เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 149 หยู่หมินให้กำลังใจหยู่เจี๋ย
大姐大 บทที่ 149 หยู่หมินให้กำลังใจหยู่เจี๋ย
เจี่ยนหยู่เจี๋ยนั้นจริงแล้วก็กลัวอยู่บ้าง ไม่ว่าอย่างไรเขานั้นไม่เคยเอาชนะเจี่ยนหยู่หมินได้เลย
“นายโชคดีนะ เอาไว้ฉันค่อยต่อยนายใหม่คราวหน้า” เจี่ยนหยู่หมินยังคงต้องการที่จะต่อยเจี่ยนหยู่เจี๋ย
หลังจากนั้นชั่วขณะ เจี่ยนหยู่หมินก็หาข้ออ้างพาเจี่ยนหยู่เจี๋ยออกไปข้างนอกได้
พี่ชายน้องชายเริ่มพูดคุยกันที่สุดปลายของทางเดิน
“แม่ไม่มาด้วยเหรอ” เจี่ยนหยู่หมินถามเจี่ยนหยู่เจี๋ย
เขาคิดว่าคงจะได้พบกับแม่ และพวกเขาสองคนก็อาจจะมีปากเสียงกันอีกครั้ง
“ไม่ แม่เพียงแค่โทรบอกคนขับรถให้รับผมมาโรงพยาบาลหลังจากโรงเรียนเลิก”
เหอเยี่ยนไม่มา และเธอก็ไม่ต้องการที่จะทะเลาะกับเจี่ยนหยู่หมินต่อหน้าย่าเจี่ยน
เหอเยี่ยนต้องการหน้าตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนอยู่ต่อหน้าย่าเจี่ยน
ในเมื่อเธอแต่งเข้าสู่ตระกูลเจี่ยน เธอจึงพยายามอย่างหนักเพื่อสิ่งเหล่านี้
เธอมีความขัดแย้งกับบรรดาลูกชายของเธอ แต่เธอก็จะไม่นำเอาความขัดแย้งนั้นไปถึงย่าเจี่ยน
“ความคืบหน้าของนายในฐานะนักมายากลเป็นยังไงบ้างตอนนี้” เจี่ยนหยู่หมินรู้ว่าน้องชายคนเล็กของเขานั้นมีความฝันของตนเองและมีสิ่งที่เขาต้องการที่จะทำ
“แม่ไม่เห็นด้วย ผมไม่รู้…”
เจี่ยนหยู่เจี๋ยก็ยังสับสนเรื่องนี้อยู่เช่นเดียวกัน
เจี่ยนหยู่หมินตบไหล่เจี่ยนหยู่เจี๋ย “อย่าคิดมาก เพียงแค่ทำในสิ่งที่นายชอบจริงๆ เมื่อตอนที่นายจบจากโรงเรียนมัธยม ให้เลือกมหาวิทยาลัยที่อยู่ไกลๆบ้าน พี่รองของนายกับฉันจะให้ความสนับสนุนด้านการเงินแก่นายเอง ใช่ นายควรมั่นใจที่จะทำสิ่งที่นายต้องการจะทำ อย่ากังวลให้มากนัก”
“แม่พูดว่าครอบครัวเราไม่สามารถสืบทอดบริษัทได้หากว่าไม่มีใครเลย พี่กับพี่รองได้ทำในสิ่งที่พวกพี่ต้องการทำ ส่วนผม…”
แน่นอนว่าเจี่ยนหยู่เจี๋ยต้องการทำสิ่งที่เขาต้องการทำเช่นเดียวกัน แต่เขาก็ไม่สามารถเพิกเฉยความคิดของแม่ของเขาได้อย่างเต็มที่นัก จริงแล้วเขาไม่ต้องการที่จะเห็นแม่ของเขารู้สึกเศร้าใจ
“ทำไมนายต้องกังวลกับการสืบทอดบริษัทหรือไม่สืบทอดบริษัท ตระกูลเจี่ยนยังไม่ได้แยกจากกันออกไปสักหน่อย พ่อกับลุงทั้งคู่จัดการกับบริษัทตระกูลเจี่ยนด้วยกัน เมื่อถึงเวลา บริษัทก็จะถูกส่งต่อให้กับหยุ่นเฉิง พวกเราก็ได้รับเป็นหุ้นและปล่อยให้เขาทำงานและจ่ายเป็นเงินปันผลให้กับพวกเรา น่ายก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปบริหารจริงไหม”
เจี่ยนหยู่เจี๋ยเข้าใจความจริงข้อนี้ และพ่อของเขาก็พูดแบบเดียวกัน แต่แม่ของพวกเขาไม่เห็นด้วย
เจี่ยนหยู่หมินลูบหัวเจี่ยนหยู่เจี๋ยอีกครั้ง “แม่ก็เป็นคนแบบนั้นแหละ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องทำตามเธอ ในเรื่องทางเลือกของชีวิต ถ้านายบีบบังคับตัวนายเองให้ไปตามเส้นทางที่เธอวางแผนไว้ให้กับนาย นายก็จะต้องมีแต่ช่วงชีวิตที่ปวดร้าว”
“ขอบคุณพี่ชาย”
การให้กำลังใจของเจี่ยนหยู่หมินนั้นทำให้เจี่ยนอยู่เจี๋ยได้ตระหนักรู้และเกิดความกล้าขึ้นมามากยิ่งขึ้น
“เจ้าเด็กโง่ มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องพูดขอบคุณพี่ชายของตนเอง ฉันจะคอยดูนายแสดงบนเวที อย่าลืมส่งตั๋วมาให้พี่ชายของนายคนนี้ด้วยล่ะ”
“ครับ” เจี่ยนหยู่เจี๋ยพยักหน้ารับรองแข็งขัน
พี่น้องสองคนกลับคืนมายังหอผู้ป่วยของเจี่ยนอีหลิงหลังจากที่พูดกันแล้ว เจี่ยนหยู่เจี๋ยได้พูดจาเล่นหัวกับเจี่ยนอีหลิงกันอีกสักพักก่อนที่จะจากไป เขายังคงต้องไปโรงเรียนต่อในวันพรุ่งนี้และไม่สามารถอยู่ได้อีกนานนัก
###
เจี่ยนหยู่เจี๋ยกลับไปที่บ้านและพบกับเหอเยี่ยนและก็เพียงพูดคุยกันเรื่องสภาพร่างกายของเจี่ยนอีหลิงเท่านั้น
แน่นอนว่าเหอเยี่ยนไม่สนใจอะไรเท่าไหร่กับเรื่องสภาพร่างกายของเจี่ยนอีหลิง เธอขอให้เจี่ยนหยู่เจี๋ยเดินทางไปครั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้มีคำอธิบายเวลาพบหน้าย่าเจี่ยน
“ยังมีอีกอย่าง หยู่เจี๋ย มีปัญหากับคอมพิวเตอร์ของแม่ ช่วยตรวจดูมันให้แม่หน่อยสิ”
เหอเจี่ยนไม่ได้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์เหมือนกับลูกชายของเธอ
“ผมดูให้” เจี่ยนหยู่เจี๋ยวางของส่วนตัวของเขาลงและตรงไปยังห้องทำงานของเหอเยี่ยน
หลังจากที่ขึ้นไปที่ชั้นบน เจี่ยนหยู่เจี๋ยก็ได้แต่เพียงทำการติดตั้งระบบให้กับเหอเยี่ยนใหม่
การติดตั้งระบบใหม่นั้นต้องใช้เวลาอยู่บ้าง เจี่ยนหยู่เจี๋ยที่กำลังเบื่อจึงเปิดฟังเพลงจากกล่องดนตรีบนโต๊ะคอมพิวเตอร์