Chapter 131:แผนการที่สุดโต่ง
ไม่เพียง แต่เสี่ยวหลัวจะประสบความสำเร็จในการได้รับคำสั่งซื้อของ ฟุ้ดคอร์ท กรุ๊ป กลับคืนแต่เขายังได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มไปอีก เจ็ดล้าน มันช่างเป็นอะไรที่ไม่คาดคิดจริงๆ!
ทันทีที่มีการเซ็นสัญญา ลั่วฉี และ สวี่ กว่างซ่ง ต่างก็พากันมีความสุขราวกับว่าพวกเขากำลังตกอยู่ในความฝัน ในตอนแรกทัศนคติของ จาง หงต้า นั้นแข็งกระด้างและเย็นชามาก เขายืนยันอย่างมั่นคงว่าเขาจะไม่ยอมเปลี่ยนใจ แต่เสี่ยวหลัวเขากลับเปลี่ยนสถานการณ์ได้ในพริบตา มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ!
“หัวหน้าใหญ่ สิ่งที่คุณพูดกับ ประธานจาง หลังจากที่เซ็นสัญญา เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ? ลั่วฉี มองไปที่เสี่ยวหลัว อย่างเลื่อมใส
“ฉันพูดว่าอะไรนะ?”
“คุณบอกว่าตราบใดที่เขาฝึกฝนการตีเป็นเวลาห้าชั่วโมงต่อวัน เป็นเวลาสิบปีเขาก็จะสามารถตีลูกกอล์ฟลงหลุมได้ด้วยการตีเพียงครั้งเดียว!”
“แน่นอนว่าที่ฉันพูดนั้น เป็นเรื่องจริง นี่คือการฝึกฝนที่สมบูรณ์แบบ ฮ่าฮ่าฮ่า” เสี่ยวหลัวยกคิ้วของเขาขึ้นและหัวเราะออกมาเบาๆ
สิ่งนี้มันทำให้ ลั่วฉี ยิ่งสงสัยมากขึ้นและเธอก็พูดว่า“ดังนั้นนี่คือเหตุผลที่หัวหน้าใหญ่สามารถตีลูกกอล์ฟห้าลูกลงไปในหลุมได้ ก็เพราะว่าหัวหน้าใหญ่ฝึกเล่นกอล์ฟห้าชั่วโมงต่อวันเป็นเวลาสิบปีงั้นเหรอ?”
เสี่ยวหลัวทำเพียงยิ้มและไม่ได้พูดอะไร เนื่องจากเขาไม่สามารถอธิบายเรื่องการคงอยู่ของระบบได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเงียบและเขาก็ขี้เกียจเกินกว่าที่จะพูดคำโกหกออกไป
ตั้งแต่การเดินทางไปที่สนามกอล์ฟหมิงไท่ สวี่ กว่างซ่ง ก็เริ่มเข้าใจเกี่ยวกับนิสัยใจคอของ เสี่ยวหลัว มากขึ้น ภายนอกเสี่ยวหลัวเขาอาจจะดูเหมือนกับคนที่ไร้สาระและบ้าบิ่นและไม่รู้วิธีควบคุมตัวเอง แต่ในทางกลับกันเสี่ยวหลัวเขากลับสามารถคว้าความได้เปรียบ เมื่อเขาค้นพบความภาคภูมิใจของ จาง หงต้า ในการเล่นกอล์ฟได้ ภายในเวลาสั้นๆที่เขาอยู่กับ จาง หงต้า ไม่เกินยี่สิบนาที เขาก็สามารถจัดการกับความภาคภูมิใจนั้นเพื่อหลอกล่อให้ จาง หงต้า ตกลงสู่กับดัก และเข้าไปอยู่ในแผนการอันชาญฉลาดของเขาทีละขั้น
ไม่เพียง แต่เสี่ยวหลัวจะเป็นนักวางกลยุทธ์ที่มีความสามารถในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการของเขาเท่านั้น แต่เขายังเป็นนักยุทธศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกด้วย!
ภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่สองชั่วโมงเขาก็ได้รับคำสั่งจาก ฟู้ดคอร์ท กรุ๊ป และได้รับเงิน ห้าล้านหยวน มาจาก ฝาง ฉงเหล่ ผลงานนี้มันยิ่งใหญ่กว่าผลกำไรที่ได้จากคาสิโนซะอีก และตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าทำไม ชู หยุนเชียง ถึงได้ให้ความสำคัญอย่างสูงกับเสี่ยวหลัว คนเช่นนี้เขาไม่เพียงแต่จะเปล่งประกายใน หลัวฝาง แต่เขาจะเปล่งประกายในทุกๆที่ที่เขาไป
“ประธานเสี่ยว!”
สวี่ กว่างซ่ง รีบวิ่งเข้าไปหา เสี่ยวหลัว ด้วยความเร่งรีบและเรียกเขาว่า "ประธานเสี่ยว" น้ำเสียงของเขามีความเคารพมากขึ้นกว่าเดิม
"สวี่ กว่างซ่ง คุณมีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?" เสี่ยวหลัว ถาม
"ประธานเสี่ยว ท่านเคยได้ยินเรื่องของแก๊งมังกรมาก่อนหรือเปล่า?"
แก๊งมังกร?
ดวงตาของเสี่ยวหลัวหดแคบลง มันเป็นชื่อที่เขาเคยได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วน เขาเป็นสาเหตุที่ทำให้สมาชิกของแก๊งมังกร มากกว่าร้อยคนต้องตาย เมื่อได้ยินคนพูดชื่อนี้ อีกครั้ง เขาจึงนึกถึงเรื่องของพวกนั้นขึ้นมา
สวี่ กว่างซ่ง คิดว่า เสี่ยวหลัว ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงดันแว่นของเขาขึ้นและอธิบายว่า: "แก๊งมังกรมันเป็นพลังใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในเมือง พวกมันทำธุรกิจโรงแรมร้านอาหารคาสิโนและธุรกิจค้าประเวณี รวมถึงธุรกิจสีเทาอื่นๆอีกมากมาย พวกมันมีสมาชิกมากกว่า 3,000 คน แม้ว่าพวกมันจะมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเขต กวงหมิง แต่มันก็มีสมาชิกของแก๊งมังกร แพร่กระจายอยู่ทั่วทุกมุมถนนของเมืองเจียงเฉิง "
ทันทีที่ สวี่ กว่างซ่ง อธิบายเสร็จ เขาก็มองไปที่เสี่ยวหลัว อย่างกระวนกระวาย และรอปฏิกิริยาตอบกลับของเขา
"พูดต่อไป." เสี่ยวหลัว พูดเขาชักจะรู้สึกสนใจแก๊งมังกรนี้ซะแล้ว
“ผู้นำของแก๊งมังกรมีชื่อว่า หลง ซุนกุย หรือที่รู้จักในนาม ปรมาจารย์หลง และเขามีลูกน้องอยู่ภายใต้เขามากกว่า 3,000 คน มีข่าวลือว่าเขาเป็นปรมาจารย์ตัวจริง เขาสามารถสังหารคู่ต่อสู้ได้โดยไม่ทำให้แม้แต่เลือดของคู่ต่อสู้ไหล เขามีใบหน้าที่ดุร้ายและเขาก็โหดเหี้ยมมากจนแม้แต่ผีก็ยังกลัวเขา”
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเรา?"
“ประธานเสี่ยว ท่านรู้ไหมว่าทำไม Taste Buds ถึงได้สามารถกดขี่ บริษัท หลัวฝาง ได้อยู่ตลอด ทำไมชายชราที่กินขนมปังและถูกวางยาพิษในร้านหลัวฝางของเรา? มันยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ ว่ามันมีบางคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ และจุดประสงค์ของมันก็เพื่อทำให้ หลัวฝาง เสื่อมเสียชื่อเสียง อย่างไรก็ตามแม้แต่ ฝาง ฉงเหมิง ประธานคนก่อนของ บริษัท หลัวฝาง ก็ไม่กล้าแม้แต่ที่จะต่อต้าน เขาจึงได้ขาย บริษัท หลัวฝาง ไปให้กับ ประธานชูแทน ท่านรู้ไหมว่าทำไม?”
"ทำไม?"
