ตอนที่แล้วตอนที่ 23 : ภารกิจง่ายๆ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 25 : แทบอยากจะจากไปทันที

ตอนที่ 24 : ชื่อตอนอยู่ท้ายเรื่อง


เวลากลางคืนภายในป่านั้นเงียบสงบ

สภาพแวดล้อมโดยรอบดูน่าหวาดหวั่น เต็มไปด้วยเศษกระดูก และโทเท็มไปทุกที่ กลิ่นของร่างที่เน่านั้นน่าขยะแขยงเป็นอย่างมาก

ทว่า โรแลนด์ก็ไม่ได้กลัวขนาดนั้น

เขาเจอกับพลั่วหลายอันภายในรังของโทรลล์ อุปกรณ์พวกนี้น่าจะเป็นของชาวนาที่ถูกจับและถูกกินโดยพวกโทรลล์

โรแลนด์ขุดหลุมลึกด้วยพลั่วในมือและเคลื่อนย้ายกระดูกเหล่านั้นด้วยแขนเวทย์อย่างระมัดระวังก่อนจะฝังกระดูกทั้งหมดไว้ด้วยกัน

เขาขุดหลุมเล็กๆและปักไม้กางเขนจากแท่งไม้เล็กที่เคยใช้ทำโทเทมมาก่อน

“ฉันไม่รู้จักชื่อพวกนาย ทว่าในเมื่อพวกนายทั้งหมดล้วนเป็นเหยื่อ ดังนั้นมันก็น่าจะไม่มีปัญหาที่พวกนายจะอยู่ด้วยกัน”

โรแลนถอนหายใจออกอย่างหนักหน่วง

หลังจากใช้เวลาร่วมเดือนอยู่ที่นี่ เขาไม่สามารถทำเหมือน NPC ภายในเกมเป็นเพียงกลุ่มข้อมูลได้ เขาคิดว่า NPC นั้นแทบไม่ต่างจากคนจริงๆ

นี่เขายังอยู่ในเกมจริงๆรึเปล่า

มันเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างขัดแย้งกัน

ในตอนนี้ก็ดึกเป็นอย่างมากแล้ว การฝังศพทำให้เขาเสียเวลาไปพอสมควร เขาเริ่มต้นเดินทางกลับไปยังเมืองเรดเมาน์เทน

เมื่อคิดถึงระยะทาง เขาก็อดพึมพำออกมาไม่ได้ว่า “ฉันหวังว่าฉันน่าจะเทเลพอร์ตได้...ฉันต้องหาเวทย์เกี่ยวกับมิติและเวลาให้ได้ มันจะมีประโยชน์ทั้งในการต่อสู้และการเดินทาง”

เพราะการเดินทางที่ยาวนาน ทำให้โรแลนด์ตัดสินใจเลือกสกิลที่เขาควรจะเชี่ยวชาญออกมา

ทางฝั่งของเบทต้าเขานั้นมาถึงเมืองเรดเมาน์เทนในตอนเช้า

ตลาดนั้นจบลงเรียบร้อยแล้ว เขาพบคู่ชายและหญิงชราอยู่ข้างๆทะเลสาบ

ด้วยแสงสีแดงยามเช้ากระทบเข้ากับทะเลสาบ คู่ชายและหญิงชราต่างจ้องมองไปยังเส้นขอบฟ้าจากข้างบ้านไม้ของพวกเขา

เบทต้าเดินเข้าไปใกล้พวกเขาและพูดออกมาอย่างสบายๆว่า “ผมพบสิ่งที่คุณต้องการแล้ว หลานชายของพวกคุณนั้นตายแล้ว”

“หลานชายของพวกข้ายังไม่ตาย!” หญิงชรากระทืบเท้าออกมาพร้อมตะโกนว่า “เจ้าหนุ่มเจ้าหมายความว่าอะไรกันแน่! แกพูดว่าหลานของพวกข้าตายไปแล้วงั้นหรอ? ข้าจะทุบเจ้า...”

นี่คงเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ระบบตั้งไว้...เบทต้าคิดออกมาและนำหัวกะโหลกออกมาให้หญิงชรา

หญิงชราตัวแข็งไปทันที ทว่าสายตาที่มึนงงของเธอกลับเปร่งประกายออกมา

เธอรับหัวกะโหลกนั่นมาก่อนกอดมันอย่างแน่นด้วยความอ่อนโยน

“ดีแล้วที่เจ้ากลับมา” แสงสีรุ้งเปล่งประกรายออกมาจากตาของหญิงชรา เธอนำหัวกะโหลกมายื่นตรงหน้าของสามีของเธอและพูดว่า “ดูนี่สิ หลานชายของพวกเรากลับมาแล้ว!”

ชายชราเองก็ยิ้มอย่างมีความสุขด้วยเช่นเดียวกัน

เขาลูบเส้นผมที่แห้งเหี่ยวของหลานชายพร้อมพูดว่า “ข้าไม่ทำโทษเจ้าหรอกที่เจ้าหนีไป ไปกินข้าวเช้ากันเถอะ...”

พวกเขาทั้งสองเดินเข้าไปในบ้านพร้อมหัวกะโหลก

เบทต้ารู้สึกประหลาดที่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้

ทว่าเขาก็ไม่สามารถบอกได้แน่ชัดว่า มันแปลกตรงไหน

NPC ภายในเกมนี้ล้วนเหมือนจริง ทว่าการแสดงออกของพวกเขาก็แปลกเกินไป ไม่ใช่ว่าปกติพวกเขาควรร้องไห้เมื่อเห็นหัวกะโหลกของหลานชายหรอ?

อาจจะมีบางอย่างผิดพลาดที่ข้อมูลในการแสดงอารมณ์...มันไม่สมเหตุสมผลเกินไป

ด้วยความคิดเหล่านั้นทำให้เขาถอยออกไปและเดินดูรอบๆบ้าน

เขาควรจะไปหาภารกิจอื่นได้แล้ว ทว่าเสียงในใจของเขากลับบอกให้เขาหยุดและมองดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับชายและหญิงชรา

เสียงหัวเราะอย่างยินดีดังออกมาจากภายในบ้าน แตกต่างจากบรรยากาศที่เศร้าหมองก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง

คงจะต้องมีอะไรผิดปกติในข้อมูลแน่ๆ

เบทต้าพึมพำออกมาอีกครั้งและพยายามจะจากไป ทว่าขาของเขากลับไม่เคลื่อนไหว ราวกับถูกตอกไว้กับพื้น

เขายังคงรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆแต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ชายและหญิงชราก็เดินออกมาจากบ้าน

พวกเขาทั้งคู่นั้นดูมีความสุข ชายชราไปขายอาหารที่ตลาด และหญิงชราก็ไปเก็บฟืนจำนวนมาก

พวกเขาต่างใช้ชีวิตราวปกติ หลังจากนั้นก็มีควันลอยมาจากทางห้องครัวเมื่อถึงตอนเย็น มันราวกับพฤติกรรมทั่วไปของ NPC คนอื่นๆในเกมนี้ ชีวิตของพวกเขาต่างเหมือนกันทั้งหมดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เบทต้าพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติหลังจากสังเกตมาทั้งวัน ทว่าเขากลับยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่นานนักโรแลนด์ก็กลับมาถึง

ด้วยความที่เป็นนักเวทย์เขาไม่แข็งแรงเท่าเบทต้าคนที่มีอาชีพลับ เขาต้องพักถึงสองครั้งก่อนจะกลับมาถึงก่อนพระอาทิตย์ตกดิน

โรแลนด์ยิ้มออกมาเมื่อเห็นเบทต้า “นายมันไม่ส่งเควสอีกหรอ? ฉันคิดมาระหว่างทางว่าการบอกพวกเขาว่าหลานชายของพวกเขานั้นตายไปแล้วดูจะรุนแรงเกินไป ทางที่ดีพวกเราควรเก็บเป็นความลับจากพวกเขา...”

โรแลนด์ตกตะลึกไปทันที ที่เขาสังเกตเห็นไฟกำลังลุกไหม้บ้านที่อยู่ข้างทะเลสาบ...พระอาทิตย์ยักไม่ตกเต็มที่ จากมุมมองของเขา เขาเห็นเปลวเพลิงอยู่ทางด้านขวาไม่ไกลจากพระอาทิตย์

“นั่นบ้านของเจมส์นี่!”

โรแลนด์ตะโกนออกมาพร้อมวิ่งไปด้านหน้า ด้วยความที่เขาฝึกเวทย์อยู่ใกล้ๆทะเลสาบ ทำให้เขารู้จักและพยักหน้าทักทายคู่สามีภรรยาอยู่ตลอดเมื่อได้เจอกัน”

เบทต้าหน้าซีดไปทันทีที่เห็นบ้านไฟไหม้

โรแลนด์ตรงไปยังบ้านหลังนั้น ก่อนจะยิงวงแหวนน้ำแข็งไปยังเปลวไฟที่อยู่ในบ้าน ทว่าเขาก็ยอมแพ้ไปด้วยความผิดหวังหลังจากลองสังเกตุดีๆ

เปลวเพลิงนั้นใหญ่เกินไปมันเผาแม้กระทั่งบ้านไม้ ใครก็ตามที่อยู่ภายในบ้านคงตายไปหมดแล้ว

เบทต้าก็มาถึงแล้วเช่นกัน ใบหน้าของเขาซีดลงเรื่อยๆ ร่างกายของเขาสั่นไปทั้งตัว

ท้ายที่สุด เขาก็กัดฟัดพูดออกมาว่า “พี่โรแลนด์...หัวกะโหลกที่พวกเราพบเกี่ยวข้องกับหลายชายของคู่สามีภรรยาคู่นี้”

อะไรนะ!

ใจของโรแลนด์เย็นยะเยือกไปในทันที

เขาราวกับถูกแช่แข็ง จนไม่สามารถขยับได้

เปลวเพลิงดึงดูดชาวบ้านมามากมาย พวกเขาต่างมุ่งมั่นที่จะดับไฟ ทว่าพวกเขาก็ต้องส่ายหน้าออกมาและยอมแพ้เมื่อพวกเขาเห็นบ้านที่เต็มไปด้วยสีแดงจากเปลวเพลิง

บางคนพึมพำออกมาว่า “ทำไมบ้านของเจมส์ถึงไฟไหม้ล่ะ? ใครมาถึงคนแรก?”

“คุณโรแลนด์และขุนนางคนหนึ่งน่ะ”

“เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่”

“ใครพอจะรู้บ้าง?”

ในที่สุดฟอลเคิลก็มาถึงเขาหันไปถามโรแลนด์ว่า “เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่โรแลนด์?”

เบทต้าที่กำลังสั่นและหน้าซีดอย่างน่ากลัว เขาหันหน้าหนี และไม่กล้ามองไปยังกลุ่มชาวบ้าน

“ผมพบกะโหลกของแซมและนำมันมาให้กับคู่สามีภรรยาเจมส์” โรแลนด์ตอบอย่างใจเย็นพร้อมถอนหายใจออกมา

ชาวบ้านคนอื่นๆต่างจ้องมองมาที่โรแลนด์และเบทต้าอย่างเงียบๆ และสลายตัวไปในที่สุด

เปลวเพลิงยังคงไม่มอบดับลงจนกระทั่งรุ่งเช้ามาถึง

ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลยนอกจากเถ้าถ่านและเปลวควัน

“ภารกิจเสร็จสิ้น EXP +37 , ชื่อเสียงในเมืองเรดเมาน์เทน -10”

การแจ้งเตือนปรากฎขึ้นมาอยู่หน้าสายตาของโรแลนด์

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ชื่อตอน : ตอนจบอันน่าเศร้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด