ตอนที่ 2 จากลา
จางเสี่ยวเต็มไปด้วยความตกใจ
เดี๋ยวนี้มหาวิทยาลัยให้ตำรวจประจำมหาวิทยาลัยแต่งชุดมาสคอตเป็นซอมบี้อย่างนั้นหรอ
แบบนี้มันไม่เปลืองงบเกินไปรึไง ทีงบทัศนศึกษา งบกิจกรรม งบเพิ่มวิชาเรียนที่เอาเเต่ลดลงทุกวัน
แต่จะมาเพิ่มงบให้ชุดคาสคอตส์ให้กับพนักงานในมหาวิทยาลัย แบบนี้มันปัญญาอ่อนเกินไปหรือเปล่า?
ที่สำคัญ! ทั้งหมดมันคือเงินค่าเทอมของเธอ…
ทว่าในวินาทีต่อมา จางเสี่ยวก็ต้องแปลกใจ ตำรวจที่อยู่ในชุดซอมบี้คนนั้น จู่ๆก็กระโดดกัดนักศึกษาชายคนหนึ่งจนเลือดสาด
นักศึกษาชายคนนั้นร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดก่อนที่เขาจะล้มลงไปกับพื้น จากนั้นร่างกายของนักศึกษาชายจากที่เคยขาวสูงหล่อสมาร์ทมาดแมน ก็ค่อยๆกลายเป็นซอมบี้หนึ่งตัว
จางเสี่ยวเหมือนตกอยู่ในฝันร้าย ในใจคิดแค่ว่าเดี๋ยวนี้มหาวิทยาลัยอนุญาตให้คนมาถ่ายละครเล่นหน้ามหาวิทยาลัยแล้วอย่างนั้นเหรอ แบบนี้มันจะไม่เกะกะนักศึกษาคนอื่นหรือไง!?
จางเสี่ยวได้แต่ส่ายหน้าให้กับการกระทำไร้สาระของคนสองคนนั้น
จากนั้นเธอก็เดินผ่านเลยไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยที่ไม่รู้เลยว่านักศึกษาชายที่กลายเป็นซอมบี้นั้นกำลังมองมาที่เธออยู่ จากนั้นมันก็ค่อยๆลากสังขารที่พิการและขาที่เป๋ของมันเข้ามาใกล้จางเสี่ยว
แต่จางเสี่ยวก็ไม่ได้ใส่ใจ และเดินไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในขณะที่เดินเข้าตึกคหกรรมไปแล้วนั้นเอง เธอก็ได้พบกับเพื่อนร่วมห้องหญิงคนหนึ่งกระโดดออกมาบอกว่า
“จางเสี่ยว หน้าตาเหมือนปลาช่อนดองเค็มอย่างเธอเนี่ยนะ คิดจะแย่งแฟนของฉัน”
จางเสี่ยวคิ้วกระตุกเธอไปแย่งแฟนของใครมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ในใจก็หวนคิดหรือจะเป็นพี่ปีเตอร์ที่วันนั้นเธอไปถามถึงวิธีสอบผ่านแบบไม่ต้องอ่านหนังสือ แล้วเขาก็แนะนำวิถีของคนโบราณให้เธอมา เรื่องแค่นั้นผู้หญิงคนนี้ก็เอามาคิดเป็นจริงเป็นจังเหรอ ไร้สาระ!
ในขณะที่จางเสี่ยวกำลังยืนคิด ผู้หญิงคนนั้นก็ยืนด่า จางเสี่ยวไม่รู้ว่าพูดเธอพูดอะไร หลังจากทันทีที่เธอคิดเสร็จ เธอก็ได้ยินประโยคสุดท้ายของผู้หญิงที่พูดว่า
“ไม่รู้ว่าพี่ปีเตอร์ไปเอาผู้หญิงคนนี้มาเป็นของเล่นได้ยังไง หน้าตาเหมือนผีตายซากเห็นแล้วเกิดอารมณ์ด้วยเหรอ?”
จางเสี่ยวไม่ใช่แม่พระหรือพระโพธิสัตว์มาจากไหน เพราะเธอไม่สวย มาตั้งแต่เด็ก เธอจึงเรียนรู้ที่จะมีวิชาป้องกันตัว หรือให้มีจุดเด่นชดเชยส่วนด้อยของตัวเอง จางเสี่ยวกระโดดถีบขาคู่ใส่ผู้หญิงคนนั้นแล้วเดินจากไปแบบสวยๆพร้อมกับทิ้งคำพูดว่า
“ขอให้โดนซอมบี้ขย้ำตาย!!”
