ตอนที่ 29 : พวกมันทำร้ายเรา!
เมื่อเห็นเด็กที่ผิวเหลืองผมแห้งท่าทางดูขาดสารอาหารกลุ่มนั้นแล้ว เบทต้าก็เข้าใจในสิ่งที่โรแลนด์พยายามจะสื่อทันที
เขาย่างขาแมงมุมทั้งหมดที่เขาเหลืออยู่
ในขณะที่โรแลนด์ไปซื้อเกลือยังโรงเตี๊ยมเลววิว เมื่อเขากลับมาขาแงมุมทั้งหมดก็สุกแล้ว
แมงมุมยักษ์นั้นมีขาที่ยาว โรแลนด์นำดาบที่เขาซื้อมาจากช่างตีเหล็กซึ่งยังไม่เคยใช้ออกมาตัวพวกมันเป็นสี่ส่วน จากนั้นเขาก็เกลือและเรียกเหล่าเด็กๆมา
ถ้าให้เบทต้าเป็นคนเรียกเด็กๆคงไม่กล้าเข้าใกล้
แต่โรแลนด์นั้นต่างออกไป เขาอาศัยอยู่เมืองเรดเมาน์เทนนานกว่าเดือนแล้วและเคยเล่าเรื่องต่างๆให้เด็กๆฟังตอนที่ว่าง แน่นอนว่าเป็นตอนที่เขายังมีความสามารถทางภาษาอยู่
ดังนั้นเด็กๆที่คุ้นเคยกับโรแลนด์ จึงเดินไปหาเขาเมื่อเขาโบกมือเรียก
“เข้าแถวกัน มีพอสำหรับทุกคน” โรแลนด์ยื่นส่วนของขาแมงมุมให้เด็กที่อยู่ตรงหน้า
เด็กคนนั้นมองไปยังขาแมงมุมที่น่าอร่อยบนมือของเขาอย่าไม่เชื่อสายตา
เขาไม่ได้กลัวขาแมงมุม เมื่อยาวที่เขาหิวจัด เขาเคยแทะเปลือกไม้เสียด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ปลาที่เขาเคยได้กินล้วนแต่เป็นปลาตัวเล็กๆ เนื่องจากปลาตัวใหญ่ต้องนำไปขายเป็นเงินเพื่อซื้อเสื้อผ้าและน้ำมัน
ผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองเรดเมาน์เทนมักจะใช้ชีวิตอยู่กับทะเลสาบ ทว่ามีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้ลิ้มรสของเนื้อปลา
นายกนั้นเป็นเจ้าของทั้งเมืองเรดเมาน์เทนและทะเลสาบ ดังนั้น 6% ของปลาที่ชาวบ้านจับได้หรือเงินที่ได้จากการขายปลาจะถูกมอบให้นายก
เมื่อนายกพบว่าชาวบ้านโกหกเกี่ยวกับจำนวนปลาหรือเงินที่ได้ พวกเขาเหล่านั้นก็จะถูกขับออกจากเมืองเรดเมาน์เทน
นายกคนนี้ถือว่าเป็นคนมีเมตตามากคนหนึ่ง หากเป็นนายกคนอื่นๆละก็พวกเขาจะสั่งแขวนคอคนโกหก
เหล่าเด็กน้อยมองไปที่ขาแมงมุมด้วยความประหลาดใจ แทนที่จะกินมัน พวกเด็กๆกลับมุ่งตรงไปยังบ้านโดยตั้งใจว่าจะแบ่งมันให้กับคนในครอบครัว
เด็กทุกคนที่ได้รับขาแมงมุมทำเหมือนกันหมด ยกเว้นบางคนที่หิวจัด พวกเขาแอบกินไปคำเล็กๆระหว่างทางกลับบ้าน
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง เด็กทั้งหมดต่างแยกย้ายกันด้วยความสุขหลังจากได้ขาแมงมุม
โรแลนด์และเบทต้านั่งอยู่ข้างๆกันบนสะพาน พวกเขากินขาแมงมุมที่เหลืออยู่และมองไปยังทิวทัศน์ที่งดงามของทะเลสาบ
เมื่อจัดการขาแมงมุมจนเสร็จ เบทต้าก็ถามขึ้นมาว่า “พวกเราจะทำอะไรต่อดีครับ?”
โรแลนด์มองไปยังป่าเมเปิลที่อยู่ห่างออกไปก่อนถามออกมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “นายยังต้องถามอีกเหรอ?”
ในวันต่อๆมามันไม่ใช่ช่วงเวลาที่โชคดีนักของแมงมุมยักษ์ เพราะเจ้านักล่าที่โหดร้ายทั้งสองนั่นบุกเข้ารังของมันทุกวัน เด็กภายในเมืองต่างก็จะได้รับขาแมงมุมย่างในตอนเย็น
เด็กๆนั้นเป็นกลุ่มคนที่มีปัญหาน้อยที่สุด เมื่อโรแลนด์และเบทต้าดีกับพวกเขา พวกเขาก็จะเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น
โรแลนด์ยังคงฝึกความสามารถทางภาษาอยู่และไม่ใช้เวลากับเด็กๆนานนัก แต่ในอีกฝั่งหนึ่งเบทต้านั้นกำลังสอนเด็กๆเกี่ยวกับพื้นฐานเพลงดาบของเขา
ดังนั้นในทุกๆเย็นจะมีกลุ่มเด็กโบกแท่งไม้ไปมาอยู่ริมทะเลสาบ
เหล่าชาวบ้านเริ่มมองเบทต้าเป็นมิตรมากขึ้น
และก็มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในเจ็ดวันให้หลัง
ในวันนั้นช่วงเย็น เมื่อโรแลนด์และเบทต้ากำลังวุ่นกับการย่างขาแมงมุมอยู่ ก็มีนักเลงเข้ามาเรื่องพวกเขา พวกนั้นไล่เด็กให้ไปไกลๆและพูดกับโรแลนด์ด้วยความโกรธว่า “มันไม่แฟร์ไม่ใช่เหรอที่พวกเจ้าไม่ยอมเก็บเนื้อไว้ให้พวกข้าเลย?”
คนบางคนก็ช่างไร้เหตุผล พวกเขาคิดว่าพวกเขาควรได้รับทุกสิ่งทุกอย่างแบบที่คนอื่นได้ หากพวกเขาไม่ได้ละก็พวกเขาก็จะออกมาโวยวาย
โรแลนด์มองไปยังหกคนนั้น และพบว่าสามคนในนั้นเคยมีเรื่องกับเขามาก่อน
เมื่อเดือนก่อนที่พวกเขาสู้กันที่โรงเตี๊ยมเลควิว
ดังนั้นไม่ว่าใครก็ต่างบอกได้ว่าหกคนนี้ไม่ใช่คนดีนัก โรแลนด์โบกมือไล่และพูดว่า “ออกไป! พวกนายไม่มียางอายเหรอที่ยังขอคนอื่นเขาทั้งๆที่ตัวเองเป็นผู้ใหญ่น่ะ?”
ชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้านั้นก็โกรธขึ้นมา พร้อมตวาดออกมา “ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าเป็นพ่อพระรึไง? พวกข้าก็เป็นชาวบ้านยากจนเหมือนกัน ทำไมเจ้าถึงไม่ช่วยพวกข้าล่ะ? พวกเด็กเหลือขอพวกนั้นไม่ต้องการอาหารของเจ้าหรอก ยังไงที่บ้านก็ไม่ปล่อยให้พวกนั้นอดตายหรอก”
โรแลนด์ถอนหายใจออกมาพร้อมมองไปยังพวกเขา “ทำแบบนี้สนุกนักรึไง?”
โรแลนด์นั้นเป็นผู้ใหญ่ ทว่าในเกมเขามีอายุแค่ 17 ปีและไม่เป็นพิษเป็นภัยกับคนแปลกหน้าทั้งหลาย
นอกจากนี้ที่สำคัญที่สุด ท่าทางของโรแลนด์นั้นดูเป็น “คนดี” และคนดีมักจะถูกเอาเปรียบ
เจ้าพวกนั้นหัวเราะออกมาอย่างหนัก ก่อนหัวหน้าของพวกมันจะเห่าออกมาว่า “ไม่ใช่หรอก พวกข้ารู้ดีว่าพวกข้าเอาชนะแกไม่ได้ แต่ว่าก็ไม่เป็นไรข้าจำหน้าเด็กพวกนั้นได้ แกคงไม่สามารถอยู่ในเมืองได้ตลอดเวลาหรอก เมื่อแกจากไป พวกข้าจะไปทุบตีเจ้าเด็กพวกนั้นและพวกครอบครัวของมัน แกคิดว่ายังไงล่ะ?”
พวกเด็กๆต่างวิ่งหนีไปทันทีเมื่อได้ยินคำขู่ พวกเขามองไปยังชายหนุ่มด้วยสายตาโมโห
โรแลนด์มองไปทางเขาพร้อมยิ้มออกมา
เบทต้าที่กำลังย่างขาแมงมุมอยู่ก็ปรากฏตัวขึ้น และยืนขึ้นอย่างกระตือรือร้น
พวกนักเลงนั้นดูเหมือนจะจัดโรแลนด์และเบทต้าไว้ในประเภทคนนอกที่ใจดีและไม่สร้างปัญหา
พวกเขาไม่รู้เลยว่าทั้งสองนั้นเป็นผู้เล่น
โรแลนด์มองไปที่เบทต้าด้วยรอยยิ้ม “นายได้รับเควสแล้วใช่ไหม?”
เบทต้าเริ่มวอร์มนิ้วมือพร้อมยิ้มขู่ออกมา “ครับ!”
“จัดการตัวสร้างปัญหาทั้งหก (ธรรมดา)”
มันเป็นแค่เควสสีขาว...ทว่าสำหรับโรแลนด์และเบทต้าแล้วมันเป็นเควสหายากสีทอง เพราะมันนั้นช่วยสนองความต้องการของพวกเขา
ชายหนุ่มนั้นรู้สึกไม่ค่อยดีนักเมื่อเห็นสีหน้าของพวกเขา เขาคิดจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ว่าทั้งโรแลนด์และเบทต้านั้นต่างไม่ใช่พวกชอบคุยนัก
โดยไม่เสียเวลาใดๆ พวกเขาตรงไปยังกลุ่มนักเลงพวกนั้น
พวกนักเลงอาจจะดูน่ากลัวสำหรับชาวบ้าน ทว่าพวกเขานั้นไม่สามารถโต้กลับสองผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ได้
โรแลนด์และเบทต้านั้นไม่ได้ใช้อาวุธและสกิลใดๆ พวกเขาจัดการนักเลงหกคนภายใน 20 วิ ด้วยมือเปล่า
จากนั้นพวกเขาก็เตะไปที่นักเลงอย่างหนักหน่วง
“พวกคนข้างนอกทำร้ายพวกข้า!”
“ช่วยข้าด้วย!”
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นจากทางทะเลสาบ ชาวบ้านหลายคนต่างก็ได้ยิน ทว่าพวกเขาก็เลือกที่จะไม่สนใจและทำธุระของตัวเองต่อไป
โรแลนด์และเบทต้านั้นก็ไม่ได้มีความคิดที่จะหยุดมือ
ระบบยังไม่ได้บอกว่าพวกเขาทำเควสสำเร็จ
ดังนั้นพวกเขาจึงทุบตีต่อไป
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------