดอื่นให้เปลี่ยนในตอนนี้
พวกเขารออยู่ในห้องทำงานของโรเบิร์ตและในไม่กี่นาทีโรเบิร์ตก็มาถึง
เมื่อโรเบิร์ตเข้ามาในสำนักงานเขาพูดว่า“ฉันจะให้คำอธิบายคร่าวๆ ก่อนที่พวกเขาจะมาถึง”
ทั้งสองพยักหน้า
โรเบิร์ตกล่าวว่า“เอฟบีไอมาที่นี่เพื่อดักจับเส้นทางลักลอบขนของของพวก Carlos Family พวกเขาได้รับข่าวมาจากสายสืบที่พวกเขาส่งเขาไปแฝงตัวกับพวก Carlos Family ในช่วงสองสามปีมานี้ เพื่อค้นหาเส้นทางลักลอบขนของของพวก Carlos Family และเมืองของเราเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางที่กำลังสืบกันอยู่ และนั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกคุณถึงจับพ่อค้ายาได้ก่อนหน้านี้”
การแสดงออกของพวกเขาดูเคร่งขรึม
โรเบิร์ตกล่าวต่อว่า“และพวกเอฟบีไอพบว่าเรากำลังตรวจสอบเกี่ยวกับ Carlos Family และนอกจากนั้น ฟรานซิสโก คาร์ลอสเพิ่งจะถูกฆ่าตายที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากที่พวกเขาคิดไปคิดมา พวกเขาก็ตัดสินใจส่งคนมาที่นี่เพื่อคุยกับพวกเราและประเมิณว่าเราจะรับมือพวก Carlos Family ได้หรือไม่”
เซลิน่าถามว่า“นี่พวกเขาต้องการใช้พวกเราเป็นเหยื่อล่อพวก Carlos Familyอย่างงั้นหรอ?”
โรเบิร์ตพยักหน้า "ถูกตัอง. แต่ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงไป ฉันอยากถามความเห็นของพวกคุณก่อนว่าพวกคุณคิดอย่างไร”
เซลิน่ารู้ว่าโรเบิร์ตต้องการรู้ความคิดของเธอเป็นหลัก ท้ายที่สุดเขามีโอกาสอื่น ๆ อีกมากที่จะถามคำถามเหล่านี้กับลุคหากเขาต้องการ
เธอตอบโดยไม่ลังเลว่า“โอเค ฉันอันด้วย”
โรเบิร์ตถามว่า“นี่คุณไม่คิดก่อนสักหน่อยหรอ?”
เซลิน่าตอบว่า“ฉันไม่ต้องการเสี่ยงว่าคนบ้าเหล่านั้นจะปล่อยฉันและครอบครัวหรือไม่”
โรเบิร์ตพยักหน้า "ตกลง แล้วคุณล่ะลุค”
ลุคตอบว่า“ผมเอาด้วยเช่นกัน แต่แผนคืออะไร”
โรเบิร์ตกล่าวว่า“ดี เราจะรอดูว่าพวกเอฟบีไอจะพูดอะไร”
ลุคนึกถึงเรื่องนี้และพูดว่า“ตราบใดที่เราสามารถทำให้ครอบครัวของเราให้ปลอดภัยผมก็ไม่รังเกียจที่จะยกผลประโยชน์ สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับคดีนี้ให้พวกเอฟบีไอ”
โรเบิร์ตโบกมือ “เหลวไหลน่า ตราบใดที่การดำเนินการประสบความสำเร็จทุกคนจะได้รับผลประโยชน์กันทั้งนั้น จะแตกต่างก็เพียงเปอร์เซนในการเข้าร่วมเท่านั้นยังไงซะทุกคนที่ทำงานก็ต้องได้ผลงาน แต่ตอนนี้ให้ความสนใจไปกับที่วิธีจัดการกับพวก Carlos Family ดีกว่า”
ลุคพบว่าตัวเองเห็นด้วยกับสิ่งนั้นจึงยอมรับแบบเงียบๆ
ไม่ถึงสิบนาทีต่อมาชายสองคนในชุดสูทสีดำก็เดินเข้ามา
คนหนึ่งเป็นคนผิวขาวอายุประมาณ 40 ปีส่วนอีกคนเป็นชาวลาตินอเมริกาอายุประมาณ 35 ปี
คนผิวขาวยื่นมือออกมาและพูดว่า“สวัสดี นายอำเภอโรเบิร์ต ผมคือ เจ้าหน้าที่คริส โจนส์ นี่คือ เจ้าหน้าที่มาริโอ ซานโตส”
โรเบิร์ตมีสีหน้าเรียบเฉยและจับมือเขาเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า“ยินดีต้อนรับ ผมแนะนำให้รู้จักกับ นี่เซลิน่า ฮาเลก และนี่คือ ลุค โคลสัน พวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ที่จับพวกคาร์ลอสได้”
ทั้งสี่จับมือกันและกันก่อนจะนั่งลง
โรเบิร์ตยืนอยู่ที่โต๊ะโดยมีเจ้าหน้าที่อยู่ทางซ้ายและเจ้าหน้าที่อยู่ทางขวาของเขา เขากล่าวว่า“เอาหละเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ตัดน้ำออกไปให้หมดเลยได้ก็ดีนะ เล่าแผนของพวกคุณมา”
คริสไม่ได้ตกใจกับความตรงไปตรงมานี้ เขาพยักหน้าและกล่าวว่า“ผมมีทีมที่เฝ้าติดตามแก๊ง Limedog เป็นเวลากว่าหนึ่งปี พวกเราพบว่าพวกมันเป็นฉากหน้าของพวก Carlos Family ที่อยู่ภายในเขตแดนของอเมริกา หน้าที่ของพวกมันคือการเป็นคนสร้างคอนเนคชั่นกับพวกพ่อค้ายายรายย่อยและช่วยพวก Carlos Family ในการแจกจ่ายสินค้า เรากำลังวางแผนที่จะกำจัดแก๊งนี้”
โรเบิร์ตขมวดคิ้ว “นั่นควรจะเป็นงานของ DEA(สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ) ไม่ใช่หรอ?”
คริสพยักหน้า “ถ้าแก๊ง Limedog มุ่งเป้าไปที่การขายยาเพียงอย่างเดียวเราคงไม่ได้จับตาดูพวกเขาหรอก เพราะถึงยังไงนั้นก็หน้าที่ของ DEA แต่แก๊ง Limedog ก็มีพฤติกรรมบ้าคลั่งไม่เกรงกลัวกฏหมายเหมือนพวก Carlos Family เช่นกัน ในช่วงสั้น ๆ ในสามปีที่ผ่านมานี้แก๊ง Limedog เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีกราดยิงหลายสิบคดีในประเทศและมีพลเรือน 17 คนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 คนถูกสังหาร”