Chapter 105: พูดคุย
[โรงแรมนานาชาติเจียงเฉิง]
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ชายคนหนึ่งที่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกบนตัวของผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ เมื่อเขาได้ยินเสียงโทรศัพท์เขาจึงหยุดกิจกรรมของเขา แล้วรับโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด
“มีเรื่องอะไร? ถ้าไม่มีเรื่องอะไรที่ร้ายแรงหล่ะก็ แกก็คงจะรู้น่ะว่าจะเจอกับอะไร” ฮัว ไห่เฟิง พูดอย่างหงุดหงิดที่เขาโดนขัดจังหวะ
ที่ปลายอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์มีเสียงค่อนข้างแก่ชราดังขึ้นมา: "นายน้อย เสี่ยวหลัวปรากฏตัวขึ้นแล้ว!"
“เสี่ยวหลัวงั้นเหรอ เยี่ยมมาก! ฉันพยายามหามันมาเกือบเดือนแล้ว ในที่สุดมันก็ปรากฏตัวขึ้นมาสักที!” จากนั้น ฮัว ไห่เฟิง ก็ถามว่า “ที่ฉันขอให้แกไปหาคนไปหักมือของมัน ได้เรื่องยังไงบ้าง?”
“เอ่อคือเรื่องนั้น…ยังไม่”
"ยัง? แกหมายความว่าไง?" ฮัว ไฟ่เฟิง พูดขึ้นเสียงขึ้นมาในทันที
จากนั้นพ่อบ้านจึงตอบว่า“เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับนายน้อยทีหลัง ฉันจึงไปหาคนแปลกหน้ามาห้าคน และพวกเขาก็ต่อสู้ได้เก่งมาก พวกบอดี้การ์ดกว่ายี่สิบคนของบริษัทเรา ไม่สามารถต่อสู้กับพวกเขาได้เลยแม้แต่น้อย แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไร?” ฮัว ไห่เฟิง พูดขึ้นอย่างเย็นชา
“มันเป็นเพราะว่าเสี่ยวหลัวมันต่อสู้ได้เก่งมาก ทั้งห้าคนไม่สามารถทำอะไรกับมันได้เลย”
“ไอพวกขยะเอ้ย!”
ฮัว ไฟ่เฟิง รู้สึกเหมือนปอดของเขากำลังจะระเบิด “ฉันให้เงินแกไปสองแสน แต่แกยังจะไปจ้างไอพวกขยะแบบนั้นอีกงั้นเหรอ? แกมันโง่!”
พ่อบ้านรู้สึกอับอาย จริงๆแล้วเขาจ่ายเงินไปแค่ 20,000 หยวนเท่านั้นเอง ส่วนอีก 180,000 เขาเก็บเข้ากระเป๋าตัวเอง
“ในเมื่อภารกิจไม่สำเร็จ แกก็เอาเงินมาคืนให้ฉันสองแสน! และต้องเอามาคืนให้ครบทุกบาททุกสตางค์ ถ้าเงินหายไปแม้แต่หนึ่งเซ็นต์! ฉันจะถลกหนังของแกทิ้งซะ! ฮัว ไห่เฟิง คำรามเสียงดัง และวางสายโทรศัพท์ด้วยความโกรธ
สาวสวยที่อยู่ข้างๆเขา โอบรัดรอบคอของเขาเหมือนงู ปลายลิ้นอันร้อนแรงของเธอโลมเลียไปทั่วคอของเขา
"ไห่เฟิง มีเรื่องอะไรงั้นเหรอที่ทำให้คุณโกรธอย่างนี้"
เสียงของเธอกระเส่าเร้าอารมณ์มันกำลังแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์อันยั่วยวนของเธอ "อย่าโมโหไปเลย ให้ฉันช่วยคุณบรรเทาความโกรธเองนะ"
เมื่อมองไปที่สาวสวยที่อยู่ข้างกายเขา ฮัว ไห่เฟิง ก็แสดงรอยยิ้มที่สกปรกออกมา เขาขว้างโทรศัพท์มือถือของเขาทิ้ง และเหยียดมือของเขาออกมาบีบคางแหลมของเธอ: "สาวสวยเธออยากจะช่วยบรรเทาความโกรธของฉันงั้นเหรอ? ... "
"คุณทำแบบนี้ นัง จ้าว เหมิ่งชี จะไม่มาฆ่าฉันใช่ไหม" ผู้หญิงหัวเราะเบาๆ
ฮัว ไห่เฟิง โบกมือของเขาแล้วพูดว่า"อย่าพูดถึงนังนั่นเลย นังนั่นมักจะถามพี่ใหญ่คนนี้ถึงความฝันบ้าบอของเธอตลอดทั้งวัน นังนั่นมันก็แค่ของใหม่ที่พี่ใหญ่คนนี้เล่นสนุกด้วย แต่ตอนนี้พี่ใหญ่คนนี้เริ่มจะเบื่อหล่ะ ถ้าเบื่อแล้วพี่ใหญ่คนนี้ก็จะทิ้งของเล่นชิ้นนี้ไป และโทรหาเพื่อนๆให้มาเล่นสนุกกับนังนั่น ฮ่าฮ่าฮ่า!"
