ตอนที่ 8 ทักษะดังคำสาป
ด้วยความช่วยเหลือของพนักงานสาว จางเสี่ยวจึงมาถึงห้องน้ำชั้น 2 ได้อย่างสะดวกโยธิน
พนักงานสาวหันมาถามจางเสี่ยวด้วยความเป็นห่วง “คุณคะ ต้องการให้คนเข้าไปลูบหลัง หรือว่าต้องการอะมิโนสักซองไหมคะ?”
ถ้าผู้หญิงคนนี้พุงแตกตายในร้าน ร้านคงรับผิดชอบไม่ไหว เผลอๆภาพพจน์ชื่อเสียงที่สั่งสมมาอาจจะพังทลาย ดังนั้นทางร้านจึงตัดสินใจที่จะมอบอะมิโนให้จางเสี่ยวฟรีๆสักซองนึงเพื่อหยุดยั้งเหตุร้ายไม่ให้เกิดขึ้น
ดูสิ! พุงของเธอ…ร่างกายกำลังพองขึ้นเเล้ว!
“ฟรีหรือเปล่าคะ?” จางเสี่ยวเอ่ยถาม ถ้าเป็นของเสียเงินเธอไม่มีวันที่จะยอมรับ เพราะมันอาจจะเป็นกลลวงของพนักงานสาวที่ต้องการให้เธอซื้ออะมิโน
“ฟรีค่ะ” พนักงานสาวพูดขึ้นด้วยความลำบากใจ ถึงแม้จะจริงๆเธอจะอยากให้ฟรี เเต่ไม่นึกถึงเลยว่าลูกค้าจะเป็นคนเอ่ยปากมาก่อน
“จางเสี่ยวเดินเข้าไปในห้องน้ำ” จากนั้นสิ่งแรกที่เธอทำไม่ใช่ไปที่โถส้วมแต่ไปที่กระจกที่อยู่ตรงที่ล้างมือต่างหาก พนักงานสาวได้แต่มองด้วยความแปลกใจ แต่พนักงานสาวก็ไม่ได้จากไปไหน เธอแค่ยืนอยู่กับจางเสี่ยว เพื่อกันกันไม่ให้เหตุร้ายเกิดขึ้น
จางเสี่ยวยืนมองกระจกอยู่พักนึงแบบนิ่งๆ จากนั้นก็เอามือไปจับที่ใบหน้าที่อ่อนโยน
จางเสี่ยวในตอนนี้นั้นแต่งหน้าหนาเตอะ ลิปสติกที่ทามานั้นแดงแจ๋ ทว่าเมื่อหลังจากผ่านการกินแบบมูมมามเพราะกลัวถูกปรับเงินไป ทำให้ลิปสติกนั้นหายไปเกือบครึ่ง บนใบหน้ามีแกงกะหรี่ติดอยู่ประปราย ลักษณะตอนนี้คนในร้านถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่เขาก็คิดไปแล้วว่าจางเสี่ยวคงเป็นคนบ้านนอกที่ไม่เคยกินของดีมาก่อน
เเต่จางเสี่ยวไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนั้น จากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมทำให้เธอรู้ว่าร่างกายของเจ้าของร่างเดิมนั้นมีใบหน้าที่เป็นอย่างไร
ขนคิ้วของเจ้าของร่างนั้นหลุดร่วงจนแทบจะหมดแล้ว แต่ใช้การสักคิ้วถาวรเพื่อปลอมแปลงใบหน้าเอา
ใบหน้าของเจ้าของร่างเดิมนั้นเต็มไปด้วยกระ และมีปานเล็กๆที่ข้างแก้ม
ทว่าตอนนี้ ปานนั้นได้จางลงไป กระนั้นก็ดูเหมือนจะบางลงกว่าเดิมเล็กน้อย
มันช่างชวนให้จางเสี่ยวคิดขึ้นอย่างสงสัยเธอหวังว่าเรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นจริง
ด้วยความร้อนใจจางเสี่ยวหันไปสั่งพนักงานทันที
“รบกวนพี่สาวไปเอาแกงกะหรี่มาให้ฉันหน่อยค่ะ สักจานนึงที่ห้องน้ำนี้” พนักงานสาวตกใจ จางเสี่ยวกำลังจะมาอาเจียนไม่ใช่เหรอทำไมเธอถึงเอ่ยปากขอแกงกะหรี่หรือว่าเธอต้องการกินเยอะให้มากขึ้นเพื่อจะได้อาเจียนไปในทีเดียว
แต่เมื่อเห็นท่าทางร้อนรนของจางเสี่ยว พนักงานสาวไม่มีทางเลือกนอกจากตอบรับ แล้วรีบวิ่งไปที่โต๊ะของจางเสี่ยวและหยิบแกงกะหรี่ที่เหลืออยู่ครึ่งจานออกมาอย่างรวดเร็ว
เจ้าของร้านที่กำลังยืนต้อนรับลูกค้าคนต่อไปมองพนักงานสาวด้วยความแปลกใจ ทำไมพนักงานสาวที่ไปส่งจางเสี่ยวเข้าห้องน้ำถึงไปหยิบแกงกะหรี่จานนั้นไปให้จางเสี่ยวที่ห้องน้ำด้วย
มันเป็นพฤติกรรมที่ผิดแปลก เจ้าของร้านจึงจัดคนไปแอบดูจางเสี่ยวที่ห้องน้ำเพิ่มอีก กันไม่ให้จางเสี่ยวคิดอะไรแปลกๆขึ้นมา
จางเสี่ยวเมื่อได้เห็นแกงกะหรี่จานยักษ์กลับมาอีกครั้ง เธอรีบกินมันเข้าไปทันที
ทุกคำที่กิน เธอจะมองกระจกไปด้วย เพื่อให้แน่ชัดว่า สิ่งที่เธอกำลังพบเจออยู่นั้น มันเป็นความจริงหรือไม่
หนึ่งคำผันผ่าน
สองคำผ่านไป
สามคำมาถึง
สี่คำจบสิ้น
โอเคพอแล้ว
ปานของจางเสี่ยวเริ่มจางลงไปทุกครั้ง แม้จะแค่เล็กน้อยแต่จางเสี่ยวก็รู้ว่าจางลงจริงๆ เธอคิดด้วยความแปลกใจ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เเต่เรื่องปานเเละกระน่ะช่างมันเถอะ! เเต่ร่างกายของเธอนั้นมัน ‘บวม’ ขึ้น!
