บทที่ 287
ท้องฟ้ามืดครึ้มชั่วขณะ เสียงร้องคำรามดังลั่นมาจากท้องฟ้าเหนือเมืองเกิ้งจิ้วเมืองหลวงเขตที่พักของอ๋องมู่ ชั่วน้ำเดือดทุกอย่างก็จางหาย ภายนอกชานห้องโถงใหญ่ ชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่มีหนวดเคราสวมชุดเกราะสีทองยืนอ่านบางอย่างที่มือขวา ด้านข้างมีชายฉกรรจ์สวมชุดเกราะสีเงินยืนสงบนิ่ง
“สงครามเป็นตัวนำความเดือดร้อนทุกข์ยากมาสู่ประชาชน เรื่องนี้ข้าเข้าใจดีและหากต้องการชนะสงครามจำเป็นจะต้องมีกำลังที่เข้มแข็งอยู่ในมือ ตัวข้ามีความทะเยอทะยานที่จะปกครองแผ่นดินที่นี่เพราะความมั่นคงของประชาชน แต่เหตุใดคนเพียงคนเดียวไม่เห็นด้วยจึงทำให้เกิดสงครามอันบัดซบนี้เกิดขึ้น”
ชายฉกรรจ์สวมชุดเกราะสีเงินรีบคุกเข่าลงกับพื้น
“แต่ท่านอ๋องก็ไม่ควรหยิบยืมกำลังของพวกเทพนะขอรับ”
“เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องห่วง สิ่งที่พวกนั้นต้องการคือกำจัดเหมาหนานและพวก”
“แต่”
“ข้าเข้าใจเจ้าดีเจ้าอยู่กับข้ามานาน เจ้ามองดูข้างล่างเถอะคนพวกนั้นออกเดินทัพแล้ว”
ชายฉกรรจ์สวมชุดเกราะสีเงินลุกขึ้นยืนมองลงไปที่ชานมองเห็นกองทัพเกือบห้าพันคนสวมชัดเกราะสีดำนั่งบนหลังหมาป่าตัวใหญ่เดินออกจากเมืองอย่างช้าๆ
“ห้าหมาป่า คนที่น่ากลัวที่สุดก็คือเจิงหนานเป็นปีศาจที่ละทิ้งความเป็นคนไปแล้ว”
“อย่าบอกนะขอรับ”
“เป็นอย่างที่เจ้าคิดเจิงหนานและเจิงเซียวเป็นคนที่องค์ชายเวิ่นเทียนส่งมา กองกำลังทั้งหมดก็ถูกจัดการโดยเจิงเซียวด้วยเช่นกัน นักรบผีดิบที่ทำงานตามคำสั่งของผู้เป็นนายเท่านั้น สงครามครั้งนี้ใกล้ถึงจุดจบของมันแล้วสั่งการทหารของเราให้พร้อมทันทีที่เจิงหนานนำศีรษะของเหมาหนานกลับมา เราจะยกทัพบุกยึดดินแดนแห่งนี้ทั้งหมด”
“ขอรับท่านอ๋องมู่”
ทางด้านเนี่ยฟงตอนนี้อยู่ในกระโจมใหญ่ทัพหลักของเหมาหนานกำลังแจ้งรายละเอียดของการปะทะทั้งหมดที่ผ่านมาของหน่วยพยัคฆ์ ให้แก่เหล่าแม่ทัพได้ฟัง ทันใดนั้นก็มีเสียงเอ่ยวาจาดังลั่นออกมาจากด้านนอกกระโจม
“คำพูดของเจ้าฟังดูมันน่าเหลือเชื่อยิ่งนักแต่ทว่าข้าคิดว่าเจ้าเพียงแต่งเรื่องมาเอาความดีความชอบ”
เนี่ยฟงขมวดคิ้วหันไปมองก็พบเห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมชุดเกราะก้าวเดินเข้ามาพร้อมกับมีชายฉกรรจ์สามคนเดินติดตามมา เหมาหนานเห็นเช่นนั้นก็เอ่ยวาจานะแนะนำ
“เนี่ยฟง คุณชายท่านนี้มีนามว่าห่าวหลงเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้าเมืองห่าวจงที่ให้สถานที่แห่งนี้แก่เราในการตั้งค่าย ส่วนด้านหลังเป็นอี้ฟงหนานเป็นครูทวน หวนต้าหนานเป็นครูดาบ ส่วนคนสุดท้ายชิงหม่าหู่เป็นครูมวย ทั้งสามคนเป็นครูของทหารฉือจี่แห่งนี้”
เนี่ยฟงรีบก้มคารวะ
“ข้าได้ยินมาไม่น้อยถึงความสามารถของเจ้าหัวหน้าหน่วยพยัคฆ์ของท่านเหมาหนาน จะเป็นการรบกวนหรือไม่ที่ข้าจะขอให้เจ้าประลองกับครูฝึกของทหารฉือจี่”
