ตอนที่แล้วบทที่ 89 การฝึกฝนเพื่อยืดชีวิตระดับ 1 !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 91 โรงเตี๊ยมสีดำ ! มันคือโรงเตี๊ยมสีดำ !

บทที่ 90 ลึกลับที่ 2 ผู้รอบรู้กว่าใคร


บทที่ 90 ลึกลับที่ 2 ผู้รอบรู้กว่าใคร

เจียงจุนรู้สึกอยากร้องไห้ ตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองฉลาดและเขาพยายามที่จะลดจำนวนคนที่ต่อสู้เพื่อแย่งชิงการจองโต๊ะให้เหลือครึ่งเดียว แต่เมื่อเขาส่งรูปผิด มันกลับทำให้มีคนจำนวนมากกว่าเก่าที่เพิ่มเข้ามาในการแย่งชิงการจองนี้ !

มีเพียงกลุ่มคนเล็ก ๆ เท่านั้นที่คิดว่าระยะทางในการไปมันไกล พวกเขาเลยไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้

'เอ๊ะ ? ทำไมถึงมีคนจำนวนมากส่งเงินมาให้ขนาดนี้ ?'

เป่ยเฟิงมองไปที่โทรศัพท์ของเขาอย่างไม่ตั้งใจ จากตอนแรกที่มีเพียงไม่กี่คนที่ฝากเงินมาให้ แต่ในช่วงเวลาสั้น ๆ มันกลับมีคนส่งมาให้เกิน 200 คน !

เป่ยเฟิงเลือกชื่อแบบสุ่ม ๆ ก่อนที่จะพิมในกลุ่มสนทนา

เจียงจุนใบหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวังในขณะที่เขาอ่านรายชื่อที่ได้จอง เขารู้สึกเศร้ามากที่ไม่สามารถลิ้มรสอาหารอร่อยรวมทั้งไม่สามารถเจอลึกลับที่ 1 ได้

ใช่แล้ว เจียงจุนได้ตามเพื่อนของเขาไปในครั้งก่อน แล้วเขาได้เห็นลึกลับที่ 1 ที่ร้านอาหารส่วนตัวของเป่ยเฟิง แล้วเขาคือคนที่บอกอีก 3 ปี นั่นเอง

"ลึกลับที่ 2 ไปหมู่บ้านแล้วรอรับลูกค้า"

เมื่อรู้ว่าใกล้เที่ยงแล้วเป่ยเฟิงก็กวักมือเรียกลึกลับที่ 2 ที่อยู่ใกล้ ๆ

"ทำไมต้องเป็นฉันอีกแล้ว ?" ลึกลับที่ 2 พึมพำเสียงเบา ๆ

"ป้าป !"

"เพราะว่าแกเป็นคนที่พูดมากที่สุด !"

เป่ยเฟิงตอบกลับอย่างรวดเร็ว เขาควบคุมแรงให้พอดีก่อนที่จะตบหัวของลึกลับที่ 2 ด้วยความหงุดหงิด

เมื่อรู้สึกตัวแล้ว ลึกลับที่ 2 ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกก่อนจะรีบวิ่งหนีไป

'มันยังมีเนื้ออยู่เยอะ ... ฉันจะเพิ่มโต๊ะอีกซักหน่อยดีไหมวันนี้ ?'

เป่ยเฟิงยิ้มจาง ๆ ก่อนที่จะเดินเข้าในห้องใต้ดินแล้วมองไปที่เนื้อซาราแมนเดอร์ยักษ์ที่เหลืออยู่

"ลืมมันไปซะ ฉันจะรอจนกว่าจะตกได้สัตว์อสูรอีกรอบ" หลังจากที่คิดแล้วคิดอีกเขาก็ส่ายหัว

ถึงแม้ว่าเนื้อซาราแมนเดอร์ยักษ์จะไม่ได้ให้คุณค่าทางอาหารมากนัก แต่มันก็มีรสชาติที่ดีทีเดียว หากว่าเขาโชคร้ายที่จะตกสัตว์อสูรไปเรื่อย ๆ ก่อนที่เนื้อซาราแมนเดอร์ยักษ์จะหมดไป แล้วเขาจะเอาอะไรกินละ ?