จางเสี่ยวไม่รู้เลยว่าคำพูดของเธอจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นโดนซอมบี้ที่ตามหลังจางเสี่ยวมาขย้ำจนตายจริงๆ
ในขณะที่ทั้งมหาวิทยาลัย มีซอมบี้เป็นส่วนใหญ่ แต่จางเสี่ยวก็ยังคงไม่รู้และยังมุ่งหน้าไปที่ห้องสอบเหมือนเดิม
ซอมบี้ไร้ความคิดพวกนั้นเดินไปทั่วอาคาร เพื่อตามหามนุษย์เอามาเป็นอาหาร
จนกระทั่งจางเสี่ยวเดินผ่านห้องโสตทัศนศึกษาและเห็นทีวีที่ตั้งอยู่ ในนั้นมีรายงานข่าวใหญ่ จางเสี่ยวที่กำลังว่างและยังเหลือเวลาอีกเยอะ เธอก็เลยไปนั่งดู เเละหลังจากดูไปได้ไม่นาน เธอก็พบกับความจริงข้อหนึ่ง นั่นก็คือ
ตอนนี้เป็นวันสิ้นโลกแล้ว!!
สอบถูกยกเลิกไปแบบไม่มีเงื่อนไข จะทำยังไงได้ในเมื่ออาจารย์คุมสอบกลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว จางเสี่ยวอยากจะกระโดดด้วยความดีใจ แล้วหัวเราะให้ลั่นมหาวิทยาลัย ถ้าไม่ติดว่าซอมบี้..จริงๆอยู่ข้างนอก
เธอคงจะหัวเราะไปแล้ว!
ยุควันสิ้นโลกเนี่ยดีจริงๆ!
ยุควันสิ้นโลกบันไซ!
จู่ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากปลายสาย ทำให้ความดีใจของจางเสี่ยวต้องหยุดลง เธอรีบรับโทรศัพท์ คนที่โทรมาก็คือพี่ชายของเธอ
“ขอโทษอย่างเสียว พ่อแม่กลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว..พวกเขาถูกยิงตายกันหมด จุดอ่อนของซอมบี้อยู่ที่หัว น้องปลอดภัยหรือเปล่าที่กลับมาบ้านเร็วเข้า?” พี่ชายพูดแบบไม่รอจางเสี่ยวตอบกลับ จากนั้นเขาก็รีบวางสายไปเเละปล่อยให้จางเสี่ยวงงอยู่ที่เดิม
ก่อนที่เธอจะทันได้รู้ตัว จางเสี่ยวก็ได้สูญเสียครอบครัวไปแล้ว
ภาพในวันวาน ได้ย้อนคืนมาสู่ความทรงจำ
พ่อที่เฝ้าแต่พูดว่า เมื่อไหร่ลูกจะหาแฟนได้แล้วมีหลานให้พ่ออุ้มสักคนนึง
และแม่ที่บอกว่า ลูกต้องขยันเรียนเอาไว้ทำงานเก็บเงินแล้วหาเงินมาศัลยกรรมนะลูกความสวยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ถึงคำว่าความสวยนี้จางเสี่ยวก็เลิกเศร้าทันที เพราะเป็นคนที่ขี้เหร่มาตั้งแต่เด็กเธอจึงค่อนข้างชิงชังความสวย และจะเกลียดมากๆเมื่อมีใครปรารถนาหรือพูดว่าอยากจะให้เธอสวยมากกว่านี้!
จางเสี่ยวอาศัยจังหวะที่ซอมบี้กำลังไปโจมตีมนุษย์คนอื่นกลับบ้านทางบันไดหนีไฟอย่างสะดวกโยธิน
เมื่อกลับมาถึงเธอก็พบว่าพี่ชายกำลังอยู่ในชุดพร้อมรบ ถือกระทะทัพพี และปืนอัดลมเอาไว้ด้วยความระแวง
“พี่ชายพ่อแม่อยู่ไหน!?” ถึงจางเสี่ยวจะรู้อยู่แล้วว่าพ่อแม่ได้กลายเป็นซอมบี้แบบกะทันหันแต่เธอก็…..หัวช้า คิดอะไรไม่ทัน จู่ๆโลกมันก็เปลี่ยนไป เธอไม่มีเวลาให้ปรับตัวเลยสักนิด
“ขอโทษด้วยจางเสี่ยวพวกเขาถูกเผาแล้ว” พี่ชายพูดด้วยเสียงที่เย็นชา