บทที่ 13 ความสามารถที่เปิดเผยต่อโลก (4)
เพเรียนจุน
ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของสถาบันเวสต์โร้ดมีเพียงไม่กี่คนที่มีความสามารถเท่าเขา
เขาเป็นหัวหน้าชมรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสถาบันคือโทร์วแมนริงส์รวมถึงเป็นทายาทของตระกูลจุนซึ่งเป็นหนึ่งในสามของผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในจักรวรรดิ
แม้แต่รูปลักษณ์ของเขาก็ดึงดูดความสนใจ แม้ว่าจะไม่ยากที่จะเข้าใจว่าทำไม
ด้วยใบหน้าที่ซีดแต่งดงาม เมื่อใดก็ตามที่เขาหัวเราะนักเรียนหญิงในสถาบันถึงกับกรีดร้อง
กลิ่นอายของความเป็นผู้ดีของเขายังคงปรากฏอยู่และพรสวรรค์ที่มีมนต์ขลังของเขาไม่ใช่สิ่งที่สามารถมองข้ามได้
นักเรียนบางคนถึงกับเรียกเขาว่า 'ชายผู้ได้รับพรจากพระเจ้า'
เพเรียนคนเดิมที่มักจะยิ้มไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดตอนนี้ยืนอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าซีดเซียว
มันเป็นเพราะลิชที่อยู่ข้างหน้าของเขา
ดัลลาร์ดมองไปที่เพเรียนด้วยความสนใจ ในสายตาของเขาเพเรียนต้องเป็นนักเวทย์ระดับ 5 ดาวเป็นอย่างน้อย
นั่นเป็นเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่ใครบางคนจะต่อต้านมนต์ของเขาถ้าหากเขาไม่แข็งแกร่งขนาดนั้น
ในขณะเดียวกันเพเรียนก็เต็มไปด้วยความสลดใจ
‘ทำไมพวกเขาถึงขึ้นเรือคอร์เตซ?’
เขาไม่ชอบเสียงดังดังนั้นเขาจึงหลีกเลี่ยงไนติลัสและมาที่คอร์เตซแทน เขาซ่อนใบหน้าของเขาด้วยซ้ำเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีนักเรียนคนอื่นรู้ว่าเขาอยู่บนเรือ เขาได้บอกใบ้กัปตันแม็คเพียงเล็กน้อย
หากสถานการณ์นี้ไม่เกิดขึ้นก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่นั่นด้วยซ้ำ
เพเรียนเชื่อว่าด้วยพลังเวทย์มนตร์ของเขา เขาจะสามารถจัดการกับคู่ต่อสู้ที่เจอระหว่างการเดินทางได้และเขาเชื่อว่านั่นไม่ใช่ความหยิ่งแต่เป็นความจริง
ในความเป็นจริงนักเวทย์ระดับ 5 ดาวสามารถเอาชนะอันตรายส่วนใหญ่ที่จะพบได้ทั่วทั้งทวีป
แต่ฝ่ายตรงข้ามในครั้งนี้แข็งแกร่งเกินไป
‘นี่คือลิช’
เพเรียนไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้
จริงๆแล้วเขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวเพราะความกดดันที่มาจากดัลลาร์ดนั้นหนักมาก
นักเรียนคนอื่นๆ คงหมดสติไปแล้วหลังหากถูกพลังของลิชกดดันต่อหน้า
วิธีเดียวที่พวกเขาจะหลบหนีได้ตอนนี่คือการหลอกล่อโจรสลัดที่กำลังปล้นสะดมและทำการฆาตกรรม ... หรือถ้ามีนักเวทย์ที่แข็งแกร่งเหนือกว่าลิช
‘แต่ที่นี่ไม่มีนักเวทย์เช่นนี้’
รู้สึกว่าแม้แต่ศาสตราจารย์ดิโอ อาจารย์ที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขาก็ไม่น่าจะเอาชนะลิชตนนี้แบบตัวต่อตัวได้
ในความเป็นจริงเพเรียนไม่เคยแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาในสถาบันการศึกษายกเว้นกับอาจารย์และประธานสถาบันเพียงไม่กี่คน ทุกคนเชื่อว่าเขาอยู่เพียงระดับ 4 ดาวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเพเรียนได้ไปถึงระดับ 5 ดาวแล้ว
แต่ก็ยังไม่สามารถเรียกเขาว่าเป็นนักเวทย์ระดับ 5 ดาวเต็มรูปแบบได้เพราะเขาเพิ่งถึงเกณฑ์ เขาได้บรรลุการรู้แจ้งและปลดปล่อยสิ่งสกปรกและเศษซากออกจากร่างกายของเขา
'แต่…'
ใบหน้าของเพเรียนซีด
ปลายนิ้วของเขาเย็นเฉียบและร่างกายของเขาสั่น
หอกน้ำแข็งที่ดัลลาร์ดร่ายถูกเพเรียนขัดขวางก่อนที่มันจะถูกร่ายเสร็จ
อย่างไรก็ตามการขัดขวางเวทย์มนต์ของคนที่อยู่ในระดับที่สูงกว่านั้นเป็นอันตรายอย่างมาก
แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จ แต่ผลที่ตามมาก็รุนแรง
เขาอาเจียนเป็นเลือดแล้วสองครั้ง
อย่างไรก็ตามเพเรียนถูกบังคับให้แสดงตัว
ถ้าไม่เช่นนั้นนักเรียนที่นี่ทั้งหมดจะถูกสังหารโดยปีศาจตนนั้น
[หึ ดีมาก ฉันไม่เคยคาดหวังว่าจะได้พบกับคนเก่งเช่นนายที่นี่]
ดัลลาร์ดหัวเราะอย่างมีความสุข
เมื่อแม็คได้ยินเสียงหัวเราะของเขาหัวใจของเขาก็หยุดเต้นไปชั่วขณะ
นั่นคือความน่ากลัวของเสียงหัวเราะของลิช
เพเรียนยืดหลังของเขาให้ตรงเพื่อไม่ให้กลัว
เขามองดูดัลลาร์ดและพูดด้วยความมุ่งมั่นทั้งหมดของเขา
“ฉันมีข้อเสนอ”
[บอกข้ามา]
คุนสต์เฝ้าดูบทสนทนาของพวกเขาโดยกอดอก เขารู้สึกไม่พอใจแต่เขาไม่กล้าที่จะส่งผลกระทบต่อแผนของดัลลาร์ด
ลิชแข็งแกร่งพอที่จะฆ่าทุกคนบนเรือ
“เป้าหมายของพวกนายคืออะไร?”
"คุณต้องการแบ่งแยกฉันจากพวกเขาใช่มั้ย?”
"แบ่งแยก?"
[จุดประสงค์ของพวกเขาและฉันต่างกัน เราเพียงแค่ทำงานร่วมกัน]
ขณะที่เขาพูดแบบนี้ดัลลาร์ดก็เหลือบมองไปที่คุนสต์
คุนสต์เข้าใจความหมายนั่นได้ทันทีและทำได้แค่ยิ้ม
"เขาพูดถูก จุดประสงค์ของเรานั้นง่ายมาก”
"พูดมาเลย"
คุนสต์ยักไหล่
“พวกคุณทุกคนคงทราบดีว่าหมู่เกาะออสการ์เป็นสถานที่ที่อันตรายมาก เป็นสถานที่ที่คุณไม่รู้ว่าเมื่อไหร่และที่ไหนที่ไอ้โจรสลัดสกปรกจะกระโดดออกมาและคุกคามพวกคุณ”
นี่เป็นความจริงที่ทุกคนรู้
อย่างไรก็ตามเมื่อมันออกมาจากปากของกัปตันโจรสลัดที่ปล้นเรือของพวกเขามันช่างดูตลก
คุนสต์หัวเราะ
“ในฐานะชาวเรือที่ดี เราไม่สามารถยืนดูในขณะที่นักเรียนของสถาบันผ่านสถานที่อันตรายเช่นนี้ อืมเห็นมั้ย…เราจะพาทุกคนกลับไปเคาซิมโฟนีอย่างสุภาพและในทันทีก็แค่นั้น”
“คูฮา!”
“ช่างเป็นทัศนคติที่กว้างไกล! เป็นนักเดินเรือที่แท้จริง”
โจรสลัดปรบมือและหัวเราะเสียงดัง
คุนสต์ยกมือขึ้น มันทำให้พวกเขาเงียบไป
“แน่นอนว่านักเรียนของที่นี่ล้วนอยู่ในครอบครัวชนชั้นสูงที่มีชื่อเสียงดังนั้นเพื่อให้ฉันแน่ใจว่าพวกคุณจะไม่ลังเลที่จะมอบให้รางวัลแก่พวกเราสำหรับเวลาอันมีค่าของเรา”
พวกโจรสลัดทำเอะอะอีกครั้ง
ครั้งนี้คุนสต์ไม่ได้หยุดพวกเขา
นักเรียนส่วนใหญ่กำลังไตร่ตรองคำพูดของเขา
มันซ่อนอยู่ในคำพูด แต่ท้ายที่สุดสิ่งที่เขาพูดคือพวกเขาจะใช้พวกนักเรียนเป็นนักโทษเพื่อข่มขู่ครอบครัวของพวกเขาและพวกมันจะรอรับเงินจากทางบ้านของพวกนักเรียน
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถพูดอะไรได้เพราะพวกเขากลัวโจรสลัดตรงหน้าพวกเขาที่กำลังแกว่งดาบและหัวเราะ
นักเรียนทั้งหลายไม่เคยเห็นคนหยาบและสกปรกเช่นนี้มาก่อน
โจรสลัดส่วนใหญ่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าและร่างกายของพวกเขาสกปรกและเหม็น
ทุกครั้งที่ยิ้มจะเห็นฟันที่ขาดและเสื้อผ้าที่เย็บจากเศษผ้า
นักเรียนหญิงคนหนึ่งตัวสั่นเมื่อเห็นความกระตือรือร้นของพวกเขา
เมื่อพวกเขาเห็นปฏิกิริยาเหล่าโจรสลัดก็สนุกกับมันมากขึ้น
จากนั้นเพเรียนก็พูด
“แค่ฉันคนเดียวก็เพียงพอแล้ว”
"อะไรนะ?"
การแสดงออกบนใบหน้าของคุนสต์เปลี่ยนไป เขาไม่ได้คาดหวังการตอบสนองเช่นนี้
เพเรียนไม่ได้ตื่นตระหนก
“ฉันจะให้เงินเท่าที่คุณต้องการ ดังนั้นโปรดปล่อยนักเรียนคนอื่นๆไป”
“ฮะ”
ความสนใจฉายแววสนใจในดวงตาของคุนสต์
นั่นเป็นเพราะใบหน้าของเพเรียนหลังจากที่เขาพูดจบดูสูงส่งแต่น่าสมเพช
นักเรียนที่ยืนอยู่ด้านหลังมองไปที่ด้านหลังของเพเรียนด้วยสีหน้าที่สะเทือนอารมณ์
นักเรียนบางคนถึงกับสูดจมูกตัวเอง
[ไม่ได้หรอก]
นั่นคือคำตอบของดัลลาร์ด
หัวใจของเพเรียนหนักขึ้น
แม้ว่าพวกโจรจะโหดร้ายและดูเพิกเฉยแต่การพูดคุยกับคนเป็นมันก็ยังรู้สึกดีกว่าพวกอันเดด
เพราะมุมมองที่มนุษย์มีไม่เหมือนกับพวกอันเดดที่ไม่มีวันเข้าใจ
พวกอันเดดไม่ได้มีไว้เพื่อสนทนาด้วยแต่แรก
เพเรียนพูดด้วยความรีบร้อน
“ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสำหรับพวกนายเช่นกัน นายต้องดูแลนักเรียนเหล่านี้มากกว่าเมื่อเทียบกับนักเรียนเพียงคนเดียว…”
[เพราะนายเป็นของฉัน]
"อะไรนะ?"
เพเรียนเป็นที่สนใจของดัลลาร์ดอย่างยิ่ง
โครงกระดูกตนนี่จู่ๆก็ดูน่าขนลุกเป็นพิเศษ
เพเรียนรู้สึกได้ว่าใบหน้าที่ไร้ผิวหนังกำลังยิ้มให้เขา
[นักเวทย์เช่นนายหายากและการพบเจอกับนักเวทย์แบบนายนั่นก็ยิ่งยาก ฉันสามารถใช้งานนายได้หลายรูปแบบ ฉันสามารถฆ่านายแล้วเปลี่ยนนายให้เป็นอันเดดเพื่อรับใช้ฉัน…หรือฉันสามารถกินพลังชีวิตของนายเและดูดซับมานาของนาย]
ในที่สุดเพเรียนก็แสดงความกลัว
จากนั้นคุนสต์ก็หัวเราะเสียงดังอีกครั้ง
“คูฮาฮ่า! ไม่ต้องเสียเวลาแล้วพาพวกมันขึ้นเรือเร็ว!!!”
คุนสต์ชี้ไปที่กระดานแผ่นที่พวกเขาใช้ขึ้นบนเรือคอร์เตซ แต่นักเรียนก็ยังคงนิ่ง
รองกัปตันทนไม่ได้แล้วตะโกน
“ลูกผู้ดีของเราไม่สามารถเดินบนไม้กระดานได้หากปราศจากความช่วยเหลือจากคนรับใช้! ทำอะไรอยู่ละ? เร็วเข้าอย่าให้พวกเราต้องแบกพวกแกไปที่นั่น”
“กู่”
“ฉันจะพาพวกผู้หญิงเอง”
"หุบปาก นั่นมันงานของฉันต่างหาก”
โจรสลัดหัวเราะเหมือนเหนื่อยขณะที่พวกเขาก้าวไปหานักเรียน
เพเรียนถูกบังคับให้ดูสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ในตอนนั้นนักเรียนคนหนึ่งได้เป็นที่จับตามองของโจรสลัด
เขาเป็นนักเรียนที่มีผมสีเทาและไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ที่ดูหวาดกลัว เขาไม่แสดงออกและกอดอกด้วยซ้ำ
“โหแกเป็นคนที่กล้าหาญไม่เบาเลยนิ ไม่กลัวหรอ?”
เจ้าตาเดียวหัวเราะเบา ๆ และเดินเข้าไปหาเขา
ในตอนแรกรองกัปตันโจรสลัดรู้สึกเบื่อเพราะนักเรียนทุกคนจากสถาบันการศึกษามีสีหน้าหวาดกลัวไปหมด
คนเดียวที่แตกต่างออกไปจากเพเรียนจุนผู้ซึ่งปลุกความกระหายของเขาเป็นเหยือของดัลลาร์ดไปแล้ว
แต่ตอนนี้เขาพบกับนักเรียนอีกคนที่มีนิสัยคล้ายๆ กันและแน่นอนว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะไม่ขึ้นเรือของพวกโจรสลัด
"แกมานี่"
นักเรียนที่มีผมสีเทาหันมามองเขา
"นายกำลังพูดกับฉันเหรอ?"
เจ้าตาเดียวตกใจกับปฏิกิริยาของเขา
นั่นเป็นเพราะคำพูดของเฟรย์นั้นเรียบง่ายราวกับว่าเขากำลังคุยอยู่กับเพื่อน
‘อะไรกันไอ้เด็กคนนี้? เขาทำตัวแบบนี้เพราะกลัวเหรอ? ’
เจ้าตาเดียวหัวเราะอย่างแรงเพื่อสงบความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในตัวเขา
"ใช่แกนั่นแหละ ไอ้คนดูเหมือนแห้งเหมือนท่อนไม้”
“ถ้านายมีธุระกับฉันนายก็ควรมาหาฉันสิ”
ในเวลานั้นไม่ใช่แค่เจ้าตาเดียว แม้แต่นักเรียนที่อยู่รอบๆตัวเขาก็เริ่มมองไปที่เฟรย์
หนึ่งในนั้นคือแจ็คสมาชิกกลุ่มของเดวิด
เขามองเฟรย์ด้วยความประหลาดใจ
‘ฉันไม่รู้ว่าชายคนนี้บ้าไปแล้วหรือเป็นเพราะเขาเอาชนะคนอื่นๆมาได้สองสามครั้ง?’
เขาไม่เห็นหรือว่านักเรียนคนก่อนไม่สามารถแม้แค้ร่ายมนตร์ได้ทันและตายลง?
ตราบใดที่โจรสลัดเข้ามาใกล้ พ่อมดระดับนักเรียนก็ไม่สามารถทำอะไรเพื่อหยุดพวกเขาได้
ไม่สิ แม้ว่าทักษะของพวกเขาจะดีขึ้น แต่การที่ไม่มีประสบการณ์ก็ไม่ได้สร้างความแตกต่าง
น่าจะเห็นได้จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับเพเรียนจุน
‘บ้าไปแล้ว บ้าอย่างแน่นอน'
แจ็คมั่นใจว่าเฟรย์บ้าไปแล้ว
เจ้าตาเดียวสั่นและก้มศีรษะลง
ไม่นานหลังจากนั้นเขาดึงมีดออกจากเอวและก้าวไปอย่างรุนแรง
“ไอ้แม่เย.…”
นักเรียนที่อยู่ข้างๆเขาตัวสั่นเมื่อได้ยินเสียงมีดถูกชักออก แต่เฟรย์ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ
สีหน้าของเขาว่างเปล่าเช่นเคย
"อ่า....ฉันไม่รู้หรอกว่าแกมาจากครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน แต่ฉันจะได้เห็นว่าแกจะพูดคำว่าอะไรหลังจากที่ฉันจะตัดลิ้นแกออก”
เจ้าตาเดียวเข้ามาใกล้เหมือนเขาได้ตัดสินใจแล้วว่าจะฆ่าเฟรย์
นักเรียนข้างๆเฟรย์ตัวสั่นไปด้วยความกลัวและคนที่อ่อนแอกว่าถึงกับหลับตาลง
สาด(เสียงตกน้ำ)
แต่นักเรียนต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ไม่ใช่เฟรย์ที่ถูกโยนลงมาจากเรือ
แต่มันคือพวกโจรสลัด!!!