บทที่ 89 การฝึกฝนเพื่อยืดชีวิตระดับ 1 !
บทที่ 89 การฝึกฝนเพื่อยืดชีวิตระดับ 1 !
หลังจากพูดเสร็จ เป่ยเฟิงก็เดินจากไป หลิวจี้และคนอื่น ๆ มุมปากกระตุกเล็กน้อยเมื่อมองไปที่จินรองที่น่าสงสาร
"เป็นการตบที่โหดร้ายจริง ๆ .. ฉันคิดว่าครึ่งหน้าเลยมั่งที่โดนไป ?"
"ฮ่า ! เป็นการตบที่ยอดเยี่ยม ! เขาไม่มีทางได้เป็นหัวหน้าได้หรอก เพราะเขามันน่ารำคาญ !"
"ยอดเยี่ยม ! เพื่อนคนนี้เดินไปในอากาศด้วยความมั่นใจแบบ 'สวรรค์หมายเลข 1 โลกหมายเลข 2 และฉันคือหมายเลข 3' ถ้าไม่ใช่เขา แล้วใครละที่สมควรโดนตบ ?"
"นี้คือสิ่งที่เรียกว่า 'คนป่วยมันต้องถูกทรมานด้วยคนป่วยด้วยกัน' เพื่อนคนนี้กำลังป่วย แต่เขากลับโดนไอ้หนุ่มนั่นทรมานซะยิ่งกว่าคนป่วย ! แต่ไม่รู้ทำไมฉันรู้สึกดีใจเหมือนกับว่าได้ระบายความโกรธ ?"
สมาชิกในทีมคนอื่น ๆ ล้อมรอบเป็นวงกลมอยู่รอบ ๆ จินรองพร้อมกับชี้ตำหนิเขาด้วยความไม่พอใจเพราะว่าเขาเห็นจินรองทำตัวตลกแบบนี้มานานแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อของเขาแล้วละก็ มันไม่มีทางเลยที่เขาจะได้มาเป็นรองหัวหน้าทีมนี้จริงไหม ?
"หัวหน้า สถานการณ์แบบนี้เอาไงดี ?"
หนานเทียนหันกลับไปมองที่หลิวจี้
"ปล่อยเขาไป ! เขายังดูหนุ่มอยู่ แต่เขากลับอยู่ในระดับเจียงวิวัฒนาการ ต่อให้พ่อของจินรองมาด้วยตัวเองก็ตาม เขาก็ยังคงทำอะไรเจ้าหนุ่มนี้ไม่ได้ ! ไอ้โง่นี่มันคงคิดจริง ๆ มันสามารถทำอะไรใครก็ได้ตราบใดที่มันมีพ่อที่ดีของมันอยู่ !"
"ก็ดี สำหรับการตบในวันนี้มันก็ยังดีกว่าถูกคนบ้าที่ไหนก็มารู้มาฆ่าเอา คงได้แต่หวังว่าจินรองจะเก็บบทเรียนครั้งนี้ไว้ในใจของเขา"
หลิวจี้ถอนหายใจออกมาอย่างหน่าย แม้ว่าระดับเจียงแห่งความมืดจะอยู่ห่างจากเจียงแห่งวิวัฒนาการเพียงขั้นเดียว แต่มันไม่ได้เกินจริงเลยว่าทั้งสองมันได้แตกต่างราวกับสวรรค์และโลก !
เส้นทางการฝึกฝนของนักสู้นั่นเริ่มจาก เจียงแห่งแสงสว่าง หลังจากที่ผ่านไปได้ก็จะเข้าสู่ระดับต่อไปคือ เจียงแห่งความมืด จากนั่นหากผสานทั้งแสงสว่างและความมืดได้ รวมทั้งทำความเข้าใจมันได้ทั้งคู่ เขาก็สามารถเข้าสู่ระดับเจียงแห่งวิวัฒนาการได้ !
