สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 25
ตอนที่ 25 ความกตัญญู และครอบครัวเป็นสิ่งที่ไม่อาจสูญเสีย
ห่างออกไปไม่ไกลนักโรเบิร์ตก็วิ่งออกจากบ้านพร้อมกับตะโกนว่า“ลุค แกเป็นรึเปล่า?”
ลุคตะโกนกลับไปว่า“ไม่เป็นไร คนร้ายตายหมดแล้ว”
ขณะที่ลุคตะโกนไปเขาก็ลุกขึ้นยืนและยกนิ้วให้ยายลูซี่และพูดต่อว่า “ลูซี่คุณควรไปแข่งยิงปืนในโอลิมปิกนะ จากที่ผมเห็นคุณมีสิทธ์จะได้เหรียญทองแน่ๆ เลย”
รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าเหี่ยวย่นของยายลูซี่ พร้อมเธอพูดขึ้นว่า“ฮ่าฮ่าแน่นอนอยู่แล้ว ตอนฉันยังเด็กคุณปู่ของฉันพาฉันออกไปล่าหมีด้วยกันในป่า ตอนนั้นฉันสัก 5 ขวบได้มั้ง และปืนกระบอกนี้ก็เป็นของที่เขาเหลือไว้ให้”
ลุคคิดว่า ‘ให้ตายสิ ไม่แปลกใจเลยที่ปืนกระบอกนี้แรงอะไรขนาดนั้น เพราะมันถูกใช้เพื่อล่าหมีเมื่อสองสามทศวรรษก่อนงั้นหรอ?
ถ้าจะนึกย้อนกลับไปสมัยที่ลูซี่ยังอายุ 5 ขวบ อาวุธปืนลำกล้องเล็กที่ลักษณะในปัจจุบันไม่ได้รับความนิยมเท่าไร เพราะว่าสมัยนั้นอาวุธส่วนมากมักจะใช้สำหรับการล่าสัตว์ซะมากกว่าลำกล้องจึงมีขนาดใหญ่
เพราะงั้นถ้าใช้ปืนล่าสิงโตที่มีลำกล้องขนาดใหญ่ มันสามารถเป่าแขนของคนผู้โชคร้ายที่ให้ไม่เหลือซากได้เลย
สำหรับปืนลูกซองสองลำกล้องที่ใช้สำหรับล่าหมีของคุณยายลูซี่ ถ้าเอาไปเปรียบเทียบกับปืนล่าสิงโตแล้วหล่ะก็ปืนยายลูซี่ดูเป็นปืนเล็กๆ น่ารักไปเลยหล่ะ…แต่ถึงยังงั้นก็ตามปืนของเธอก็ยังคงน่ากลัวอยู่ดีไม่ว่าจะไปเทียบกับปืนล่าสิงโตแล้วก็ตาม
หลักจากเหตุการณ์ทั้งหมดทำให้ลุคสาบานกับตัวเองไว้ว่าจะเพิ่มสเตตัสให้กับความคล่องแคล่วของเขามากขึ้น
เมื่อเผชิญหน้ากับปืนที่น่ากลัวเช่นนั้นร่างกายที่คล่องแคล่วว่องไวสามารถที่จะหลบเลี่ยงได้อย่างรวดเร็วมีประโยชน์มากกว่าร่างกายที่แข็งแกร่ง
เมื่อโรเบิร์ตมาถึงลุคก็อธิบายเรื่องราวต่างๆ อย่างรวบรัดเกี่ยวกับสถานการณ์ก่อนหน้าหลังจากนั้นโรเบิร์ตเริ่มโทรหาผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งจะสามารถจัดการกับเรื่องราวที่หลังจากนี้ได้
แม้ว่าลุคจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่โรเบิร์ตก็ต้องการให้เขาพักผ่อนแทนที่จะทำงานในคดีนี้ต่อ หลังจากที่เพิ่งจะผ่านสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิต
หลังจากโรเบิร์ตบอกให้ลุคกลับบ้านลุคก็เดินไปข้ามไปอีกฝั่งของถนนและเข้าไปกอดยายลูซี่ “ลูซี่ขอบคุณมากครับ เป็นเพราะคุณเลยนะแคลร์ถึงได้ปลอดภัยดี”
ลูซี่ยิ้มและตบหลังลุค
เนื่องจากลูซี่มีรูปร่างเล็กสูงประมาณ 160 เซนติเมตรเธอจึงทำได้เพียงแค่ตบหลังของลุคเท่านั้น
“ฉันเห็นแคลร์มาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ - ใครก็ตามที่มันกล้ามาแตะต้องเธอฉันจะฆ่ามันโดยไม่ลังเลเลยหล่ะ” คุณยายลูซี่กล่าว
ลุคพยักหน้าและยิ้ม "โอเคครับ... แต่ยังไงก็ขอบคุณนะครับ หากในอนาคตยายต้องการความช่วยเหลืออะไรอย่าลังเลที่จะมองหาผมนะครับ”
ยายลูซี่ยิ้ม “แน่นอนไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นหรอ จะว่าไปก็มีเรื่องหนึ่งนะอย่าลืมช่วยอุ้มเจ้ามิกกี้กลับบ้านทุกครั้งที่มันไปปีนขึ้นที่สูงๆอีก”
ลุคยิ้มและกอดเธออีกครั้ง “โอเค ไม่มีปัญหา มิกกี้แกได้ยินเธอพูดไหม?”
แมวนั่งอยู่ข้างหลังยายเพียงแค่มองไปที่ลุคและไม่ได้ตอบรับอะไร
จากนั้นลูซี่ก็พูดว่า“กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ เธอเพิ่งเสร็จจากงานวันนี้และยังต้องมาเจอเหตุการณ์นี้อีก เธอควรจะกลับไปพักผ่อนให้เต็มที่”
ลุคพยักหน้า “คุณก็พักผ่อนให้สบายเช่นกันครับลูซี่”
ลุคลาคุณยายเสร็จแล้วพร้อมกันกับโรเบิร์ตก็เพิ่งจะจัดการประสานงานในที่เกิดเหตุเสร็จเช่นกัน เขาเข้ามาตบไหล่ลุคก่อนจะพูดว่า“กลับบ้านกันเถอะ”
ลุคถามว่า“คุณจะไม่ไปพูดอะไรกับลูซี่หน่อยเหรอ?”
โรเบิร์ตตอบว่า“พรุ่งนี้ฉันจะไปหาเธอพร้อมกับแคทเธอรีน เราจะไปพร้อมกับของขวัญเช่นกัน ไม่ต้องห่วงหรอกน่า”
ลุคพยักหน้า แม้ว่าโรเบิร์ตจะลืม แต่แคทเธอรีนก็ไม่ยอมให้เขาลืมแน่นอน
ระหว่างเดินกลับบ้านโรเบิร์ตก็บ่นกับตัวเอง ‘ให้ตายสิฉันจะไปกล้าลืมขอบคุณลูซี่ได้ยังไง ย้อนกลับไปในตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันไปเดินป่ากับลูซี่ ฉันเธอยิงลูกซองนั่นสี่นัดในสิบวินาทีและฆ่าหมูป่าสี่ตัวที่พุ่งเข้าใส่เธอ หลังจากเห็นแบบนั้นใครจะกล้าลืมกัน’
ลูซี่หน่ะเป็นแค่นักฆ่าชั้นยอดในคราบแม่บ้านเลยหล่ะ
ส่วนแคลร์นั้น แคทเธอรีนได้พาเธอกลับบ้านแล้ว ตอนนี้พวกเธอนั่งอยู่บนโซฟาและแคลร์ก็ดูไม่ได้ตื่นตกใจเลยกับเหตุการณ์ แต่เธอกำลังเล่าอย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับประสบการณ์ครั้งนี้ของเธอในขณะที่แคทเธอรีนฟังอย่างตั้งใจ
ถึงแม้โรเบิร์ตและลุคกลับมาแล้วพวกเธอก็ไม่ได้สังเกตเห็นพวกเขา ลุคยิ้มเมื่อเห็น
แคลร์เด็กสาวจอมซนกำลังยุ่งอยู่กับการเล่าเรื่องความสามารถของลุคที่คล้ายอย่างกับฮีโร่ในการ์ตูนก่อนหน้านี้
แต่คำอธิบายของเธอคือ ลุคสามารถที่บินได้ไกลกว่า 20 เมตรเหมือนซูเปอร์แมนก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่คนร้าย? ถ้าลุคบินได้จริง ๆ ลุคยังจะต้องวิ่งอย่างหนักจนเปียกเหงื่ออีกหรอ?
ลุคกัดฟันคิดอยู่กับตัวเอง แต่ลุคยังคงแสดงออกด้วยรอยยิ้มเพื่อทำให้แคลร์ไม่คิดมาก
ลุคไม่ต้องการสูญเสียใครในครอบครัวนี้ไปแม้แต่คนเดียว
นั่นคือความรู้สึกของเขาแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ลูกชายแท้ๆ ของโรเบิร์ตและแคทเธอรีนก็ตาม
ในตอนที่เขาตื่นขึ้นได้มาที่โลกนี้เมื่อตอน 5 ขวบ เขาได้รู้ว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเขาเสียชีวิตไปแล้ว ทางรัฐสวัสดิการเด็กก็เลยส่งเขาไปให้แคทเธอรีนและแต่งตั้งให้เธอเป็นผู้ปกครองตามกฎหมาย
แคทเธอรีนเป็นน้องสาวของบิดาผู้ให้กำเนิดของเขาซึ่งเธอก็เป็นน้าของลุค
ส่วนแคลร์เองไม่ใช่ลูกทางสายเลือดของโรเบิร์ตเช่นกัน เธอเป็นลูกสาวของแคทเธอรีนและอดีตสามีของเธอ
ในตอนนั้นแคลร์อายุเพียงสามขวบเมื่อลุคเริ่มใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขา ดังนั้นทั้งสองจึงเติบโตมาด้วยกันและความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไม่ต่างจากพี่น้องทั่วไป
จากนั้นก็มีเด็กน้อยคนที่ 3 ในบ้านหลังนี้ก็คือโจเซฟซึ่งตอนนี้วัย 5 ขวบที่เป็นลูกชายแท้ๆ ของทั้งแคทเธอรีนและโรเบิร์ต
อันที่จริงแล้วจริงโรเบิร์ตจงใจรอให้แคลร์และลุคถึงวัยที่พอจะคิดอะไรเองได้แล้วก่อนที่จะตัดสินใจมีลูก
ซึ่งเห็นได้ชัดว่าโรเบิร์ตเป็นคนดีมาก
ถึงแม้ว่าโรเบิร์ตจะไม่ใช่พ่อผู้ให้กำเนิดของลุคและแคลร์ แต่เขาก็ทำบทบาทของพ่อคนหนึ่งได้เป็นอย่างดี
โรเบิร์ตก้าวไปหาพวกเธอและขัดจังหวะการเล่าเรื่องของแคลร์พร้อมบอกให้เธอไปอายน้ำและนอน เพราะพรุ่งนี้เธอยังมีเรียนอยู่
สีหน้าของแคลร์ตกอยู่ในความสิ้นหวัง "อะไรนะ? นี่หนูยังต้องไปโรงเรียนอีกหรอเนี้ย หลังจากเรื่องโหดร้ายพวกนี้อ่ะนะ?”
แคทเธอรีนลูบหัวเธอด้วยรอยยิ้ม “ก็ดูเธอสิ เธอไม่ได้ดูได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เลย ไปอาบน้ำนอนเถอะ”
ความจริงแล้วแคทเธอรีนต่างหากที่เป็นสาเหตุทำให้แคลร์ไม่สามารถโดดเรียนได้ แคทเธอรีนนั้นเป็นครูสอนชีววิทยาและแคลร์ไม่สามารถหลอกเธอได้แม้ว่าเธอจะต้องการก็ตาม
หลังจากที่แคลร์ขึ้นไปชั้นบนแคทเธอรีนก็เดินเข้าไปกอดลุคแน่นโดยไม่พูดอะไร
แรงกอดทำให้ลุคตกใจและรีบพูดว่า“ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดีแคทเธอรีน พวกเราไม่เป็นไรแล้ว”
หลังจากผ่านไปสิบวินาทีแคทเธอรีนก็ปล่อยเขา เธอพูดอย่างเคร่งขรึม“สัญญากับฉันว่าจะไม่ทำอะไรเสี่ยงๆ แบบนี้อีกเด็ดขาด”
ลุคตอบว่า“ตกลงฉันสัญญา”
แคทเธอรีนจ้องมองเขาเล็กน้อยก่อนที่เธอจะส่ายหัวและถอนหายใจ “ให้ตายสิ เธอนี่ไม่ฟังเลย งั้นก็อย่าลืมความปลอดภัยของตัวเองหล่ะ”
ลุคพยักหน้า “ผมเข้าใจแล้ว แคทเธอรีน”
ทั้งคู่เข้าใจดีว่าถ้าลุคตัดสินใจที่จะไม่ทำอะไรเลย ในสถานการณ์นั้นแคทเธอรีนคงจะผิดหวังในตัวเขา
ท้ายที่สุดแคลร์เป็นลูกสาวของเธอ และยังเติบโตมาพร้อมกับลุค
ถ้าลุคเลือกที่จะไม่ทำอะไรเลยในขณะที่แคลร์ตกอยู่ในอันตรายก็จะพิสูจน์ได้ว่าแคทเธอรีนเลี้ยงดูลุคได้ไม่ดีเอาเสียเลย
ปฏิกิริยาของโรเบิร์ตน้อยมาก เขาตบบ่าของลุคเท่านั้นแล้วพูดว่า“ไปนอนก่อนเถอะ เราจะรู้ว่าสถานการณ์ต่อไปจะเป็นยังไงในวันพรุ่งนี้”
ลุคพยักหน้าและขึ้นไปชั้นบนเพื่ออาบน้ำ แน่นอนว่าชั้นบนมีห้องน้ำเพียงห้องเดียว แคลร์ก็ยังคงอยู่ข้างใน
ดังนั้นลุคจึงยืนรออยู่ข้างนอกพร้อมกับเสื้อผ้าของเขา ดวงตาทั้งสองของเขาว่างเปล่าขณะที่สติของเขาจมลงในระบบ
ภารกิจ: ช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกลักพาตัว แคลร์
การเสร็จสิ้นภารกิจได้รับค่าประสบการณ์ 250 และ 250 เครดิต
เนื่องจากการมีส่วนร่วมของโฮสต์ในภารกิจนี้คือ 50 เปอร์เซ็นต์จึงได้รับ 125 ประสบการณ์และ125 เครดิต