"ปุชี !"

เย็นสุดขั้วปรากฏในมือของเป่ยเฟิง เขาแกว่งมันราวกับพ่อค้าเนื้อ เขาหั่นเนื้อมันออกมาสองชิ้นจากร่างกายขนาดใหญ่ของมัน

ผิวที่เหนียวเหนอะของมันถูกห่อหุ้มไปด้วยชั้นน้ำแข็งมันไม่ได้เป็นอุปสรรคในการตัดของเย็นสุดขั้วเลยแม้แต่น้อย โดยการแกว่งไม่กี่ครั้ง เนื้อชิ้นใหญ่ก็ถูกตัดออกมาเรียบร้อย

สำหรับ 3,200 หยวนต่อโต๊ะที่ลูกค้าได้จองมา เป่ยเฟิงไม่คิดที่จะใช้หม้อสมุนไพรในการทำอาหารมื้อนี้ มันไม่คุ้มค่าที่จะทำ !

***

เป่ยเฟิงตัดสินใจที่จะทำอาหารจานใหญ่จากเนื้อซาราแมนเดอร์ยักษ์ สำหรับตัวเขาแล้ว เขาได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าการทำอาหารของเขายอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่จะทำได้

แม้ว่ามาตรฐานของเขาจะไม่สูงมากนัก แต่เขาก็ไม่ได้มี 'ความสามารถ' มากพอที่จะอวดให้คนอื่นได้ อย่างน้อยเขาก็พยายามที่จะทำตามใจตัวเอง

หากร้านอาหารที่มีเชฟแบบเป่ยเฟิง ร้านของเขาคงเจ้งไปนานแล้ว !

มันไม่สำคัญว่าเชฟจะพยายามมากแค่ไหน หากเขาไม่มีทักษะใด ๆ หรือทำอาหารไม่อร่อย ! พวกลูกค้าจะปฏิเสธที่จะจ่ายเงินให้ร้านจนกว่าร้านจะปิดตัวลงแน่นอน

เป่ยเฟิงที่กล้าทำแบบนี้นั่นก็เพราะว่าเขาได้วัตถุดิบจากอีกโลก ! มันไม่สำคัญว่ามันจะดูน่ากลัวแค่ไหน ตราบใดที่มันมีรสชาติที่ยอดเยี่ยม !

เสียงกระทะและกลิ่นหอมได้ลอยออกมาจากในครัว กลิ่นหอมที่มหัศจรรย์นี้ค่อย ๆ ลอยออกไปเรื่อย ๆ

"โฮ่ง !"

"วู้ววว โฮ่ง โฮ่ง !"

เจ้าหมา 'น้อย' ทั้งสอง ไม่รู้จักพอกับหลุมดำ หลังจากที่มันได้หายตัวไปทั้งวัน มันได้ปรากฏตัวออกมาแล้วเมื่อถึงเวลากินอาหารของมัน

"ก็ได้ ใกล้เสร็จแล้ว นั่งลง !"

หมาน้อยทั้งสองกระโดดไปมาอย่างตื่นเต้น มันพยายามยืนขึ้นแล้วเอาจมูกของมันมองไปที่เตา มันพยายามที่จะยืนตรงให้มากที่สุดในขณะที่มองไปยังอาหารในกระทะ

เป่ยเฟิงเพียงแค่สั่งเบา ๆ เพียงครั้งเดียว เจ้าหมาน้อยทั้งสองก็นั่งลงข้าง ๆ เขามันราวกับว่ามันเข้าใจคำพูดของเขา

***

"พระเจ้า มันเป็นความจริงที่ว่าทางเดินไปร้านอาหารมันไกลมาก ... โชคดีที่ฉันไม่ได้ใส่ส้นสูงมาวันนี้"

ในขณะที่เธอเดินไปตามทางเดินโคลนแห้งเพื่อที่จะไปบ้านของเป่ยเฟิง ผู้หญิงวัย 30 ปีบางคนก็บ่นออกมา

สาวน้อยทั้งสองที่อยู่ข้าง ๆ ไม่ได้พูดอะไร พวกเธอมองไปที่แผลพุพองบนเท้าด้วยความเจ็บปวดในขณะที่บางครั้งก็มองไปที่ชายหนุ่มที่เดินอยู่ข้างหน้า

มันเหมือนกับการบ่นว่าทำไมพวกเธอต้องมาที่ห่างไกลแบบนี้เพิ่งกินอาหารเพียงมื้อเดียวด้วย

****

อาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันได้ส่งเสียงอันน่าตื่นเต้นออกมาดังไปทั่วลานกว้างเรื่อย ๆ

หมาป่าตัวน้อยทั้งสองมันมองอย่างเฉื่อยช้าและนอนลงอยู่ข้าง ๆ เป่ยเฟิง

ตอนนี้ลูกค้าได้มาถึงแล้ว เป่ยเฟิงได้ให้พวกเขาเลือกห้องที่จะกินอาหารกันเอง

หลังจากนั้นไม่นาน ลึกลับที่ 3 ก็ออกมาพร้อมกับจานขนาดใหญ่ เขานำมันมาวางไว้บนโต๊ะ เขาไม่ได้พูดแม้แต่คำเดียวตลอดที่เดินเอาอาหารมาวางไว้ มันราวกับว่าเขาคือซอมบี้เท่านั้น

ไม่มีใครสามารถรู้อารมณ์ของเขาได้เลย แม้ว่าจะเป็นลึกลับที่ 2 ที่เป็นเพื่อนกับเขามาตั้งนานแล้วก็ยังไม่รู้อะไรมากนัก !

แขนของเขาที่ใหญ่เท่าขาม้า ร่างกายที่ใหญ่โตที่มีกล้ามเนื้อหนาแน่นนั่นอีก !

ลึกลับที่ 2 เป็นคนที่ได้รับมอบหมายงานมาแต่แรก แต่ไอ้โง่นี้กับแสดงว่ามันรอบรู้ทุกอย่าง มันได้มอบงานของมันให้กับลึกลับที่ 3 แทนพร้อมกับหมัดของมัน !

ลึกลับที่ 3 เมื่อทำส่วนของเขาเสร็จแล้ว เขาก็ได้รีบ 'อาสา' ไปช่วยลึกลับที่ 2 โดยการเดินเข้าไปในครัวทำงานทั้งหมดของลึกลับที่ 2

'ไอ้โง่ลึกลับที่ 2! ทำไมฉันไม่เคยสังเกตเลยว่าแกโง่แบบนี้ แกน่าจะเป็นคนขึ้เกียจมาก ๆ ในอดีตใช่ไหม ? รอก่อนเถอะ ถ้าฉันแข็งแกร่งกว่าแกเมื่อไหร่ แกโดนฉันแน่ !'

ลึกลับที่ 3 รู้สึกท้อแท้มาก เมื่อเขาคิดว่าเขาคือคนที่อ่อนแอที่สุดในบ้านหลังนี้ เขาไม่สามารถเอาชนะใครได้เลย !

เป่ยเฟิงเห็นการกระทำของลึกลับที่ 2 ทั้งหมด แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ ไม่ว่ายังไงสุดท้ายมันก็ต้องมีคนเอาจานไปให้ลูกค้าอยู่ดี

"เดียวก่อน บริกร ฉันขอเหล้าสักขวด"

เสียงผู้ชายเรียกออกมาจากโต๊ะใกล้ ๆ ในโต๊ะนั้นมีผู้หญิง 2 และ ผู้ชายอีก 2 คน

"เราไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขายที่นี่"

ลึกลับที่ 3 หันกลับมาตอบด้วยใบหน้าดำมืด

'บัดซบ ! นี้พวกมันคือว่าฉันเป็นพนักงานเสิร์ฟหรือยังไง ? พวกมันคิดจริง ๆ หรอว่าตัวเองเป็นเจ้านายฉัน ! ถ้าฉันไม่พยายามห้ามตัวเอง แกรู้ไหมป่านนี้แกจะมีแต่จุดดอกไม้เต็มหน้าแกแล้ว !'

