บทที่ 6 ยุ่นเซี่ย
บทที่ 6 – ยุ่นเซี่ย
“ท่านพ่อ” จื่อเซี่ยร้องลั่นทันที
“ฮืมม?” ยุ่นหลิง เลิกคิ้วใส่เธอ
“ท่านพ่อบอกว่าท่านพ่อไม่รู้อะไรเกี่ยวกับจื่อเซี่ย และจื่อเซี่ยไม่รู้อะไรเกี่ยวกับท่านพ่อแต่ตอนนี้ท่านพ่อกับจื่อเซี่ย รู้จักกันนิดหน่อยแล้วจากนี้ไปท่านพ่อและจื่อเซี่ย จะได้ ... รู้จักกัน ... มากกว่านี้?” จื่อเซี่ย สับสนเล็กน้อยในตอนท้ายของคำพูดของเธอและพูดอย่างไม่แน่ใจ
แม้ว่าจื่อเซี่ยจะสับสนกับสิ่งที่เธอพูด แต่ยุ่นหลิงก็เข้าใจสิ่งที่เธอจะพูดจริงๆ
"ถูกของเจ้า เนื่องจากเข้าจะอยู่ที่นี่ในตระกูลของนี้ เราจึงสามารถใช้เวลาทำความรู้จักซึ่งกันและกัน ตอนนี้ข้าคิดอยู่ แล้วเจ้าจะอยู่ที่นี่ต่อจากนี้หรือจะกลับไปอยู่ที่บ้านของแม่ล่ะ” ยุ่นหลิงถาม เขาเพิ่งรู้จักลูกสาวของเขา เขาไม่ต้องการแยกกับเธอเร็วๆ ในตอนนี้
มันแปลกจริงๆ ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรหรือควรทำอย่างไรกับลูกสาวคนนี้ของเขา ความรู้สึกของเขาซับซ้อน แต่ตอนนี้เขารู้สึกผูกพันธ์กับเธออย่างประหลาด
“จื่อเซี่ย ไม่รู้ ท่านแม่ไม่ได้บอกข้าไว้”
ยุ่นหลิงอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้จริงๆ เขาสามารถบอกได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดาโดยตัดสินจากสิ่งที่เขาได้ยินจากลูกสาวและนิสัยของลูกสาวของเขา แม้ว่า จื่อเซี่ยจะเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่เธอก็เป็นเด็กที่เปิดใจกว้างอย่างน่าประหลาดใจ เธอไม่ได้ตำหนิหรือโกรธเขาที่ไม่ได้อยู่ในชีวิตของเธอที่ผ่านมา เธอแค่รู้สึกเขินอายและก็กลัวเขานิดหน่อย แต่นั่นเป็นสิ่งที่เขาควรได้รับเนื่องจากก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นคนแปลกหน้า
“ข้าอยากพบแม่ของเด็กคนนี้จริงๆ” ยุ่นหลิงพูดอย่างจริงจัง
จื่อเซี่ยยิ้มอย่างสดใส “จื่อเซี่ยอยากให้ท่านแม่กับท่านพ่อเจอกันด้วย”
ยุ่นหลิงหัวเราะเบาๆ ขณะที่เขาขยุ้มผมของเธอเบาๆ จากนั้นเขาก็หยุดชั่วคราวขณะที่คิดอะไรบางอย่าง
“เจ้ารู้อะไรไหมเนื่องจากเจ้าเป็นลูกสาวของข้าเจ้าควรเปลี่ยนนามสกุลเป็นยุ่นนะ”
“เปลี่ยนนามสกุล?” จื่อเซี่ยเอียงศีรษะไปด้านข้างเล็กน้อยอย่างสับสน
“หมายความว่าชื่อของเจ้าจะกลายเป็นยุ่นเซี่ยแทนจื่อเซี่ย”
“แต่ จื่อเซี่ยคือ จื่อเซี่ยนะ ยุ่นเซี่ยมันฟังดูแปลกๆ” เด็กหญิงตัวเล็กพูดพร้อมกับทำหน้ามุ่ย
“มันฟังดูแปลกๆ เพราะเจ้ายังไม่ชิน นอกจากนี้ ยุ่นเซี่ยยังเหมาะกับเจ้ามากกว่า ยุ่นเซี่ยหมายถึงเมฆสีกุหลาบที่สวยงามและเจ้าเป็นลูกสาวที่สวยงามของเมฆก้อนนั้น มันไม่ดีจริงๆหรือ” ยุ่นหลิงอธิบายอย่างตั้งใจ
จื่อเซี่ยพยักหน้าขณะที่เธอฟังคำอธิบายของพ่อเธอ แต่หลังจากนั้นเธอก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว
“จื่อเซี่ยเป็นชื่อที่ท่านแม่ตั้งให้ข้าดังนั้น จื่อเซี่ย ก็คือจื่อเซี่ย”
“แม่ก็เป็นแม่ของเจ้า แต่ข้าไม่ใช่พ่อของเจ้าด้วยเหรอ แม่เจ้าตั้งชื่อให้ว่า เซี่ยดังนั้น พ่อจะให้นามสกุล ยุ่นชื่อของเจ้าคือยุ่นเซี่ย แล้วล่ะ” ยุ่นหลินค่อยๆกล่อมลูกสาวของเขา
จื่อเซี่ยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
เมื่อเห็นเช่นนี้ยุ่นหลิงก็รีบพูดว่า “เจ้าไม่ใช่ลูกสาวของพ่อหรือ”
"ข้าเป็น!" จื่อเซี่ย ขมวดคิ้วมองพ่อของเธอ
ยุ่นหลิงยิ้มออกมาเจ้าเลห์
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าเป็นลูกสาวของข้าชื่อของเจ้าต้องเป็นยุ่นเซี่ยเพราะคนอื่นๆจะไม่เชื่อว่าข้าเป็นพ่อของเจ้าถ้านามสกุลของเจ้าไม่ใช่ยุ่น”
จื่อเซี่ยยังคงลังเลอยู่บ้าง แต่เธอก็ค่อยๆพยักหน้าในท้ายที่สุด
“เอาล่ะตอนนี้ จื่อเซี่ยคือ ยุ่นเซี่ย จื่อ—ยุ่นเซี่ยต้องการให้คนเชื่อว่า ยุ่นเซี่ยเป็นลูกสาวของ พ่อ”
ยุ่นหลิงชื่นชมและยินดีอยู่ภายในอย่างไรก็ตามเขายังคงรูปลักษณ์ที่สวยงามบนใบหน้าของเขา ด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเข้มงวด “ยุ่นเซี่ยเนื่องจากตอนนี้เจ้าเป็นลูกสาวของตระกูลยุ่นเจ้าต้องรู้และฝึกฝนกฎห้าประการของตระกูลยุ่นของเรา ตั้งแต่ข้ายังเด็กพ่อของข้าให้ข้าท่องกฎเหล่านี้นับครั้งไม่ถ้วนและตอนนี้ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ทำให้เจ้าท่อง แต่ข้าก็อยากให้เจ้าจำมันไว้ในใจ เจ้าเข้าใจไหม?”
ยุ่นเซี่ยเริ่มจริงจังในขณะที่เธอพยักหน้าทำให้ยุ่นหลิงพอใจ
“ข้อแรกอย่าต่อสู้กับครอบครัวของตัวเองเพื่อผลประโยชน์หรือด้วยเหตุผลใดๆ การแข่งขันที่เป็นมิตรไม่เป็นไร แต่สิ่งที่เกินกว่านั้นไม่ได้รับอนุญาต”
“ข้อที่สองให้ความสำคัญกับครอบครัวของเจ้าเหนือทุกสิ่ง อย่าทรยศครอบครัวของเจ้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“ข้อที่สามอย่าละทิ้งครอบครัวของเจ้า จะไม่มีใครถูกทิ้ง ครอบครัวต้องมีกันและกัน”
“ข้อที่สี่อย่าทรยศต่อเพื่อนของเจ้า เพื่อนแท้ก็ไม่ต่างจากครอบครัวดังนั้นอย่าทรยศพวกเขา”
“และข้อสุดท้ายนี้จงรักครอบครัวของเจ้า และครอบครัวต้องรักกัน”
“เจ้าจำมันได้ทั้งหมดหรือเปล่า” ยุ่นหลิงมองไปที่ลูกสาวของเขาหลังจากที่เขาพูดจบ
“ยุ่นเซี่ยจำได้ท่านพ่อ”
ยุ่นหลิงยิ้มให้เธอ
“ดีมากอย่าลืมกฎเหล่านี้เสียล่ะ”
“ยุ่นเซี่ยจะไม่ลืม” ยุ่นเซี่ยพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
ยุ่นหลิงลูบหัวเธอ เขาพอใจในตัวลูกสาวของเขามากขึ้นเรื่อยๆ เขาใช้เวลากับเธอเพียงไม่ถึงชั่วโมง แต่เขาก็รู้สึกอบอุ่นใจกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้แล้ว
“เจ้ารู้ไหมว่าสาเหตุที่ตระกูลของเรามีกฎเหล่านี้เป็นเพราะปู่ของข้าหรือปู่ทวดของเจ้า” ยุ่นหลิงเริ่มกล่าว “ปู่ทวดของเจ้ามีพี่น้องห้าคนในตอนนั้นเขาเป็นลูกชายคนที่สาม อย่างไรก็ตามเมื่อโตขึ้นทุกคนก็พัฒนาตัวตนของตัวเอง พวกเขาเริ่มวางแผนด้วยกันโดยไม่สนว่ามันจะทำร้ายครอบครัวของพวกเขาด้วยความโลภ ตระกูลยุ่นเกือบจะถูกเหลือไว้เพียงชื่อเพราะการต่อสู้กันเองในตอนนั้นจาก และเป็นเพราะปู่ทวดของเจ้าที่ทำให้ตระกูลยังคงยืนหยัดมาจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมาปู่ทวดของเจ้าได้สร้างกฎเหล่านี้ให้เรา เขาไม่ต้องการให้สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับคนรุ่นหลังอีกดังนั้นเขาจึงพยายามทำให้เราเห็นคุณค่าของครอบครัว”
“ท่านพ่อ...”
‘ถึงข้าจะพูดแบบนั้น แต่ข้าคิดว่าข้าได้ทำผิดกฎเหล่านี้ไปแล้วแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ความจริงที่ว่าข้าไม่รู้จักเธอมาก่อนนี้ทำให้ข้ารู้สึกว่าข้าได้ทำบาปอย่างมาก ’ยุ่นหลิงคิดขณะที่เขายิ้มแหยๆ ‘อันที่จริงมันเป็นอย่างนั้น ข้าได้ทำผิดกฏอย่างแท้จริง ข้าให้ความสำคัญกับครอบครัวเสมอไม่ว่าพวกเขาจะน่ารำคาญแค่ไหนเพราะนั่นเป็นวิธีที่ข้าได้รับการเลี้ยงดูมา ทำให้ข้าคิดว่ามีลูกสาวที่เติบโตมาโดยไม่มีข้าอยู่ด้วยในช่วงที่ผ่านมา ...
ยุ่นหลิงจับไหล่เด็กหญิงตัวเล็กๆ ขณะที่เขามองเธอตรงๆ ด้วยใบหน้าที่อ่อนโยนยุ่นหลิงกล่าวกับลูกสาวของเขาอย่างอบอุ่นว่า “ยุ่นเซี่ยแม้ว่าเจ้าจะบอกว่าไม่ให้อภัย แต่ข้าก็ยังอยากจะขอโทษเจ้าที่ไม่ได้อยู่ด้วยในช่วงชีวิตของเจ้าที่ผ่านมา นั่นคือเหตุผลที่ข้าขอโทษ อย่างไรก็ตามตอนนี้เจ้าอยู่ที่นี่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าข้ามีเจ้าเป็นลูกสาวของข้า...”