มันไม่ได้มีลักษณะเเบบคนอ้วน…เเต่มันเหมือนพองมากกว่า เเละการพองตัวนี้ มันคล้ายกลับสกิล ‘ตละกละ’ เวอร์ชั่นเเรกที่ได้รับเมื่อตอนนั้นเลย นี่มันตามเธอมาถึงยุคนี้เชียวเหรอ…เพียงเเต่นี่เป็นสกิลที่ยังไม่สมบูรณ์ที่รอการเก็บเลเวลพัฒนาไปเรื่อยๆเท่านั้น…เเละเมื่อมันพัฒนาเสร็จ มันจะเปลี่ยนไปทันที เเละกลายเป็นสกิลที่ทำให้เธอเกลียดชังมันมากที่สุด
หรือพระเจ้าจะไม่ยอมปล่อยเธอไปจริงๆ
ถึงได้เอาระเบิดเวลามาปล่อยไว้!
เธอนึกถึงคำพูดของพี่ชายขึ้นมาได้ เขาบอกว่ายูนีคสกิลนั้นเป็นของขวัญสำหรับพระเจ้าที่มอบให้แก่ผู้คนเพื่อเอาตัวรอดในยุคสมัยที่เลวร้าย
แต่สำหรับจางเสี่ยวยูนิคสกิลนั้นไม่ต่างอะไรจากคำสาป มันเป็นฝันร้ายที่ถูกทิ้งโดยพระเจ้า
จางเสี่ยวนั้นเกลียดยูนีคสกิลชนิดนี้อย่างสุดซึ้ง เธอยอมได้สกิลปัดฝุ่นปัดกวาด ที่ไร้ประโยชน์ดีกว่าที่จะได้ทักษะนำความฉิบหายแบบนี้มาในครอบครอง
แต่ความหิวของเธอมันก็ยังไม่ได้ลดลงเท่าไหร่ เหมือนกับทั้งมหาสมุทรเพิ่งเติมน้ำไปได้แค่ครึ่งเดียว…นี่เเค่อ่านหนังสือครึ่งวันพลังงานเธอลดไปขนาดนี้เลยเหรอ?
จางเสี่ยวกินแกงกะหรี่จานนั้นจนหมด แม้กระทั่งเศษน้ำแกงและเศษผักก็ไม่เหลือติดอยู่ในจาน ด้วยความเสียดาย เธอตัดสินใจใช้ลิ้นเลียที่จานจนเรียบไม่เหลือแม้กระทั่งคราบมัน
พนักงานสาวตกใจจนไม่รู้จะตกใจอย่างไรแล้ว เธอจำได้ว่าจางเสี่ยวจะมาอาเจียนไม่ใช่เหรอ ทำไมฉับพลันถึงเปลี่ยนเป็นกินแกงกะหรี่และเลียจานได้
แบบนี้มันแปลกเกินไป
เธอสงสัยว่าต่อจากนี้เธอต้องเรียกรถพยาบาลหรือตำรวจมาหรือเปล่า พฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้มันแปลกจริงๆ
พนักงานสาวพูดติดตลกกับจางเสี่ยวว่า “ยังเหลือแกงกะหรี่ 1 จานที่รอสั่งกลับบ้านค่ะ จะกินต่อเลยมั้ยคะ” พนักงานสาวพูดขึ้นอย่างประชด
เธอไม่นึกเลยว่าจางเสี่ยวจะตอบกลับมาว่า “ใช่ค่ะ ฉันจะกลับไปกินให้หมด แล้วถ้ายังไงขอเบอร์ร้านไว้สักหน่อยนะคะ ไว้วันหลังฉันจะสั่งเพิ่มอีก เป็นไปได้ว่าเย็นนี้ฉันจะอาจจะสั่งร้านคุณอีกค่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้พนักงานสาวก็แทบจะเป็นลม