ลึกลับที่ 3 สาปแช่งออกมาในหัวใจในขณะที่ตอบกลับไป

"นี่เป็นการบริการแบบไหนกัน ? พวกแกกล้าเรียกเก็บเงิน 3,200 หยวนสำหรับค่าอาหารมื้อเดียว ? ไอ้นรกเลือดเอ้ย แกคิดว่ายังไง ?"

โจวไฮ่รู้สึกมีควันออกมาเมื่อมองไปที่ลึกลับที่ 3 ที่หายไปแล้ว เขาหันกลับมามองคนที่พาเขามาที่นี่

"พี่ใหญ่ไฮ่ ร้านนี่เขาไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขาย มันเป็นความผิดของฉันเองที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้ ... มันไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะได้มาที่นี่ ฉันใช้ความพยายามอย่างมากในการจองมัน"

เฉินซง อธิบาย

ทั้งสองสาวนั่นไม่ได้สนใจในสิ่งที่พวกเขาคุยกัน พวกเธอกระซิบและหัวเราะในขณะที่คุยถึงเรื่องพูดหญิงกันเอง

"หื้ม ! ไอ้โง่ที่ไหนมาตั้งกฏแบบนี้กัน"

แม้ว่าโจวไฮ่ก็ยังคงโกรธอย่างมากกับการทำตัวของบริกร แต่เขารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ฟังคำอธิบาย

เป่ยเฟิงและพวกที่เหลือนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นและกำลังเพลิดเพลินกับชามที่เต็มไปด้วยเนื้อซาราแมนเดอร์ยักษ์ของตัวเอง แต่ว่ามันของเขาคนเดียวเท่านั้น ส่วนของคนอื่นนั่นจะเป็นหม้อใบใหญ่แทน

เป่ยเฟิงเดินไปห้องที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วเปิดถังเหล้าขนาดใหญ่

ทันใดนั่นกลิ่นของแอลกอฮอล์ที่หนาแน่นก็กระจายไปในอากาศ มันลอยออกจากห้องไปเรื่อย ๆ เหล้าในถังตอนนี้มันมีสีทองเล็กน้อยมันราวกับว่ามันคือน้ำผึ้งคุณภาพเยี่ยม

เขาหยิบกระบวยใกล้ ๆ แล้วตักมันขึ้นมาจิ๊บเบา ๆ

หยดละอองของเหล้าได้หล่นลงมาจากกระบวย มันมีประกายแวววาวอย่างมาก

'หืม ? กลิ่มของเหล้า !'

จมูกของโจวจูอิงกระตุกราวกับกระต่ายที่ตื่นเต้น หนอนแอลกอฮอล์ในลำไส้ของเขามันราวกับว่าจะเจาะออกมาให้ได้เมื่อมันได้กลิ่นเหล้า !

'นี้มันเหล้าอะไรกัน ? มันมีกลิ่นที่บริสุทธิ์มาก ! มันเหมือนกับเหล้ามูไท ที่เก่าแก่ที่เก็บมานานกว่าสิบปี ! จริงอยู่ที่ว่าฉันเคยลิ้มรสเหล้ามูไทมาก่อน แต่ดูเหมือนว่ามันเทียบไม่ได้เลยกับกลิ่นหอมของเหล้านี้ ...'

โจวไฮ่เป็นคนหนึ่งที่นับถือแอลกอฮอล์เป็นศาสนาของเขา และแน่นอนว่าเขาคือนักชิมเหล้าชั้นเยี่ยม เขาเป็นนักชิมรุ่นเก๋าจนสามารถบอกรสชาติที่ซ่อนอยู่รวมทั้งยี่ห้อ ชนิดของเหล้าได้ เขาได้ลองมันมาเกือบหมดแล้วทั้งดีและไม่ดี จะบอกว่าในประเทศที่เขาเป็นแนวหน้าของนักชิมเหล้าก็ไม่ได้เกินจริงเลย !

แต่ครั้งนี้เขากลับไม่สามารถบอกได้ว่ากลิ่นหอมนี้คือเหล้าชนิดอะไร !

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด