สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 27
ตอนที่ 27 ความมืดที่แผ่กระจาย วิธีการเพิ่มค่าสถานะที่ถูกต้อง
เซลิน่ากล่าวปลอบใจลุค “ลุคไม่ต้องกังวลหรอกนะที่นี่คืออเมริกา Carlos Family คงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเหมือนอย่างที่พวกเจาทำในเม็กซิโกหรอก”
ลุคทำได้เพียงพยักหน้าเงียบ ๆ
แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถทำสิ่งที่พวกเขาชอบทำกัน หากพวกเขาไม่สามารถใช้ปืนAK และระเบิดได้ แต่ทว่าก็ยังพอมีสิ่งที่พวกนั้นจะทำได้อยู่ถึงแม้จะไม่ใช้ปืน Ak แต่พวกเขาก็ยังใช้ปืนพกได้อยู่ดี
ลุคและโรเบิร์ตสามารถป้องกันตัวเองได้ไม่มีอะไรต้องกังวลอยู่แล้ว แต่แคทเธอรีนกับแคลร์หล่ะ? และที่สำคัญโจเซฟหนุ่มน้อยวัยห้าขวบด้วยหล่ะ?
ทั้งสามคงทำตัวไม่ค่อยถูกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับแก๊งมาเฟียเม็กซิกัน
หลังจากที่ลุคนั่งคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นไม่นาน เขาก็ลุกขึ้นยืน “ไปกันเถอะเซลิน่า”
เซลิน่าถามอย่างว่างเปล่า“หือ? เราจะไปที่ไหน?”
ลุคตอบว่า“ลาดตระเวน คงพอจะช่วยทำให้ผมไม่พุ้งซ่าน”
เซลิน่าตอบว่า“โอ้” เธอรีบลุกขึ้นและจากไปพร้อมกับเขา
โรเบิร์ตบอกว่าวันนี้พวกเขาไม่ต้องลาดตระเวนและที่พวกเขาต้องทำก็คือการวางแผนรับมือฉุกเฉินพร้อมกับรวบรวมข้อมูล
แต่เนื่องจากลุคต้องการออกลาดตระเวนเพื่อสงบสติอารมณ์ ดังนั้นเซลิน่าจึงสนับสนุนคู่หูของเธออย่างไม่ช่วยไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นโรเบิร์ตจะไม่ลงโทษอะไรลุคอยู่ดี
แล้วลุคจะออกไปสงบสติอารมณ์จริงๆ หน่ะเหรอ?
แน่นอนว่า ไม่!
ในเมื่อลุคต้องเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้ลุคจำเป็นต้องแข็งแกร่งขึ้น และวิธีที่ง่ายที่สุดในการที่จะแข็งแกร่งขึ้นก็คือการเพิ่มเลเวล
ตอนนี้เขามีค่าประสบการณ์ประมาณ 600 แต้ม คงจะต้องใช้อีกค่าประสบการณ์อีกไม่มากเพื่อที่ลุคจะเพิ่มเป็นเลเวลสี่
แน่นอนว่าหลังจากที่ลุคออกใบสั่งสำหรับรถที่จอดในพื้นที่ห้ามจอดไปจำนวนมาก ในอีกสามวันต่อมาเขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ
ภารกิจ: จัดการกับยานพาหนะที่จอดผิดกฎหมายออกใบสั่ง, เสร็จสิ้น
รางวัล: คะแนนประสบการณ์ 2 คะแนนเครดิต 2 คะแนน
เมื่อมีประสบการณ์ถึง 700 คะแนนโฮสต์จึงเลเวลเพิ่มขึ้นเป็นเลเวล 4
คะแนนสถานะเพิ่มเติม: 3
ลุคมีความสุขมากเมื่อได้รับการแจ้งเตือนว่าเลเวลเพิ่มแล้วและเขาเกือบจะลืมตัว แล้วกดอัพค่าสถานะตรงนี้เลย
แต่เขาสามารถระงับความตื่นเต้นของตัวเองไว้ได้
เมื่อพวกเขากลับเข้าไปที่กรมตำรวจในตอนเที่ยงลุคดูเหมือนจะดูไม่ค่อยดีเท่าไร
เซลิน่าถามอย่างสงสัยว่า“นายเป็นอะไรหรือเปล่า”
ลุคตอบว่า“ไม่มีอะไร คุณจะทานอาหารกลางวันเลยไหม?”
เซลิน่าพยักหน้า "เอาสิ จะกินด้วยกันเลยไหม?”
ลุคหยิบเงิน 10 เหรียญออกมาจากกระเป๋าสตางค์และพูดว่า "ซื้อแซนวิชสามชิ้นกับน้ำแร่หนึ่งขวดให้ผมทีสิ"
เซลิน่าตะคอก “นายนี้มันหน้าด้านจริงๆ”
ลุคทำตัวไม่สนใจการบ่นของเซลิน่า
ในตอนนี้ลุคยังต้องการเป็นโสดอยู่ ดังนั้นเขาเลยไม่ได้สนใจเท่าไรว่าผู้หญิจะมองเขาเป็นคนไม่ได้เรื่องหรืออะไรก็ตาม
..................
แม้ว่าเขาจะเคี้ยวแซนด์วิชที่เซลิน่าซื้อให้เขา แต่จิตใจของลุคก็ยังคงคิดเรื่องอื่นอยู่
เซลิน่าก็ซื้ออาหารกลางวันของเธอและใส่ห่อกลับมาที่กรมตำรวจและนั่งทานข้างๆ ลุค
ถ้าเทียบกับคู่หูคนเก่าเธอชอบลุคมากกว่า
เพราะว่าลุคนั้นตั้งใจทำงานมากๆ เรื่องต่อสู้ก็ดีเลย ความกล้าก็ใช้ได้
และที่สำคัญที่สุดลุคหล่อกว่าคู่หูคนก่อนหน้านี้มาก
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาพวกเขาฝึกการต่อสู้ด้วยมือเปล่าด้วยกันตลอด และระหว่างนั้นเซลิน่าก็ได้ค้นพบความลับเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับลุค
พวกเขาฝึก Brazilian jiu-jitsu ด้วยกันบ่อยๆ และเธอก็ไม่ได้ไก่อ่อนถึงขนาดว่าไม่รู้เรื่องอะไร อันที่จริงแล้วเธอเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและมีประสบการณ์ 3-4 ปี ซึ่งจากประสบการเหล่านี้ ในระหว่างฝึกเมื่อพวกเขาต้องสัมผัสร่างกายกัน เธอไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยตาของเธอเอง เธอก็แน่ใจว่าลุคมีกล้ามเนื้อมากประมาณหนึ่งเลยหล่ะ
เซลิน่าเองก็เป็นผู้หญิงที่หลงไหลผู้ชายที่มีกล้ามมาโดยตลอดและผู้ชายในอุดมคติของเธอคือผู้ชายที่มีรูปร่างคล้าย ๆ กับกัปตันอเมริกาที่มีทั้งกล้ามและหล่อด้วย
แม้ว่าในแง่ของรูปลักษณ์ภายนอกของลุคจะหล่อและสูงกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย แต่ในสายตาเซลิน่าแล้วลุคก็ยังเป็นที่น่าพอใจ และเมื่อประกอบกับร่างกายที่สมบูรณ์แบบของลุคแล้วเซลิน่าหาข้อเสียที่จะทำให้ไม่ชอบคู่หูคนใหม่นี้ได้เลย
เมื่อเธอมองลุคที่ยืนห่างออกไปเล็กน้อยเธอก็ถามว่า“นายยังกังวลเกี่ยวกับ Carlos Family อยู่หรือเปล่า”
ลุคส่ายหัว“ไม่”
เซลิน่าพูดต่อ“อย่ามาโกหกน่า นอกจากพวกนั้นแล้วไม่มีใครทำให้คุณกังวลได้”
ลุคตอบว่า“อืมที่จริงก็ใช่ ฉันยังค่อนข้างกังวล”
เซลิน่าพูดอย่างไม่เกรงกลัวว่า“ถ้าพวกนั้นกล้ามาละก็ ฉันจะจัดการให้เอง”
ลุคเลิกคิ้ว “พวกนั้นคงจะไม่มาแค่กลุ่มเล็กๆ คนสองคนอย่างแน่นอน พวกนั้อาจจะมาเป็นกลุ่มใหญ่ประมาณ 10 หรือ 20 คน”
เซลิน่าเสนอไอเดียและพูดว่า“ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องใช้วิธีแยกพวกนั้นออกเป็นกลุ่มเล็กก่อนจะฆ่าทีละคน”
ลุคตอบว่า“แยกกลุ่มพวกนั้น? ใครมันจะทำได้กัน เว้นเสียแต่ว่าพวกนั้นจะโง่…ห๊ะ? แปปนะ เมื่อกี้คุณเพิ่งว่าไงนะ? แยกพวกนั้น”
เซลิน่าถามอย่างสงสัย“อะไร? มันเป็นความคิดที่ไม่ดีหรอ?”
แววตาของลุคเหมือนจะนึกบางอย่างได้ในขณะที่เขาพึมพำ“ใช่แล้วทำไมฉันถึงคิดเรื่องแบบนี้ไม่ออกนะ ใช่ฉันสามารถแยกกลุ่มพวกนั้นได้!”
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน “ฉันจะพักสักหน่อยนะ”
เซลิน่า “หือ?”