เสี่ยวหลัวขมวดคิ้ว เขานึกภาพไม่ออกจริงๆ
สวี่ กว่างซ่ง มองไปรอบๆ และเมื่อยืนยันว่าไม่มีใครอยู่ใกล้แล้วเขาจึงพูดออกมาเบาๆว่า "มันเป็นเพราะ ฝาง ฉงเหล่ และ หลง ซุนกุย มีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกัน มีการกล่าวว่า ในช่วงปีแรกๆที่ หลง ซุนกุย ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง และมันก็ได้ฝาง ฉงเหล่ นี้แหละที่เป็นคนช่วยชีวิตของมันเอาไว้ ตั้งแต่นั้นมา หลง ซุนกุย ก็รู้สึกซาบซึ้งต่อ ฝาง ฉงเหล่ ผู้มีพระคุณของเขาเป็นอย่างมาก”
“ประธาน ฝาง ฉงเหมิง ตอนนั้นเขากำลังเตรียมตัวที่จะฟ้อง Taste buds จากข้อหาในการแข่งขันที่ผิดกฎหมาย แต่ยังไม่ทันจะได้ฟ้องเขาก็จบลงด้วยการถูกลักพาตัวและเกือบจะถูกโยนลงไปในทะเลเพื่อเป็นอาหารปลา สิ่งนี้ทำให้เขากลัวมากจนเขาต้องออกจากเจียงเฉิงไปทันที หลังจากที่เขาขาย บริษัทหลัวฝาง ไปให้กับประธานชู และตอนนี้มันก็ยังไม่ได้ข่าวคราวอะไรเกี่ยวกับเขาเลยตั้งแต่นั้นมาจนถึงตอนนี้”
"ทำไมฉันถึงไม่รู้เลยว่า ท่านประธาน ถูกลักพาตัวไปโดยแก๊งมังกร" ลั่วฉี ถามพร้อมกับกระพริบ
สวี่ กว่างซ่ง เงยหน้าขึ้นมามองเธอแล้วพูดว่า“คุณจะไปรู้ได้ยังไง? ขนาดฉันเอง ยังเพิ่งจะรู้ตอนที่ฉันดื่มกับประธานฝาง เมื่อตอนที่เขาเมาเขาจึงได้เผลอพูดมันออกมา”
“ที่คุณหมายถึงก็คือ เนื่องจากฉันไปมีเรื่องกับ ฝาง ฉงเหล่ พวกแก๊งมังกรอาจจะมาหาฉันเหมือนกับที่พวกเขามาหา ฝาง ฉงเหมิง งั้นเหรอ” เสี่ยวหลัว ถาม
“มีโอกาสสูงมาก” สวี่ กว่างซ่ง พูดพร้อมกับพยักหน้า
“พวกเขาไม่กลัวถูกตำรวจจับเข้าคุกงั้นเหรอ” ลั่วฉี ถาม
“ลั่วฉี คุณไร้เดียงเกินไปแล้ว โลกมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คุณคิด สิ่งสกปรกทั้งหมดถูกซ่อนอยู่ภายหลังซุ้มที่งดงาม ตอนนี้ในทุกมุมของโลก มันอาจกำลังมีอาชญากรรมที่น่ากลัวเกิดขึ้นก็ได้ เหรียญมันมีสองด้าน มีสีดำมันก็มีสีขาว มันมีทั้งแสงสว่างและความมืด และในเมืองเจียงเฉิงแห่งนี้ พวกแก๊งมังกรมันก็กำลังแสดงให้เห็นถึงความมืด” สวี่ กว่างซ่ง พูดอย่างจริงจัง
เสี่ยวหลัวยิ้ม เขารู้สึกเห็นด้วยกับความคิดของ สวี่ กว่างซ่ง
เสี่ยวหลัวตบไปบนไหล่ของ สวี่ กว่างซ่ง แล้วพูดว่า“มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปคิดมากในตอนนี้ นมที่หกไปแล้วมันไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้ และด้วยเพียงแค่มือของคุณมันก็ไม่สามารถหยุดการไหลของสายน้ำได้หรอก”
เมื่อพูดจบ เสี่ยวหลัวก็เปิดประตูรถและเข้าไปในรถ
“ประธานเสี่ยว ฉันยังคิดว่ามันจะดีที่สุดถ้าคุณปรองดองกับ ฝาง ฉงเหล่ คนธรรมดาอย่างพวกเราไม่สามารถที่จะจัดการกับ แก๊งมังกร ได้ แม้แต่รัฐบาลก็ยังไม่สามารถที่จะทำอะไรกับพวกเขาได้เลย ถึงแม้ว่าเราจะจัดการกับแก๊งมังกรได้ แต่มันก็จะมีแก๊งอื่นที่เข้ามาแทนที่อยู่ดี การรักษาความสมดุลในปัจจุบันมันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว”
"ปรองดอง? ใช้วิธีการแบบเช่นเดียวกับรัฐบาลที่ลงนามในสนธิสัญญาที่โดนเอารัดเอาเปรียบ เพื่อให้เกิดสันติภาพแบบชั่วคราว งั้นเหรอ" เสี่ยวหลัว เย้ยหยัน
“เราไม่สามารถที่จะปรองดองได้อย่างแน่นอน เพราะว่าประธานฝาง เขาเป็นคนที่เลวทรามมาก แม้ว่าเราจะจ่ายเงินชดเชยให้กับเขา เขาก็คงจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ไปอยู่ดี และเขาก็คงจะคิดหาทุกวิถีทางที่จะทำลาย บริษัท หลัวฝาง ไปทีละน้อยอย่างแน่นอน” ลั่วฉี กล่าวด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ฉันกำลังคิดถึงความปลอดภัยของประธานเสี่ยว คุณจะไปเข้าใจอะไร” สวี่ กว่างซ่ง พูดตำหนิ
“หืมฉันไม่เชื่อหรอกว่า แก๊งมังกร จะปกคลุมท้องฟ้าในเมืองเจียงเฉิง ได้ด้วยมือข้างเดียว พวกมันเป็นเพียงกลุ่มอาชญากรรม พวกมันจะอยู่เหนือกฎหมายของประเทศได้ยังไง” ลั่วฉี พูด
"ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าคนอย่างคุณอาศัยอยู่ในโลกด้วยอุดมคติแบบนี้ได้ยังไง" สวี่ กว่างซ่ง ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกโกรธแล้วจริงๆ
สตาร์ทเครื่องยนต์ได้แล้วเราจะกลับไปที่ บริษัท !” เสี่ยวหลัวโบกมือและตัดการโต้แย้งของพวกเขา
......
หลังจากดูรายชื่อลูกค้าคนสำคัญหลายสิบคนที่จัดทำโดย หลี่ จื่อเมิ่ง เสี่ยวหลัว ก็มีแผนการที่จะกดดัน Taste Buds แล้ว ฝาง ฉงเหล่ ที่ทำให้เขาโกรธ แน่นอนว่าเขาตั้งใจที่จะคืนเอาคืนมันเป็นสองเท่า!
ยอดสั่งซื้อขนมไหว้พระจันทร์ทั้งหมดที่ Taste Buds ได้รับจาก บริษัท เหล่านี้ มีมูลค่ามากกว่า 30 ล้านหยวน นี่มันเป็นเพียงแค่ยอดสั่งซื้อที่มาจากเทศกาลดั้งเดิมเพียงเท่านั้น แล้วเมื่อรวมกับผลกำไรรายวัน จากร้านค้าของพวกเขา ผลตอบแทนจากอุตสาหกรรมขนมทั้งหมดนั่นมันจะมีกำไรรวมเป็นเท่าไหร่กัน
ดังนั้น เสี่ยวหลัว จึงวางแผนที่จะตัดรายได้หลักของ Taste Buds โดยใช้จุดอ่อนของพวกเขา ในการออกแบบแผนการเพื่อจัดการกับพวกมัน
ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยของเขา ลั่วฉี ผู้ซึ่งได้ทำงานกับเขาอย่างใกล้ชิด ในที่สุดเธอก็เริ่มใช้เล่ห์อุบายของเสี่ยวหลัวเป็นแล้ว พวกประธาน บริษัท เหล่านี้ พวกเขามักจะมีงานอดิเรกที่เป็นเอกลักษณ์เช่นการแข่งรถ, กีฬา, เที่ยวคลับหรือผู้หญิง
เสี่ยวหลัว ลงมือกับพวกเขาด้วยงานอดิเรกเหล่านี้ และส่วนใหญ่พวกเขาก็มักจะตกหลุมพรางของเขา เหมือนอย่างกับ จาง หงต้า แต่มันก็มีส่วนเล็กๆที่ไม่ได้ตกหลุมพราง แต่พวกเขาเหล่านั้นก็จะถูกจอมวายร้ายเสี่ยวหลัวเล่นงานโดยการลักพาตัวลูกๆของพวกเขามาขู่!
แผนการพวกนี้มันบ้ามาก!
มันไม่มีอะไรที่จะสุดโต่งมากไปกว่านี้อีกแล้ว!
