Ep.593 - ลุ่มน้ำตู่ซาน
3/5
*แก้ไขเล็กน้อย ขอเรียกลุ่มน้ำลิหว๋า ว่าลุ่มน้ำตู่ซานไปเลย มันคือที่เดียวกัน จะได้ไม่สับสน
Ep.593 - ลุ่มน้ำตู่ซาน
“อ้าวเฮ้ย ฉินเฟิง อย่าเพิ่งไป!” ซื่อฉิงตะโกนไล่หลัง แต่ฉินเฟิงเพียงยกมือขึ้น ส่ายไปมาให้เขา พาไป๋หลีขึ้นรถศึกล่องเวหาแล้วจากไป
ซื่อฉิงไม่สามารถหยุดฉินเฟิง ทั้งยังไม่สามารถรักษาหน้าสหายตน อดรู้สึกอับอายไม่ได้
และที่น่าเสียดายที่สุดก็คือ การที่เขาต้องสูญเสียกำลังเสริมที่ทรงพลังไป อดร่วมมือกันอีกครั้ง
เมื่อเห็นฉากนี้ พนักงานต้อนรับคนนั้น ก็ตัวแข็งค้าง เบิกตากว้าง เริ่มเกิดความสงสัยว่าตนเองได้ทำอะไรผิดไปหรือไม่
“นายพลซื่อ … ถ้าคุณต้องการผู้ใช้พลังคนนั้นจริงๆ ฉันสามารถถ่ายโอนเขามาทำงานเป็นลูกน้องคุณได้”
ซื่อฉิงขมวดคิ้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวได้รับการศึกษาและเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี ฉะนั้นไม่ระเบิดอารมณ์ออกไป พยายามใจเย็นและเอ่ยถามอีกฝ่าย “คุณชื่ออะไร? แล้วมีตำแหน่งหน้าที่อะไร?”
“รายงานท่านนายพล ฉันชื่อเจียงป๋อ มีหน้าที่รับผิดชอบในการประสานงานของสมรภูมิลุ่มน้ำตู่ซาน”
ชายคนนี้ คือคนที่ทางพันธมิตรมนุษย์ส่งมาดูแลที่นี่ แต่ความแข็งแกร่งและสายตาในการมองคนของเขา ทำให้ซื่อฉิงรู้สึกหมดหนทาง
“ในความคิดฉัน ดูเหมือนนายจะต้องศึกษาอะไรๆอีกเยอะ”
สิ้นเสียง ซื่อฉิงก็เดินจากไปทันที คร้านจะคุยกับเจียงป๋ออีก
‘นี่ … ท่านนายพลพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?’ แม้รู้สึกไม่พอใจ แต่เจียงป๋อไม่กล้าเอ่ยถาม ทำได้แค่ตามหลังไปอย่างเงียบๆ จนซื่อฉิงเดินมาถึงพันธมิตรมนุษย์
‘หรือว่าจะเป็นเพราะเจ้าเด็กคนเมื่อกี้ มันใช่มีภูมิหลังอะไรรึเปล่า?’ คล้ายฉุกคิดได้ถึงบางอย่าง หัวใจของเจียงป๋อเต้นตึกตัก เริ่มบังเกิดความวิตกกังวลเล็กน้อย
ส่วนซื่อฉิง เขาหันไปสนใจตรวจสอบสถานการณ์รบของกลุ่มพันธมิตรมนุษย์ ทางด้านฉินเฟิง เจ้าตัวไม่ได้อยู่เฉย สนามรบที่นี่ แตกต่างจากในหลงฉวน อย่างใจกลางเทือกเขาหลงฉวน ส่วนใหญ่แล้วมีแค่สัตว์ร้ายเลเวล D ตัวที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ก็อยู่ในเลเวล D ระดับจักรพรรดิเท่านั้น แต่ที่นี่ สัตว์ร้ายทุกตัวล้วนอยู่ในเลเวล C ขึ้นไปทั้งสิ้น
แต่หากจะให้กล่าวอย่างแม่นยำ สมควรเรียกพวกมันว่าแมลงสัตว์ร้าย!
ฉินเฟิงพาไป๋หลีออกมาหาโรงแรมที่พัก จากนั้นทำการเชื่อมต่อกับเครือข่ายพันธมิตรมนุษย์ของพื้นที่ และเริ่มสำรวจแผนที่ของลุ่มน้ำตู่ซานอย่างรวดเร็ว
บนแผนที่ เนืองแน่นไปด้วยวงของแถบสีหลากผุดขึ้นติดๆกัน พวกมันทั้งหมดล้วนเป็นตัวแทนที่แสดงถึงแมลงสัตว์ร้าย
สถานที่แห่งนี้เมื่อย่างเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว แม้ตำแหน่งที่ตั้งทางภูฒิศาสตร์จะดี แต่อุณหภูมิจะลดต่ำลงมาก ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของพวกแมลงสัตว์ร้ายโดยตรง พวกมันเลยกลับไปกระจุกตัวกันอยู่ในรัง มีเพียงส่วนน้อยที่ออกล่านอกพื้นที่
แต่หากเป็นช่วงฤดูผสมพันธุ์อย่างฤดูร้อนแล้วล่ะก็ พวกแมลงสัตว์ร้ายจะอยู่ไม่สุก ออกจากรังจนกระจัดกระจายไปทั่วทั้งแผนที่ วงสีที่คอยแสดงถึงตำแหน่งของพวกมัน จะทับกันจนไม่มีที่ว่าง
“ตอนนี้ดูเหมือนว่าไส้เดือนโลหิตจะมีอาณาเขตกว้างขึ้น ทั้งยังอยู่ค่อนข้างใกล้กับตำแหน่งแม่แมลง”
“ส่วนตั๊กแตนมรกต ถ้าจะให้กวาดล้างพวกมันตั้งแต่แรกเลย คงเสี่ยงไปหน่อย”
“ในอาณาเขตของมังกรดิน อย่าเพิ่งเข้าไปเลยจะดีกว่า”
ฉินเฟิงคุ้นเคยกับรูปแบบการโจมตีของสัตว์ร้ายเหล่านี้ ย่อมทราบเป็นธรรมดาว่าแมลงสัตว์ร้ายแต่ละชนิด แข็งแกร่งเพียงใด และชนิดใดสมควรถูกกำจัดก่อน
ไม่นาน ฉินเฟิงก็เริ่มร่างแผนในใจ
แต่ก็นั่นแหละ บางครั้งบางคราว ต่อให้เราร่างแผนมาดีแค่ไหน แต่สุดท้ายก็มีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้ต้องเปลี่ยนมันอยู่ดี
หลังฉินเฟิงกับไป๋หลีพักผ่อนเต็มอิ่ม เขาและเธอก็มุ่งหน้าเข้ามายังตึกรับรองผู้ใช้พลัง
ท่าทีของผู้คนที่นี่ดูรีบร้อนมาก ทั้งยังเต็มไปด้วยผู้ใช้พลังเลเวล C
ที่นี่มีการจัดตั้งกำแพงเมือง เชื่อมต่อกันเป็นชั้นๆคล้ายกับหลงฉวน แต่ ณ ที่แห่งนี้มีปราการอยู่เพียงสามแห่งเท่านั้น และที่ฉินเฟิงอยู่ตอนนี้ คือใจกลางเรียกว่าเมืองตู่ซาน
ส่วนอีกสองเมืองปราการ เรียกกันว่า ‘เมืองซ้ายและเมืองขวา’ ขณะที่ป้อมปราการถูกจัดวางในรูปแบบสามเหลี่ยม
แต่จากทั้งหมดที่กล่าวมา ที่ได้รับแรงกดดันที่สุดคงไม่พ้นเมืองที่อยู่ตรงใจกลาง เพราะตราบใดที่เมืองกลางถูกทำลาย ที่เหลือก็ไม่สามารถรั้งอยู่ต่อ ทำได้เพียงหลบหนีเท่านั้น
ฉินเฟิงมาถึงโต๊ะภารกิจ ก้มลงมองหลายภารกิจที่ถูกเพิ่มเติมเอาไว้ และเริ่มเลือกภารกิจล่าสังหารแมลงสัตว์ร้ายสองสามสายพันธุ์
ถัดจากเขา มีเสียงของทีมอื่นๆดังแทรกเข้ามา
“ภารกิจวันนี้เป็นไง? เก็บเกี่ยวอะไรมาได้บ้าง?”