เนี่ยฟงหันไปมองเหมาหนานพร้อมกับแสยะยิ้ม เหมาหนานที่เห็นเช่นนั้นถึงกับขมวดคิ้ว เนี่ยฟงหันกลับมาเอ่ยวาจาเสียงดัง
“แน่นอนข้าตอบตกลง การประลองตัวต่อตัวอาจจะเสียเวลาเพราะข้าต้องไปทำอย่างอื่นต่อ เช่นนั้นเชิญทั้งสามที่ลานประลอง”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงก็ก้าวเดินออกจากกระโจมโดยไม่รอผู้ใด เหยียนอู่และหลงจวินส่ายศีรษะไปมา ก้าวเดินติดตามคนทั้งหมดออกไป เนี่ยฟงก้าวเดินออกมาจากกระโจมหลังมุ่งหน้ามาที่ลานประลองหรือลานฝึกยุทธ์ของทหาร ล่งซือและหน่วยพยัคฆ์ทั้งหมดก็อยู่บริเวณนั้นเช่นกัน ไม่นานทั้งหมดก็ออกมาอยู่ที่นี่กันหมด เนี่ยฟงก้าวเดินมารอที่ตรงกลางพร้อมกับขยับร่างกายไปมา อี้ฟงหนานกำชับทวนเหล็กปลายแหลมในมือแน่น เช่นเดียวกับหวนต้าหนานที่กำชับดาบในมือแน่น ส่วนชิงหม่าหู่ยังยืนสงบนิ่ง เนี่ยฟงเมื่อเห็นเช่นนั้นยืนนิ่งโคจรลมปราณเพื่อรอเวลาเช่นกัน
ห่าวหลงเอ่ยวาจาออกมาเสียงดัง
“เป็นเจ้าเองที่ดูแคลนยอดนักสู้ทั้งสามของที่นี่ ตัวข้าเองตอนนี้คงหยุดทั้งสามไม่ได้แล้ว”
“หรือเจ้าจะเข้ามาร่วมอีกคนก็ได้ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าที่นี่เขาเก่งแต่ปากกันหรือว่ามีดีที่ฝีมือ”
ห่าวหลงถึงกับหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธหันไปจ้องมองทั้งสามคนพร้อมกับยกมือขวาขึ้นมาใช้นิ้วหัวแม่มือปาดไปที่ลำคอของตน ทั้งสามเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ขยับเข้าล้อมชายหนุ่มด้านหน้า เป็นอี้ฟงหนานที่จ้วงแทงทวนเหล็กออกมา เนี่ยฟงโยกตัวหลบไปทางซ้าย หวนต้าหนานเมื่อเห็นเช่นนั้นก็พุ่งเข้ามาทางขวามือฟาดฟันดาบไปที่ขาทั้งสอง ในจังหวะที่อี้ฟงหนานจ้วงแทงทวนเหล็กออกมาเช่นกัน เนี่ยฟงกระโดดนอนราบกับพื้นเพื่อหลบดาบและทวน ทันทีที่เนี่ยฟงลงมาที่พื้นชิงหม่าหู่ก็ปรากฏกายที่ด้านหน้า ต่อยหมัดขวาออกไป เปรี้ยง ตูม ฝุ่นควันกระจาย ทันทีที่สายลมพัดจางหายทั้งสามถึงกับตื่นตกใจที่เนี่ยฟงยังคงยืนอยู่อย่างปกติ
“กำลังแขนของเจ้าดีไม่น้อยสามารถหลบหมัดของข้าได้”
“ท่าร่างโอนเอียงไปมามีความว่องไวถือว่าเจ้ามีความสามารถไม่น้อยเช่นกัน”
“แต่ถึงอย่างนั้นความสามารถของเจ้าก็ไม่สามารถใช้ได้อีกแล้ว”
สิ้นเสียงกล่าวหวนต้าหนานก็พุ่งเข้าหาชายหนุ่มด้านหน้า พร้อมกับหวนตัวฟาดฟันดาบออกมา เนี่ยฟงโยกตัวหลบออกไปทางซ้าย หวนต้าหนานที่รู้อยู่แล้วจึงใช้เท้าขวายันพื้นพลิกตัวกลับฟาดฟันดาบ เนี่ยฟงเองก็ใช้ทักษะท่าเท้าเหยียบนภาโยกตัวหลบวูบวาปไปมาคมดาบหาได้โดนแม้แต่ชายเสื้อ ทหารฉือจี่ถึงกับตื่นตกใจเพราะหวนต้าหนานใช้ออกด้วยเพลงดาบสะบัดธงอันเป็นวิชาดาบที่รวดเร็วและแม่นยำแต่ก็ไม่สามารถทำอันตรายต่อชายหนุ่มด้านหน้าได้ ทันใดนั้นเนี่ยฟงก็โยกตัวหลบออกไปทางขวาพร้อมกับหมุนตัวกลับมาง้างหมัดซ้ายหมายต่อยไปที่ชายโครงด้านซ้ายของหวนต้าหนาน แต่ก็ต้องถีบเท้าขวาหลบออกมาเสียก่อนเพราะมีทวนเหล็กจ้วงแทงเข้ามาประดุจกรงเล็บขนาดใหญ่ ทันทีที่เหยียบถึงพื้นชิงหม่าหู่ก็ปรากฏกายมาที่ด้านหลังง้างหมัดขวาต่อยออกไป เนี่ยฟงโคจรลมปราณไปที่หัวไหล่ขวาโยกตัวตั้งรับ เปรี้ยง ถึงกับกระเด็นออกไปด้านหลัง ห่าวหลงที่เห็นเช่นนั้นถึงกับหัวเราะเสียงดังลั่น เนี่ยฟงหันไปมองเหมาหนานหลังจากนั้นก็ผายมือทั้งสองออกก้าวเดินออกมาด้านหน้า