"ไห่เฟิง ถ้าคุณเบื่อฉัน คุณจะทำแบบนั้นกับฉันหรือเปล่า" หญิงสาวพูดเย้ยหยันตัวเองและแสร้งทำเป็นโกรธ
ฮัว ไห่เฟิง กลิ้งขึ้นไปคล่อมตัวเธอ: “เธอสวยกว่านังนั่นเป็นสิบเท่า และเธอก็ลีลาเด็ดดวงซะขนาดนี้ ฉันไม่เบื่อหรอก ฉันจะเล่นกับเธอไปตลอดชีวิต”
"จริงเหรอ?"
"แน่นอนมันเป็นความจริง เธอไม่เชื่อคำพูดของฉันคนนี้งั้นเหรอ "
หลังจากพูดจบ การต่อสู้ระหว่างชายกับหญิงก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
******
สามวันต่อมา เสี่ยวหลัวเขาก็ตัดสินใจได้แล้ว
“รอฉันที่นี่” เสี่ยวหลัว บอก จาง ซูซาน ให้รอเขาอยู่ที่นี่ เมื่อพวกเขาขับรถมาถึง ฉางชาน พาวิลเลี่ยน
"แกตัดสินใจว่ายังไง จะรับข้อเสนอหรือไม่รับข้อเสนอ?" จาง ซูซาน เป็นกังวลมาก เพราะเรื่องทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาในอนาคตของพวกเขาสองคน
เสี่ยวหลัว เลิกคิ้วขึ้นแล้วตอบว่า“ฉันไม่รับข้อเสนอ!”
"หา! แกพูดว่าอะไรนะ ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่แกพูด” เห็นได้ชัดว่า จาง ซูซาน เขาไม่เข้าใจคำตอบของเสี่ยวหลัว
“ไม่ต้องกังวลกับมัน แค่รอฉันที่นี่ รอให้ฉันกลับออกมา”
จากนั้นเสี่ยวหลัวก็หันหลังเดินเข้าไปในอาคารสูงเบื้องหน้าเขา
... ...
ชู หยุนเชียง ที่สวมชุดสูทและรองเท้าหนัง กำลังรอการมาถึงของเสี่ยวหลัว อยู่ในสำนักงาน
เขามองดูเสี่ยวหลัว เดินมานั่งยังฝั่งตรงข้ามของเขา เขาถามว่า “เสี่ยวหลัว คุณคิดยังไงกับข้อเสนอของฉัน?”
"ดูนี่ก่อนสิ"
เสี่ยวหลัวนำกระดาษออกมาจากกระเป๋าของเขา แล้วยื่นมันไปให้ ชู หยุนเชียง
ชู หยุนเชียง มองกระดาษที่อยู่ในมือและขมวดคิ้ว “IOU?”
ในเอกสารระบุอย่างชัดเจนว่า เสี่ยวหลัว ต้องการที่จะยืมเงินหกร้อยล้าน จาก ชู หยุนเชียง ที่เป็นเจ้าของ ฉางชาน พาวิลเลี่ยน ชื่อของผู้กู้และผู้ให้ยืมรวมทั้งวันที่ได้ถูกเขียนออกมาอย่างชัดเจน มันระบุ ระยะเวลาหนึ่งปีและรวมถึงอัตราดอกเบี้ยรายเดือนเอาไว้หมดแล้ว เสี่ยวหลัวนั้นได้ลงนามและประทับรอยนิ้วมือของเขาด้วยหมึกสีแดงสดเอาไว้แล้วด้วย
นี่เป็น IOU ที่ละเอียดมาก!
"คุณกำลังทำอะไร?" ชู หยุนเชียง รู้สึกงุนงง
เสี่ยวหลัวหัวเราะแล้วพูดว่า“คุณชู คุณได้ซื้อ บริษัท หลัวฝาง เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นห้าร้อยห้าสิบล้านหยวน ตอนนี้ฉันต้องการที่จะซื้อมันจากคุณ ในราคาหกร้อยล้านหยวน”
“หืม?”
ทันใดนั้นดวงตาของ ชู หยุนเชียง ก็คมชัดขึ้น "คุณต้องการ ที่จะคุยกับฉันเกี่ยวกับเรืาองธุรกิจงั้นเหรอ?"
เสี่ยวหลัวพยักหน้าและพูดว่า“จากการคำนวณของผม ผมได้พบว่าบริษัทหลัวฝาง กำลังขาดทุนเป็นจำนวนเงิน สามแสน หยวนอยู่ทุกวัน อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นเหมือนเผือกร้อน และทุกคนก็รู้สึกอึดอัดกับมันในเรื่องนี้”
ในขณะที่เขากำลังพูด เขาก็ส่งรายงานการขาดทุนให้กับ ชู หยุนเชียง ดู
เมื่อรายงานการขาดทุนของ บริษัท หลัวฝาง ถูกส่งไปถึงมือของ ชู หยุนเชียง
ชู หยุนเชียง ก็ลืมตาขึ้นและพูดว่า: "เนื่องจาก หลัวฝาง เป็นเผือกร้อน แล้วทำไมคุณถึงต้องการที่จะซื้อมันอยู่อีกหละ?"
“เพราะว่าผมมั่นใจว่า ผมสามารถนำมันกลับมาได้” เสี่ยวหลัว ตอบอย่างสงบและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ดวงตาของ ชู หยุนเชียง หดแคบลง ที่เขาซื้อ บริษัท หลัวฝาง มันเป็นเพราะว่าเขาต้องการที่จะช่วย ฝาง ฉงเหมิง แม้แต่เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถกู้คืนได้บริษัท หลัวฝาง กลับขึ้นมาได้อีกครั้ง และนอกจากนี้เขาก็ต้องการใช้บริษัท หลัวฝาง เพื่อที่ต้องการจะเก็บเสี่ยวหลัว เอาไว้ข้างตัว การที่บริษัท หลัวฝาง จะสามารถกลับขึ้นมาได้หรือไม่นั้น มันไม่ได้อยู่ในความสนใจของเขาเลย
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะคิดว่า หลัวฝาง นั้นจะไม่สามารถกู้คืนกลับมาได้แล้ว แต่เมื่อเขาได้เห็น เสี่ยวหลัว พูดอย่างมันใจว่าจะกู้มันกลับคืนมาเช่นนี้ เรื่องนี้มันก็ได้ไปกระตุ้นความภาคภูมิใจของเขาในฐานะนักธุรกิจขึ้นมาอีกครั้ง
"หลัวฝาง นั้นไม่ได้มีแค่ปัญหาเรื่องชื่อเสียงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น มันยังมีปัญหาด้านโครงสร้างและการจัดการของ บริษัท อีก นอกจากนี้ยังมีปัญหาใหญ่เรื่องคู่แข่งที่แข็งแกร่งอีก คุณมีความมั่นใจจริงๆนะว่า ที่จะนำมันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง" ชู หยุนเชียง มองไปที่เสี่ยวหลัว
"ผมคิดว่า ผมไม่จำเป็นที่จะต้องตอบคำถามนี้ ผมต้องการทราบว่าคุณชู ยินดีที่จะขาย หลัวฝาง ให้กับผมหรือเปล่า?" เสี่ยวหลัว พูด
เขาคนนี้มีความทะเยอทะยานมาก เขาไม่เพียงแต่อยากได้ หลัวฝาง แต่เขากลับอยากได้มันทั้งหมด!
ชู หยุนเชียง ยิ้มและพูดว่า“ฉันใช้เงินห้าร้อยห้าสิบล้านหยวน เพื่อซื้อหลัวฝาง แต่ตอนนี้คุณต้องการใช้เงินหกร้อยล้าน เพื่อซื้อมันมาจากฉัน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าฉันจะได้รับกำไรห้าสิบล้านหยวนจากมัน เมื่อมองโดยรวมแล้วดูเหมือนว่าฉันควรจะเห็นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ในปัจจุบันของ หลัวฝาง มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องปฏิเสธ เพียงแต่ว่าเธอไม่ได้ให้เงินฉันมาหกร้อยล้านจริงๆ เธอให้ฉันมาเป็นเพียงกระดาษ IOU หนึ่งแผ่น ดูเหมือนว่าเธอกำลังพยายามจับเสือมือเปล่าอยู่นะ”
เสี่ยวหลัว เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะมาที่นี่เขาได้เตรียมใจสำหรับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นอยู่ก่อนแล้ว หาก ชู หยุนเชียง เห็นด้วย เขาก็จะดำเนินการบริหารบริษัท หลัวฝาง และท้าทายมัน หาก ชู หยุนเชียง ไม่เห็นด้วย เขาก็คิดว่ามันไม่เห็นจะมีอะไร ทุกอย่างมันก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เขาก็แค่เริ่มต้นใหม่อีกครั้งก็เท่านั้นเอง