บทที่ 99 โชคร้าย !
บทที่ 99 โชคร้าย !
เป่ยเฟิงรู้สึกอยากร้องไห้แต่ตาของเขามันกลับไม่มีน้ำตา เขาได้ทำผิดพลาดไปครั้งใหญ่โดยเขาได้สัมผัสกับจิ้งจอกก่อนที่จะได้ยินเสียงจากระบบ ! ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงความหนาวเย็นที่แผ่กระจายทั่วแผ่นหลัง ...
"ดิ๊ง ! โฮสต์ได้สัมผัสกับจิ้งจอก หายนะจากธรรมชาติของมนุษย์ และได้รับผลกระทบจากความสามารถพิเศษ ! คำสาปที่ได้รับ ความสามารถหมายเลข 3 : หายนะจากธรรมชาติของมนษย์ ! ระดับความแข็งแกร่งของคำสาป : ระดับ 1 . ระวัง : สถานะติดคำสาปปัจจุบันไม่สามารถแก้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง !"
ราวกับว่าความหวาดระแวงของเขาเป็นจริง เสียงหุ่นยนต์มันได้ดังขึ้นทำให้ความหวังในจิตใจของเขาแตกเป็นชิ้น ๆ
"หายนะจากธรรมชาติของมนุษย์ ! บัดซบ แล้วระดับความโชคร้ายนี้มันคืออะไร ? แล้วอะไรคือคำสาประดับ 1 ? ระดับ 1 นี้มันอันตรายที่สุดหรืออ่อนแอที่สุด ?"
เป่ยเฟิงส่ายหัวไปมาด้วยความกังวล
'ระบบ ! ออกมา ระบบบัดซบ ! แกหมายความว่ายังไงว่าไม่สามารถแก้คำสาปได้ ? แกบอกฉันมาก่อนระบบบ ! นอกจากนี้ ระดับ 1 มันคืออะไร แข็งแกร่งหรืออ่อนแอ ?'
เป่ยเฟิงกรีดร้องออกมาในใจ เขาไม่เต็มใจที่จะรับชะตากรรมนี้
จิ้งจอกน้อยน่ารักนี้น่ากลัวจริง ๆ ! แล้วไอ้ที่บอกว่า "แข็งแกร่งจนสามารถสังหารพระเจ้าและปีศาจได้" มันคืออะไร ?
นอกจากนี้จิ้งจอกมันยังมีความสามารถพิเศษถึงสามอย่าง 1. หายนะจากมนุษย์ 2. หายนะจากธรรมชาติ 3. หายนะจากธรรมชาติของมนุษย์ ความรุนแรงของมันน่าจะขึ้นอยู่กับชื่อของมัน มันชัดเจนเลยว่าเป่ยเฟิงโดนคำสาปที่มีความรุนแรงมากที่สุด !
'บัดซบ ! ระดับ 1 ถ้าเกิดว่ามันคือระดับที่ร้ายแรงที่สุด ฉันคงได้แต่นั่งรอความตายอย่างเดียว !'
"ดิ๊ง ! ไม่ต้องทุกใจไป โฮสต์จะมีภูมิต้านทานคำสาปพวกนี้ได้ในอนาคต"
ในที่สุดระบบก็ตอบสนอง แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้เขาหายกังวลแต่ก็นับว่ามันเป็นข่าวดี
'ฟิ้ว ค่อยยังชั่ว อย่างน้อยมันก็บอกว่า 'อนาคต' แปลว่าฉันจะต้องผ่านคำสาปนี้ไปได้แน่นอน'
เป่ยเฟิงตบหน้าอกเพื่อสงบสติของเขา ในที่สุดเขาก็ผ่อนคลายได้แล้ว
เขาหันไปมองจิ้งจอกตัวน้อย ตอนนี้เป่ยเฟิงมองมันด้วยความกลัวที่อยู่บนหน้า เขาคิดว่าจะเอาไอ้สัตว์บัดซบนี้กลับไปในบ่อน้ำ !
ไอ้ตัวเล็กนี้เห็นได้ชัดว่ามันคือระเบิดเลือดเดินได้ ! ถ้าหากเขาไม่ระวังแล้วไปแตะโดนมันสุดท้ายเขาก็จะตายเพราะมันได้ !
แต่หลังจากคิดอย่างดีแล้ว เขาก็คิดว่าหากเขารอดตายได้ใน 24 ชั่วโมงนี้บางทีมันอาจจะมีประโยชน์กับเขาก็ได้ ในเมื่อสุดท้ายเขาก็จะได้ภูมิต้านทานคำสาป !
เป่ยเฟิงไม่กล้าถอดตะขอออกมา ไม่ว่าจะยังไงสิ่งที่ดีที่สุดคือการรอให้ถึง 24 ชั่วโมงก่อนที่เขาจะทำอะไร !
เขารีบนำจิ้งจอกน้อยพร้อมกับคันเบ็ดกลับไปที่ห้อง เขาล็อคหน้าต่างและประตูทุกบาน
เขาทำทุกอย่างอย่างระมัดระวัง เขากลัวว่ามันจะเกิดอุบัติเหตุจากความโชคร้ายของเขาได้
จนเมื่อเขาเรียกเย็นสุดขั้วแล้วหั่นเนื้อซาราแมนเดอร์ยักษ์ มันก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันทำให้เป่ยเฟิงรู้สึกมั่นใจขึ้นมากเล็กน้อย
หลังจากนั่นเขาก็เริ่มจุดไฟและทำอาหาร
ปล่อยให้ไฟไหม้ไป เขาหยิบถังน้ำออกมาแล้วเดินไปที่บ่อน้ำแล้วโยนมันลงไป หลังจากนั้นเขาก็ยกถังน้ำโดยที่ตัวจับถังมันเป็นแท่งไม้ไผ่ขึ้นมา
"บัดซบ ..."
เป่ยเฟิงมองไปที่แท่งไม้ไผ่ที่หลุดออกไป มันทำให้ถังน้ำหล่นลงไปอีกครั้ง
หลังจากนั้นเขาก็หาถังน้ำอันใหม่โยนเข้าไป ในที่สุดเป่ยเฟิงก็สามารถดึงถังน้ำขึ้นมาจากบ่อได้ เขารีบนำมันกลับไปที่ห้องครัวแล้วต้มเพื่อล้างเมือกของเนื้อซาราแมนเดอร์ยักษ์
การกระทำของเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวังอย่างมากที่สุด เขารู้สึกถึงความโชคร้ายบางอย่างที่กำลังมาเยือน มันเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถบอกได้
เนื้อซาราแมนเดอร์ยักษ์ในที่สุดก็ปรุงเสร็จ มันมีกลิ่นหอมที่น่ากินอย่างมาก กลิ่นของมันลอยออกจากห้องครัวไปอย่างช้า ๆ มันทำให้ดูเหมือนว่ามื้ออาหารประจำวันใกล้จะถึงเวลาแล้ว
"ไป่เซียง คุณแข็งแกร่งแค่ไหนหรอ ?"
ลึกลับที่ 1 โบกมืออย่างน่ารักในขณะที่มองไปยังไป่เซียง
ไป่เซียงและคนอื่น ๆ เริ่มที่จะสนิทกันมากแล้ว "ฉันไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก คนที่แข็งแกร่งที่สุดคือเจ้านาย ! เธอเห็นหินตรงนั่นไหม ?"
ลึกลับทั้ง 3 มองไปยังหิน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับหิน ?
"ฟิ้วว !"
ไป่เซียงไม่พูดอะไรมาก เขาเดินไปที่หินที่มีความสูง 1 เมตรและกว้างครึ่งเมตร จากนั้นเขาก็ยกมันขึ้นมาในอากาศ !
"ว้าววว ! สุดยอด !"
ลึกลับที่ 1 ราวกับมีดวงดาวปรากฏออกมาในตาของเธอ ในขณะที่ลึกลับที่ 2 กับ 3 กำลังมองด้วยปากที่เปิดกว้าง
ไป่เซียงมองเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมมันทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาก "ไม่มีอะไรมาก นี้มันแค่บางส่วนเท่านั้น !"
ไป่เซียงหักนิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะแสดงบางอย่าง ลึกลับที่ 2 กับ 3 หลังจากเก็บปากของเขาได้แล้ว เขาก็รีบเดินห่างออกมาจากหินให้มากที่สุด
"แกร๊ก !"
"บัดซบ !"
เสียงที่สั่นไปถึงหัวใจดังขึ้น ไป่เซียงต่อยไปที่หินแล้วมันก็ปลิวออกไปเหมือนกับดาวหาง !
ไป่เซียงมองด้วยความตกใจเมื่อเห็นหินพุ่งไปทางห้องครัว ลึกลับที่ 2 กับ 3 เฝ้าดูหินจากไปด้วยเช่นกัน แล้วทันใดนั้นหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนสีทันทีเมื่อเห็นว่ามันพุ่งไปทางไหน ทั้งสามคนรีบหนีออกตรงนั้นทันทีราวกับว่าพวกเขากำลังจะถูกผีที่น่ากลัวไล่ตาม !
ลึกลับที่ 1 เอียงหัวของเธอด้วยความขุ่นเคืองก่อนจะกระโดดตามหลังทั้งสามคนไป เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เพราะทุกคนวิ่งหนี เธอก็เลยวิ่งหนีตามพวกเขาด้วย !
"บูม !"
เป่ยเฟิงเปิดฝาบนกระทะแล้วมองไปที่เนื้อซาราแมนเดอร์ยักษ์ตุ๋นอย่างพอใจ เนื้อนี้มันได้ถูกปรุงจนสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะสีและกลิ่นของมัน มันเป็นที่พึงพอใจมากสำหรับเซฟมือสมัครเล่นแบบเขา ในขณะที่เขากำลังจะยกมันขึ้นมาก็ได้เกิดเสียงดังบางอย่างจากข้างนอกขึ้น !
ก้อนหินขนาดใหญ่กระแทกประตูห้องครัวเข้ามาก่อนที่มันจะพุ่งเข้ามาหาเขาราวกับดาวหางโดยเป้าหมายของมันคือเป่ยเฟิง !
"ปัง !"
เป่ยเฟิงเบิกตากว้างก่อนที่จะรีบหลบออกมาทันที หินก้อนมหึมามันได้พุ่งผ่านหัวของเขาก่อนที่จะชนเข้ากับกระทะ !
"ไป่เซียงงงงงงงงงงงงง !"
เป่ยเฟิงหลบดาวหางนี้ได้อย่างหวุดหวิดและตอนนี้ร่างของเขาก็เต็มไปด้วยซอสและเนื้อซาราแมนเดอร์ยักษ์ เขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
"อ๊าา ! เจ้านายโกรธแล้ว ! เร็ว รีบวิ่งกันก่อนที่จะเกิดเรื่อง !"
ไป่เซียงและพวกที่วิ่งอยู่เมื่อได้ยินเสียงตะโกน มันก็ทำให้หัวใจของพวกเขารู้สึกหนาวสั่นอย่างมาก
เป่ยเฟิงมองไปที่ห้องครัวที่ถูกทำร้ายด้วยความโกรธ มันกินไม่ได้อีกแล้ว อย่างน้อยก็ตอนนี้เพราะกระทะมันถูกทำลายไปแล้ว
ถ้าเป็นคนปกติคงถูกฆ่าโดยดาวหางนี้ไปแล้ว เป่ยเฟิงเดาะลิ้นด้วยความไม่พอใจ ความสามารถของจิ้งจอกน้อยตัวนี้น่ากลัวจริง ๆ !
เป่ยเฟิงคิดว่ามันเพราะคำสาปที่ทำให้โชคร้ายเท่านั้น เขาไม่สามารถตำหนิไป่เซียงได้ในเรื่องนี้
หลังจากใช้ความพยายามอย่างมากในการตามหาไป่เซียงและคนอื่น ๆ เขาก็ส่งคนพวกนี้ไปในห้องครัวเพื่อทำซุป โชคดีที่ตัวเตาไม่ได้ถูกทำลาย และหม้อขนาดใหญ่ที่ใช้ทำซุปก็ยังอยู่สมบูรณ์ดีเช่นกัน
เป่ยเฟิงนั่งเอนกายลงบนเก้าอี้ที่ลานกว้าง เขาปิดตาลงเพื่อผ่อนคลายจิตวิญญาณของเขา อย่างช้า ๆ เขาก็ค่อย ๆ หลับไป
"ชัก ชัก ชัก !"
มีเสียงดังบางอย่างมากจากข้างบน มันทำให้เป่ยเฟิงตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เขาเงยหน้าและมองเห็นเฮลิคอปเตอร์ที่พุ่งมาหาเขาด้วยความรวดเร็วพร้อมกับควันตรงหางของมัน
และตอนนั้นเอง .. ทำไมคนพวกนี้ถึงเพิ่งจะโดดออกมาจากเฮลิปคอปเตอร์ ? นี้มันนรกอะไร ? ทำไมพวกมันมาโดดเอาตอนนี้ ? พวกมันไม่คิดว่ามันจะกางร่มได้หรือยังไง ?
"ไอ้บัดซบบบบบบบบบ !"
เป่ยเฟิงรีบวิ่งออกมาจากเก้าอี้ของเขาแล้ววิ่งหนีราวกับว่าหางของเขาโดนไฟไหม้ !
ในเวลาเดียวกันเขาก็ตะโกนบอกไป่เซียงและพวกที่เหลือ "หมอบลง ! อย่าออกมา !"
ใช่แล้วนี้เป็นคำพูดที่ออกจากปากของเขา เฮลิคอปเตอร์บ้า ๆ ที่กำลังหมุนนี้มันได้พุ่งชนมาที่ลานกว้างมันพุ่งชนอยู่ตรงด้านขวาของต้นไทน !
"บูม !"
ลูกไฟขนาดใหญ่ระเบิดขึ้นมาในลานกว้างเนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ที่พุ่งชนเข้ามาโดยตรง !
คลื่นกระแทกกระจายออกมามีทั้งเศษโลหะและอื่น ๆ มันถูกยิงออกมาจากไฟที่ลุกลานไปทุกทิศทาง !
ส่วนใบพัดขนาดใหญ่มันได้พุ่งไปหาเป่ยเฟิงโดยตรง มันทำให้เขาต้องเรียกเย็นสุดขั้วออกมาป้องกันทันที
หลังจากที่คลื่นกระแทกค่อย ๆ ผ่านไป ควันสีดำก็ค่อย ๆ ลอยออกมาช้า ๆ ชิ้นส่วนโลหะและซากเฮลิคอปเตอร์กระจายไปทั่วลานกว้างพร้อมกับประกายไฟเล็ก ๆ ทั่วทุกทิศทาง ฉากทั้งหมดนี้มันราวกับว่ามันคือฉากในหนังสงคราม ไป่เซียงและพวกที่เหลือโผล่ขึ้นช้า ๆ หน้าของพวกเขามีแต่ควันสีดำมันทำให้ดูน่ากลัวอย่างมาก พวกเขามองไปที่ซากเฮลิคอปเตอร์ที่มีควันสีดำหนา ๆ พุ่งขึ้นสูง
เป่ยเฟิงโบกเย็นสุดขั้วออกไปทำให้เกิดพลังฉีธาตุน้ำแข็งกระจายไปทุกทิศทางเพื่อดับไฟ
ในที่สุดทุกคนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หลังจากที่ย้ายหม้อสมุนไพรกับเบ็ดหยกขาวพร้อมจิ้งจอกน้อยไปที่ห้องใต้ดินแล้ว เขาก็ได้เอาหินก้อนใหญ่มาปิดทางเข้าไว้
"ไปกัน ฉันจะไปดูซักหน่อยว่าคนพวกนี้วางแผนที่จะชดใช้ฉันยังไง !"
เป่ยเฟิงถือเย็นสุดขั้วในมือของเขาและเดินนำเปยเซียงและทุกคนออกจากบ้าน
ห่างออกไปไม่กี่เมตร มีคนยืนอยู่ 6 คนด้วยกันลักษณะพวกเขาเหมือนจะบาดเจ็บเล็กน้อย ในหมู่พวกเขามีชายชราถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง "นายน้อย ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ?"
"ไม่เป็นไรโชคดีที่พวกคุณอยู่ด้วย ไม่งั้นชีวิตฉันคงจบลงในวันนี้ ! ยังไงก็ตามเราเช่าเฮลิคอปเตอร์มาจากบริษัทไหนกัน ? เมื่อกลับไปฉันต้องการคำอธิบายของพวกเขา ! ถ้าไม่อย่างงั้น ฉันก็ไม่ต้องการที่จะร่วมเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจของพวกเขา !"
ฟางยูตอนนี้มีใบหน้าที่หน้าเกลียดอย่างมากบนหน้าของเขา หากเขาไม่ได้คนที่อยู่ระดับเจียงวิวัฒนาการช่วยเขาละก็ เป็นไปได้ว่าเขาจะต้องตายแน่ ๆ ไม่ว่าจากการชนต้นไม้หรือจากเฮลิคอปเตอร์ตก ! ยังดีที่ไม่มีคนตายแต่ก็บาดเจ็บอย่างหนักจากการกระโดดลงมาจากความสูง 30-40 เมตร ทั้งที่เขามีพลังฝึกฝนถึงระดับเจียงแห่งความมืดแล้ว !