ลุคมีความสุขมากและกอดเซลิน่า“ขอบคุณสำหรับไอเดียดีๆนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมเลี้ยงอาหารกลางวันเอง”
เซลิน่ารู้สึกสับสนไปหมดและเมื่อลุคเข้าไปในห้องทำงานของโรเบิร์ตเธอก็พึมพำว่า“เป็นอะไรไปผู้ชายคนนี้? ทำไมจู่ๆเขาถึงมีความสุขขนาดนั้นกัน? เลี้ยงอาหารกลางวัน? อาหารกลางวันยังไงก็ราคาไม่เกิน 10 ดอลลาร์อยู่ดี! ช่างเป็นผู้ชายที่งกอะไรอย่างนี้!”
แม้ว่าเธอจะบ่น แต่ริมฝีปากของเธอก็ยังคงโค้งด้วยรอยยิ้ม
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรเธอก็ยังคงมีความสุขที่เห็นลุคหายจากอาการซึมเศร้าและตึงเครียด
หลังจากเข้าไปในห้องทำงานของโรเบิร์ตเขาก็ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา
ลุคเป็นคนเดียวที่นี่ที่ทำได้เกี่ยวกับเรื่องนี้และก็ไม่มีใครที่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
จากนั้นในหน้าต่างอักขระล่องหนลุคเริ่มกดปุ่มอัพสเตตัสของเขา
ความคล่องแคล่ว +1 เป็น 15 แต้ม
จากนั้นความรู้สึกชาที่คุ้นเคยก็จู่โจมร่างกายของลุคอีกครั้ง
แต่ตามที่คาดไว้คราวนี้ความรู้สึกรุนแรงน้อยลงมาก
นี่เป็นความคิดที่ลุคได้รับหลังจากที่ได้ยินเซลิน่าพูด
ตลอดมาลุคได้เพิ่มค่าสถานะทั้งสามที่ได้จากการอัพเลเวลในคราวเดียวเช่นเดียวกับที่เขาทำในวิดีโอเกม
วันนี้เป็นครั้งแรกที่ลุคถามตัวเองว่าทำไมเขาถึงต้องเพิ่มทั้งหมดในครั้งเดียว
การเพิ่มค่าสถานะมักจะมาพร้อมกับความรู้สึกไม่สบายตัวอย่างรุ่นแรงเนื่องจากระบบเปลี่ยนแปลงร่างกายของลุค และนั่นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ถ้าลุคเลือกที่จะเพิ่มค่าสถานะทีละหนึ่งแต้มหล่ะ?
เมื่อลุคเพิ่มสเตตัสความคล่องแคล่วเป็นครั้งแรกเขาได้ค่าสถานะเพิ่มเติมสามแต้มในครั้งเดียวจาก 11 ถึง 14 คะแนน
ถ้าการคำนวณอย่างคร่าวๆ พอจะบอกได้ว่าหลังจากการเพิ่มค่าสถานะแล้วความคล่องแคล่วของลุคเพิ่มขึ้นประมาณ 27 เปอร์เซ็นต์
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเช่นนี้ทำให้ลุครู้สึกไม่สบายตัวอย่างมาก
แต่ตอนนี้ลุคเพิ่มเพียงหนึ่งแต้มให้กับความคล่องแคล่วที่มีอยู่ 14 แต้มถ้าลองคำนวนคร่าวๆ มันทำให้ความคล่องแคล่วของลุคเพิ่มขึ้นเพียงประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นประมาณหนึ่งในสี่ของการเปลี่ยนแปลงของลุคในตอนแรกที่เขาเพิ่มค่าสถานะให้กับความคล่องแคล่ว
และตามที่คาดไว้ความรู้สึกไม่สบายก็น้อยลงเช่นกัน
ก่อนหน้านี้อาการชาอย่างรุนแรงและความเจ็บปวดจากการบีบรัดของกล้ามเนื้อทำร้ายลุคอย่างไร้ความปราณี แต่ตอนนี้ลุครู้สึกเพียงชาๆ เล็กน้อย
เมื่อเทียบกับประสบการณ์ก่อนหน้านี้อาการชาในระดับนี้เป็นสิ่งที่ลุคสามารถทนได้อย่างสบายๆ และไม่ต้องกลัวต่ออาการบาดเจ็บทางจิตใจ
นอกจากนั้นเขายังสามารถพอจะเดาได้ว่าเมื่อเขาเพิ่มค่าสถานะให้กับความคล่องแคล่วในครั้งต่อไปอาการชาก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ
ท้ายที่สุดตอนนี้ลุคมีค่าความคล่องแคล่ว 15 แต้ม ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเมื่อเพิ่มสเตตัสหนึ่งจุดก็จะยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ
การเพิ่มทีละแต้มแทนที่จะเพิ่มพร้อมกันทำให้ร่างกายของเขาปรับตัวได้ง่ายและใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยลงมาก
ถ้าเขาเลือกที่จะเพิ่มทีเดียวพร้อมกันสามแต้มเขาน่าจะต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานพอสมควร ซึ่งจะสามารถทำได้ในวันหยุดยาวเช่นเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น
แต่ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องกังวลถึงเรื่องนี้อีกต่อไปและสามารถเพิ่มสเตตัสของเขาได้ตลอดเวลา