“ก็ไม่เลว แต่ได้รับความเสียหายร้ายแรงอยู่เหมือนกัน หนึ่งในมือปืนได้รับบาดเจ็บ”
“พลปืนพวกนี้ช่างอ่อนแอ”
“แต่ในลุ่มน้ำตู่ซาน ถ้าไม่มีมือปืนคอยวิ่งเต้น ก็ยากจะทำภารกิจได้”
“เออจริงสิ พูดถึงมือปืน ได้ยินมาว่าเมื่อเร็วๆนี้มีกลุ่มองค์กรหนึ่งสามารถผลิตอาวุธปืนชั้นดีขึ้นมาได้ ฟังดูน่าสนใจไม่เลวเลย”
“โอ้? กลุ่มอะไรงั้นหรอ?”
“เป็นกลุ่มที่เรียกว่าเฟิงหลี พวกเขาทุ่มงบโฆษณาค่อนข้างมาก นายเองก็น่าจะเคยผ่านตา”
“อา เหมือนจะเคยเห็นมาก่อนจริงๆนั่นแหละ …”
ฉินเฟิงได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย อดประหลาดใจไม่ได้ แต่ในเวลาเดียวกันก็ขบขัน
ดูเหมือนว่าสินค้าของตนเอง จะเป็นที่กล่าวขวัญมากกว่าที่คิด
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉินเฟิงก็นึกขึ้นได้ถึงวิธีการโฆษณาใหม่ เขาเปิดอุปกรณ์สื่อสาร และป้อนข้อมูลลงไป เตรียมที่จะขอให้กองทหารรับจ้างเฟิงหลี นำอาวุธปืนที่แข็งแกร่งที่สุด และชุดเกราะที่ทำจากเสาผลึกที่ได้จากเขตแดนลับก่อนหน้านี้ มาสำแดงฤทธิ์ที่ลุ่มน้ำตู่ซาน
อาศัยสิ่งประดิษฐ์เทวะทั้งสองนี้ เขาจะสามารถพิชิตชัย และโฆษณาในตู่ซางได้เป็นอย่างดีแน่นอน
แต่ฉินเฟิงเพิ่งพิมพ์เสร็จ บนอุปกรณ์สื่อสารก็ปรากฏตัวอักษรสีแดงขึ้นอย่างกะทันหัน เป็นประกาศสำคัญบางอย่าง
【ภารกิจฉุกเฉิน ผู้ใช้พลังเลเวล B7 คงโบะ ได้ประกาศขอรับสมัครผู้ใช้พลังเลเวล C 100 คน รางวัลภารกิจ : 5,000 แต้มสงคราม และแก่นราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล C】
ฝูงชนพอเห็นรางวัล ทั้งหมดตาลุกวาว จากนั้นบังเกิดความโกลาหลขึ้นทันใด
เนื่องจากรางวัลนี้ มากพอที่จะทำให้พวกเขาร่ำรวย! แต้มสงคราม 5,000 ว่าเยอะแล้ว แต่แก่นราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล C ยิ่งว้าวกว่า
แต้มสงคราม 5,000 แต้ม สามารถนำไปแลกเปลี่ยนอุปกรณ์รูนได้มากมาย ส่วนแก่นราชันย์สัตว์ร้าย ไม่ใช่อะไรที่ได้มาครอบครองได้ง่ายๆ เพราะแมลงสัตว์ร้ายในที่นี่ล้วนเป็นเลเวล C การจะสังหารระดับราชันย์ หมายความว่าต้องบุกป่าฝ่าดงพวกลูกสมุน ทั้งยังต้องร่วมมือกันหลายคน และอาจเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ ต่อให้ชนะ ก็ไม่มีใครสามารถครอบครองแก่นราชันย์สัตว์ร้ายได้เพียงผู้เดียว เพราะต้องแบ่งปันกัน
แต่คงโบะผู้นี้ ช่างใจใหญ่จริงๆ พริบตาเดียวโยนแก่นราชันย์กว่า 100 แก่นเป็นรางวัล
“จะใช่เขาหรือเปล่านะ …” ฉินเฟิงพอได้ยินชื่อของบุคคลคนนี้ ก็อดประหลาดใจไม่ได้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นคนที่เขานึกรึเปล่า
ระหว่างนั้นเอง บนชั้นสองของตึกรับรองผู้ใช้พลัง ปรากฏสองคนวิ่งลงมาอย่างรีบร้อน หนึ่งคือคงโบะ ส่วนอีกคนหนึ่งคือผู้ใช้พลังเลเวล C7 --เป็นเจียงป๋อที่เคยออกมาต้อนรับซื่อฉิงก่อนหน้านี้
คงโบะอายุราวๆ 40 ปี แต่เนื่องจากเขาเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ เกรงว่าต่อให้อายุมากกว่านี้สักสิบหรือยี่สิบปี ก็ไม่อาจคาดเดาได้
เขาดูเป็นคนหลักแหลม ร่างกายผอมบาง สูงประมาณ 170 ซม. เมื่อยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่แข็งแกร่ง ด้วยความสูงที่น้อยกว่าคนอื่นๆนี้ ย่อมดูโดดเด่นเป็นพิเศษ
เพียงเห็นหน้าของชายคนนี้ ฉินเฟิงก็สามารถระบุตัวตนของอีกฝ่ายได้ในทันที
สมญาพันมีดบิน คงโบะ!
อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงรู้ดี ว่านี่ไม่ใช่ความสูงที่แท้จริงของอีกฝ่าย แต่มันเกิดจากเทคนิคฝึกยุทธอันเป็นเอกลักษณ์ที่เจ้าตัวฝึกมาตลอดชีวิตต่างหาก
จู่ๆก็ได้มาพบหน้า ดูเหมือนว่าฉินเฟิงกับคงโบะ จะมีบางสิ่งเชื่อมโยงถึงกัน และคงไม่พ้นเป็นรูบิควิเศษในมือของฉินเฟิง เพราะก่อนเกิดใหม่ เจ้าสิ่งนี้เคยเป็นของคงโบะ
ในเวลานี้ การปรากฏตัวของคงโบะ ซึ่งมีสถานะเป็นเลเวล B ฝูงชนต่างจับจ้องไปที่ผู้ใช้พลังคนนี้ทันที เนื่องจากยิ่งระดับสูงเท่าไหร่ การฝึกฝนและยกระดับไปในแต่ละขั้นก็ยิ่งใช้เวลานานเท่านั้น ดังนั้น ผู้ใช้พลังทุกคนที่ในระดับต่ำ ต่างบังเกิดความรู้สึกยกย่องผู้ใช้พลังระดับสูง
ก็เหมือนกับที่เลเวล D เคารพเลเวล C , ส่วนเลเวล C เคารพเลเวล B
นี่เองที่เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกลูกรักของพระเจ้าถึงหยิ่งผยองนัก เพราะความว่องไวในการยกระดับของพวกเขา มันเหนือล้ำกว่าคนปกติ สามารถทะยานไปสู่ฟากฟ้าได้อย่างรวดเร็วชนิดขัดเจตจำนงสวรรค์
อย่างไรก็ตาม แม้ฉินเฟิงจะสามารถเอาชนะเลเวล B ได้ แต่ตราบนตัวเขาเป็นแค่เลเวล C ดังนั้นคนในกลุ่มเลเวล C เหมือนกันเลยไม่เคารพเขา
“ทุกท่าน ฉันจะไม่ขอปิดบังพวกคุณ ตอนนี้ฉันต้องการคนบุกไปยังพื้นที่เขต 13 เพื่อตามหาคนๆนึง ถ้าพวกคุณคิดว่าความแข็งแกร่งของพวกคุณมากพอ ก็รับภารกิจนี้ไว้ ฉันจะรอแค่สามนาทีเท่านั้น”
พอพูดว่าสามนาที คงโบะก็เริ่มจับเวลาทันใด แค่ภารกิจตามหาตัวคนๆนึง เทียบกับรางวัลแล้วคุ้มค่าเกินบรรยาย ใครๆก็อยากรับไว้
แต่หลังจากได้ยินพื้นที่เขต 13 บางคนก็เกิดความลังเลขึ้นมา
“พื้นที่เขต 13? ไม่ใช่ว่าที่นั่น ….”