บทที่ 83 ไม่รู้จักพอกับหลุมดำ
บทที่ 83 ไม่รู้จักพอกับหลุมดำ
"เยี่ยม ผมจะไปรับคุณที่โรงแรมอีกที"
หวังเจียนวางโทรศัพท์ลงอย่างตื่นเต้น
แม้ว่าเขาจะเต็มไปด้วยความมั่นใจ แต่ก็ยังคงกังวลว่าอาหารของเป่ยเฟิงนั้นอาจจะไม่สามารถตอบสนองเรื่องรสชาติต่อเพื่อนคนนี้ได้
"ฉันค่อนข้างมั่นใจในรสชาติของมัน อีกอย่างฉันเป็นคนเสนอมันเองกับมือ"
หวังเจียนครุ่นคิดอย่างหนัก ในการเดินทางครั้งแรกที่ได้ไปร้านอาหารของเป่ยเฟิงนั่น เขาไม่สามารถหยุดห้ามตัวเองให้ตกไปในกลิ่นอันหอมหวานและรสชาติของมันได้เลย
"เสียวหลิว เตรียมเฮลิคอปเตอร์ให้ฉัน"
หวังเจียนหันไปหาหลิวซุยข้าง ๆ
หลิวซุยพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะจากไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เฮลิคอปเตอร์ก็ได้เตรียมพร้อมอยู่ที่เหนือตึกบริษัทชิงเฉิง
หลังจากนั้นได้บินไปที่โรงแรมที่หรูหราที่สุดในเมืองชิงเฉิง เพื่อไปรับฮวงหลินและพาเขาไปด้วยเฮลิคอปเตอร์
"ประธานฮวง ท่านสุภาพบุรุษท่านนี้คือ ?"
หวังเจียนมองไปที่ชายวัยชราที่มาพร้อมกับฮวงหลิน ถามออกมา
"นี้เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของฉันเอง พวกเรามีนิสัยคล้าย ๆ กัน"
ฮวงหลินยิ้งอย่างเปิดเผย เขาแนะนำชายชราเพียงสั้น ๆ ด้วยรอยยิ้ม
'บัดซบ ! ถ้าแค่คนเดียวมันคงไม่เป็นไร แต่นี้มาอีกคน !'
หวังเจียนคิดอย่างกังวล
เพื่อนที่มีนิสัยคล้าย ๆ กัน ? นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องมีความสนใจเหมือนกัน เพื่อนคนนี้ต้องมีปากที่แหลมคมด้วยเช่นกัน !
"พวกเรากำลังจะไปไหนกัน ?"
ฮวงหลินถามอย่างสนใจ
"ภูเขาชิงหลิง จุดท่องเที่ยวยอดนิยมแถวนั้น"
หวังเจียนตอบ
"โฮโฮ่ คุณคงไม่ได้วางแผนจะพาเราสองคนไปหากระดูกเก่า ๆ ที่ภูเขาชิงหลิงเพื่อรับลมเย็น ๆ แล้วปล่อยให้หิวเฉย ๆ ใชไหม ?"
ฮวงหลินถามอย่างล้อเลียน
แต่ละคนมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่พวกเขาไม่ได้พูดมันออกมา มันมีเพียงการสนทนาสั้น ๆ เท่านั้น
***
เป่ยเฟิงกำลังคิดถึงสิ่งที่จะจัดงานเลี้ยงของหวังเจียน หลังจากคิดมานาน เขาตัดสินใจยกหม้อปรุงอาหารสมุนไพรออกมาและทำเนื้อซาราแมนเดอร์ยักษ์สมุนไพร
มองไปที่นาฬิกา เกือบจะถึงมื้อกลางวันแล้ว เป่ยเฟิงได้บอกให้ลึกลับที่ 2 กับ 3 เริ่มจุดไฟ
หนึ่งชั่วโมงต่อมาอาหารได้ทำเสร็จเรียบร้อย และเป่ยเฟิงก็ค่อย ๆ ดับไฟ
ในขณะนั้น เสียงเฮลิคอปเตอร์ก็ได้ยินมาจากระยะไกล เป่ยเฟิงขึ้นไปด้วยความประหลาดใจ ทำไมพวกเขามาถึงเร็วจริง ?
"โฮ่ง โฮ่ง !"
ความกล้าหาญของหมาป่าน้อยทั้งสองตัวมันเพิ่มขึ้นมาในไม่กี่วันมานี้ พวกมันวิ่งไปเห่าเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังลงจอดอยู่ด้านนอก
"ไม่รู้จักพอ หลุมดำ กลับมา !"
เป่ยเฟิงเรียกหมาตัวน้อยทั้งสองตัว
"โฮ่ง โฮ่ง !"
หมาป่าตัวเล็ก ๆ ทั้งสองตัวรีบหันกลับแล้ววิ่งไปหาเป่ยเฟิงด้วยก้นเล็ก ๆ ของมัน มันส่ายก้นและหางด้วยความน่ารัก ราวกับกำลังแสดงท่าทางสนิทสนม
ใช่แล้ว เขาตั้งชื่อให้หมาป่าตัวน้อยทั้งสองว่า ไม่รู้จักพอ กับ หลุมดำ
มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะแยกแยะพวกมันทั้ง 2 ตัว โดยไม่รู้จักพอมันจะมีเครื่องหมายเป็นจุด ๆ ตรงคิ้วของมัน ในขณะที่หลุมดำจะมีขนสีดำตรงขาที่มีสีขาวของมัน
ส่วนอาหารที่ใช้เลี้ยงพวกมันเพื่อดับความกระหายที่บ้าบอของพวกมันนั้น พวกมันกินเนื้อซาราแมนเดอร์ยักษ์ ที่เป็นสัตว์อสูรระดับ 1 ถึง 3-5 จินต่อวัน !
โชคดีที่พวกมันโตเร็วเพราะกินเยอะ หมาป่า 'ตัวน้อย' ทั้งสองมันมีความสูงเท่าหัวเข่าผู้ใหญ่แล้ว
กล้ามเนื้อของพวกมันแข็งแรงมาก และมีขนที่เรียบเนียน ตอนนี้ขาของพวกมันมีความแข็งแรงพอ ๆ กับหมาป่าที่โตเต็มที่แล้ว !
มันแสดงได้ถึงความพิเศษของมันตั้งแต่อายุแค่นี้ !
ฟันขาว ๆ ของมันเรียงเหมือนกับใบมีดในปาก ใครก็ตามที่ได้เห็นพวกเขาจะต้องรีบหนีด้วยความกลัว แต่สิ่งที่เป่ยเฟิงพอใจมากที่สุดคือมันไม่เหมือนหมาตัวอื่น เพราะพวกมันไม่มีน้ำลายไหลออกมาจากปากของมัน
นอกจากนี้พวกมันยังฉลาดและสามารถเข้าใจคำสั่งง่าย ๆ ได้อีก
เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นจึงพาพวกมันไปเล่นอยู่ข้าง ๆ
เป่ยเฟิงเดินออกมาเปิดประตู กลุ่มหวังเจียนก็เดินมาถึงในเวลาเดียวกัน
"ว้าว คุณหวัง คุณเป็นแขกที่หายากจริง ๆ ! นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้มา ? เป็นไปได้ไหมว่าร้านเล็ก ๆ แบบนี้คุณจะไม่สนใจอีกแล้ว ?"
เป่ยเฟิงด้วยความประหลาดใจ ราวกับว่าเขากำลังมองเห็นโปเกมอนที่หายาก
"ฮ่าฮ่า . ลุงยุ่งมากเลย ลุงแทบจะบอกไม่ได้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับลุงบ้าง เอาละ แล้วไหนอาหาร ?"
หวังเจียนพูดก่อนจะหันไปหาชายชราข้าง ๆ เขา "นี่คือประธานฮวง เขาเป็นคู่ค้าทางธุรกิจของลุง เขามาที่นี่เพราะได้ยินเกี่ยวกับชื่อเสียงร้านของหลาน ดังนั้นหลานต้องแสดงทักษะที่แท้จริงออกมาในครั้งนี้ !"
"อืม พวกคุณมาได้เวลาพอดี ผมเพิ่งเตรียมอาหารเสร็จ ... เข้ามาก่อน !"
เป่ยเฟิงดูสงบอย่างมากกับการคาดหวังของลูกค้าของเขา เขาเพียงแค่พูดออกมาอย่างสุภาพก่อนที่จะพาลูกค้าเข้าไปข้างใน
'หืมม .. คนหนุ่มคนนี้มีนิสัยแปลก ๆ เขาคงมีอะไรที่ไม่เหมือนใครสินะ ?'
ฮวงหลินประเมินเป่ยเฟิงอย่างเงียบ ๆ ความคิดแรกของเขาคือเป่ยเฟิงเป็นผู้ที่ชอบออกกำลังกาย
"หืมม ? กลิ่มหอม ?"
ฮวงหลินและพวกที่เหลือตะโกนออกมาทันทีเมื่อเข้ามาในลานกว้าง
จมูกของฮวงหลินไม่ได้ถูกใช้มานานแล้ว แต่อย่างไรก็ตามมันช่วยไม่ได้ที่เขาจะได้แต่กลืนน้ำลายเพียงแค่ได้กลิ่นของอาหาร !
ชายชราที่อยู่ข้าง ๆ ฮวงหลินเขาเมินเฉยต่อกลิ่นอย่างสมบูรณ์ เขามุ่งเน้นไปที่หม้อน้ำสมุนไพรขนาดใหญ่ตรงลานกว้างแทน !
'อ่า ! นี้คือของที่สวรรค์เหลือไว้ให้ !'
เจียงเบ๋าจุน ไม่ได้เปิดเผยความตกใจของเขา แต่หัวใจของเขาแสดงออกมาอย่างเจ็บปวด
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถบอกได้ว่าหม้อนี้มาจากราชวงศ์หรือยุคสมัยไหน แต่เขาบอกได้เลยว่ามันไม่ได้มาจากยุคปัจจุบัน !
เจียงเบ๋าจุนเป็นที่รู้จักกันดีว่าเขาเป็นนักสะสมของโบราณทั่วโลก เขาเชี่ยวชาญในการประเมินโบราณวัตถุ
ทันทีที่เขามองเห็นหม้อน้ำขนาดใหญ่ เจียงเบ๋าจุนรู้สึกได้ถึงประวัติศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังของมันได้ !
ไม่ใช่ว่ามันเป็นความคิดหรือจินตาการของเขา แต่มันเป็นสัญชาตญาณของเขาที่ได้มาจากการประเมินของโบราณมามากมาย !
คนธรรมดาเพียงแค่ประเมินมันคร่าว ๆ แต่กับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ของเขานั้นมันต้องใช้อย่างอื่นในการตัดสิน !
หม้อนี้มีความสูง 1.5 เมตร และมีการแกะสลักอยู่ด้านข้างของมัน พวกมันดูคล้าย ๆ กับดอกไม้ ปลา และนก อยู่รอบ ๆ
มันมีความประณีตและเหมือนจริงแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
'ชิ้นส่วนของเครื่องเคลือบทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของจีนคือหม้อชื่อเฮ่ามูวู มันมีทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มันเป็นหม้อจากราชวงศ์ซาง มันมีความสูง 1.33 เมตร วัดความยาวมี 1.1 เมตร ความกว้างอีก 0.79 เมตร และน้ำหนัก 832.84 กิโลกรัม !'
แต่หม้อนี้มันมีขนาดที่ใหญ่กว่าหม้อเฮ่ามูวู ! หรือก็คือมันมีมูลค่าเทียบเท่ากับเมืองถึงหลายเมือง ถ้ามันเป็นของปลอมมันก็ต้องถูกสร้างโดยเจ้าของหม้อตัวจริง ! ถึงแม้ว่ามันจะเป็นของปลอมแต่ชายชราคนนี้ก็ไม่สามารถพิสูทจ์ได้ เขาได้แต่ยอมรับความพ่ายแพ้เท่านั้น !
เจียงเบ๋าวู ไม่สามารถมองหม้อยาของเป่ยเฟิงออกได้
แม้ว่ามันจะเป็นของปลอม แต่มันก็สามารถออกแบบได้ยอดเยี่ยมจนสามารถบอกได้เลยว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าที่เหมาะสำหรับสะสมเช่นเดียวกัน
ตอนนี้เจียงเบ๋าวูกำลังคิดเกี่ยวกับวิธีซื้อหม้อใบนี้ !
'เด็กหนุ่มคนนี้อาจจะได้สมบัติมาจากใครซักคน แต่มันก็อาจจะเป็นไปได้ว่านี้คือกับดักของผู้เชี่ยวชาญ
เจียงเบ๋าวู คิดอย่างจริงจัง ถ้าเด็กนี้รู้ว่าหม้อใบนี้มีค่าเท่าไร เขาคงจะไม่ใช้มันมาทำอาหาร แต่สิ่งที่เขากังวลก็คือเด็กหนุ่มคนนี้อาจจะวางแผนลึกลับเพื่อเล่นเกมเดาใจโดยการปล่อยเหยื่อให้มาติดกับเขาวางไว้ก็ได้ !
"ตาแก่เจียง ... ตาแก่เจียง ! นายกำลังคิดอะไรของนาย ? มันหายากที่นายจะคิดอะไรลึกขนาดนี้"
ฮวงหลิงหันกลับมาเรียก
"มานี้ !"
เจียงเบ๋าจุน รีบเดินตามมา
"โปรดรอซักครู่ อาหารกำลังจะมาเสิร์ฟ "
เป่ยเฟิงเดินนำทั้ง 4 คนเข้ามาในห้องอาหารก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว
"ฉันถามอะไรหน่อย ! นายมาเจอสถานที่ห่างไกลแบบนี้ได้ยังไง ?"
ฮวงหลินอยู่ในอารมณ์ที่ดี ถึงเขายังไม่ได้ลิ้มลองอาหาร แต่แค่น้ำหอมเขามันก็เพียงพอที่จะทำให้เขากระหายได้แล้ว
"ผมเจอมันโดยบังเอิญ"
หวังเจียงกำลังคิดอะไรบางอย่าง ขณะเดียวกันเจียงเบ๋าจุนก็กำลังหงุดหงิดเมื่อคิดถึงวิธีที่เขาจะได้หม้อใบนี้มา เขากำลังคิดจะให้มันมาเป็นหม้อที่สำคัญของพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของเขา !