บทที่ 282
เสียงสะบัดมือดังแว่ว แส้แข็งสีดำและขาวปรากฏขึ้นที่มือทั้งสองข้างไม่ถึงหนึ่งลมหายใจก็มีประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากอาวุธในมือทั้งสอง เสียงลมดังหวีดหวิวมากับหมัดขวาขนาดใหญ่ที่ต่อยเข้ามา เนี่ยฟงตวัดแส้แข็งทั้งสองต้านรับ เปรี้ยง ถึงกับกระเด็นออกไปด้านหลังจากการปะทะถึงแปดก้าว แขนทั้งสองปวดชาจากการปะทะเพียงครั้งเดียว เกราะสีฟ้าค่อยๆปรากฏขึ้นมาทันใดนั้นเนี่ยฟงก็พุ่งเข้าปะทะฟาดหวดแส้แข็งในมือไปตามร่างกายของสัตว์ประหลาดด้านหน้า เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ทันใดนั้นเขาก็ต้องถีบเท้าพุ่งถอยออกมาอีกครั้ง เปรี้ยง มีสัตว์ประหลาดอีกตัวต่อยลงไปยังพื้นที่เนี่ยฟงยืนอยู่ ตอนนี้มีดวงตาสีแดงก่ำจ้องมองเนี่ยฟงถึงสามคู่ พวกมันค่อยๆก้าวเดินมาล้อมเนี่ยฟงอย่างช้าๆ
การปะทะระหว่างสามรุมหนึ่งเกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ต้นไม้และพื้นดินโดยรอบถูกทำลายจากแรงปะทะ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เนี่ยฟงยังคงกวัดแกว่งแส้แข็งในมือทั้งสองเข้าปะทะกับสัตว์ประหลาดสามตัวใช้ความเร็วเข้าปะทะและหลบหนี ทันใดนั้นเนี่ยฟงพุ่งเข้าประชิดสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งฟาดหวดแส้แข็งสีขาวในมือขวาเข้าไปที่หัวเข่าซ้ายเสียงดังสนั่น เปรี้ยง เสียงกระดูกแตกดังลั่นออกมาพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แต่เนี่ยฟงก็ต้องแลกมาด้วยการถูกเตะกระเด็นออกมา เขาแสยะยิ้มพุ่งเข้าหาสัตว์ประหลาดอีกตัวใช้ความเร็วโยกตัวหลบมุดเข้าประชิดฟาดหวดแส้แข็งในมือไปที่หัวเข่าทั้งสอง เปรี้ยง เปรี้ยง ไม่ถึงยี่สิบลมหายใจเขาก็สังหารสัตว์ประหลาดทั้งสาม หลังจากนั้นก็รีบพุ่งทะยานเข้าไปในเมืองทิ้งซากศพไว้ข้างหลัง
รุ่งเช้ามีข่าวการตายของสัตว์ประหลาดสามตัวที่หน้าเมืองข่าวแพร่กระจายประดุจไฟลามทุ่งผู้คนในเมืองต่างกล่าวถึงเรื่องนี้อย่างหนาหู แต่ทว่าก็ยังไม่มีคนของเฟินจวี๋ฟู่ออกมาจัดการแต่อย่างใด หลังจากทานอาหารเช้าจนอิ่มเนี่ยฟงก็ออกไปสำรวจในเมืองอีกครั้งแต่ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ เขาจึงแอบไปตรวจสอบที่ค่ายบนเขา เมื่อมาถึงก็พบว่าที่ค่ายมีการตรวจตราที่แน่นหนากว่าเดิมมากนักมีเวรยามเดินรอบค่ายหลายกลุ่มด้วยกัน หลังจากนั้นเขาก็อ้อมไปด้านหลังที่คอก ก็พบว่ามีคนหลายคนกำลังซ่อมแซมคอกไม้ที่ถูกทำลายลงสามคอก เขาแอบสร้างวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าไว้ด้านข้างของกำแพงที่ล้อมคอกไว้สามวงหลังจากนั้นก็แอบซุ่มอยู่บริเวณนั้น ทันทีที่อรุณลาลับขอบฟ้าเนี่ยฟงก็แอบกลับเข้าเมืองอีกครั้ง
ตลอดระยะเวลาสี่วันเนี่ยฟงแอบไปสร้างวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าไว้รอบกำแพงอีกทั้งยังแอบเข้าไปสร้างไว้ในค่ายอีกหลายสิบจุดโดยการปลอดตัวเขาไป รุ่งเช้าวันที่ห้าหน่วยพยัคฆ์ทั้งหมดโดยการนำของล่งซือก็นำกำลังแอบอยู่ด้านนอกเมืองแปดลี้ เนี่ยฟงกำลังกายแผนที่และบอกแผนการที่จะลงมือคืนนี้
“ให้คนของเราล้อมค่ายเอาไว้ ทันทีที่เห็นเพลิงไหม้ในค่ายและกำแพงถูกทำลายเมื่อถึงเวลานั้นพวกเจ้าก็ลงมือได้เลย สังหารทั้งหมดอย่างให้ใครเหลือรอด”
“แล้วสัตว์ประหลาดพวกนั้น”
ล่งซือเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ระหว่างทางกลับเข้าเมืองเมื่อครั้งพบเจอพวกเจ้า ข้าได้ปะทะกับพวกมันสามตัว ถึงร่างกายของมันจะสูงใหญ่มีพละกำลังมหาศาลแต่พวกมันมีจุดอ่อน จุดอ่อนของมันก็คือหัวเข่าทั้งสอง หากพวกเจ้าจัดการที่นั่นก็จะสามารถสังหารมันได้ ส่วนกำแพงค่ายข้าจะจัดการเอง ยามจื่อข้าจะมาพบพวกเจ้าที่นี่”
“ได้เช่นนั้นข้าจะแจ้งแก่ทุกคนเอาไว้”
หลังจากบอกแผนทั้งหมดให้แก่ล่งซือเนี่ยฟงก็มุ่งหน้ากลับเมืองอีกครั้ง ในระหว่างทางก็พบกับกองกำลังทหารนับพันนายมุ่งหน้ามาทางเมือง เนี่ยฟงแอบเดินตามมาอย่างช้าๆก็พบเห็นทหารทั้งหมดตั้งค่ายอยู่ด้านหน้าของเมือง ทันทีที่เข้าเมืองมาเขาก็มุ่งหน้ากลับโรงเตี๊ยมเนี่ยฟงสอบถามเสี่ยวเอ้อถึงกำลังทหารด้านหน้าก็รับรู้ว่าเป็นกองกำลังชุดแรกของอ๋องมู่ ที่จะจัดเตรียมกองกำลังป้องกันทัพของเหมาหนาน แน่นอนว่าเนี่ยฟงตื่นตกใจเล็กน้อยจากข่าวที่ว่าทัพเหมาหนานจะบุกมาที่นี่ หากเป็นเช่นนั้นแสดงว่ามีคนแอบส่งข่าวให้แก่อ๋องมู่แน่นอนแล้วหน่วยพยัคฆ์ออกมาไม่แน่ว่าอ๋องมู่ก็ทราบเช่นกัน ไม่รีรอเนี่ยฟงออกจากโรงเตี๊ยมคิดออกไปแจ้งข่าวแต่ก็ต้องชะลอฝีเท้าลงเพราะรับรู้ว่ามีคนแอบติดตามมาด้านหลัง
เขาแสร้งเดินวนเวียนอยู่ภายในเมืองหลังจากนั้นก็แอบออกไปยังนอกเมืองอีกครั้ง เมื่อออกมาได้ประมาณสามลี้พวกที่แอบติดตามเนี่ยฟงก็เผยตัวออกมา เป็นชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางทางเอาไว้ ทั้งสามสวมชุดสีดำมีผ้าดำปกปิดใบหน้าทั้งสามสะบัดมือขวากำชับดาบในมือแน่น
“ไอ้หนูมียอดฝีมือมุ่งหน้ามาทางนี้รีบจัดการเถอะ”
สิ้นเสียงกล่าวของลุ่ยกงเนี่ยฟงก็สะบัดมือขวากำชับดาบที่ได้มาจากสัตว์อสูรลิง ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากดาบ ชายฉกรรจ์ทั้งสามตื่นตกใจเล็กน้อยไม่ถึงสองลมหายใจทั้งสามก็พุ่งเข้าหาเนี่ยฟงอย่างรวดเร็ว เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เนี่ยฟงฟาดฟันดาบในมือเข้าปะทะ เขาเร่งโคจรลมปราณอีกทั้งยังใช้ทักษะเหยียบนภาพุ่งหายตัววูบวาบเข้าสังหารคนทั้งสามอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าก็ยังไม่ทันได้หลบหนียอดฝีมือที่ลุ่ยกงกล่าวก็มาถึงจุดที่ปะทะ เป็นชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งสวมชุดสีดำศีรษะโล่งเตียนยืนอยู่บนดาบเล่มโต จ้องมองเนี่ยฟงอย่างไม่วางตา
“เจ้ามีความสามารถไอ้หนู สนใจมาเป็นสมุนข้าหรือไม่”
เนี่ยฟงเงยหน้าจ้องมองหาได้กล่าวตอบสิ่งใด ชายฉกรรจ์ผู้นั้นก็เอ่ยวาจาออกมาอีกครั้ง
“หากเจ้าสนใจก็ให้ไปแจ้งข่าวแก่เฟินจวี๋ฟู่น้องรองข้าก็แล้วกัน”
สิ้นเสียงกล่าวชายฉกรรจ์ผู้นั้นก็สะบัดมือขวาซัดป้ายไม้ให้แก่ชายหนุ่มด้านล่าง เนี่ยฟงยกมือขวาคว้ารับป้ายไม้เมื่อนำมาดูก็พบว่ามันมีอักษะมู่แกะสลักเอาไว้ เมื่อหันขึ้นไปมองก็พบว่าชายฉกรรจ์ผู้นั้นพุ่งหายไปแล้ว
“ไอ้หนูเจ้าคิดจะลงมือคืนนี้”
“แน่นอนขอรับตอนนี้พวกทหารยกทัพมาแล้ว หากทัพของเหมาหนานต้องเผชิญหน้ากับพวกสัตว์ประหลาดนั้นคงไม่เป็นเรื่องดีแน่ขอรับ”
“เช่นนั้นคืนนี่เจ้าต้องเจอศึกหนักแน่ ชายชุดดำเมื่อครู่ดูจากพลังปราณที่ปล่อยออกมามีระดับที่ใกล้เคียงกับเจ้าไม่น้อย”
“หากพบเจอกันหนึ่งต่อหนึ่งข้าพอมีโอกาสชนะ แต่หากว่ามีเฟินจวี๋ฟู่ร่วมอยู่ด้วยมีความเป็นไปได้ที่ข้าจะพ่ายแพ้ เพราะความสามารถของพวกมันข้าก็หาได้ทราบ”
เนี่ยฟงแผ่ลมปราณตรวจสอบเมื่อพบว่าไม่มีผู้ใดอยู่ใกล้ก็พุ่งทะยานไปหากองกำลังของล่งซือ ทันทีที่ล่งซือพบเห็นเนี่ยฟงก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย
“เกิดสิ่งใดขึ้นเนี่ยฟง”
“มีกองกำลังของอ๋องมู่มาพักที่ด้านหน้าของเมืองนับพันนาย ส่วนเมื่อครู่ระหว่างทางข้าพบเจอกับคนผู้หนึ่งอ้างตัวว่าเป็นพี่ชายของเฟิงจวี๋ฟู่หากเดาไม่ผิดคงเป็นหนึ่งในหน่วยเทพหมาป่าของอ๋องมู่ อีกอย่างข้าคิดว่ามีคนแอบส่งข่าวของเหมาหนานให้แก่อ๋องมู่”
ล่งซือได้ยินเช่นนั้นก็ก้มหน้าครุ่นคิด
“แล้วเจ้าจะยังลงมือคืนนี้ใช่หรือไม่”
“แน่นอน แต่เราคงต้องเปลี่ยนแผนกันเล็กน้อย”
“เจ้ากล่าวมาเถอะ”
“แบ่งคนของเราเป็นสองส่วน ส่วนแรกเข้าไปโจมตีที่กองกำลังทหารแล้วหลอกล่อพวกมันขึ้นมาบนเขา ส่วนอีกพวกติดตามข้าขึ้นไปทำลายค่ายหลอกล่อพวกสัตว์ประหลาดเข้าโจมตีกองกำลังทหาร เมื่อทั้งสองเข้าปะทะกันพวกเจ้าทั้งสองกลุ่มหลบถอยออกมา เราค่อยเข้าไปจัดการทีหลัง”
“เจ้าคิดว่าพวกทหารพวกนั้นไม่รู้”
“เจ้าคิดว่าพวกสัตว์ประหลาดพวกนั้นรับรู้สิ่งใดนอกจากการกิน เมื่อคืนที่พวกมันหลุดออกมาก็เพราะความหิว แต่เหตุที่พวกมันไม่สังหารผู้คนในค่ายนั้นข้าไม่ทราบ”
“ได้ ข้าจะนำคนครึ่งหนึ่งไปล่อพวกทหารเพราะชื่อเสียงของข้าพวกมันคงรู้จักดี ส่วนเจ้าก็นำคนที่เหลือบุกค่ายก็แล้วกัน”
หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็นั่งโคจรลมปราณเพื่อรอเวลาลงมือ เวลาใกล้ถึงยามจื่อทั้งสองก็แยกกันลงมือ ล่งซือนำกำลังคนครึ่งหนึ่งมุ่งหน้าไปยังเมือง ส่วนเนี่ยฟงพากำลังคนขึ้นไปบนเขา วันนี้เป็นเช่นเมื่อคืนที่ค่ายมีการเลี้ยงฉลองกันเนี่ยฟงแอบเข้าไปด้านในก็พบเห็นชายฉกรรจ์เมื่อตอนกลางวันนั่งกินดื่มอยู่กับเฟินจวี๋ฟู่ ในระหว่างนั้นเองเขาก็พบเห็นกองไหเหล้าอยู่อีกฝั่งของตน เนี่ยฟงแอบเดินเข้าไปหยิบไหเหล้าเมื่อไม่มีผู้ใดสังเกตเขาก็แอบสะบัดมือขวานำขวดยาออกมาสองขวด ค่อยเดินเปิดไหเหล้าใส่ยาลงไปหนึ่งเม็ด หลังจากวางยาเสร็จสิ้นเขาก็แอบเข้าไปที่ด้านหลังของค่ายบริเวณคอก เขาสร้างวงอักขระศักดิ์สิทธิ์เอาไว้อีกสี่วงหลังจากนั้นก็แอบออกมา