บทที่ 88 ถูกบังคับ
บทที่ 88 ถูกบังคับ
ปัง!
ไม่ใช่แค่กุนไท่คนเดียวที่ได้ยินโต๊ะข้างๆเองก็ได้ยินเช่นเดียวกัน ชายวัยกลางคนร่างกายกำยำลุกขึ้นยืนพลางตบโต๊ะ! ก่อนจะตะโกนขึ้นมาว่า
“บังอาจ! กล้าดูถูกพวกเราสมาคมชาวยุทธ์เชียวหรือ? รนหานที่ตาย!”
“เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวสมาคมชาวยุทธ์อย่างพวกเจ้าหรือ! ข้าเป็นศิษย์จากสำนักสะท้านฟ้าบัญชาสวรรค์!” ชายชุดเหลืองตอบพลางเยาะเย้ย
“หึ! เป็นแค่ศิษย์ระดับต่ำคิดว่าข้าจะกลัว!? ไปตายซะ!”
ชายที่ตบโต๊ะนั้นคำรามออกมาด้วยความโกรธ มันมาจากสมาคมชาวยุทธ์มันไม่มีทางกลัวศิษย์ระดับต่ำจากสำนักสะท้านฟ้าบัญชาสวรรค์!
พลังปราณขอบเขตผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูงสุดระเบิดออกมาอย่างฉับพลัน ม่านพลังสีดำก่อตัวขึ้นรอบตัวชายรูปร่างกายกำยำผู้นั้น
ชายชุดเขียวก็ไม่ยอมเช่นเดียวกัน สหายของมันอีกสองคนได้หนีไปแล้ว พลังปราณที่มีระดับเดียวกับชายรูปร่างกำยำระเบิดออกมา
ชายรูปร่างกำยำคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับพุ่งเข้าหาอีกฝ่าย ก่อนจะปล่อยหมัดขวาออกไป
ปัง!
ชายหนุ่มชุดเขียวปล่อยหมัดสวนกลับไปขณะเบี่ยงตัวไปด้านข้างแล้วตามด้วยอีกหมัดที่อัดเข้าลำตัวของชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำ
เปรี้ยง!
ชายรูปร่างกำยำกระเด็นไปหลายเมตรก่อนที่จะตีลังกาลงลงพื้นได้อย่างนุ่มนวล มันเสยยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดจาถากถางขึ้นมาว่า
“มีแรงเพียงเท่านี้? มิน่าเล่าคนรักของเจ้าถึงได้มาหาข้าทุกคืน!”
คำพูดที่รุนแรงนั้นถูกปลดปล่อยออกมา พลันทำให้ชายหนุ่มอาภรณ์เขียวนั้นเต็มไปด้วยโทสะ แววตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นชิงชัง พลังต่อสู้หมุนวนอยู่รอบตัวอย่างน่าแปลกใจ
วิชาระดับชนชั้นสูง ขั้นกลาง! หมัดกระทิงแดง!
หมัดทั้งสองของชายชุดเขียวเปี่ยมไปด้วยพลังปราณสีแดงฉาน ด้านหลังปรากฏเงากระทิงสีแดงขึ้น มันมีดวงตาที่ดุร้าย เขาคู่ของมันนั้นแข็งแกร่งดุจหินผา ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามดูน่ากลัว!
“นายท่านทั้งสองอย่างพังร้านของข้าเลย! ข้าพึ่งจะเปิดร้านได้แค่ไม่กี่วันเอง!” มีชายชราคนหนึ่งรีบวิ่งออกมาจากหลังร้านพร้อมกับกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน!
แต่ทั้งสองนั้นกลับทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยิน พวกมันทั้งสองสู้กันและยังคงพูดจาดูถูกกันไม่หยุด มองดูแล้วมันน่าขำขันเสียมากกว่า กุนไท่นั่งดื่มชาอย่างสบายใจสายตาเฝ้าดูการต่อสู้ของทั้งสองราวกับดูการแสดงในงานที่ถูกจัดขึ้น
แฮ่ก แฮ่ก!
ทั้งคู่แลกเปลี่ยนกระบวนท่าไปกว่าร้อยกระบวนท่าแล้ว ลมปราณภายในแหล่งกำเนิดพลังของทั้งสองนั้นใกล้จะหมด ไม่นานทั้งสองก็ล้มลงไปบนพื้นก่อนจะหมดสติไป มันเป็นอาการของผู้ที่ใช้พลังปราณเกินขีดจำกัดของตนเอง
ทันใดนั้นมีหญิงชราคนหนึ่ง ปรากฏตัวขึ้นด้านข้างกุนไท่อย่างเงียบงัน โดยที่ชายหนุ่มไม่รู้ตัวเลยด้วยแม้แต่น้อย ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงอันทรงพลังขึ้น
“หนุ่มน้อย! เจอตัวเจ้าเสียที!”
ฟึบ!
กุนไท่ถอยออกมาจากตรงนั้นด้วยความตกใจ ขนทั่วทั้งร่างของชายหนุ่มต่างลุกชั่งขึ้น บนใบหน้าฉายเต็มใจปนหวาดกลัววาบผ่านพลางจ้องมองไปที่หญิงชราผู้นั้น
นางสวมใส่ชุดสีเหลือง ผมสีขาวดอกเลาจัดทรงอย่างดีด้วยปิ่นปักผม นางดูเหมือนผู้ทรงอำนาจหลายคนที่เขาเคยพบเจอ แต่กุนไท่มั่นใจว่าตัวเขาไม่ได้รู้จักอีกฝ่ายอย่างแน่นอน
“ท่านเป็นใคร!”
กุนไท่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ เขามิอาจสัมผัสได้ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้เลย แต่ลางสังหรณ์กลับรับรู้ว่าหญิงชราผู้นี้เป็นตัวอันตราย!
“ไม่ต้องกลัวไปหนุ่มน้อย ข้ามาหาเจ้าเพราะข้ารู้ว่าเจ้าคงเป็นโจรที่ปล้นเหมืองในข่าวลือสินะ! ข้าต้องการให้เจ้าเข้าร่วมกับสำนักสะท้านฟ้าบัญชาสวรรค์ของข้า!”
หญิงชรากล่าวด้วยสีหน้าชวนผวาไม่ต่างกับปีศาจชรา ใบหน้าที่เหี่ยวย่นของนางเผยรอยยิ้มที่อบอุ่นออกมา แต่ทว่าสำหรับกุนไท่มันน่าขนลุกยิ่ง!
กุนไท่มองไปโดยรอบก่อนที่จะรู้ตกตะลึง เพราะทุกคนที่อยู่โดยรอบกลับหยุดการเคลื่อนไหว ราวกับว่าโลกใบนี้ถูกหยุดเวลาไว้! ชายหนุ่มพยายามสงบใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับไป
“ผู้อาวุโส เหตุใดข้าต้องเข้าร่วม หากข้าไม่เข้าร่วมท่านคงไม่….
“ข้าไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลแก่เจ้า เจ้าจงเลือกเองว่าจะเข้าร่วม! หรือไม่อย่างนั้นข้าจะจับเจ้าไปส่งให้กับพวกสมาคมชาวยุทธ์!”
หญิงชราเอ่ยข่มขู่แทนการอธิบายออกไป ดวงตาเปล่งแสงออกมาปานจิตสังหารที่ทำให้ผู้คนรู้ว่านางไม่ได้พูดเล่นแต่ทำใจ! ปราณสีฟ้ารอบตัวปรากฏขึ้นสร้างแรงกดดันให้กุนไท่อย่างมหาศาลจนทำให้เขาต้องกระอักเลือด หากอีกฝ่ายเพิ่มแรงกดดันขึ้นไปอีกเขาอาจตายได้!
“ในเมื่อข้าไม่มีทางเลือกก็คงต้องเข้าร่วมแล้ว!”
กุนไท่ตอบกลับไปอย่างจนปัญญามิอาจมีทางออกอื่นอันใดได้อีก โดยปกติแล้วเขาจะสามารถคาดเดาจุดประสงค์ของอีกฝ่ายได้ แค่หญิงชราผู้นี้มีนิสัยแปลกประหลาด คาดเดาได้ยากและยังไร้เหตุผลอีกด้วยประหนึ่งเดรัจฉานที่ไร้สติปัญญา! คนประเภทนี้เป็นคนที่รับมือได้ยากที่สุด
“เจ้าเข้าร่วมก็ไม่ได้แย่เสมอไป ข้ารู้ว่าเจ้ามีสายเลือดพิเศษเพราะข้าเองก็มีเหมือนกัน เจ้าจะได้ทรัพยากรที่ไม่ทำให้สายเลือดของเจ้าเสื่อมเสียอย่างแน่นอน และหากเจ้าทำได้ดีเจ้าจะยิ่งได้รับทรัพยากรมากยิ่งขึ้น แต่เพื่อไม่เอาเปรียบผู้อื่นเจ้าจะต้องเข้าไปเป็นศิษย์ตามปกติเหมือนคนอื่น และเมื่อเจ้าพบเจอปัญหาใดข้าก็จะไม่เข้าไปช่วย! สำนักของข้านั้นจะทำให้เจ้าได้รู้ว่าโลกนี้มันอยู่ยาก!”
หญิงชรากล่าวจบ ก็มีจดหมายแนะนำลอยไปใส่ในมือของกุนไท่ ก่อนที่นางจะสลายหายไปราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่
แล้วภาพรอบตัวของกุนไท่ก็กลับมาเป็นปกติดังเดิม ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเคลื่อนไหวเหมือนกาลก่อน ชายหนุ่มทอดถอดหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสำนักสะท้านฟ้าบัญชาสวรรค์
ยามนี้สำนักกำลังรับศิษย์อยู่พอดิบพอดี แน่นอนว่าก็ต้องมีคนจำนวนมากที่ต้องการเป็นศิษย์ของที่นี่ นี่คือสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวรรดิกัง! เป็นขุมกำลังที่ทรงอำนาจมากที่สุดภายในเมืองกังอีกด้วย! คนที่เข้าร่วมจะได้จะเป็นศิษย์ขั้นหนึ่งซึ่งมีสถานะต่ำที่สุด
ถ้าอยากเป็นศิษย์ขั้นสองจะต้องผ่านการทดสอบให้ได้เสียก่อน การทดสอบบางครั้งไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับบ่มเพาะ มันยังมีอย่างอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย
หลังจากที่ได้เป็นศิษย์ขั้นหนึ่งแล้วนั้นจะต้องทำการไต่อันดับ เมื่อสามารถไปถึงร้อยอันดับแรกได้แล้ว จะสามารถทำการขอทดสอบเป็นศิษย์ขั้นสองได้ ขั้นศิษย์ทั้งหมดมีสามขั้นหลังจากทำการทดสอบผ่านไปอีกจะได้เป็นผู้อาวุโส และเมื่อได้เป็นแล้วจะได้เข้าถึงส่วนในของสำนักที่ได้ทั้งทรัพยากรและอำนาจที่ทุกคนต่างใฝ่ฝัน!
