บทที่ 146 เรื่องตลกของจิ้งจอกน้อย
บทที่ 146 เรื่องตลกของจิ้งจอกน้อย
สัตว์ทั้งสามถูกทุบตีลงพื้นแต่มันก็ไม่ได้บาดเจ็บมากนักเพราะเป่ยเฟิงยังคงเมตตาพวกมันอยู่
หากไม่อย่างนั้น ต่อให้พวกมันแข็งแกร่งกว่าผู้ที่อยู่ระดับเจียงแห่งความมืดก็ยังคงไม่สามารถรับการโจมตีของเป่ยเฟิงได้อยู่ดี และยิ่งกับเป่ยเฟิงผู้ที่อยู่ระดับสูงสุดของเจียงแห่งวิวัฒนาการด้วยแล้ว พวกมันทำได้เพียงแค่กลายเป็นหินให้เขาเหยียบย้ำเท่านั้น !
เหตุผลที่ผู้เชี่ยวชาญระดับเจียงแห่งวิวัฒนาการมีร่างกายที่แข็งแรงกว่าคนปกติหลายเท่า นั่นก็เพราะว่าเขาสามารถควบคุมเลือดและพลังฉีของเขาได้ มันจึงทำให้เขาสามารถควบคุมส่วนต่าง ๆ ที่คนปกติไม่มีทางเข้าถึงได้ !
"กลับไปพัฒนาตัวเองให้มากกว่านี้ รอบนี้ฉันจะปล่อยพวกแกไปก่อน แต่ถ้าพวกแกยังกล้าเข้ามาอีกละก็ ตาย !"
เป่ยเฟิงส่งพลังจิตของเขาไปยังสัตว์ทั้งสาม เขาสื่อสารกับพวกมันด้วยจิตวิญญาณของเขา
การสื่อสารปกติถูกจำกัดด้วยภาษา แต่นั่นมันใช้ไม่ได้กลับจิตวิญญาณ !
เป่ยเฟิงครุ่นคิดอย่างจริงจัง สัตว์ทั้งสามมีชีวิตอยู่มานานแค่ไหนมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ ปัจจุบันสัตว์ที่สามารถมีพลังระดับนี้ได้ในโลกใบนี้มันหายากมาก ! มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะเจอมัน
ความแตกต่างของสัตว์อสูรอีกโลกกับสัตว์บนโลกใบนี้แตกต่างกันอย่างมาก เนื่องจากอีกโลกมีสมบัติล้ำค่าและทรัพยากรมากมาย เพียงแค่พวกมันเดินเล่นและอาศัยอยู่ในที่เหมาะ ๆ ที่จะฝึกฝน พวกมันก็สามารถพัฒนาตัวเองได้แล้ว หากว่าเป่ยเฟิงเจอพวกมัน เขาจะไม่ลังเลแม้แต่น้อยในการฆ่ามัน
สัตว์ทั้งสามถูกขู่โดยเป่ยเฟิง พวกมันจึงไม่กล้าเข้าไปใกล้อีกต่อไป อย่างไรก็ตามกลิ่นหอมจากต้นข้าวมันก็ทำให้พวกมันไม่เต็มใจที่จะจากไป
เป่ยเฟิงไม่สนใจพวกมันอีกต่อไป เขาได้เมตตาพวกมันมากแล้ว หากว่าพวกมันยังไม่รักชีวิตก็เป็นไปได้ว่าเมนูอาหารเย็นคืนนี้ของเขาคงจะเป็นพวกมัน
ในเวลาสั้น ๆ เขามองไปที่ต้นไม้เล็ก ๆ ที่กำลังเหี่ยวเฉาและค่อย ๆ ล้มลงพื้น
ผลไม้สีเขียวเปลี่ยนเป็นสีทอง แต่ละผลมีขนาดเท่าส้มโอและส่งกลิ่นหอมออกมา
"ตุ้บ !"
หนึ่งในนั้นหลุดออกมาและกลิ้งมาตรงเท้าของเป่ยเฟิง
เขาก้มลงและหยิบมันขึ้นมาชั่งน้ำหนักไว้บนมือ ผลไม้มันไม่ได้เบาเลย ข้างในน่าจะเต็มไปด้วยเนื้อของมัน
เป่ยเฟิงผ่าพวกมันออกมาทำให้เห็นเนื้อสีทองภายใน มันมีเม็ดสีทองมันวาวอยู่เต็มไปหมด พวกมันดูคล้ายกับเมล็ดข้าวที่ถูกเอาเปลือกออก
เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วนำเข้าไป "กรึบ เหนียวมาก ! เนื้อสัมผัสของมันแตกต่างจากข้าวแม่น้ำขาวก่อนหน้านี้ลิกลับ !"
ข้าวแม่น้ำขาวที่เขากินก่อนหน้านี้มันเหมือนข้าวอ่อน มันฉ่ำและเหนียวเล็กน้อย แต่ข้าวครั้งนี้มันเหมือนข้าวแก่ มันแข็งและเต็มไปด้วยเนื้อของมัน
ถึงแม้ว่ามันจะเหนียว ๆ แข็ง ๆ แต่ว่ารสชาติของมันค่อนข้างดีทีเดียว มันมีความหวานและกลิ่นหอมที่มองไม่เห็นติดค้างอยู่ในปากของเขา มันมีรสชาติเบา ๆ แต่กลับสามารถทำให้เขาอยากกินอีก
เป่ยเฟิงปิดตาแล้วนำลิ้นเลียไปมาในเพดานปาก เขาเลียเศษรสชาติของข้าวที่เหลืออยู่จากนั้นมันมารวมกันให้กลายเป็นแป้งไว้บนลิ้นของเขา
"ฟ่ออออ !"
เสียงโห่ร้องดังออกมา มันเป็นงูสีแดงตัวเล็ก ๆ พยายามจะโจมตีเขา !
มันกระแทกพื้นด้วยหางของมันและพุ่งไปยังเป่ยเฟิงเหมือนลูกศร ในพริบตามันก็บินไปไกลกว่า 5 เมตร ! งูตัวเล็ก ๆ เปิดปากเผยให้เห็นเขี้ยวของมัน มันเล็งไปยังลำคอของเป่ยเฟิง
อาวุธที่ร้ายกายที่สุดของมันคือพิษ ตราบใดที่มีนสามารถฉีดพิษเพียงเล็กน้อยเข้าไปในกระแสเลือดของสิ่งมีชีวิตใด ๆ สิ่งมีชีวิตนั้นก็จะตายในไม่กี่วินาทีโดยไม่มีทางรักษา !
"วิ้ง !"
เสียงเบา ๆ จากนั้นก็มีลำแสงสีทองขนาดเล็กบินออกมาจากแขนเสื้อของเป่ยเฟิง ลำแสงสีทองพุ่งไปยังงูตัวเล็กก่อนจะบินกลับมาหาเป่ยเฟิงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"แกร๊ก !"
งูตัวน้อยถูกหยุดไว้กลางอากาศ จากนั้นก็มีรอยแยกปรากฏออกมาบนหัวของมันทำให้มันถูกแยกออกเป็นสองส่วนแล้วหล่นลงบนพื้น
เป่ยเฟิงเปิดตาช้า ๆ แล้วมองไปที่งูก่อนจะพูดออกมาด้วยความรังเกียจ "งี่เง่า !"
ทุกอย่างในระยะ 300 เมตรโดยมีเขาเป็นจุดศูนย์กลางทั้งหมดอยู่ในการรับรู้ของเขา ในสายตาเขาไม่ว่าอะไรก็ตามที่เข้ามาในระยะพวกมันจะมีความเร็วลดลงถึง 10 เท่า !
ถึงแม้ว่ามีดบินจะถูกปิดผนึกไว้ในตัวเขา แต่ตราบใดที่มีเขาต้องการมันก็สามารถปรากฏออกมาได้ทันทีในระยะ 3 เมตรจากตัวเขา !
แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจถึงรูปแบบการโจมตีของมีดบินและไม่สามารถใช้งานความสามารถของมันได้เต็มที่ แต่เพียงแค่ความเร็วกับคุณภาพของตัวมีดมันก็เพียงพอแล้วที่จะใช้มันเป็นอาวุธสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดหากมันอยู่ในมือของเป่ยเฟิง !
ด้วยความสามารถทั้งหมดของเขา หากเขาต้องการโจมตีเขาเพียงแค่คิด ! เว้นซะแต่ว่าเขาจะตอบโต้ไม่ทันหรือรู้สึกตัวช้าเกินไป นอกนั้นก็ไม่มีอะไรทำอันตรายเขาได้
จริง ๆ แล้วเป่ยเฟิงยังคงมีคำถามที่สงสัยมานานแล้วเช่นกัน เหตุใดไข่มุกสะเทือนฟ้าถึงถูกระบบจัดให้อยู่ในสมบัติระดับ 2 ทั้ง ๆ ที่อำนาจการทำลายล้างของมันยิ่งใหญ่อย่างมาก ต่อให้เป็นเป่ยเฟิงในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถรอดจากระเบิดนั้นได้ ! เขาไม่รู้ว่าทำไมระบบถึงจัดให้มันอยู่เพียงระดับ 2 หรืออาจจะเพราะมันใช้ได้ครั้งเดียวหรือไม่ก็อาจจะมีเหตุผลบางอย่าง
หลังจากมีผลไม้ร่วงลงพื้น ก็เริ่มมีผลอื่นร่วงตามมาทีละลูก จิ้งจอกน้อยที่อยู่บนไหล่ของเป่ยเฟิงเต็มไปด้วยความสุข มันยิ้มจนดวงตาของมันกลายเป็นรูเล็ก ๆ รอยยิ้มของมันกว้างจนถึงใบหู ส่วนแบ่ง 40 % มันเพียงพอที่จะให้มันเพลิดเพลินเป็นเวลานาน !
เมื่อผลสุดท้ายร่วงลง ต้นไม้ก็สูญเสียพลังชีวิตทั้งหมดและเริ่มสลายไป
เป่ยเฟิงเดินไปและเก็บผลไม้ไว้ในแหวนของเขา หลังจากเก็บไปจนเหลือ 2 ผล เขาก็ยิ้มเบา ๆ ก่อนจะโยนมันไปยังสัตว์สองตัวใกล้ ๆ
"โฮ่ง ?"
หมาป่าสีเขียวกับนกประหลาดมองเป่ยเฟิงด้วยความประหลาดใจ หมาป่าสีเขียวเดินไปข้างหน้าด้วยความลังเลก่อนจะคว้าผลไม้ขึ้นมาด้วยปากของมัน จากนั้นก็หันไปมองเป่ยเฟิงด้วยความรู้สึกบางอย่างก่อนจะหันหลังเดินนำฝูงของมันกลับเข้าไปในป่า
นกประหลาดก็คว้าผลไม้ด้วยกรงเล็กของมันก่อนจะกางปีกแล้วบินออกไป มันบินขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็วและในเวลาสั้น ๆ มันก็กลายเป็นจุดสีดำเล็ก ๆ บนฟ้า
'ในเมื่อโอกาสมาถึงพวกแกสองตัวแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของพวกแกว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน' เป่ยเฟิงคิดอย่างจริงจังในขณะเฝ้าดูพวกมันหายไป
หลังจากที่ต้นข้าวแห้งเหี่ยวและผลไม้ถูกเก็บไปจนหมด มันทำให้กลิ่นหอมทั้งหมดหายไปและทำให้พวกงูที่เหลือเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
บางตัวเริ่มต่อสู้เพื่อแย่งร่างของงูสีแดง ในขณะที่ตัวอื่น ๆ ก็รีบหนีเข้าไปในป่า
เป่ยเฟิงรีบเดินออกจากจุดนั้น เขาไม่สนใจการต่อสู้ของพวกมันแม้แต่น้อย เขาเดินกลับไปที่บ้านโดยมีจิ้งจอกน้อยเดินนำหน้า มันเชิดหน้าแล้วหันไปมองเป่ยเฟิงพร้อมกับความตื่นเต้นในสายตาของมัน
เมื่อเห็นมัน เป่ยเฟิงก็ไม่ได้ทำอะไรมาก เขานำผลข้าวแม่น้ำขาวออกมาวางไว้ข้างหน้าจิ้งจอกน้อย
"มิ้ว !"
จิ้งจอกน้อยกระโดดไปมาอย่างมีความสุข มันลูบผลไม้ขนาดใหญ่ด้วยอุ้งเท้าของมันและสูดกลิ่นด้วยใบหน้ามีความสุข
จากนั่นมันก็ยืดขาหน้าออกไปกอดผลไม้สีทอง แล้วใช้ขาหลังดันพื้น จิ้งจอกน้อยพยายามที่จะกลิ้งผลไม้ออกไป แต่แม้ว่ามันจะใช้กำลังทั้งหมด แต่ตัวผลไม้กลับไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย !
"มิ้ว ?" จิ้งจอกน้อยก้มมองผลไม้ก่อนจะนำมันมาเทียบกับขนาดตัวของมัน หลังจากนั้นใบหน้าของมันก็เต็มไปด้วยความเศร้า ความตื่นเต้นก่อนหน้านี้ถูกทำลายลงไปเมื่อมันสังเกตเห็นว่าผลไม้มันมีขนาดใหญ่กว่าตัวมัน ! มันไม่สามารถกลิ้งมันออกไปได้ !
แท้จริงแล้วจิ้งจอกน้อยตัวเล็กอย่างมากขนาดที่มันขดเป็นวงกลมก็ยังเล็กกว่าครึ่ง ! นอกจากพลังจิตที่แข็งแกร่งกับทักษะความโชคร้ายของมันก็ไม่มีอะไรอีกเลย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่มันจะกลิ้งผลไม้ขนาดใหญ่นี้ไม่ได้
"จิ้งจอกน้อย เธอก็เห็นว่าเธอทำอะไรมันไม่ได้แม้แต่จะขยับมัน เอางี้ มันจะปลอดภัยสำหรับเธอถ้าให้ฉันเก็บไว้ ถ้าเธออยากกินเมื่อไหร่ก็บอกฉัน คิดว่าไง ?" เป่ยเฟิงยิ้มอย่างใสซื่อในขณะที่พูดออกมา