“ข้าคิดว่าพวกท่านจะมีความสามารถมากกว่านี้เสียอีก เช่นนั้นครั้งนี้ข้าจะเข้าไปหาพวกท่านเอง”
สิ้นเสียงกล่าวชายฉกรรจ์ทั้งสามถึงกับรู้สึกถึงจิตสังหารที่ถูกแผ่ออกมาจากชายหนุ่ม เป็นหวนต้าหนานที่เร่งโคจรลมปราณไปที่ดาบพุ่งเข้าหาชายหนุ่มด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ฟาดฟันดาบออกมาประดุจห่าฝนเนี่ยฟงโยกตัวหลบเหมือนเช่นเคย หวนต้าหนานร้องคำรามฟาดฟันดาบออกมาอย่างสุดกำลัง เนี่ยฟงโยกตัวหลบไปทางขวาใช้ท่อนแขนด้านซ้ายยกขึ้นมาสกัดกั้นดาบ หวนต้าหนานเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ตื่นตกใจไม่น้อย แต่ทว่าเมื่อรู้สึกตัวก็สายเสียแล้ว เนี่ยฟงเร่งโคจรลมปราณไปที่มือขวาต่อยเข้าไปที่ชายโครงด้านซ้ายอย่างถนัดถนี่ เปรี้ยง หวนต้าหนานกระเด็นไปทางขวาด้านหน้าของอี้ฟงหนาน เนี่ยฟงพุ่งทะยานติดตามไปอย่างรวดเร็ว ทันทีที่หวนต้าหนานร่วงลงพื้นอี้ฟงหนานก็จ้วงแทงทวนเหล็กออกไปประดุจกรงเล็บจ้วงแทง ทันใดนั้นปลายทวนก็จ้วงแทงได้เพียงแค่อากาศ เนี่ยฟงพุ่งเข้าประชิดต่อยหมัดขวาเข้าไปปลายคางอย่างถนัดถนี่ เปรี้ยง อี้ฟงหนานร่วงลงไปนอนกับพื้น ทันใดนั้นชิงหม่าหู่ก็ปรากฏกายที่ด้านหลังของเนี่ยฟงเช่นเดิม ต่อยหมัดขวาออกมา เนี่ยฟงหมุนตัวกลับสะบัดมือซ้ายขึ้นต้านรับ เปรี้ยง พร้อมกับกัมตัวลงเตะเท้าขวาออกมาจากด้านหลัง เปรี้ยง ชิงหม่าหู่ร่วงลงไปเนี่ยฟงรีบลุกขึ้นยืนต่อยหมัดขวาเข้าที่ปลายคางของชิงหม่าหู่อย่างถนัดถนี่ เปรี้ยง ลงไปนอนกับความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วบริเวณ
เนี่ยฟงหันไปจ้องมองห่าวหลงที่ยืนกำหมัดทั้งสองแน่นจ้องมองดูตนอย่างไม่วางตา
“คุณชายจะเข้ามาด้วยก็ได้ข้าจะใช้เพียงแขนขวาข้างเดียวเป็นอย่างไร ถือว่าท่านเป็นเจ้าบ้าน”
ห่าวหลงหน้าตาแดงก่ำสะบัดมือขวาถือดาบพุ่งเข้าหาเนี่ยฟงอย่างรวดเร็วพร้อมกับใช้ทักษะวิชาเช่นเดียวกับหวนต้าหนาน เนี่ยฟงแสยะยิ้มโยกตัวหลบไปมาไม่ถึงสามลมหายใจก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังลั่นออกมาเป็นระยะ เพียะ เพียะ เพียะ ชั่วน้ำเดือดห่าวหลงก็ลงไปนอนกับพื้นเช่นเดียวกัน ใบหน้าทั้งสองข้าวปูดบวมดุจลูกตำลึง ในขณะนั้นเองก็มาทหารสองนายรีบพุ่งเข้ามาในบริเวณพร้อมกับนำม้วนแผ่นหนังมามอบให้เหมาหนาน เหมาหนานรีบเปิดอ่านถึงกับต้องขมวดคิ้ว เหยียนอู่เมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบเอ่ยวาจาสอบถาม
“เกิดสิ่งใดขึ้นพี่ใหญ่”
“เจิงหนานนำกำลังคนออกจากเกิ้งจิ้วแล้ว สงครามครั้งหน้าเห็นทีเราคงต้องปะทะกับพวกมัน”