“ท่านพ่อ?”
“ยุ่นเซี่ยตั้งแต่นี้เป็นต้นไปข้าจะปกป้องเจ้าด้วยชีวิตทั้งหมดของข้า ข้าจะไม่ปล่อยให้อันตรายใด ๆมาถึงตัวเจ้า”
“ข้าจะให้ความสำคัญกับเจ้าเหนือทุกสิ่ง แม้แต่สมบัติทั้งหมดในโลกที่ก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับเจ้าได้”
“ข้าจะไม่มีวันทอดทิ้งเจ้า ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอเมื่อเจ้าต้องการ”
“ข้าจะไม่มีวันทรยศเจ้า แม้ว่าเจ้าจะทรยศต่อโลกทั้งใบ แต่เจ้าแค่เจ้าคนเดียวที่ข้าจะไม่มีวันทรยศ และข้าจะต้องตายก่อนที่มันจะเกิดขึ้น”
“สุดท้ายนี้ข้าจะรักเจ้าโดยไม่มีเงื่อนไขตลอดไป พ่อแม่ต้องรักลูกโดยไม่มีเงื่อนไข”
“นี่คือกฎห้าข้อที่ข้าทำเพื่อตัวเองกับลูกสาวความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพ่อที่มีต่อลูกสาว ถ้าข้าทำสิ่งเหล่านี้ไม่สำเร็จข้าจะทำลายการฝึกตนที่ผ่านมาในตลอดชีวิตด้วยมือทั้งสองของข้าเอง” ยุ่นหลิงกล่าวกับตัวเองอย่างหนักแน่น
จากที่ไหนสักแห่งผู้หญิงสามคนที่แอบสอดแนมพวกเธออยู่ต่างก็ตกใจกับคำพูดของยุ่นหลิง จริงๆแล้วพวกเขาไม่ได้ออกไปไหนไกล แต่กลับซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งเพื่อฟังพวกเขา
“คนอย่างเจ้าหลิงเนี่ยนะจะกล้าพูดแบบนี้ ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าพูดแบบนั้น”
หลี่จิ้ง ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของ ยุ่นหลิงแต่เธอรู้สึกดีใจมากที่ลูกชายของเธอเปิดใจกับหลานสาวของเธออย่างช้าๆ
“เจ้าหลิงมันจริงจังน่าดู เขาดูจริงจังกับมัน ข้าบอกได้เลยว่าถ้าเขาผิดสัญญาเขาจะมีจิตใจส่วนหนึ่งที่เป็นปีศาจอย่างแน่นอน และมันจะกระทบต่อการพัฒนาการฝึกตนของเขา” โดยปกติแล้ว เย่อหลินเป็นผู้หญิงขี้เล่นแม้ว่าเธอจะดูมีสีหน้าจริงจังในครั้งนี้ก็ตาม
ในทางกลับกัน หยื่อ ตงเหม่ยกลับนิ่งเงียบ แต่ถ้ามีใครมองใกล้ดูๆ เธอก็มีการแสดงออกที่ประหลาดใจ
“ท่านพ่อ!”
ยุ่นเซี่ย เข้าสวมกอดพ่อของเธอทันที เธอเข้าใจเพียงบางส่วนของสิ่งที่ยุ่นหลิงพูด แต่เธอก็ยังรู้สึกประทับใจกับคำพูดของพ่อ
ยุ่นหลิงยิ้มให้เธอ
“ข้าหมายถึงทุกคำที่ข้าพูด ข้าล้มเหลวในการเป็นพ่อของเจ้ามาห้าปีแล้วไม่มีทางที่ข้าจะล้มเหลวต่อไป” ยุ่นหลิงพูดเบา ๆ “พ่อของเจ้าไม่ใช่คนไร้ความสามารถแบบนั้น”