ตอนที่ 93 : วิชากระบี่เก้าราชันผ่าเมฆา ฟรี วันที่ 2021/02/25
การรับรู้ถึงเจ้าของผ่านหยดเลือด
อาวุธชั้นสูงจะมีวิญญาณภายใน และผู้ถือครองต้องการสร้างสัมพันธ์ต่ออาวุธชั้นสูง จะต้องใช้หยดเลือดเพื่อสร้างเสียงสะท้อนของอาวุธ หลังจากนั้นอาวุธจะกลายเป็นดั่งอวัยวะพิเศษของผู้ถือครอง หลังจากหยดเลือดลงบนกระบี่ มันได้ส่องแสงประกายสีม่วง ก่อนจะมีเสียงพยัคฆ์ และมังกรคำรามลอยมาในอากาศ
“โฮก! โฮก!”
พยัคฆ์ และมังกรเปรียบดั่งราชาแห่งสรรพสัตว์ และขณะที่เสียงคำรามดังขึ้น ใบมีดได้ปล่อยออร่าอันโอ่อ่าที่ทำให้หัวใจต้องสั่นสะเทือน สายฟ้าสีม่วงส่งเสียงดังเปรี๊ยะรอบมังกร และพยัคฆ์ และนอกจากออร่าของราชาที่ดูหนาแน่น พวกมันยังเปล่งความรู้สึกกดขี่ออก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าวิญญาณในอาวุธชิ้นนี้แข็งแกร่งเพียงใด
ขณะที่เซี่ยงเส้าหยุนกำลังตกตะลึงกับสิ่งที่พบเห็น มังกร และพยัคฆ์ได้ตะครุบตัวเขาไว้ ก่อนที่จะได้ทันตั้งตัว มังกร และพยัคฆ์ก็มาถึงตัวเสียแล้ว การปรากฏตัวที่ทำให้ทุกผู้ที่พบเห็นต้องตกตะลึง คนทั่วไปไม่อาจจะต้านทานออร่าอันน่าประทับใจนี้ได้เลย
แม้ว่าเซี่ยงเส้าหยุนจะเกิดมาเพื่อเป็นราชา การเผยตัวของมังกร และพยัคฆ์ยังคงทำให้เขารู้สึกตกตะลึง ด้วยเพราะสัตว์ทั้งสองพร้อมจะฉีกเขาเป็นชิ้นเนื้อทันทีที่ผ่อนการเผยตัวของตนเอง
เมื่อเผชิญหน้าต่อแรงกดดันอันน่ากลัวของกระบี่ การเผยตัวของเซี่ยงเส้าหยุนไม่ได้อ่อนแอลง ดังนั้น มันจึงกระตุ้นความปรารถนาที่จะพิชิตเด็กหนุ่ม ดาวเก้าดวงได้เริ่มปะทุราวกับภูเขาไฟเก้าลูก การเผยตัวเข้าสู่จุดสูงสุด เมื่อมองตรงไปยังมังกร และพยัคฆ์ เด็กหนุ่มตำหนิ “ก่อนที่จะเป็นราชา แม้แต่ทำให้มังกร และพยัคฆ์ต้องคำนับเสียก่อน! ข้าเป็นเจ้านายของเจ้า!”
ขณะที่กล่าวนั้น ออร่าของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่สามารถเทียบเคียงได้กับผู้ฝึกยุทธ์ระดับดวงดาวขั้นแปด พลังงานสีม่วงพุ่งออกจากกระดูกสีม่วง และสายฟ้าสีม่วงปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกาย มันพันไปรอบกายราวกับมังกร
ในชั่วขณะ เซี่ยงเส้าหยุนช่างดูคล้ายกับราชาแห่งจักรวาลผู้ที่ทำให้ทุกคนต้องเชื่อฟัง ซึ่งเปนสัญญาณว่าการเผยตัวของราชากำลังเติมโตขึ้นอีกครั้ง หัวใจที่ไม่ยอมแพ้ และไม่เกรงกลัวสิ่งใดกำลังพองโต
ภายใต้แรงกดดันแห่งราชาของเซี่ยงเส้าหยุน มังกร และพยัคฆ์ถูกยั่วยุ พวกมันคำรามขณะพุ่งเข้าใส่
พรสวรรค์จินตภาพ!
ทันใดนั้น เมื่อเซี่ยงเส้าหยุนเปิดใช้งานพรสวรรค์จินตภาพ และสร้างพื้นที่ที่มีเพียงแค่เขาสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งทำให้มองเห็นมังกร และพยัคฆ์ สัตว์ทั้งสองแท้จริงแล้วก่อขึ้นจากแก่นของปราณเท่านั้น และพวกมันยังอ่อนแอนัก เพียงแค่ถูกแสงสัมผัสก็อาจถูกสังหารได้โดยง่าย
“ยอมแพ้เสีย” เซี่ยงเส้าหยุนจดจ่อกับการเผยตัวบนหน้าผาก และภายในพื้นที่ของพรสวรรค์จินตภาพ การเผยตัวของราชาเป็นราวกับปลาในน้ำ ภายในพื้นที่ว่าง เขาคือผู้ปกครองสูงสุดผู้อยู่เหนือทุกสิ่ง
การเผยตัวของราชาเริ่มผสม และกลืนกินสัตว์ทั้งสอง พวกมันพยายามดิ้นรน และคำราม พวกมันยังไม่มีพลังมากนัก จึงได้หลุดเข้ามายังพื้นที่ของจินตภาพ และเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนีออกจากที่แห่งนี้
ในที่สุดแล้ว มังกร และพยัคฆ์ก็ได้ถูกบังคับให้จำนน และยอมรับสิ่งที่เซี่ยงเส้าหยุนจะกระทำต่อพวกมัน การเผยตัวของสัตว์ทั้งสองกำลังพันกันกับการเผยตัวแห่งราชาของเซี่ยงเส้าหยุนอย่างยุ่งเหยิง พวกมันจดจ่ออย่างไม่หยุดหย่อน ทำให้การเผยตัวของเด็กหนุ่มเติบโตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เซี่ยงเส้าหยุนรู้สึกมีความสุขต่อความรู้สึกนี้ ด้วยมีความรู้สึกสบายแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย การไหลเวียนของพลังแห่งดวงดาวภายในเริ่มรวดเร็วขึ้น และพลังวิญญาณได้พวยพุ่งออกจากร่างไปสู่พื้นที่รอบตัว โดยส่วนใหญ่จะมาบรรจบที่หน้าผากของเด็กหนุ่ม
ระดับยุทธ์ในปัจจุบันของเซี่ยงเส้าหยุนคือระดับดวงดาวขั้นสี่ และเริ่มเติบโตขึ้นไปอีก หลังจากใช้เวลาไประยะหนึ่ง ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ ด้วยการเผยตัวของสัตว์ทั้งสอง ได้หลอมรวมกับการเผยตัวของเขาอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกัน วิชากระบี่ได้ปรากฏขึ้นภายในจิตใจ เป็นภาพร่างในการจับกระบี่ ร่างซึ่งกำลังฟาดฟันกระบี่เล่มนี้ซ้ำไปซ้ำมา และการฟันกระบี่แต่ละครั้งมีพลังมากพอจะทำลายโลก ช่างเป็นวิชากระบี่ที่น่าหวาดหวั่นนัก
วิชากระบี่เก้าราชันผ่าเมฆา
การฟันเพียงหนึ่งครั้งราบกับอัสนีบาตรจากท้องฟ้าแจ่มใส
การฟันหนึ่งครั้งทำให้ฤดูกาลเปลี่ยนผัน
การฟันหนึ่งครั้งจะสร้างแม่น้ำแห่งซากศพ
การฟันหนึ่งครั้งเพื่อทำลายซากศพทั้งหมด
การฟันหนึ่งครั้งจะทำลายภูเขา และแม่น้ำ
การฟันหนึ่งครั้งจะทำลายสวรรค์ และพื้นดิน
การฟันหนึ่งครั้งจะลบล้างดวงดาวทั้งหมด
การฟันหนึ่งครั้งจะเลื่อนดวงตะวัน และดวงจันทรา
การฟันหนึ่งครั้งจะย้อนคืนจักรวาล
วิชาเก้าราชันผ่าเมฆา และดูเหมือนจะมีต้นกำเนิดเดียวกันกับตำราราชันพิชิตสวรรค์ แท้จริงแล้ว เขาสังเกตถึงความคล้ายคลึงในออร่าของวิชาทั้งสอง
หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง เซี่ยงเส้าหยุนได้ฟื้นคืนจากภวังค์
“หรือกระบี่ราชันผ่าเมฆาจะมีจุดกำเนิดเดียวกันกับตำราฝึกราชันของเรากัน? และยังมีวิชากระบี่เก้าราชันผ่าเมฆาอีก ทุกสิ่งมันดูบังเอิญเกินไป” เซี่ยงเส้าหยุนร้องออกด้วยความตกตะลึง
ในครั้งแรกที่ได้เห็นกระบี่ราชันผ่าเมฆา เขาไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวข้องกับวิชาฝึกฝนราชัน ด้วยคิดว่าชื่อที่ดูคล้ายกันเป็นเพียงความบังเอิญ แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่ากระบี่ราชันผ่าเมฆาจะมีจุดกำเนิดเดียวกันกับตำราฝึกฝนราชัน
บางทีกระบี่เล่มนี้จะเป็นสิ่งที่ราชันทิ้งไว้เบื้องหลัง และมีบางเหตุผลให้ตกอยู่ในมือของผู้ฝึกยุทธ์ไร้นาม และตอนนี้ก็ได้มาอยู่ในมือของเซี่ยงเส้าหยุน มันเป็นสัญญาณของโชคชะตาที่จะมีราชาคนใหม่เกิดขึ้น
โชคไม่ดีนัก ที่วิชากระบี่เก้าราชาผ่าเมฆายังไม่สมบูรณ์ มีเพียงสี่กระบวนท่าแรกเท่านั้นที่สมบูรณ์ และมีเพียงห้ากระบวนท่าหลังเท่านั้นที่มีนามอยู่
แต่ท่วงท่าทั้งสี่ล้วนมีพลังที่น่ากลัว ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เขาจะสามารถปลดปล่อยพลังสูงสุดของสี่กระบวนท่าได้ ด้วยสามารถเริ่มฝึกฝนวิชานี้ได้ต้องบรรลุระดับราชา และสามารถควบคุมพลังดวงดาวได้อย่างอิสระเท่านั้น
สิ่งนี้ทำให้เขาต้องกลับไปอยู่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง มีวิชายุทธ์มากมายที่มีพลังอันยอดเยี่ยม แต่เขากลับไม่สามารถนำมันมาใช้ได้
“ดูเหมือนเราจำเป็นต้องหาโอกาส และทบทวนสถานที่ที่พบตำราราชันพิชิตสวรรค์ บางทีเราอาจได้รับมรดกอื่นอีกเมื่อเข้าไปในส่วนลึกของสถานที่นั่น” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวคำเบากับตนเอง
เมื่อถือตำราราชันพิชิตสวรรค์ไว้ในมือ เขารู้สึกราวกับเลือดเนื้อได้เชื่อมต่อกับตำรานั่น ขณะเดียวกัน การเผยตัวพุ่งออก การเผยตัวแห่งราชาไร้ซึ่งรูปร่างก่อนหน้า ตอนนี้กลับมีรูปร่างของมังกร และพยัคฆ์โฉบอยู่ด้ายหลัง ทำให้ดูสง่างามหาที่เปรียบมิได้
ออร่าที่หนาแน่นได้พุ่งออก ซึ่งเรียกร้องถึงความเชื่อฟังของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด การเผยตัวแห่งราชาของเซี่ยงเส้าหยุนได้เติมโตขึ้นอย่างมาก ความจริงแล้ว การเผยตัวของเขาแข็งแกร่งขึ้นถึงสิบเท่า และแม้จะต้องเผชิญหน้ากับผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพในตอนนี้ เขาก็สามารถเมินเฉยได้โดยสิ้นเชิง แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับราชาก็มิอาจหวังให้เด็กหนุ่มคำนับได้อีกต่อไป
นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากการเผยตัวได้รับรูปแบบ อาจไม่มีผู้ฝึกยุทธ์ระดับดวงดาวขั้นสี่ทั่วทั้งเก้าหัวเมืองจะมาพร้อมการเผยตัวอันน่าหวาดหวั่นเฉกเช่นเซี่ยงเส้าหยุน
การเผยตัวอันแข็งแกร่ง จะทำให้เจ้าของแข็งแกร่งขึ้น
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการเติบโตของเซี่ยงเส้าหยุน เขายุติความสันโดษ และเมื่อก้าวออกจากห้อง ก็ได้พบกับจื่อฉางเหอ และหวังเกาฉวนรออยู่
จื่อฉางเหอมาที่นี่เพื่อมาบอกถึงผู้ฝึกยุทธ์คนใหม่ที่ยอดเยี่ยม