ตอนที่แล้วบทที่ 148 ดูบ้าน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 150 ปลาปักเป้า 5 ขั้ว !

บทที่ 149 ศาลาภูเขาอันบอบบาง


บทที่ 149 ศาลาภูเขาอันบอบบาง

เจิ้งซวนพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหันกลับไปและพาทั้งสองเข้าไปในบ้าน

การตกแต่งภายในบ้านไม่ได้หรูหราตามที่เป่ยเฟิงคิดไว้ การออกแบบบ้านหลังนี้ไม่ใช่สไตล์ยุโรป แต่เป็นจีนดั้งเดิม ทำให้รู้สึกถึงความงดงามที่ถูกปิดผนึกไว้มาหลายร้อยปี

เป่ยเฟิงรู้สึกราวกับว่าได้เดินเข้าไปยังวิถีชีวิตคนจีนแบบดั้งเดิม ความคิดเรื่องต่าง ๆ และความยุ่งเหยิงเรื่องไร้สาระถูกลืมไปทั้งหมด เขารู้สึกราวกับว่ากำลังนั่งจิบชาเบา ๆ มันให้ความรู้สึกสวยงามและอ่อนโยนไปพร้อม ๆ กัน

การออกแบบภายในบ้านเหมือนมีแก่นแท้ของบ้านจีนสมัยดั้งเดิมและมันยังคงรักษารูปแบบศิลปะเอกลักษณ์เฉพาะเอาไว้ มันดูหรูหราแต่ก็เรียบง่าย มันมีสไตล์ที่เหมือนกับการใช้ชีวิตของขงจื้อ มันคือการเอาความคิดของหลักพระพุทธศาสนามาใช้ประมาณว่าพระคุณซ่อนเร้นแต่ก็สง่างามแบบชนบท มันมีทั้งความหมายและความสง่างาม

มีภาพวาดด้วยหมึกแขวนไว้อยู่บนผนัง แม้ว่าเป่ยเฟิงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องศิลปะมากนัก แต่เขาก็รู้สึกสบายใจอย่างมากเมื่อมองมัน เขารู้สึกได้ถึงจิตวิญญาณของภาพวาด มันราวกับว่าเขาได้ตกไปอยู่ในโลกของภาพวาด !

มีแจกันที่ประณีตอยู่ตามทางเดิน พวกมันมีสีสันสดใสและมีลวดลายที่เป็นเหมือนลมและน้ำที่ถูกวาดอยู่ด้านข้าง ลวดลายเหล่านี้มันดูเหมือนจริงอย่างมาก

"มีทั้งหมด 12 ห้อง และมีคนรับใช้อยู่ 2 คน นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำแบบเปิดด้วย นอกเหนือจากพื้นที่รอบ ๆ ตัวบ้านก็ยังมีพวกเฟอร์นิเจอร์กับอุปกรณ์ตกแต่งรวมอยู่ด้วย"

ชายชราโบกมือไปมาพร้อมกับสีหน้าหนักใจ

เป่ยเฟิงสามารถบอกได้เลยว่าชายชราคนนี้น่าจะมีความรู้สึกลึกซึ้งกับของทุกอย่างในบ้าน มันดูเหมือนเขาลังเลที่จะขายบ้านหลังนี้

สุดท้ายชายชราคนนี้ก็ยังคงอยากใช้ชีวิตในส่วนสุดท้ายกับครอบครัวของเขา ลูก ๆ ของเขาขอให้เขาย้ายไปอาศัยอยู่กับพวกเขาในต่างประเทศ หลังจากคิดไปคิดมาสุดท้ายเขาก็เลือกที่จะยอมแพ้และตามไป

"ฉันชอบบ้านหลังนี้ มันราคาเท่าไหร่ ?" เป่ยเฟิงถามในขณะที่เดียวกันเขาก็เริ่มชอบบ้านหลังนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากภูเขาที่เงียบสงบและสวยงามแล้ว ตัวบ้านยังเหมาะกับเขาอย่างมาก

"300 ล้าน ! เราสามารถเซ็นเอกสารได้เลยในตอนนี้"

เจิ้งซวนมองเป่ยเฟิงและยกมือขึ้นมาสามนิ้วพร้อมกับถอนหายใจ

เป่ยเฟิงขมวดคิ้วเบา ๆ ราคานี้แพงมาก ! เขาหันไปรอบ ๆ แล้วถาม "เรามีเงินเท่าไหร่ตอนนี้ ?"

"บอส เรามีแค่ 50 ล้านเท่านั้นในตอนนี้ หากคุณต้องการซื้อบ้านหลังนี้เราจะต้องขายธุรกิจบางส่วนของแก๊งไป"

ลึกลับที่ 4 ตอบด้วยความเคารพ

"ฉันมีอยู่ 100 ล้าน แต่มันก็ยังคงขาดอยู่นิดหน่อย งั้นขายพวกมันออกไปซะ" เป่ยเฟิงออกคำสั่งโดยไม่สั่งเล

เหตุผลที่เขาสร้างแก๊งใต้ดินขึ้นมานั้นก็เพราะว่าเขาไม่ต้องการทำอะไรด้วยตัวเองไปทุกอย่าง

ธุรกิจบางอย่างเป็นรายได้สำคัญของแก๊ง แน่นอนว่าแก๊งใหญ่ ๆ แบบนี้ต้องจ่ายเงินค่าจ้างที่มหาศาลสำหรับเงินลูกน้องพวกเขา

แต่เป่ยเฟิงไม่ได้สนใจเลย แก๊งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองกับความต้องการของเขา ถ้าขายอยากจะยุบ เขาก็จะยุบ เขาอยากจะขายอะไรออกไป เขาก็จะขาย

เมื่อเห็นว่าเป่ยเฟิงตัดสินใจไปแล้ว ลึกลับที่ 4 ก็พยักหน้าทันที

เขารีบเดินออกไปและโทรหาแก๊งวูลง

โรงอาบน้ำ 5 โรงภายใต้แก๊งเป่ยเฟิงถูกขายให้กับแก๊งวูลงด้วยจำนวนเงินถึง 230 ล้านหยวน

เมื่อเงินถูกโอนให้กับเป่ยเฟิงแล้ว เขากับเจิ้งซวนก็เดินทางไปที่ธนาคารกันทันที

เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว พวกเขาก็เดินทางมาที่ร้านศาลาภูเขาบอบบางเพื่อทานอาหารเย็น

ตัวร้านไม่ใหญ่มาก และมีเพียงสี่ห้องเท่านั้น อย่างไรก็ตามเพราะมันตั้งอยู่ในเมืองที่วุ่นวาย ด้วยการออกแบบตัวร้านแบบดั้งเดิมและส่งกลิ่นอายสมัยโบราณนอกจากนี้ยังอยู่ในเขตเมืองที่หรูหรา มันจึงบ่งบอกได้เลยว่าร้านแห่งนี้มีอำนาจและอิทธิพลหนุนหลังมากแค่ไหน

"หนุ่มน้อย อาหารที่นี่อร่อยจนยากจะอธิบาย ฉันขอรับประกันได้เลยว่าถ้านายได้กินครั้งนึงแล้วนายจะต้องอยากกลับมากินอีก อ่า มันเป็นเรื่องยากจริง ๆ สำหรับฉันที่จะต้องย้ายไปต่างประเทศ ฉันคงจะไม่ได้มาที่นี่อีกแล้ว" เจิ้งซวนถอนหายใจเบา ๆ

เป่ยเฟิงและลึกลับที่ 4 รู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าจะตอบสนองกับคำพูดของชายชราคนนี้ยังไง แม้ว่าเขาจะย้ายไปอยู่กับครอบครัวที่ต่างประเทศ แต่มันก็เหมือนกับเขาได้จากรังที่อาศัยอยู่มานานหลายปีไปสู่ดินแดนที่ไม่รู้จัก มันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่าเขาจะหดหู่แค่ไหน

อาหารสี่จานและซุปถูกเสิร์ฟ มันน่าประหลาดใจอย่างมากที่สามในสี่เป็นผัก ! ส่วนจานที่เหลือมันคือซุปเนื้อ

"ในสมัยโบราณ ชาวบ้านที่อยู่บนภูเขาให้ความสำคัญกับอาหารเจ็ดอย่าง ได้แก่ ตีนหมี งวงช้าง เส้นเอ็นกวาง โหนกอูฐ กลืนรัง ราไผ่ เห็ดแผงสิงโต แต่มันยากที่นายจะหากินมัน ของเหล่านี้ทั้งหมดถูกจัดให้อยู่ในการคุ้มครอง"

เจิ้งซวนอธิบายด้วยรอยยิ้ม

เป่ยเฟิงเมื่อได้ยินคำพูดของชายชราเขาได้แต่คิด บัดซบ ไอ้ร้านเก่า ๆ บัดซบนี้มันต้องไม่ใช่ร้านธรรมดาแน่ ๆ ! ศาลาภูเขาบอบบางมันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่นอน ! พวกวัตถุดิบแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่คนปกติจะหามากินในหลายทศวรรษนี้ !

เขาส่ายหัวแล้วหันไปสนใจอาหารบนโต๊ะ จานที่อยู่ใกล้เขาที่สุดคือจานหน่อไม้ผัด ตัวหน่อไม้ทั้งหมดมีขนาดเท่ากันและแวววาวประกายเหมือนหยกขาว มันมีหน่อสีชมพูอยู่บนแต่ละหน่อ พวกมันมีชิ้นเล็ก ๆ และดูเหมือนจะถูกตัดออกมากแบบเจาะจง จานหน่อไม้ผัดเล็ก ๆ แบบนี้ดูเหมือนจะทำมาจากยอดไผ่หลายต้น !

อย่าถามว่าเป่ยเฟิงรู้เรื่องแบบนี้ได้อย่างไร เขารู้ดีว่าหน่อไม้ควรจะเป็นรูปกรวย มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างจานแบบนี้โดยมีหน่อไม้ที่ถูกตัดอย่างสม่ำเสมอเพียงหน่อเดียว

เขาหยิบชิ้นเล็ก ๆ ขึ้นมาด้วยตะเกียบแล้วนำมันเข้าปาก รสชาติมันค่อนข้างอ่อนแต่ก็ไม่มากเกินไป มันมีเพียงเนื้อนุ่ม ๆ รสขมที่ผสมกับความหวานอยู่ในปาก

รสชาติที่สดชื่นของหน่อไผ่ถูกนำออกมาให้มากที่สุดในจานนี้ มันแตกต่างจากร้านอื่น ๆ ที่จะเน้นเพิ่มรสชาติต่าง ๆ มากไปกว่ารสชาติดั้งเดิมของหน่อไม้

ดวงตาของเป่ยเฟิงสว่างไสวไปด้วยความยินดี 'แม้แต่ส่วนผสมปกติก็สามารถเอามาปรุงจนเป็นรสชาติที่ยอดเยี่ยมได้ ! นี้คือทักษะการทำอาหาร !'

แม้ว่าส่วนผสมปกติจะไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเป่ยเฟิง แต่เพียงรสชาติมันก็เพียงพอแล้วที่จะปล่อยให้เขาดื่มด่ำกับความสุขนี้

เขายกตะเกียบขึ้นมาแล้วมุ่งไปที่จานเนื้อที่ไม่รู้จัก

สิ่งแรกที่เป่ยเฟิงรู้สึกเมื่อเนื้อเข้าปากนั่นคือมันเรียบเนียน มันมีน้ำผลไม้รสอ่อน ๆ ที่ถูกเก็บไว้ในเนื้อระเบิดออกมาในปากของเขา เนื้อสัตว์ดูเหมือนจะละลายไปในทันที ด้วยเนื้อที่นุ่มและความเด้งของตัวเอง มันขมและส่งกลิ่นหอมออกมาเรื่อย ๆ ในขณะที่เขาเคี้ยว

"นี่คือเนื้อกระต่าย ?" เป่ยเฟิงถามอย่างไม่แน่ใจ

"ฮ่าฮ่า นั่นไม่ใช่กระต่าย แต่เป็นเนื้อหนู หนูที่จะปรากฏตัวออกมาแค่ปีละครั้ง !"

เสียงหัวเราะที่สดใสดังออกมาจากนอกประตู มันคือชายชราที่สวมชุดจีนแดงเดินเข้ามา

"ตาแก่ซวน แกก็อายุมากแล้ว แต่แกยังอยากจะอยู่ที่นี่ต่องั้นเหรอ ? หรือแกไม่อยากไปต่างประเทศแล้ว ?" ชายชราบ่นออกมาทันทีที่เข้ามาในห้อง จากลักษณะของเขาดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะรู้จักกันดี เพราะคำพูดดังกล่าวเป็นสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถพูดกับเจิ้งซวนได้

"ฮ่าฮ่า แกคงจะห่วงว่าร้านแกจะมีคนเข้าร้านหรือเปล่าถ้าฉันออกไปสินะ ?"

รอยยิ้มที่ไม่สามารถเห็นได้ปรากฏบนหน้าเจิ้งซวน "ที่ฉันมาวันนี้ก็เพราะฉันหาลูกค้าดี ๆ มาหาให้ มันขึ้นอยู่กับทักษะการทำอาหารของแกแล้วว่าจะเปลี่ยนลูกค้าธรรมดาเป็นลูกคนประจำได้หรือเปล่า"

"โอ้ ? สงสัยฉันจะต้องใช้ความสามารถที่แท้จริงซะแล้ว มาดูกันว่าหนุ่มน้อยคนนี้จะกล้ากินมันหรือเปล่า"

ชายชราชุดแดงหัวเราะออกมาเบาะ ๆ ในขณะที่เขาตรวจสอบเป่ยเฟิงด้วยตาของเขา

ลูกค้าเลือกพ่อครัว แต่พ่อครัวชั้นยอดจะเลือกลูกค้าของพวกเขา !

"ฉันไม่กลัวหรอก มาสิ ..." เป่ยเฟิงเริ่มตื่นเต้นอย่างมาก ชายชราน่าสนใจอย่างมาก เขาบอกว่าขึ้นอยู่กับความกล้าหาญของลูกค้าที่จะกินอาหารของเขา ? มันทำให้เป่ยเฟิงคาดหวังในรสชาติอย่างมาก

ชายชรายักคิ้วเล็กน้อยและยิ้ม "ดี เอาเป็นนายก่อน เดียวฉันมา !" หลังจากนั้นเขาก็เดินออกไป

20 นาทีต่อมาเขาก็กลับมา มาพร้อมกับจานอาหารที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด