บทที่ 97 ฤดูใบไม้ผลิของ ฮูวฮันมิน
บทที่ 97 ฤดูใบไม้ผลิของ ฮูวฮันมิน
เป่ยเฟิงใช้เวลานานมากในการหาหมาน้อยทั้งสองไปทั่วลานกว้าง สุดท้ายเขาก็เจอพวกมันนอนอยู่กับพวกพืชรก ๆ
หลังจากได้ดื่มเหล้าสมุนไพรไปเล็กน้อย พวกมันก็ค่อย ๆ เปิดตาของมันอย่างช้า ๆ แล้วมองไปรอบ ๆ ด้วยความมึนงง หลังจากที่เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของเป่ยเฟิง พวกมันก็ค่อย ๆ คลานขึ้นมาพร้อมกับเอาหัวของมันวางไว้บนขาของเขา
หลังจากที่จัดการกับอาหารเช้าอันแสนวุ่นวายเสร็จ เป่ยเฟิงก็เดินไปที่บ่อน้ำโบราณพร้อมกับเบ็ดหยกขาวในมือของเขา
'ฉันสงสัยจังว่าไอ้แก๊สยาสลบนี้มันจะใช้ได้หรือเปล่าหลังจากที่ผ่านประตูมิติในบ่อน้ำได้ ...'
เป่ยเฟิงหยิบขวดที่เขาปล้นมาจากฮีเจียเหว่ยแล้วหยิบแท่งที่อยู่ข้างในขึ้นมา
เหตุผลที่เขา "ร้องขอ" ยาสลบจากฮีเจียเหว่ยนี้เพราะที่จะได้ทดลองเอามาใส่ตะขอแล้วลองดูว่ามันจะส่งไปอีกโลกได้หรือเปล่า ?
ตราบใดที่มันไม่ดับ แน่นอนว่ามันแปลว่าใช้ได้ !
ในทางทฤษฏี เขาคิดว่าหากยาสลบนี้มันผ่านไปอีกโลกได้ มันน่าจะแผ่กระจายไปทั่วทิศทาง มันจะทำให้เป้าหมายของเขาเลิกหวาดระแวงและเขาสามารถจับมันได้อย่างง่ายดาย จริงไหม ?
แน่นอนว่าแผนดังกล่าวจะใช้ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับว่ายาสลบนี้จะผ่านไปอีกโลกได้หรือเปล่า
เขาตัดมันออกมาครึ่งหนึ่ง จากนั่นใส่อีกครึ่งไปที่ตะขอแล้วเอาที่เหลือเก็บไว้ในขวด
จากนั้นหยิบไฟแช็กแล้วเผาปลายด้านหนึ่งของแท่งจนมีควันสีเขียวลอยออกมา
เขารีบโยนตะขอลงในบ่อทันทีโดยภาวนาอย่างเงียบ ๆ หวังว่าแท่งนี้จะไม่ดับลงไปในขณะที่ผ่านกระแสน้ำวน
"ฮ่าฮ่า สำเร็จ ! ทฤษฎีของฉันถูกต้อง !"
เป่ยเฟิงร้องออกมาด้วยความยินดีเมื่อมองไปที่แท่งยาสลบค่อย ๆ หายเข้าไปในประตู
อย่างไรก็ตามแท่งนี้มันเผาไหม้เร็วกว่าที่เขาคิดเอาไว้ เป่ยเฟิงชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันจะยังเหลือไหมกว่าตะขอจะถึงพื้น
***
ในอีกโลกที่ตีนเขาคล้าย ๆ ภูเขาชิงหลิง มันมีหมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่
คนในหมู่บ้านไม่ค่อยมีความสามารถพิเศษอะไรมากนัก พวกเขาส่วนใหญ่จะใช้เวลาทั้งวันในการเข้าไปในภูเขาเพื่อหาสมุนไพรไปขาย ในขณะที่บางคนก็จะใช้ชีวิตแบบนักล่าโดยจะตามล่าหาสัตว์ป่าในภูเขา
ฮูวฮันมิน เป็นชายวัยกลางคน เขาเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานน้อยและขึ้เกียจนิดหน่อย เขาเป็นชาวนาโดยใช้ชีวิตสบาย ๆ อาจจะไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าดีได้ แต่เขาก็สามารถดูแลจัดการตัวเองได้
สิ่งหนึ่งที่เขาเสียใจคือเขาอายุ 40 กว่าปีแล้ว แต่เขาไม่มีแม้แต่คนนอนเคียงข้างในเวลากลางคืน !
ฮูวฮันมินมองชามโจ๊กพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างหนักในขณะที่เดินออกจากกระท่อม
ฮูวฮันมีความลับที่เขาเก็บไว้ในใจลึก ๆ ที่ไม่กล้าบอกใคร
เมื่อสองเดือนก่อนตอนที่เขาทำงานอยู่ในไร่ เขาเห็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก ๆ กำลังถูกนกอินทรีไล่ล่า ในตอนนั้นเขาเห็นว่าสุนัขจิ้งจอกตัวน้อยมันมีขนที่ดูดีราวกับขนแกะชั้นเยี่ยม ดังนั้นเขาคิดว่าจะจับแล้วขายมันเอามาเป็นเงินซะ
แต่เมื่อเขาไล่นกอินทรีไปได้ เขากลับพบว่าจิ้งจอกตัวน้อยได้หายตัวไปแล้ว !
สิ่งแปลก ๆ มันเริ่มเกิดขึ้นหลังจากนั้น ชามโจ๊กจะปรากฏขึ้นในห้องครัวของเขาทุกวัน !
สิ่งที่น่าตกใจก็คือหลังจากที่ได้ดื่มมันแล้ว เขารู้สึกอบอุ่นและสดชื่นอย่างมาก ! มันเหมือนกับว่าพลังงานของเขาถูกฟื้นฟูทั้งหมด !
"ท่าน โปรดรอเดียวก่อน !"
หลวงจีนที่สวมชุดขาด ๆ และดูเหมือนกับว่าจะไม่ได้ซักมานานแล้วได้ปรากฏตัวข้างหลังฮูวฮันมินแล้วเรียกเขาด้วยความสุภาพ
เขาตกใจเล็กน้อยก่อนที่ฮูวฮันมินจะหันหลังแล้วมองไปที่หลวงจีนที่ดูน่าจะมีอายุ 50-60 ปี ในไม่ช้าใบหน้าเขาก็เปลี่ยนไป เขาโบกมือให้อย่างหงุดหงิด "ฉันไม่มีเงินให้ท่านหรอกนะ"
หลวงจีนไม่ได้ฟังคำพูดของฮูวฮันมิน เขาแค่มองเขาต่ออย่างจริงจัง
"ท่าน จิตวิญญาณที่ชั่วร้ายได้ติดตามท่านเมื่อเร็ว ๆ นี้ ข้ากลัวว่าท่านอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ในเวลาสั้น ๆ นี้ !"
ในขณะที่ฮูวฮันมินกำลังเดินออกมา เขาก็ได้ยินหลวงจีนตะโกนเตือนออกมาด้วยเสียงดัง
ฮูวฮันมินรู้สึกตกใจ เขาไม่แน่ใจว่าจะตอบสนองกับเรื่องนี้อย่างไร สุดท้ายเขาก็ยิ้มอย่างสุภาพให้กับหลวงจีน นี่อาจจะเป็นแผนที่ทำให้เขากลัวแล้วจะทำให้เขาบริจาคเงินเพื่อใช้ปัดเป่าวิญญาณร้ายก็ได้ !
"หลวงจีน ท่านมีหลักฐานว่ามีวิญญาณร้ายติดตามฉันอยู่หรือเปล่า ?"
ฮูวฮันมินไม่เชื่อคำพูดของหลวงจีน เขามองออกไปพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาได้แต่หวังว่าจะได้เห็นว่าหลวงจีนแก่นี้จะหลอกเขาอย่างไงต่อ
ฉิงซงซี เปิดตากว้าง เพื่อนคนนี้ถึงจะบอกไม่ได้ว่าเป็นคนดีหรือคนเลว แต่ทั้งที่เขาอุตสาให้ความช่วยเหลือแล้วแต่เพื่อนคนนี้ก็ยังไม่เชื่อใจเขา !
แต่ว่าสุดท้าย ฉิงซงซีก็ตั้งใจที่จะพิสูน์ว่าคำพูดของเขานั่นคือถูกต้อง !
ฉิงซงซีปรากฏรอยยิ้มแปลก ๆ บนใบหน้าของเขาแล้วถามออกมา "เมื่อไม่นานมานี้ ท่านเจอเหตุการณ์แปลก ๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้ใช่หรือไม่ ?"
"ตุ้บ !"
หัวใจของฮูวฮันมินสั่นสะท้าน เมื่อคิดถึงชามโจ๊กที่ปรากฏในห้องครัวเขา นี้ไม่ใช่เรียกว่าเหตุการณ์ที่อธิบายได้ใช่หรือไม่ ?
ฮูวฮันมินมีความสุขกับโจ๊กทุกวันโดยไม่เคยคิดว่ามันมาได้ยังไง แต่เมื่อหลวงจีนคนนี้พูดออกมาว่าเขากำลังถูกวิญญาณร้ายตามติด มันทำให้เส้นผมของฮูวฮันมินลุกชั้นจนแทบจะตั้งขึ้น
"ท่านหลวงจีน ท่านบอกว่ามีวิญญาณร้ายตามติดชีวิตข้า ท่านสามารถบอกได้หรือไม่ว่ามันเป็นวิญญาณแบบไหน ?"
ฮูวฮันมินพยายามสงบสติตัวเอง แต่ในความจริงแล้วเขาก็เชื่อคำพูดของหลวงจีนนี้นิดหน่อย
ฉิงซงซี มีรอยยิ้มสบาย ๆ บนใบหน้าของเขาเมื่อมองไปที่ฮูวฮันมินที่กำลังลุกลี้ลุกลน คน ๆ นี้ในที่สุดก็เริ่มเชื่อเขาแล้ว ?
"จากมุมมองของอาตมา มันน่าจะเป็นวิญญาณจิ้งจอก !" ฉิงซงซีลดเสียงลดอย่างลึกลับในขณะที่มองฮูวฮันมิน
"วิญญาณจิ้งจอก ?" ดวงตาของฮูวฮันมินสว่างขึ้นด้วยความตกใจ
มันเคยมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับหมาจิ้งจอกไว้ว่า มันมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ มันมีความงามที่งามจนมนุษย์ไม่สามารถต้านทานได้ โดยวิญญาณของพวกจิ้งจอกแต่ละตัวมันงดงามราวกับว่ามันเป็นนางฟ้าที่ลงมาจุติบนโลก !
'เป็นไปได้ไหมว่าจิ้งจอกตัวน้อยที่ฉันเคยช่วยเอาไว้ มันจะกลับมาตอบแทนฉัน ?'
ฮูวฮันมินตกอยู่ในห่วงความคิดเมื่อเขาคิดถึงเรื่องสาวงามคนหนึ่งที่สามารถใช้ความงามของเธอเพื่อทำลายเมืองและอาณาจักรได้อย่างสบาย และเมื่อคิดถึงโฉมงามที่มาทำโจ๊กให้เขากินทุกเช้าก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้น มันทำให้เขารู้สึกเปรี้ยวและดีในใจ
"วิธีนี้มันใช้ไม่ได้ผลกับฉันหรอก หลวงจีนเฒ่าหยุดพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ได้แล้ว ท่านปู่คนนี้ไม่มีทางให้ซักเหรียญหรอก ! ไปให้พ้นสายตาข้าซะ !"
ฮูวฮินมันยังคงจมอยู่ในความคาดหวังที่จะได้เห็นหลวงจีนคุกเข่าร้องไห้ทั้งน้ำตาเพื่อขอเศษเงินจากเขา ไม่มีทางที่จะหรอกคนอย่างเขาได้หรอก มันจึงทำให้เขาตะโกนคำพูดหยาบคายออกมา !
"ท่าน ท่านเป็นเป้าหมายของจิตวิญญาณที่ชั่วร้าย ! หากท่านไม่ได้รับการชำระล้าง ท่าจะต้องพบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ !"
ฉินซงซีรู้หงุดหงิดเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินคำตำหนิทั้งที่เขาอุตสาแนะนำให้อย่างกระตือรือร้น เขาเป็นหลวงจีนเขามีหน้าที่ในการเสียสละตัวเอง ! แต่คนพวกนี้กลับพูดจาหยาบคายใส่เขา ? ทั้ง ๆ ที่เขาคิดไว้เสมอว่าการช่วยชีวิตคนมันคุ้มค่ากว่าการสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น !
"มารดาแกสิ ! ไอ้หลวงจีนปีศาจ แกคิดว่าฉันจะเชื่อได้หรือไง ถ้าแกยังมาขวางเส้นทางของฉันอีกละก็รู้ไหมจะเกิดอะไรขึ้น ?" ฮูวฮันมินพูดออกมาพร้อมกับโบกไปที่หัวของหลวงจีน
"บัดซบ ! สร้างเจดีย์เจ็ดชั้นบ้านป้าแกสิ ช่างแม่ง บัดซบ ! ไปตายซะ! ถือว่าฉันเตือนแกแล้ว !"
แม้แต่หลวงจีนที่ละทางโลกมาอย่างนานอย่างฉิงซงซี ก็ยังโกรธอย่างมาก เขาหันกลับไปมองแล้วพูดออกมาอย่างหงุดหงิด
ฮูวฮันมินเฝ้ามองหลวงจีนแปลก ๆ เดินจากไปพร้อมกับความโล่งใจ เขารีบวิ่งกลับไปที่บ้านโดยไม่สนใจที่จะทำไร่นาของเขา
'วิญญาณจิ้งจอก โอ้วิญญาณจิ้งจอก ! แม้ว่าเธอจะเป็นวิญญาณจิ้งจอก แต่ก็ไม่เป็นไร ! หลังจากที่มันกลายเป็นคนแล้วมันจะต้องมีรูปร่างและใบหน้าที่สวยเหมือนนางฟ้าแน่ ๆ !'
ฮูวฮันมินนอนลงบนเตียงด้วยความร่าเริง พรุ่งนี้ - แค่เขารอจนถึงตอนเช้าแล้วออกค้นหาวิญญาณจิ้งจอกเท่านั้น หากเขาเจอมันก็หมายความว่าเขาสามารถพูดคุยกับมันได้ !
หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จเขาก็กลับไปที่เตียงทันที หลังจากนั่นสักพักเขาก็หลับไป เขาตื่นมาอีกทีก็ 8 โมงเช้าแล้ว
โดยปกติคนขึ้เกียจอย่างฮูวฮันมินจะตื่นมาประมาณ 10 โมงเช้า เมื่อเห็นท้องฟ้าที่สว่างไสว เขาไม่แม้แต่จะใส่เสื้อผ้า เขารีบวิ่งออกมาเหมือนพายุตรงไปที่ห้องครัวทันที