ตอนที่ 157 พี่คะ ฉันขอร้องล่ะ
เขาเพิ่งเริ่มรู้สึกอารมณ์เสียเมื่อเห็นแววตาของเฉียวเมียนเมียนเต็มไปด้วยความเฉยเมยและสายตาที่ทำให้ความโกรธที่สงบลงเพียงเล็กน้อยปรากฏขึ้นอีก
“ดื้อด้าน” เขาชี้ไปปลายจมูกของเฉียวเมียนเมียนและดุอีกครั้ง
“นั่นคือการแสดงออกแบบไหน เธอคิดว่าฉันทำผิดงั้นเหรอ เธอไม่เคารพผู้ใหญ่ราวกับไม่ได้รับการศึกษา แกนี่มันไม่เห็นหัวฉันเลยจริง ๆ”
“ดูน้องแก แล้วมองตัวแกเองสิ แกมันแย่มากในฐานะพี่สาว”
“พ่อคะใจเย็น ๆ ค่ะ ใจเย็น ๆ”
เฉียวอันซินยืนอยู่ด้านหลังเฉียวหรุ่ย และเมื่อเธอมองขึ้นไปที่เฉียวเมียนเมียน แววตาของเธอก็เต็มไปด้วยความภูมิใจและยั่วยุ
เธอก้าวไปข้างหน้าและจับมือเฉียวหรุ่ย เธอแสร้งทำเป็นเชื่อฟังและมีสติ เธอพูดด้วยเสียงกระซิบเบา ๆ ว่า
“คุณหมอบอกแล้วว่าให้ดูแลร่างกายตัวเองนะคะ ถ้าพ่อโกรธจะไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ”
“พี่คะ ทำเกินไปแล้วนะคะ”
เธอขมวดคิ้วและต่อว่าออกมาเบา ๆ
“คุณพ่อสุขภาพไม่ดี และไม่ความโกรธมากขนาดนี้ พี่ยังจะทำให้พ่อโกรธอีกเหรอ พอได้แล้วค่ะ”
“พี่รู้สึกดีรึไง ที่ได้ทำให้พ่อโกรธ”
“ฉันรู้ว่าตอนนี้พี่อารมณ์ไม่ดี พี่จะดุตีฉันก็ไม่สำคัญแล้ว แต่อย่าทำให้พ่อโกรธอีกต่อไปเลย พี่คะ ขอร้องล่ะ อย่าได้สร้างปัญหาอีกต่อไปเลย”
“มีเพียงอันซินเท่านั้นที่เหมาะสมกว่า” หลินฮุ่ยเซินกล่าวกับเฉียวหรุ่ยอย่างชัดเจน
“คุณคะ ทั้งสองเป็นลูกสาวของคุณ คุณควรชัดเจนในใจว่าใครจริงใจและใครดีกับคุณมากกว่ากัน”
เฉียวหรุ่ยมองไปที่เฉียวอันซิน ด้วยความพึงพอใจจากนั้นหันไปหาเฉียวเมียนเมียน เขาเหลือเพียงความผิดหวัง
“บ้านของเราวุ่นวายทันทีที่เธอกลับมา ต่อไปถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องกลับมา”
“ป้าหลินกับอันซิน ใจกว้างขนาดไหนที่จะไม่ทะเลาะกับเธอเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันขี้เกียจที่จะพูดอะไรกับเธอเหมือนกัน ลืมมันไปเถอะ ฉันจะไม่อยากเห็นหน้าเธอตอนนี้”
เฉียวเมียนเมียนยกมือขึ้นลูบใบหน้า แล้วมองไปที่ทั้งสามคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับเธออย่างว่างเปล่า
ตรงข้ามกับเธอเป็นครอบครัวที่มีความสุขเพียงสามคน
พวกเขาเหมาะสมกับเป็นครอบครัวกันเสียจริง
และเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
ฉากนี้ช่างน่าขันจริง ๆ
ตามที่คาดไว้ เธอน่าจะรู้นานแล้วว่านี่ไม่ใช่บ้านของเธออีกต่อไป
ที่จริง เธอรู้มาตลอด
เธอเพิ่งรู้สึกลึกซึ้งมากขึ้นในครั้งนี้
“พี่คะ กลับไปที่มหาวิทยาลัยเถอะ”
เฉียวอันซินแนะนำด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและปลอบโยน
“ตอนนี้พ่อกำลังโกรธเขาเลยพูดออกไปแบบนี้ อย่าไปสนใจเลย พี่ค่อยกลับมาตอนที่พ่อสงบลง...”
“เฉียวอันซินหุบปาก ไม่ต้องแสร้งทำแบบนี้หรอก มันทำให้ฉันเซ็ง”
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกขยะแขยงอย่างมาก ที่เห็นเธอแสร้งทำเป็นเชื่อฟังและมีเหตุผล
“พี่คะ..” เฉียวอันซินแสร้งทำเป็นเจ็บปวดทันที เธอกะพริบตาและตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
“คุณคะ ดูสิ เธอกลายเป็นอะไร เธอรังแกเราจนถึงจุดนี้ต่อหน้าคุณ เธอจะอวดดีมากแค่ไหนเมื่อคุณไม่อยู่”
“ในที่สุดคุณก็เชื่อในสิ่งที่ฉันเคยพูดกับคุณก่อนหน้านี้ใช่ไหม อันซินและฉันถูกเธอรังแกมากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่าน ถ้าคุณควบคุมลูกสาวได้ไม่ดี ฉันกลัวว่าเธอจะไม่เห็นคุณอยู่ในสายตา”
หลินฮุ่นเซินเอื้อมมือไปเช็ดที่มุมดวงตา เธอดูเศร้าและเสียใจ