บทที่ 61 เหล้าที่ทำจากพิษร้าย
บทที่ 61 เหล้าที่ทำจากพิษร้าย
'มันแค่บังเอิญ ...'
แม้ว่ามันจะเป็นไปตามที่สิ่งเขาคิดไว้ แต่เขาก็รู้สึกไม่เต็มใจ
"เมื่อมองไปที่นิยายที่ชาวบ้านเขาแต่งกัน ปกติเขาต้องได้ระบบที่มันเว่อวังอลังการไม่ใช่เหรอ ? ระบบของเขามันน่าจะประมาณว่ามาจากแหวนที่ได้มาจากปู่อะไรแบบนี้ ! และไม่ว่าอะไรก็ตามที่เขาไม่รู้ ระบบมันจะต้องอธิบายทุกอย่างเลยนี่ ... แต่ทำไมของฉัน ระบบของฉันมันเหมือนปลาตายนัก ! มันไม่ตอบสนองเลยไม่ว่าฉันจะพยายามเรียกมันแค่ไหนก็ตาม !"
เป่ยเฟิงกลุ้มใจอย่างมาก
มองไปที่คางคกตรงหน้าเขา เป่ยเฟิงไม่กล้าที่จะเอาตะขอเบ็ดออกจากมัน สิ่งมีชีวิตทั้งสองนี้อันตรายเกินไป ถ้าเขาประมาทพวกมันเล็กน้อยละก็ เขาจะต้องตายแน่นอน
"ปัง !"
ด้วยความคิดบางอย่างเย็นสุดขั้วก็ปรากฏออกมาจนได้ยินเสียงกระแทก
เป่ยเฟิงมองไปที่สายเบ็ดตกปลา คางคกและอื่น ๆ เขาวางมันไว้ข้าง ๆ กับเย็นสุดขั้ว เขาให้มันแผ่พลังภายในธาตุน้ำแข็งออกมา !
"แก๊ก แก๊ก"
เสียงชั้นน้ำแข็งปรากฏรอบ ๆ คางคกตัวใหญ่ มันถูกแช่แข็งด้วยความเร็วที่มองเห็นได้
สิบนาทีต่อมาก็ได้มีประติมากรรมน้ำแข็งรูปคางคก ส่องประกายระยิบระยับจากแสงอาทิตย์ที่แผดเผาไปทั่วอากาศ ตอนนี้ประติมากรรมคางคกมันดูเหมือนจะตายแน่นอนแล้ว
เป่ยเฟิงยังคงระมัดระวังอยู่ห่างจากมัน สิ่งมีชีวิตเช่นคางคก กับ งู เป็นที่รู้กันได้ดีว่ามันแสดงละครได้เก่งมาก พวกมันมีความต้านทานต่อสภาพแวดล้อมค่อยข้างสูง เป่ยเฟิงจะไม่ยอมเสี่ยงชีวิตของเขากับคางคกน่าเกลียดนี้แน่ ๆ
เขาปล่อยให้คางคกอยู่ข้าง ๆ เย็นสุดขั้วเป็นเวลากว่า 30 นาที แน่นอนว่าภายใต้เวลาขนาดนี้ แม้แต่สัตว์อสูรระดับ 1 มันต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย !
ก่อนที่เขาจะแช่มัน เป่ยเฟิงได้บอกไป่เซียงให้ไปซื้อเหล้าถังใหญ่จากหมู่บ้าน
ในขณะที่เขาถอดตะขอออกมา ไป่เซียงก็กลับมาพร้อมกับถังเหล้าถังใหญ่
ตัวถังมีความกว้างถึง 1 เมตร และลึกประมาณเกือบ 3 เมตร
ในถังเต็มไปด้วยเหล้าและมันค่อนข้างหนัก แต่ยังไงก็ตามเมื่อมันโดนแบกด้วยไป่เซียง ทำให้มันดูเหมือนกับว่ามันไม่มีน้ำหนักเลย
เหล้านี้เป็นเหล้าธรรมดา มันมีราคาอยู่ที่ 3.50 หยวนต่อจิน มันไม่ใช่เหล้ามีราคาเพราะมันถูกผลิตโดยชาวบ้าน
ส่วนเรื่องว่าเหล้านี้มันดีหรือเปล่า บางคนชอบในราคาถูกของมัน ในขณะที่บางคนก็เกลียดความรู้สึกแสบร้อนที่มาจากมัน
เป่ยเฟิงยกฝาขึ้นและได้รับการทักทายด้วยกลิ่นที่แรงมาก ๆ ของเครื่องดิ่มแอลกอฮอล์ราคาถูก ๆ
ยกถังขึ้นเล็กน้อยแล้วเทเหล้าออกไป จากนั้นก็เอารูปปั้นกบน่าเกลียดกับตะขาบม่วงแดงลงไปในเหล้าที่เหลืออยู่
มันโชคดีที่ปากของถังกว้างพอจะใส่เข้าไปได้ ไม่อย่างงั้นเป่ยเฟิงจะต้องปวดหัวกับการพยายามยัดเข้าไปแน่ ๆ
หลังจากแช่สิ่งมีชีวิตที่เป็นพิษลงในเหล้าเสร็จแล้ว เขาก็วางฝาครอบที่หนาและหนักไว้เหนือถัง จากนั้นก็เทน้ำบางส่วนไว้ที่ร่องฝาเพื่อไม่ให้ควันไหลออกมา
เมื่อเสร็จแล้ว เขาก็ยกถังไปในห้องที่มืดและเย็น เขาวางหินที่ดูหนักไว้บนฝาแล้วจากนั้นก็ค่อย ๆ ผ่อนคลาย
"ตอนนี้ฉันขาดอีก 3,650 เพื่อที่จะเป็นชาวประมงระดับ 2 ฉันสงสัยว่ามันจะปลดล็อกอะไรใหม่ ๆ ให้ฉันหรือเปล่า ..."
ในตอนแรกการที่จะได้คะแนนประสบการณ์ถึง 10,000 คะแนนนั่น มันทำให้เป่ยเฟิงรู้ว่ามันอยู่ห่างไกลและยากที่จะทำได้ แต่โดยไม่ทันได้สังเกตุ ตอนนี้คะแนนของเขาก็มากกว่าครึ่งแล้ว !
ถ้าเขาโชคดี เขาอาจจะสะสมครบ 10,000 ก่อนในอีก 4-5 ครั้งต่อจากนี้
เป่ยเฟิงเต็มไปด้วยความคาดหวัง จนเกือบที่จะวิ่งกลับไปบ่อน้ำโบราณแล้วนั่งตกปลาต่อทันที !
แน่นอนว่านั่นคือความคิดของเขา โอกาศตกปลาสำหรับวันนี้นั่นเขาได้นำมาใช้แล้ว ถ้าเขาอยากจะตกปลาอีกครั้งเขาก็ต้องรอพรุ่งนี้เท่านั้น
เป่ยเฟิงเก็บเบ็ดตกปลาสีม่วงแล้วเดินไปที่ลานกว้าง เขาเผยรอยยิ้มที่น่าสงสารเมื่อมองไปที่คนทั้งสามคนที่นอนอยู่บนพื้น ราวกับว่าพวกเขาเพิ่งผ่านนรกและเพิ่งผ่านพ้นความตายมา
ทันทีที่มาถึงใต้ต้นไทร เป่ยเฟิงก็เริ่มออกกำลังกายประจำวันทันที
ในขณะที่เขาฝึกท่าเคล็ดการหายใจด้วยแสง เขาก็พยายามที่จะปรับเปลี่ยนท่าให้เหมาะสมกับเขามากที่สุด
"ทุกครั้งที่ฉันไปถึงจุด ๆ หนึ่งของเคล็ดนี้ มันจะรู้สึกขาดช่วงไป มันเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างขาดหายไป ..."
เป่ยเฟิงพึมพำ แล้วยกมือขึ้นเหนือหัว จากนั้นก็เริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันแปลก ๆ ที่ทับลงมา
มันกดลงบนร่างกายของเขา ทำให้เขาต้องใช้แรงทั้งหมดของเขาเพื่อต่อต้านมัน !
ในขณะที่เป่ยเฟิงยังคงแบกรับมันอยู่ ความกดดันมันก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ความกดดันนี้ราวกับว่ามันไม่มีที่สิ้นสุดและเหมือนจะมีแต่เพิ่มขึ้นตลอดกาล !
ในสถารการณ์แบบนี้ เขาไม่สนใจใด ๆ ทั้งนั่น เป่ยเฟิงกัดฟันและต่อสู้กับแรงกดดันนี้ให้นานที่สุด !
อนิจจาไม่ใช่ว่าเป่ยเฟิงจะไม่มีวันเหนื่อย ในที่สุดเขาพบก็ว่าไม่สามารถทนกับแรงที่เพิ่มขึ้นได้อีกต่อไปแล้ว !
ภายใต้แรงกดดันนี้ราวกับว่าเขาได้ถูกขังด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถที่จะผลักหรือเปลี่ยนทิศทางแรงกดดันแปลก ๆ นี้ได้เลย !
"แกร๊ก !"
แขนทั้งสองข้างของเป่ยเฟิงหักลงอีกครั้ง มันห้อยอยู่ด้านข้างของเขาอย่างปวกเปียก
"ไป่เซียง มาช่วยฉันหน่อย"
เป่ยเฟิงเดินไปที่ลานกว้างที่ไป่เซียงกับกองกำลังทั้งสามของเป่ยเฟิงกำลังฝึกซ้อมกันอยู่ จากการที่ดูการซ้อมสามารถบอกได้เลยว่าพวกเขากำลังฝึกซ้อมกันอย่างหนัก หากคนภายนอกได้มาเห็นพวกเขาจะตกใจอย่างมาก ราวกับว่ามีนักเลงยักษ์กำลังกำลังจัดการกับพวกผู้ช่วยและเด็ก ๆ อยู่ ขณะเดียวกันทั้งสามนั่นก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะมีชีวิตรอดไปให้ได้
สำหรับทั้งสามคน ลึกลับที่ 1 เป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุด ไป่เซียงยั้งมืออย่างมากสำหรับสาวน้อยคนนี้ และนอกจากนั้นเธอก็ยังอาศัยความฉลาดของเธอคอยซ่อนตัวอยู่หลังลึกลับทั้งสองอีกด้วย เธอใช้พวกเขาเป็นโล่เนื้อ !
ลึกลับที่ 2 กับ 3 นั่นอยู่ในสภาพที่น่ากลัวมาก ใบหน้าและร่างกายของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยรอยฟกช้ำขนาดใหญ่ สภาพพวกเขาดูน่าสังเวชมาก
"เจ้านาย ทำไมแขนคุณหักอีกแล้ว ?"
ไป่เซียงรู้สึกมึนงง เจ้านายเขาเล่นอะไร ? หรือว่าเขาชอบทำร้ายตัวเอง ?
"บัดซบ พวกเราได้พักซักที .. ดูหน้าที่บวมของฉันสิ แล้วแบบนี้ฉันจะกล้าเอาหน้าที่ไหนไปมองสาวกัน ?"
ลึกลับที่ 2 กับ 3 รีบวิ่งไปด้านข้าง พวกเขารีบเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วแอบดูหน้าตัวเอง มองไปที่จมูกที่บวมแล้วมีรอยจ้ำขนาดใหญ่หลายจุดบนใบหน้าของพวกเขา มันทำให้รู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก
"แกร๊ก !"
ไป่เซียงจับไหล่ของเป่ยเฟิง จากนั้นก็ใช้แรงกดมันเบา ๆ แล้วแขนของเขาก็กลับมาเข้าที่
หลังจากที่ช่วงบ่ายผ่านไปแล้ว ส่วนอื่น ๆ ของเนื้อกุ้งอมตะก็ได้ถูกเตรียมออกมาพร้อมกับซอสบางอย่างที่อยู่ข้าง ๆ สำหรับมื้ออาหารเย็นเรียบร้อย
สำหรับมื้อนี้ ส่วนขาและกล้ามของกุ้งอมตะถูกจัดการหมดแล้ว ตอนนี้มันเหลือแค่ส่วนหลังกับส่วนหางเท่านั้น
นอกเหนือจากนั้นยังมีไข่กุ้งที่เป่ยเฟิงยังไม่ได้ลิ้มลอง
หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จแล้ว เป่ยเฟิงก็ได้อาบน้ำล้างเหงื่อทั้งหมดออกทันที หลังจากนั้นก็นอนบนเตียงอย่างอารมณ์ดี ด้วยมีผู้ช่วยคนใหม่อยู่รอบ ๆ เขาในตอนนี้ ทำให้เขาไม่ต้องกังวลที่จะทำความสะอาดล้างจานอีกต่อไป
สำหรับกองกำลังของเป่ยเฟิงทั้งสามคน พวกเขาอาบน้ำอย่างรวดเร็วก่อนที่จะล้มตัวลงนอนบนเตียงเหมือนซอมบี้
วันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับทั้งสามคน โดยเฉพาะอย่างลึกลับที่ 2 ที่กำลังกระตุกร่างกายของเขาอย่างรุนแรงแม้กระทั่งตอนนอนหลับ ราวกับว่าเขากำลังพ่ายแพ้แม้แต่อยู่ในฝันของเขา ...
"วี่ ... วี่ !"
เพราะการจากไปของต้นผีดูดเลือด กลุ่มจักจั่นกลุ่มใหม่ก็ได้เข้ามาทำรังที่ใต้ต้นไทรที่ลานกว้างของเป่ยเฟิง กลุ่มจักจั่นกลุ่มนี้กำลังร้องส่งเสียงในตอนเช้า ทำให้เกิดบรรยากาศแปลก ๆ ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้น
เป่ยเฟิงกระโดดลงจากเตียงด้วยความสดชื่น เขาไม่มีแม้แต่อาการทีอยากจะนอนต่อ
หลังจากทำธุระตัวเองเสร็จแล้ว เป่ยเฟิงก็ได้เดินไปปลุกกองกำลังของเป่ยเฟิงทั้งสามคนที่กำลังหลับอยู่ และลากพวกเขาขึ้นไปบนภูเขาด้วยกัน โดยที่หลังของลึกลับที่ 2 ยังมีลึกลับที่ 1 ที่ยังนอนหลับอยู่
เมื่อยืนอยู่บนยอดหิน ทั้งสามก็มองไปที่เป่ยเฟิง ท้องฟ้ายังมืดอยู่และพวกเขาก็ไม่รู้ถึงแรงบันดาลใจที่เป่ยเฟิงเรียกพวกเขาออกมาในช่วงเวลานี้
"ฉันเคยบอกไว้ว่าสามอันดับแรกจะได้รางวัลเพิ่มเติม เอาละที่ฉันจะให้พวกนายก็คือเคล็ดการหายใจ"
เป่ยเฟิงมองไปที่ทั้งสามคนด้วยรอยยิ้มบนหน้า
"บอส อะไรคือเคล็ดการหายใจ ? มันเอาไปทำอะไรได้ ?"
ลึกลับที่ 2 รวบรวมความกล้าและถามออกไป
"ตั้งใจดูให้ดี ฉันจะทำให้เห็นแค่ครั้งเดียว"
เป่ยเฟิงยิ้มและไม่ตอบ เขารีบปรับเปลี่ยนความคิด และค่อย ๆ ทำท่าเคล็ดการหายใจด้วยแสงทีละชุด
'นี้มันบัดซบอะไรเนี่ย ? นี้มันท่าเต้นสำหรับทำพิธีอะไรกัน ?'
ทั้งสามคนรู้สึกเหมือนถูกหลอกโดยสมบูรณ์
จากมุมมองของพวกเขา การเคลื่อนไหวของเป่ยเฟิงนั่นช้าและแปลก ๆ เหมือนกับเขากำลังมองเด็กที่กำลังหัดเดิน !
การเคลื่อนไหวดูคล้าย ๆ การออกหมัดไทเก๊กของพวกคนแก่ เป่ยเฟิงไม่ได้อธิบายอะไรกับพวกเขา แต่พวกเขาก็ยังอดทนที่จะดูการเคลื่อนไหวแปลก ๆ นี้จนจบ