สำหรับผู้ที่ได้ก้าวมาถึงระดับเจียงแห่งวิวัฒการได้แล้ว เขาจะมีความสามารถแข็งแกร่งกว่าคนปกติถึง 100 คน ! ต่อให้ 10 ผู้เชี่ยวชาญของเจียงแห่งความมืดมาเอง มันไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะอยู่ระดับสูงแค่ไหน ตราบใดที่เขาไม่มีปืนหรืออาวุธอื่น ๆ เพียงเขาก็ได้แต่ยอมรับชะตากรรมที่จะกลายเป็นของเคี้ยวเล่นให้กับผู้ที่อยู่ในระดับเจียงวิวัฒนาการ !
แต่ทั้งนี้พื้นฐานการฝึกฝนมีแค่หลิวจี้ที่เข้าใจ สำหรับเป่ยเฟิงตั้งแต่เขาเริ่มต้นการฝึกการต่อสู้เขาอยู่เพียงแค่ระดับเจียงแห่งแสงเท่านั้น !
เขาได้ฝึกฝนเส้นทางนี้เป็นเส้นเดียว ถ้าจะให้พูดคือ ทุกถนนนั้นสามารถนำทางไปสู่โรมได้ เจียงแห่งแสงก็สามารถทำให้บุคคลที่ฝึกฝนไปถึงเส้นทางแห่งชีวิตได้เช่นกัน !
เป่ยเฟิงนั่นไม่รู้อะไรที่เรียกว่าเจียงแห่งความมืดหรือเจียงแห่งวิวัฒนาการ สำหรับเขาแล้ว เขารู้เพียงแค่ว่าเส้นทางที่เขาฝึกอยู่นี้มันสุดยอดที่สุด !
เลือดและฉีในร่างเขามันราวเตาเผาที่ลุกไหม้ กล้ามเนื้อและกระดูกที่แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดา !
พวกมันซ่อนอยู่ภายใต้ผิวหนังของเขาเช่นเดียวกับการซ่อนตัวของวัวแก่ !
ในขณะที่เฝ้าดูเป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ ค่อย ๆ หายไปจากระยะไกล หนานเทียนยังคงอ้าปากค้างราวกับว่าไม่รู้จะพูดอะไรดี
"ฉันรู้ว่านายอยากพูดอะไร แต่นายรู้ไหมว่าคนหนุ่มแบบนี้ที่ก้าวมาถึงระดับเจียงแห่งวิวัฒนาการได้ราวกับว่าเขาปรากฏตัวออกมาจากอากาศเฉย ๆ มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่มีผู้มีอำนาจสนับสนุนเขา ! ดูเหมือนว่าทรัพยาการที่ใช้ไปจะไม่น้อยเลยที่จะเลี้ยงดูสัตว์ประหลาดน่ากลัวแบบนี้ได้ !"
หลิวจี้มองไปที่หนานเทียนแล้วส่ายหัว เขาพูดออกมาอย่างจริงจัง
"แล้ว .. เรื่องของจินรอง ?"
"ไม่จำเป็นต้องห่วงเขา ถ้าหากเขายังไม่เข้าใจถึงการตบนี้แล้วยังคิดที่จะแก้แค้นละก็ ปล่อยเขาไป ไฟที่ลุกไหม้ในประตูเมืองสุดท้ายมันก็จะกลายเป็นภัยพิบัติสำหรับปลาที่อยู่ในคูเมือง ! อย่าไปสนใจหากเขาอยากจะทำร้ายตัวเอง" [1]
หลิวจี้พอใจกับหนานเทียนอย่างมาก แม้ว่าเขาอาจจะดูโง่เล็กน้อยในบางครั้ง แต่เขาก็เป็นคนที่มีความรับผิดชอบที่ดี ดังนั่นเขาจึงให้คำแนะนำเล็กน้อย
"อืม ผมเข้าใจแล้ว"
หนานเทียนพยักหน้า หลังจากนั้นพวกเขาก็ทำความสะอาดรอบ ๆ พร้อมกับนำซากศพของมะห์มุดและจินร่องที่สลบอยู่หายไปจากภูเขา
***
เป่ยเฟิงอยู่ในอารมณ์ที่หงุดหงิดมาก เขาเพิ่งได้ใส่ชุดใหม่ตัวนี้เป็นครั้งแรก และเขาก็ถูกบังคับให้ทิ้งมันหลังจากที่ใส่ได้เพียงครั้งเดียว
เมื่อเป่ยเฟิงและที่เหลือกลับมาที่บ้าน พวกเขาก็ได้กลิ่นหอมลอยออกมาจากในครัว
'ไป่เซียงตื่นแล้ว ทำไมเขาตื่นเช้าขนาดนี้ได้วันนี้ ?'
เป่ยเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ปกติไป่เซียงจะไม่ลุกจนกว่าจะ 8 หรือ 9 โมงเช้า ในความจริงเขาเหมือนกับนายน้อยมากกว่าคนรับใช้ซะอีก
แต่เขาก็แปลกใจเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะไม่สนใจแล้วเดินไปอาบน้ำ เมื่อถึงเวลาไป่เซียงก็ทำโจ๊กเสร็จเรียบร้อย
เนื้อของซาราแมนเดอร์ยักษ์ถูกสับระเอียดใส่ลงในโจ๊ก มีผักดองอยู่เล็กน้อยข้าง ๆ พร้อมกับเกลือ
สำหรับผักดองนี้เป็นสิ่งที่เป่ยเฟิงทำขึ้นมาเอง มันทำให้โจ๊กอร่อยและน่ากินมากขึ้น
แม้ว่ารสชาติจะไม่ดีเท่ากับการทำด้วยหม้อสมุนไพร แต่ก็ถือว่ามีรสชาติใช้ได้
หลังจากกินอาหารเช้าแล้ว อารมณ์ของเป่ยเฟิงดีขึ้นอย่างมาก เขากลับมาเป็นเถ้าแก่ผู้ใช้นิ้วสั่งอย่างเดียวอีกครั้ง เขาเดินจากไปโดยมอบหมายงานให้กับลึกลับที่ 2 และ 3 ในการทำความสะอาด
"อ่า อากาศวันนี้ไม่เลว มันเป็นวันที่ดี !"
เป่ยเฟิงพึมพำขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วมองไปที่ท้องฟ้าสีคราม
"ร้านอาหารเปิดให้จองวันนี้ จำกัดเพียงแค่ 4 โต๊ะเท่านั้น ราคาอยู่ที่ 3,200 หยวน !"
เป่ยเฟิงดึงโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโพสต์ข้อความลงในกลุ่มสนทนานักชิม
"เร็ว ! เถ้าแก่มาแล้ว ! ใครที่อยากกินรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ !"
มีคนโพสต์ข้อความถึง '@everyone' เพื่อปลุกกลุ่มสนทนาที่เหมือนตายแล้วนี้ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง !
"โว้ว ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาบอกมาว่าอาหารนี้มันราวกับเป็นอาหารจากสวรรค์มันทำให้ฉันเกือบจะตายจากความหิวเพราะแค่จิตนาการถึงรสชาติของมัน คราวนี้แหละฉันจะต้องได้ไป !"
"ฮ่า ! นายช้าไปแล้วพวก ฉันโอนเงินไปเรียบร้อยแล้ว !"
"แล้วไง ? สุดท้ายเถ้าแก่ก็เป็นคนที่เลือกคนที่จะได้ไปอยู่ดี !"
ในตอนนี้ได้มีข้อความปรากฏขึ้นมาถึง '+99' เป่ยเฟิงส่ายหัวกับบนสนทนา ก่อนที่เขาจะอ่านอีกข้อความ มันก็มี 7-8 ข้อความโผล่มาอีกครั้ง
เป่ยเฟิงวางโทรศัพท์ลงไป เขาไม่สนใจที่จะติดตามการสนทนานี้อีก
"อืม ฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยไปมาก่อน ฉันขอเตือนก่อนนะว่าร้านอาหารส่วนตัวของเป่ยเฟิงมันอยู่ในสถานที่ไกลมาก ๆ มันต้องเดินอย่างน้อย 40 นาทีกว่าจะไปถึง อีกทั้งต้องระวังตัวเป็นพิเศษในตอนที่กำลังกินด้วย"
เจียงจุนมองความวุ่นวายในกลุ่มก่อนจะส่งข้อความออกไป
"บัดซบ ! มันไกลขนาดนั่นจริงดิ ? ถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงไม่ไปแล้ว ... ฉันจะขอเงินคืนได้ไหม ?"
"นายหมายความว่ายังไง 'ระวังตัวเป็นพิเศษในตอนที่กำลังกิน' เป็นไปได้ไหมว่ามันคือโรงเตี๊ยมสีดำ ? หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก่อนที่จะเช็คบิล ?"
กลุ่มสนทนาตกอยู่ในความวุ่นวายครั้งใหญ่
"ฉันจะส่งรูปไปให้พวกนายตัดสินใจกันเอง"
เจียงจุนเลื่อนดูแกลเลอรี่รูปภาพในโทรศัพท์ของเขาแล้ววางลงในกลุ่มสนทนา
'หึ ไอ้พวกมันฝรั่ง ... แกพยายามจะสู้กับฉัน ? แค่นี้ก็ทำให้พวกมันถอดใจได้แล้วใช่ไหม ? ฮี่ฮี่ ฉันนี่ฉลาดจริง ๆ ! ด้วยเหตุนี้ฉันจะได้เพิ่มโอกาศในการจองมากเพิ่มขึ้น !'
หลังจากวางโทรศัพท์ลง เจียงจุนก็เดินออกไปสูบบุหรี่ แล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาอีกครั้งแล้วดูที่หน้าจอ
"ว้าว โลลิน่ารักอะไรขนาดนี้ !"
"ใช่แล้ว หัวใจฉันมันละลายไปกับความน่ารักนี้แล้ว !"
"พี่น้อง ใจเย็น ๆ ! อย่าลืมว่า 3 ปีเชียวน่า !"
"มีอะไรต้องกลัว 3 ปี ในคุกเอง ถึงมันจะเป็นโทษประหารชีวิตมันก็คุ้มค่า ! อย่าห้ามฉันอีกเลยฉันจะโอนเงินมัดจำแล้วตอนนี้ !"
"เอ๊ะ ? มีบางอย่างไม่ถูกต้อง !"
เจียงจุนสับสนอย่างมาก ทุกคอมเม้นมันเหมือนกับพูดถึงสาวน้อยน่ารักคนหนึ่ง !
ผ่านไปซักพักเขาถึงได้มองเห็นว่าเขาโพสต์รูปอะไรไป
"บัดซบ ! ฉันส่งรูปผิด ..."
เจียงจุนรู้สึกอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา รูปที่เขาส่งไปมันคือรูปโลลิน้อยน่ารักที่กำลังยิ้มแย้มให้กับกล้อง
"ฉันส่งผิดรูป นี้ต่างหากของจริง !"
คราวนี้เจียงจุนตรวจสอบความแน่ใจก่อนที่จะส่งไปอีกรูป
ภาพนี้คือภาพของลึกลับที่ 1 ยังคงยิ้มให้กับกล้อง แต่แตกต่างกันที่ว่ามีคนอยู่ใต้เท้าของเธอ
"บัดซบ ภาพนี้ตัดต่อได้เยี่ยมจริง ๆ ! มันไม่มีที่ติเลย !"
"ฮ่า ๆ ใช่แล้ว มันดูสมจริงมากจริง ๆ !"
"พี่ชาย นายเป็นคนดีจริง ๆ ! นายช่วยตัดต่อภาพฉันให้ดูเท่หน่อยได้ไหม ?"
"ภาพนี้มันทำให้ฉันรู้สึกแปลก ๆ .. ไม่เลว ไม่เลว ! นายทำให้ฉันหัวเราะได้ทั้งวัน !"
เจียงจุนเปิดปากจนเกือบจะถึงพื้น นี้มันเรื่องบัดซบอะไรกัน ?
***
[1] TL/N : วลีของจีนประมาณว่านายไม่มีทางหนีกับสิ่งที่นายทำลงไปได้หรอก