บทที่ 84 แต่ละคนมีแรงจูงใจแตกต่างกันออกไป
บทที่ 84 แต่ละคนมีแรงจูงใจแตกต่างกันออกไป
ชามขนาดใหญ่ที่มีเนื้อซาราแมนเดอร์ยักษ์อยู่ข้างในถูกนำออกมาโดยเป่ยเฟิง
"ขอให้อร่อย"
แม้ว่าชามจะมีขนาดใหญ่ แต่เห็นได้ชัดว่ามีเนื้ออยู่ประมาณ 5 จิน ที่เหลือคือซุป เป่ยเฟิงวางชามลงก่อนจะเดินจากไป
"แค่นี้ ?" ฮวงหลินถามด้วยความตกตะลึง ก่อนจะมองไปที่เป่ยเฟิง
"ใช่ นี้เป็นอาหารจานเดียว มันคือมาตรฐานของร้านนี้" เป่ยเฟิงตอบกลับมาก่อนจะเดินจากไป
'เด็กหนุ่มคนนี้ดูแปลกจริง ๆ !'
ฮวงหลินส่ายหัวในขณะที่มองชามซุปบนโต๊ะ
ยิ่งเห็นเขาก็ยิ่งส่ายหัว การนำเสนอจานอาหารแบบนี้มันต้องอร่อยจริง ๆ แต่ดูสีและความเงาของมันที่เรียบง่ายสิ ไหนจะไม่มีส่วนผสมพิเศษอีก มันมีแค่เนื้อสีน้ำตาลที่ลอยอยู่บนซุปสีขาวซึ้งเนื้อมันดูน่าเกลียดมากอยู่ มันทำให้คนมองสงสัยว่าอาหารจานนี้คงไม่ใช่ว่าถูกทำโดยการปาเนื้อลงไปในน้ำแล้วปล่อยให้มันเดือดโดยไม่ต้องทำอะไรใช่ไหม ? มันไม่มีซอสอะไรให้เลย มันคือความเรียบง่ายราวกับว่ามันเป็นของสำหรับคนธรรมดา ๆ มันดูไม่ค่อยน่ากินมากนัก
อย่างไรก็ตาม กลิ่นหอมของมันกลับไม่สามารถต้านทานได้ มันได้ไหลเข้าไปในจมูกของฮวงหลิน ช่วยไม่ได้ที่เขาต้องหยิบช้อนลงไปในชามซุป
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร เขาไม่ได้เริ่มที่เนื้อ แต่เริ่มที่ซุปก่อน เขารอให้มันเย็นลงก่อนที่จะนำมันเข้าปาก
"เยี่ยม ! นี่มันสุดยอดมาก !"
ฮวงหลินทุบโต๊ะและกระโดดออกมา มีความตกใจเขียนอยู่บนหน้าของเขา
ช่วงเวลาที่ซุปเข้าไปในปากมันมีรสชาติที่แตกต่างกันอยู่บนลิ้นของเขา มันมีทั้งอ่อนโยนและเข้มข้นจนไม่สามารถคาดหวังได้
เมื่อรสชาติมันออกมาเรื่อย ๆ ลิ้นของเขาก็เกิดความรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกับรสชาติที่อร่อยได้รวมกันอีกครั้งอย่างช้า ๆ มันมีแต่รสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้นทุกครั้งที่มันผ่านส่วนในปากของเขา ! มันมีความสดชื่นและอร่อยที่สมบูรณ์แบบ !
'นี้มันสุดยอดจริง ๆ !'
แม้แต่เจียงเบ๋าจุน ก็ถูกบังคังให้ลืมเกี่ยวกับหม้อน้ำในขณะที่กำลังลิ้มรสซุป
'ตามที่คิดเอาไว้ คุณภาพของเนื้อมันมีพลังงานที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน'
หลิวซุยพึมพำอย่างตกใจ เขาถูกรสชาติของมันควบคุม แต่สิ่งที่เขารู้สึกตกใจนั่นคือพลังงานของเนื้อสัตว์ !
ในช่วงเวลานั้น ทั้ง 4 คนถูกควบคุมไว้สมบูรณ์ พวกเขามุ่งเน้นไปที่การเพลิดเพลินกับอาหารที่หาได้ยากตรงหน้าเขา
แม้ว่าพวกเขากำลังลิ้มรสอาหารที่น่าอัศจรรย์นี้ แต่ทั้งสามคน หวังเจียน ฮวงหลิน เจียงเบ๋าจุน ก็ยังคงรักษาความคิดของเขาเอาไว้ พวกเขาหลีกเลี่ยงการกินแบบสัตว์ป่า พวกเขาเลือกที่จะกินอย่างช้า ๆ โดยไม่เบื่อหน่ายมัน
สำหรับหลิวซุย เขาไม่สามารถทนต่อกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เขารีบวิ่งหนีพร้อมกับพึมพำบางอย่างขณะที่ตรงไปห้องนั่งเล่น
ตามที่คาดไว้ เมื่อเขามาถึงห้องนั่งเล่น เขาเห็นเป่ยเฟิงและพวกที่เหลือกำลังนั่งล้อมเป็นวงกลมโดยตรงกลางมีชามใบใหญ่อยู่อีกชาม
"ต้องการอะไร ?"
ลึกลับที่ 1 กับ พวกที่เหลือเดาะลิ้นของเขาด้วยความรำคาญ เมื่อมองไปที่หลิวซุนที่กำลังลนลาน
"อะไรที่ทำให้ฉันต้องมาที่นี่ ? แน่นอนว่าเพราะเนื้อนั่น มันลำบากมากที่จะกินอย่างเงียบ ๆ กับชายชราสามคน โดยมีหนึ่งในนั่นเป็นเจ้านายของพวกนาย เป็นพวกนายจะรู้สึกยังไง ?"
หลิวซุยมีรอยยิ้มบนหน้าก่อนที่จะคว้าเก้าอี้ที่อยู่ข้างโต๊ะแล้วนั่งลงกินกับพวกที่เหลือ ดวงตาของเขาสว่างขึ้นด้วยความยินดีเมื่อมองไปที่ชามขนาดใหญ่บนโต๊ะ
"มาสิ ..."
เป่ยเฟิงพูดเบา ๆ แต่เขาไม่ได้ขยับเพื่อไล่หลิวซุยเลย
อย่างรวดเร็ว เมื่อกลุ่มที่แต่เดิมมีแต่ผีหิวโหยกำลังกินอาหารเข้าปากของเขา ตอนนี้พวกเขามีสมาชิกใหม่มาเพิ่มอีกคน
'โอ้ ! ฉันอิ่มแล้ว ! เอ๊ะ ? นี้มันอะไรกัน ?'
หลิวซุยถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย จากนั้นเมื่อเขาเห็นเป่ยเฟิงและเห็นไป่เซียงกับเป่ยเฟิงกำลังกินอาหารราวกับกำลังยัดอยู่ในคอของพวกเขา
'ทั้งสองคนไม่ใช่คนธรรมดา แปลก ทำไมเพื่อตัวใหญ่คนนี้ถึงมีความอยากอาหารขนาดนี้ ถ้ามองดี ๆ จะเห็นได้ว่าเขาแข็งแกร่งมาก แต่เจ้านายตัวเล็ก ๆ ของเขานี้สิไม่น่าเชื่อจริง ๆ !'
หลิวซุยมองไปที่เป่ยเฟิงด้วยความแปลกใจ เมื่อเขาเห็นเป่ยเฟิงกำลังเขมือบเนื้อชิ้นใหญ่เข้าปากโดยไม่มีการแสดงออกใด ๆ 'พลังงานจำนวนมากในเนื้อนี้มันสูงมากจนแม้แต่เขาก็ไม่สามารถย่อยได้หมดในครั้งเดียว แต่เจ้านายน้อยคนนี้กลับดูเหมือนกับว่าเขาไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย ! เขาต้องเป็นยอดนักสู้ที่ทรงพลังมากแน่ ๆ !'
นี้เป็นเรื่องธรรมดามากที่มีคนสามารถรับพลังงานสูง ๆ โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
ส่วนโต๊ะอื่น ๆ ฮวงหลินกับพวกที่เหลือก็กินเสร็จแล้ว ตอนนี้เหลือเนื้ออยู่ 3 จินบนชาม แต่ทั้งสามคนไม่สามารถกินอะไรเพิ่มได้อีกแล้ว
"ไม่ไหวแล้ว ! ฉันไม่สามารถกินได้อีกแล้ว" ฮวงหลินเอนหลังพิงเก้าอี้ "มันนานแล้วที่ฉันไม่ได้กินอาหารอร่อย ๆ แบบนี้ !" เขาพึมพำกับตัวเอง
"เอาล่ะ ตอนนี้เรากินกันเสร็จแล้ว เรามาพูดถึงเรื่องหลัก ๆ ดีกว่า ประธานฮวง คุณคิดอย่างไรกับการร่วมมือระหว่างบริษัทของเรา ?" หวังเจียนถามโดยตรงไม่คิดแม้แต่จะอ้อมอีกแล้ว
"ไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว เราจะร่วมมือกับที่คุณเสนอมา" ฮวงหลินตอบอย่างเฉื่อยชา ในขณะที่เขาเอนตัวลงบนเก้าอี้ เป็นเวลามาหลายปีแล้วที่เขาไม่เคยรู้สึกง่วงหลังจากกินอาหาร ตอนนี้เขาถูกปกคลุมไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นและง่วงนอนอย่างมาก
"เอ๊ะ ? ตกลง !"
หวังเจียนรู้สึกแย่ในใจเมื่อได้ยินฮวงหลินบอกว่า 'ไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว' ใครจะคาดได้ว่าเขาจะพูดประโยคนี้ออกมา ?
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมเพื่อนคนนี้ถึงพูดแบบนี้ แต่หวังเจียนก็ไม่ลังเลที่จะยอมรับมัน ราวกับว่าเขากลัวฮวงหลินจะพูดซ้ำอีกครั้ง
"ยังไงก็ตาม เหมือนประธานหวังจะคุ้นเคยกับเจ้าของร้านนี้ใช่ไหม ?" เจียงเบ๋าจุนที่นั่งเงียบ ๆ ได้ถามขึ้นมา
"ฉันก็พอจะสนิทกับเขาอยู่ มีอะไรงั้นหรอ ?" หวังเจียนถามด้วยความประหลาดใจ
"คือแบบนี้ ฉันอยากจะขอซื้อหม้อซุปขนาดใหญ่ที่อยู่ในลานกว้างนั่น"
หม้อซุปขนาดใหญ่ ? แม้แต่เจียงเบ๋าจุนก็รู้สึกว่าหน้าของเขาแดงและรู้สึกอยากร้องไห้เมื่อพูดออกมา
ในเวลาเดียวกัน ช่วยไม่ได้ที่เขาจะสาปแช่งเป่ยเฟิงในใจอีกครั้ง สำหรับสิ่งของที่ถูกสวรรค์ทอดทิ้งชิ้นนี้ ! ไม่ว่ามันจะเป็นของจริงหรือไม่ก็ตาม มันยังคงเป็นศิลปะที่หายากยิ่ง ! มาใช้หม้อนี้เพื่อปรุงซุป .. หัวของไอ้ตัวบัดซบนี้ทำด้วยอะไรกัน !
"หืม ? นี้ .. ก็ได้ ฉันจะช่วยถามเขาให้เอง" หวังเจียนลังเลชั่วครู่ เขายังคงต้องไว้หน้าชายชรานี้เล็กน้อย เพราะเขามากับฮวงหลิน เขาต้องมีสถานะพิเศษเช่นกัน
'โอ้ ? เพื่อนคนนี้จะไม่ออกมา ถ้ามันไม่มีประโยชน์ มันต้องไม่ใช่หม้อธรรมดาแน่ ๆ' ฮวงหลินมองไปที่เจียงเบ๋าจุนด้ยความสนใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จ ทั้งสามคนก็นั่งคุยกันอยู่ซักพัก ก่อนจะลุกขึ้นมา
"อ่า เซียวเฟิง! ฝีมือการทำอาหารของหลานดีขึ้นอีกแล้ว !" หวังเจียนถอนหายใจออกมาอย่างจริงจัง ในขณะที่มุมปากของเขากระตุกเมื่อมองเห็นหลิวซุยเดินออกมาพร้อมกับเป่ยเฟิง เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้หนีไปกินกับเป่ยเฟิงเพราะเขาไม่สามารถถูกขังให้กินอยู่ข้าง ๆ เขากับเพื่อนอีกสองคนได้
"ใช่แล้ว เพื่อนคนนี้เขาได้เดินทางไกลมาเพื่อหาอาหารอร่อย ๆ แต่นี้เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลิ้มรสอาหารอร่อยแบบนี้ ถึงแม้ว่ามันจะขาดอะไรไปเล็กน้อยก็ตาม แต่มันก็ไม่มีผลมากนัก เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันขอเสนอให้นายมาเป็นพ่อครัวส่วนตัว ฉันจะให้นาย 100,000 หยวนต่อเดือน !"
ฮวงหลินได้เสนอเงินเดือนที่เขารู้สึกว่าสูงที่สุดให้เมื่อมองไปที่เป่ยเฟิง
"ไม่สนอะ" เป่ยเฟิงตอบกลับฮวงหลินทันที
"ประธานฮวง คุณสามารถรักษาลมหายใจนี้ไว้ได้ .. แต่ถ้าเขาสามารถถูกจ้างได้ด้วยเงิน 100,000 หยวนต่อเดือน คุณคงไม่ได้มากินอะไรอร่อย ๆ แบบวันนี้ได้ มันจะดีกว่าถ้าเรานาน ๆ ทีจะมากิน" เห็นการแสดงออกอันดื้อรนบนหน้าของฮวงหลิน หวังเจียงรีบแทรกทันที
"ไอ น่าเสียดาย .."
ฮวงหลินรู้สึกผิดหวังมาก แต่ที่นี่ก็ไม่ได้ไกลมากนัก เขาสามารถนั่งเฮลิคอปเตอร์มากินอาหารที่นี่ได้เช่นเดียวกันกับหวังเจียน
"อืม หมายเลขบัญชีของนายคืออะไร ฉันจะฝากเงิน 1 ล้านให้นายเลยตอนนี้ !"
ฮวงหลินประกาศออกมาอย่างหยิ่งทนง
"ใครเป็นคนจ่ายตอนนี้ ?" เป่ยเฟิงถามด้วยไม่สนใจ
"มันเป็นธรรมดาลุงจะต้องเป็นคนจ่าย" หวังเจียนหัวเราะออกมาดัง ๆ
"โอ้ เยี่ยม ถือว่ามื้อนี้ผมเลี้ยง ผมจะเอาเงินคุณในครั้งหน้าที่คุณมาละกัน"
เมื่อเห็นว่าหวังเจียนกำลังจะจ่ายเงิน เป่ยเฟิงส่ายหัว นี่เป็นวิธีของเขา ถ้าคนอื่น ๆ ที่ปฏิบัติกับเขาอย่างจริงใจ เขาก็ควรจะให้การช่วยเหลือกับเขาคนนั้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
"ไม่ต้องกังวัล พวกนายไม่ต้องเกียงกันเอง ฉันจะขอมีส่วนแบ่งในการจ่ายด้วยสำหรับการมาเยือนครั้งหน้าของฉัน " ฮวงหลินอธิบายออกมา