บทที่ 126 อารยธรรมสุดไฮเทค !
บทที่ 126 อารยธรรมสุดไฮเทค !
เมื่อทุกคนนั่งลงแล้ว พวกเขาก็กลืนน้ำลายอย่างอดทนและกำลังคาดหวังถึงรสชาติที่ส่งกลิ่นน่าอร่อยนี้
ลูกสมุนจากกองกำลังของเป่ยเฟิงเริ่มที่จะนำอาหารออกไปทีละจาน โดนแต่ละจานมันเปล่งไปด้วยไอน้ำสีขาวและส่งกลิ่นที่ชวนมึนเมาออกมา ตามด้วยชามขนาดใหญ่ที่เป็นซุปซาราแมนเดอร์ยักษ์พร้อมกับเครื่องเคียงข้าง ๆ โดยอาหารเหล่านี้ค่อย ๆ ถูกนำออกไปเสิร์ฟแต่ละโต๊ะ
"ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมถึงมีคนต้องการมากินอาหารที่นี่ต่อให้มีกฏแปลก ๆ ไหนจะอยู่ในที่ห่างไกลแบบนี้ แค่กลิ่นของมันก็หอมมากแล้ว !"
ลูกค้าบางคนถอนหายใจออกมา
นี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่ร้านอาหารมีการโปรโมทที่ดีรวมทั้งอาหารอร่อย ผู้คนก็จะยอมเดินทางมาเพื่อที่จะกินมัน
ยกตัวอย่างเช่นร้านอาหารพิเศษในเฉิงตูที่ขายเป็ดย่างที่เลี้ยงจากฟาร์ม ร้านอาหารตั้งอยู่ในภูเขาที่ลึกมาก และเป็ดแต่ละจานก็แพงถึง 268 หยวนต่อจาน ! แต่ถึงมันจะห่างไกลแค่ไหน แต่ก็สามารถมองเห็นรถซุปเปอร์คาเช่นเฟอรารี่หรือแลมโบกีนีได้ไม่ยากจากสถานที่นั้น
แน่นอนว่าร้านอาหารเหล่านั่นอย่างน้อยก็มีถนนที่เหมาะจะให้ลูกค้าขับรถไปที่ร้านได้ ซึ้งแตกต่างจากบ้านของเป่ยเฟิงที่ลูกค้าต้องยอมเดินขึ้นมาบนภูเขานานกว่า 20 นาที
"เยี่ยม ! การมาครั้งนี้ไม่เสียเปล่าจริง ๆ !"
มีเสียงร้องไห้และคำพูดเกินจริงออกมาจากปากคนที่นำซุปเข้าไปในปากของเขา
เวลานี้ต่อให้เขาร้องไห้ออกมาก็ไม่มีใครสนใจ ทุกคนกำลังแช่ตัวเองกับรสชาติอาหาร บางครั้งก็ได้ยินเสียงตกใจบางอย่างได้จากพวกเขา
ดวงอาทิตย์ที่ไร้ความปราณีนี้มันแผ่ความร้อนออกมาโดนที่ไม่มีเมฆบดบัง มันทำให้แผ่นดินมีคลื่นบิดเบี้ยวเล็กน้อยรวมทั้งคลื่นที่แผ่ความร้อนออกมา แม้แต่ใบไม้สีเขียวบนต้นไม้มันก็ดูง่อยเล็กน้อย และเมื่อพวกเขาต้องมากินอาหารในเวลาที่แดดร้อนขนาดนี้ เป็นธรรมดาที่เหงื่อของลูกค้าหลายคนจะออกมาเหมือนน้ำป่าไหลหลากในขณะที่พวกเขากลืนซุปเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง
นอกจากยังดีที่มีคนได้นั่งใต้ร่มเงา ในขณะที่บางคนตอนนี้ดูเหมือนหมาที่หิวน้ำเมื่อกินหลังจากกินอาหารเสร็จแล้ว หลังของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ หนึ่งในนั้นดูเหมือนพร้อมจะเป็นลมทุกเมื่อ
เมื่อพวกเขากินอาหารเสร็จแล้ว ไม่มีลูกค้าคนไหนที่เต็มใจจะนั่งตรงนี้อีกต่อไป พวกเขาปรารถนาที่จะกลับไปมีความสุขอยู่บนรถของพวกเขาแล้วเปิดเครื่องปรับอากาศให้สูงที่สุด ! ภายในครึ่งชั่วโมงลูกค้าส่วนใหญ่ก็หายไปแล้ว
กลุ่มคนที่ดูน่ากลัวถูกแยกออกมาเป็นสองกลุ่ม โดยกลุ่มแรกจะทำความสะอาดล้างจานและเตรียมอาหารกลางวันของตัวเอง ในขณะที่อีกกลุ่มรับผิดชอบทำความสะอาดลานกว้างที่ยุ่งเหยิง
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อย เป่ยเฟิงก็ให้ลูกสมุนของเขาทำความสะอาดทุกอย่างแล้วให้เอาของไปเก็บให้เรียบร้อย หลังจากมั่นใจว่าขยะหมดแล้วเขาก็ปล่อยทุกคนไป
"ยังมีเนื้อซาราแมนเดอร์เหลืออีกครึ่ง ... ไอ ช่างมัน ! ที่เหลือปล่อยให้เป็นอาหารของไม่รู้จักพอ หลุมดำ กับจิ้งจอกน้อยก็ได้ !"
เป่ยเฟิงยืนคิดอยู่ภายในห้องที่กว้างขวาง เพื่อที่จะให้มีที่เก็บเนื้อซาราแมนเดอร์กับหัวปลาขนาดใหญ่
หัวปลามันดูน่ากลัวอย่างมาก แม้ว่าจะมีหนึ่งในสามของมันที่ยุบเข้าไป แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้คนอื่นหวาดกลัวจนถึงหัวใจล้มเหลว !
นอกจากนี้ หากมันมีเขาละก็ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหัวปลานี้มันจะดูคล้ายกับมังกรในเทพนิยายมาก !
เพื่อที่จะนำหัวปลาเข้าไปในห้อง เป่ยเฟิงถึงกับต้องงัดกรอบประตูออกมา
เป่ยเฟิงแช่แข็งห้องใต้ดินทั้งหมดด้วยเย็นสุดขั้วประมาณ 3 ครั้งต่อวัน เพื่อที่จะทำให้เนื้อทั้งหมดดูสดใหม่ !
"ฉันสงสัยว่าข้าวแม่น้ำข้าวมันโตหรือยัง ?" เป่ยเฟิงสงสัยในขณะที่เดินไปยังแปลงดอกไม้
แต่นอกจากรอยขุดแล้ว มันไม่มีเมล็ดเหลืออยู่เลย
จิ้งจอกน้อยบนไหล่ของเป่ยเฟิงนั่นก้มหัวลงด้วยความรู้สึกผิด มันส่งเสียงต่ำ ๆ ออกมา
"บอกฉันมาเธอเอาไปซ่อนที่ไหน ?"
เมื่อรู้สึกถึงความผิดของจิ้งจอกน้อย เป่ยเฟิงก็ถามออกมาด้วยความขุ่นเคือง
"มิ้ว !"
จิ้งจอกน้อยปิดตาของมันด้วยอุ้งเท้าแล้วมองเป่ยเฟิงผ่านช่องว่างในกรงเล็บของมัน เมื่อมองเห็นใบหน้าดำมืดของเป่ยเฟิงมันก็ร้องออกมาก่อนจะกระโดดลงจากไหล่ของเขา จากนั้นก็ชี้ไปยังทิศทางหนึ่งและพยายามที่จะให้เป่ยเฟิงตามไป
เป่ยเฟิงเดินตามจิ้งจอกน้อยเข้าไปในป่า หลังจากนั้น 10 นาทีเขาก็มาถึงหน้าผา
จิ้งจอกน้อยชี้ไปที่ต้นไม้เตี้ย ๆ ที่สูงแต่ 10 เซนติเมตร มันมีความหนาเหมือนตะเกียบ
เป่ยเฟิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ข้าวแม่น้ำขาวมันโตได้เร็วรวดขนาดนี้ ?
มันมีรากบาง ๆ ถูกขุดไปที่หน้าผา ถึงแม้ว่าต้นไม้นี้จะไม่สูง แต่มันก็มีสีเขียวและเต็มไปด้วยพลังชีวิต
เป่ยเฟิงเกาหลังหูจิ้งจอกน้อยแล้วถามอย่างตรงไปตรงมา "ข้าวแม่น้ำขาวมันต้องโตบนหน้าผาใช่ไหม ?"
"มิ้ว !"
จิ้งจอกน้อยพยักหน้าเหมือนมนุษย์ สีหน้าของมันราวกับกำลังจะพูดว่า "เร็วสิ รีบสรรเสริญฉันสิ !" การแสดงออกของมันทำให้คนอื่นคาดเดาได้ง่ายมาก ถ้าหากมันพูดได้ทุกอย่างคงสมบูรณ์แบบ !
เป่ยเฟิงมองไปที่พืชที่กำลังโตด้วยความสนใจ ทันใดนั้นเขาก็คิดบางอย่างได้ ถ้าเขาเอาอวัยวะภายในของปลามังกรมาทำเป็นปุ๋ยมันจะช่วยเร่งการเติบโตของมันได้หรือเปล่า ?
เมื่อไม่สามารถอดทนที่จะทดลองได้ เขารีบกลับไปที่บ้านก่อนจะดึงถังใบใหญ่ออกมาแล้วเปิดฝามองเข้าไปข้างใน มันน่าแปลกที่คิดว่ากลิ่นเน่าจะลอยออกมาแต่ทว่ามันกลับไม่มี ดูเหมือนว่านอกจากจะไม่ส่งกลิ่นแล้วมันยังเหมือนไม่มีวันเน่าด้วย !
เป่ยเฟิงดึงมันออกมาก่อนจะใช้มีดคม ๆ ตัดมันออกมาไม่กี่จิน หลังจากนั้นเขาก็เก็บถังไว้ที่เดิมก่อนจะมาที่หน้าผา
จิ้งจอกน้อยมองไปที่อวัยวะภายในด้วยสีหน้าเย็นชาราวกับการดูถูกเหมือนมนุษย์บนใบหน้าของมัน มันกระโดดลงมาจากไหล่ของเป่ยเฟิงแล้วหันไปมองที่ต้นข้าวแม่น้ำขาว
เป่ยเฟิงทุบเนื้อให้ละเอียดก่อนจะเทลงไปในรอยแตกบนหน้าผา รอยแตกทั้งหมดนี้น่าจะนำมันไปสู่รากของพืชนี้ได้
'บางทีมันอาจจะยังไม่ส่งผลอะไรมากนัก ฉันจะกลับมาดูพรุ่งนี้'
เป่ยเฟิงรออย่างตื่นเต้นและเมื่อเห็นว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาก็บ่นออกมา
เขากลับมาที่บ้านของเขา แล้วเรียกเบ็ดหยกขาวออกมาในขณะที่เดินไปยังบ่อน้ำ มันถึงเวลาที่จะต้องตกปลาอีกครั้งแล้ว
'มันจะดีมากถ้าฉันตกได้แหวนหรือของที่คล้าย ๆ กันได้ ...'
เป่ยเฟิงยิ้มอย่างตื่นเต้น เขาต้องการของที่สามารถเก็บของได้อย่างมากในตอนนี้
หลังจากสงบจิตใจได้ เป่ยเฟิงก็โยนสายเบ็ดออกไปแล้วนั่งลงอย่างเงียบ ๆ
***
ที่ไหนซักที่บนอีกโลก มันเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันหมุนรอบตัวเองอย่างช้า ๆ มันมีพื้นที่ที่กว้างใหญ่และว่างเปล่ามากมาย ขนาดของดาวเคราะห์ดวงนี้มันใหญ่กว่าโลกถึง 100 เท่า !
เรือรบอวกาศขนาดใหญ่ร่อนลงจอดที่สถานีอวกาศขนาดใหญ่ โดยสามารถมองเห็นยานรับส่งและยานค้าขายจำนวนมากที่มีรูปร่างแปลกประหลาดได้ พวกมันมีความเร็วที่น่าเหลือเชื่อมาก นอกจากนี้บางครั้งยังมีหุ่นยักษ์ปรากฏออกมา ขนาดของพวกมันใหญ่โตอย่างมาก !
ผิวพื้นผิวของดาวเคราะห์เป็นทะเลซะส่วนใหญ่ มันมีหอคอยที่พุ่งทะลุก้อนเมฆอยู่จำนวนมาก พวกมันเรียงรายไปทั่วพื้นโลกอันกว้างใหญ่นี้ไปไกลจนถึงขนาดที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า !
นอกจากนี้ยังมีบ้าน 10 หรือ 100 หรือ 1,000 กว่าครอบครัวอาศัยอยู่ มันเป็นเรื่องง่ายมากเลยที่จะจินตนาการถึงความใหญ่โตของสิ่งก่อสร้างนี้ !
เมืองนี้เป็นเมืองที่สะอาดและมีอากาศที่สดชื่นอย่างมาก มันไม่มีร่องรอยของหมอกควันที่เป็นมิลพิษทางอากาศเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้ท้องฟ้ายังเต็มไปด้วยยานพาหนะมากมายที่เดินทางไปมาในอากาศด้วยความเร็วที่มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถตอบสนองได้ทัน !
บนพื้นนั่นมีหน่วยลาดตระเวนที่เป็นหุ่นยนต์อยู่จำนวนมาก หุ่นยนต์เหล่านี้ถูกออกแบบมาให้เหมือนกับมนุษย์ที่สุด มันคือ A.I. รักษาความปลอดภัยของถนน และนอกจากนี้มันยังเป็นหุ่นยนต์รบที่มีประสิทธิภาพมากด้วย !
และเพราะเทคโลโยลีขั้นสูงเหล่านี้ มันทำให้พวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องทำงานอีกต่อไป ทุกคนสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้สบาย ๆ เมืองนี้เป็นเมืองหลวงที่ชื่อว่า จักรวรรดิเซินดัน มันอยู่บนดาวเจ็ทบลู พลเมืองของที่นี่ร่ำรวยมาก แม้แต่คนที่ 'จนที่สุด' ในเมืองก็ยังมีเงินมากมายมหาศาล
ทุกครอบครัวจะต้องมีหุ่นยนต์อย่างน้อย 1-2 ตัวเพื่อใช้ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ขนาดคนจนก็ยังมีหุ่นยนต์รับใช้ ในขณะที่ครอบครัวที่ร่ำรวยก็จะมีหุ่นยนต์พ่อบ้านคอยดูแลเรื่องในบ้านด้วยเช่นกัน นั่นอาจจะบอกได้ว่าหุ่นยนต์พวกนี้คือสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับพวกเขา !
นี่คือจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ที่ได้ก้าวออกมาจากระบบสุริยะจักรวาลด้วยตัวของพวกเขาเอง พวกเขาสำรวจและลุกลานไปทั่วจักรวาล ! ความสำเร็จทางเทคโนเลยีของพวกเขานั่นก้าวล้ำกว่าโลกถึงอนันต์ปี นี่คืออาณาจักรที่ก้าวหน้าไปไกลอย่างเหลือเชื่อ !