บทที่ 53 การตกปลาเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ! เราจะต้องระวังทุกครั้งที่จะตกปลา !
บทที่ 53 การตกปลาเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ! เราจะต้องระวังทุกครั้งที่จะตกปลา !
"กร๊าซซซซซ"
มังกรดำโกรธเกรี้ยวอย่างมาก เหล่ามดที่มันเคยมองข้าม ตอนนี้มันได้กลายเป็นภัยที่คุกคามชีวิตของมัน !
ในช่วงเวลาสั้น ๆ แสงสีดำอันกว้างใหญ่ก็ค่อย ๆ ออกมาจากมังกรดำ แล้วรวมตัวกันเป็นลูกบอลสีดำของหน้าปากของมัน !
"ไข่มุกมังกร !"
"ไม่ดีแล้ว ! มังกรดำมันยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะสู้ตาย !"
"ถอยยย ! ถอยเร็ว !"
ใบหน้าของนิโคลาย บลาท โกรธอย่างมาก เขารีบวิ่งหนีแยกย้ายไปพร้อมกับอีกสี่คนข้างหลังเขา
แสงนับไม่ถ้วนปรากฏรอบ ๆ ลูกบอลสีดำ ทำให้ตอนนี้มันดูเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับธรรมชาติรอบ ๆ อย่างมาก
เมื่อไข่มุกมังกรถูกปลดปล่อย มันได้แช่แข็งพื้นที่โดยรอบทันที ทุกสิ่งทุกอย่่างภายในพื้นที่ถูกแช่แข็ง !
หลังจากนั่นพลังของไข่มุกมังกรก็เริ่มขยายไปในอากาศอย่างช้า ๆ มันขยายขึ้นไปรอบ ๆ ที่มันถูกปลดปล่อย !
แม้ว่าไข่มุกมังกรนี้จะดูเล็ก ๆ และเหมือนอ่อนแอ แต่ว่าเมื่อมันสัมผัสกับรังสีดาบหรือมังกรธาตุสองตัวก่อนหน้านี้ ทั้งหมดก็ถูกทำลายลงทันทีโดยไม่มีแท้แต่โอกาศจะเข้าใกล้มังกรดำ !
"บูมมม"
หลังจากที่ผู้นำกลุ่มทั้ง 5 วิ่งหนีออกมาได้ 10 จาง ไข่มุกมังกรมันก็ลอยมาช้า ๆ จนตอนนี้มันได้มาถึงทั้งกลุ่มคนที่ 5 แล้ว !
"ไม่ !"
เสียงร้องแห่งความสิ้นหวังดังขึ้นโดยกลุ่มคนทั้งห้าอย่างไม่เต็มใจ
ราวกับว่าทุกอย่างดูช้า เมื่อไข่มุกมังกรได้ลอยไปถึงกลุ่มคนทั้งห้าแล้วทันใดนั่นมันก็เหมือนกับน้ำโคลนที่ค่อย ๆ ล่วงลงไปกับพื้น
"บูม !"
มีการระเบิดอย่างรุนแรงไปทั่วสนามรบ ! ทันทีที่พลังทำลายล้างนี้ระเบิดขึ้นมา มันได้เข้าปกคลุมท้องฟ้าและทำให้เกิดแผ่นดินไหวของโลก !
โดยมีไข่มุกมังกรเป็นจุดศูนย์กลาง คลื่นทำลายล้างขนาดใหญ่แผ่ออกไปทุกทิศทางในพื้นที่ของป่าแห่งความมืด !
ในทันทีที่คลื่นกระจายไปที่ใด ที่นั่นจะถูกทำลายลงอย่างไร้ความปราณี !
นิโคลาย บลาท และคนอื่น ๆ พวกเขารีบหาทางเอาชีวิตรอด โดยการเผยไพ่ลับของตัวเองออกมาอย่างไม่ลังเล !
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะใช้ไพ่ตายเพื่อช่วยชีวิตตัวเองด้วยวิธีใด พวกมันไร้ประโยชน์ทั้งหมด ! ทันทีที่คลื่นน่าสะพรึงกลัวไปถึง พลังที่จะช่วยทำให้มีชีวิตรอดหรือหนี มันจะถูกคลื่นทำลายทิ้งทันที !
ทุกอย่างภายใน 10,000 เมตร ภูเขาที่ถูกทำลายจนเรียบแบน แม่น้ำที่ถูกระเหยอย่างรวดเร็ว แผ่นดินถูกเผาไหม้ !
ไฟสีดำอันชั่วร้ายได้แผดเผาอยู่ในป่าแห่งความมืดตลอดสี่ชั่วโมงก่อนที่มันจะดับลงในที่สุด
ไข่มุกมังกรดำแต่เดิมที่มีขนาดเท่าหัวของผู้ใหญ่ ตอนนี้มันมีขนาดเท่าไข่ไก่ นอกจากนี้จากเดิมที่ไข่มุกมังกรมันเต็มไปด้วยรอยร้าวในตอนแรก ตอนนี้มันดูราวกับว่าสามารถแตกละเอียดได้ทุกเมื่อ !
ต้นกำเนิดพลังของมังกรดำได้รับความเสียหายอย่างหนัก จากนั้นมันก็ได้ถูกดูดกลืนกลับเข้าไปในร่างของมังกรดำ
"ไอ้พวกมนุษย์น่ารังเกียจ !"
มังกรดำคำรามโดยเสียงโกรธแค้น ทำให้สัตว์ร้ายและสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวต่าง ๆ รู้สึกกลัวและรีบหนีออกจากแถวนั้นทันที !
หลังจากนั่นมังกรดำก็ลากร่างที่บาดเจ็บของมัน กางปีกแล้วพยายามที่จะบินเข้าไปในส่วนลึกของป่าแห่งความมืด
****
"บัดซบ ! มันเกิดอะไรขึ้น ฉันตกได้อะไรกันแน่ ?"
เป่ยเฟิงยังไม่ทันได้ฟื้นตัวจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เขาตกได้หนังสือจิตวิญญาณ ตอนนี้เขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ขนาดใหญ่อย่างมากจากดึงเขาจากอีกด้านของเบ็ด !
หลังจากนั้นเขาก็รีบดึงเบ็ดขึ้นมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาเกือบจะหล่นเข้าไปในบ่อน้ำ ! คันเบ็ดสีม่วงมันถูกดึงจนขนาดที่ว่ามันโค้งเกือบจะหัก !
ถ้าหากแรงนี้ไม่ได้ถูกลดเพราะระบบ ทั้งเป่ยเฟิงและคันเบ็ดจะต้องถูกลากลงไปโดยไม่แม้แต่จะมีโอกาศต่อต้าน !
ด้วยความตกใจ เป่ยเฟิงรีบทิ้งเบ็ดไม้ไผ่สีม่วงไว้ข้างหลังหินก้อนใหญ่ จากนั่นเขาก็หนีไปหลบอยู่ข้าง ๆ หลังจากที่แรงมหาศาลได้หายไปแล้ว เป่ยเฟิงก็ค่อย ๆ เดินไปสังเกตที่บ่อน้ำด้วยความระมัดระวัง พร้อมกับหมุนคันเบ็ดไปด้วย
"ดิ๊ง ! สมบัติล้ำค่าระดับ 2 ! เกล็ดของมังกรดำ ! (นี่คือเกล็ดของมังกรดำ มันมีพลังป้องกันที่น่าตกใจ มันสามารถทนต่อแรงได้ 1,000 จิน ! นอกจากนี้ยังสะท้อนแรงทุกอย่างที่เข้ามาอีก 10 % !) ประสบการณ์ที่ได้รับ : 1,300 ! ขาดประสบการณ์เพื่อเข้าถึงชาวประมง ระดับ 2 : 4,400"
ปากของเป่ยเฟิงกว้างจนถึงขนาดเอาหมัดเข้าไปได้ มือของเขาสั่นอย่างรุนแรงเมื่อถือเกล็ดของมังกรดำ เขาส่ายหัวแล้วอ่านข้อความจากระบบอีกครั้งด้วยความไม่แน่ใจ
'มังกร ?! นี้ฉันตกมังกรได้ ?'
ความหงุดหงิดปรากฏบนหน้าของเป่ยเฟิง นี่มันไม่น่าเชื่อ !
'ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมมันถึงมีแรงดึงมหาศาลนัก ! นี้คือพลังของมังกร !'
หัวใจของเป่ยเฟิงเต็มไปด้วยความกลัว นี้คือเกราะที่ดี เพราะมันถูกเด็ดออกมาจากร่างของมังกรดำ !
หากว่าเขาดึงมังกรขึ้นมาได้ เป่ยเฟิงไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา !
ถึงแม้ว่ามันจะยืนบนพื้นเฉย ๆ เป่ยเฟิงก็ยังคงไม่สามารถทำอะไรมันได้อยู่ดี !
'การตกปลาเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ! เราจะต้องระวังทุกครั้งที่จะตกปลา !'
เป่ยเฟิงกลืนน้ำลายถึงสิ่งที่คิดในใจ
"ก๊อง ก๊อง ก๊อง !"
เสียงดังสะท้อนออกมาเมื่อเป่ยเฟิงเคาะไปที่เกล็ดสีดำ เขารู้สึกได้ถึงแรงที่สะท้อนออกมาสู่กำปั้นของเขา !
เกล็ดนี้มันมีความใหญ่เท่าใบหน้าของเขา แต่ว่ามันมีน้ำหนักกว่า 100 จิน ! มันดูเหมือนหนังยาง แต่ว่าความเหนียวและความทนทานของมันน่าจะมากกว่าหนังปกติทั่วไป !
เงาสีดำมันวาวที่เปล่งประกาศออกมาจากเกล็ดเมื่อเป่ยเฟิงถือมันไว้ภายใต้แสงแดด
'ฉันจะทำยังไงดีกับเกล็ดนี้ ? เอามันไปสร้างเป็นชุดดีไหม ?'
การแสดงออกแปลก ๆ ปรากฏบนหน้าของเป่ยเฟิงเมื่อเขาคิดว่าจะนำมันไปทำอะไรดี ด้วยความจริงจัง
เป่ยเฟิงส่ายหัวเป่าความคิดออกไป ถึงมันจะเป็นความคิดที่ดีที่จะเอามันมาทำเป็นชุดเพื่อปกป้องตัวเขา แต่เขาไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะจัดการกับวัสดุชิ้นนี้ได้
ในท้ายที่สุด เป่ยเฟิงก็เก็บสมบัติล้ำค่าระดับ 2 นี้ไว้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากเขายังไม่รู้ว่าจะเอาเกล็ดมังกรไปทำอะไร เขาจึงต้องซ่อนมันไว้จนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องใช้
หลังจากที่เก็บเกล็ดมังกรไปแล้วก็เดินออกมาจากห้อง ไป่เซียงก็เตรียมอาหารเย็นเสร็จพอดี มันเป็นจานขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเนื้อกุ้งอมตะย่าง
เหมือนปีศาจที่หิวโหยจนตายจากชาติที่แล้ว และตอนนี้มันได้กลับมามีชีวิต เป่ยเฟิงนั่งลงแล้วกินอาหารพวกนี้ทันทีโดยไม่แม้แต่จะพูด เขาคว้าเนื้อแล้วกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว !
หลังจากที่กินกุ้งอมตะเสร็จแล้ว ตอนนี้เป่ยเฟิงได้เติมพลังงานที่ต้องการลงไปในท้องเรียบร้อย !
หลังจากที่กินเนื้อไปถึงสามท่อน ท้องของเป่ยเฟิงก็เต็มแล้วในตอนนี้ เขาวางตะเกียบลงแล้วลูบท้องด้วยความพึงพอใจ ส่วนของที่เหลือทั้งหมดเขาก็นำมันไปให้เจ้าหมาป่าตัวน้อยทั้งสอง !
ในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหมาป่าตัวน้อยทั้งสองมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีอย่างมาก ตอนนี้พวกมันเริ่มตัวใหญ่ขึ้นมาก มันเหมือนกับว่าพวกมันถูกเร่งให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว !
หากมองตอนนี้ พวกมันดูไม่เหมือนลูกหมาป่าที่มีอายุ 3 เดือนเลย ! เมื่อมองพวกมัน จะเห็นฟันสีขาวแวววาวที่ดุร้ายในปากของมัน เห็นได้ชัดว่าไม่สามารถล้อเลียนมันไม่ได้อีกแล้ว
หลังจากกินอาหารมื้อค่ำเสร็จแล้ว เป่ยเฟิงก็ไม่ลืมที่จะโทรไปหาจินหวูว่าเขาไม่ต้องการจักจั่นอีกต่อไปแล้ว
รอยยิ้มบนใบหน้าของจินหวูหายไปทันทีเมื่อเขาได้ยินเสียงจากลูกค้าหมายเลขหนึ่งของเขาผ่านโทรศัพท์ นี้มันนรกอะไรกัน ? สหายคนนี้เปลี่ยนความคิดได้เร็วเหมือนกับพลิกหน้าหนังสือ !
ไอ้เด็กนี่เพิ่งบอกกับเขาว่าจะซื้อจักจั่นจำนวนมากที่เขาหาได้ จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเขาก็กลับโทรมาบอกว่าไม่ต้องการมันอีกต่อไป !
เป่ยเฟิงไม่มีทางเลือก ใครจะไปรู้ว่าต้นผีดูดเลือดจะจากเขาไป ?
ตั้งแต่ต้นผีดูดเลือดได้จากไปแล้ว ทำไมเขาจะต้องซื้อจักจั่นจำนวนมากมาอีกด้วยละ ? จะเอามาให้เขากินเองงั้นเรอะ ?
หลังจากวางสายอย่างรวดเร็ว เป่ยเฟิงก็ไปอาบน้ำ ก่อนที่จะนอนลงบนเตียงของเขา แล้วค่อย ๆ หลับลงไป
***
"คุณบอกว่า เหว่ยฮุ้ยไม่ได้โผล่หัวมาตลอดสองวันนี้ ?"
เนี่ยยุนถามเสียงแห้ง ๆ
"นายน้อยยุน อย่าว่าแต่การโผล่หัวเลย เหว่ยฮุ้ยหายไปอย่างไร้ร่องรอยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา แม้แต่บอดี้การ์ดที่มักจะอยู่รอบตัวเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน " ชายคนหนึ่งโค้งหัวคำนับแล้วตอบ
"เฮ้อ ! ไอ้จิ้งจอกเฒ่า ! มันคิดว่าฉันกำลังจะทำอะไรบางอย่างกับมัน มันเลยรีบหนีไปมากกว่า ! "
เนี่ยยุนกล่าวด้วยความรังเกียจ
"นับตั้งแต่เขาได้หนีออกจากเมือง ก็ได้เวลาที่จะเข้าควบคุมบริษัทของเขาแล้ว มันก็ยังดีกว่าไม่เหลืออะไร" เนี่ยยุนออกคำสั่งด้วยเสียงเย็นชาราวกับว่าเขาไม่คิดจะสนใจเรื่องพวกนี้
"ได้ครับ นายน้อย !"
ชายคำนั่นโค้งคำนับอีกทีก่อนจะจากไปด้วยความรวดเร็ว
"วูบู้ คุณคิดยังไงกับเรื่องนี้ ?"
การแสดงออกอย่างเฉยชาก่อนหน้านี้ลดลงเล็กน้อย เขาหันไปถามชายชราข้าง ๆ
"คน ๆ นี้เห็นได้ว่าเขารู้ขีดจำกัดตัวเองดี เขาจึงวิ่งหนีไปโดยไม่ลังเลที่จะทิ้งบริษัทของเขาไว้" วูบู้ยิ้ม "มันแย่ตรงที่เราไม่รู้ถึงความลับที่เขาซ่อนมันไว้"
วูบู้พูดประโยคสุดท้ายด้วยความเศร้า
"มันอาจจะไม่ใช่ความลับที่ยิ่งใหญ่ก็ได้ สถานที่แห่งนั่นคือบ้านของบรรพบุรุษของตระกูลเนี่ยของฉัน ตระกูลเนี่ยได้ครอบครองที่แห่งนั่นมานานกว่าร้อยปี มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีความลับที่เราไม่รู้จัก"
เนี่ยยุนคิดเล็กน้อยเมื่อตอนที่เขาเล่นกับเหว่ยฮุ้ย เขาจับตามองเหมือนตั๊กแตนที่ล่าจักจั่น เมื่อเขาไม่รู้ว่าเบื้องหลังสิ่งที่ซ่อนอยู่คืออะไร เขาจึงเแสดงออกด้วยความเบื่ออย่างมาก
เขาไม่เคยคาดหวังถึงเรื่องนี้ตั้งแต่แรก
"แล้ว นายน้อยยุน คุณจะกลับไปที่ตระกูลเลยหรือไม่ ?"
วูบู้ถาม คำพูดและลมหายใจของเขาช้าเหมือนกับคนแก่ปกติ จากนั้นเขาก็หยุดหายใจทันทีเผื่อเขาลืมบางอย่างไป
"ฉันจะกลับไปเมื่อถึงเวลา แต่ตอนนี้พวกเรามาอยู่ที่นี่แล้ว พวกเราน่าจะไปเยี่ยมบ้านบรรพบุรุษของตระกูลเนี่ยซักหน่อย ฉันสงสัยว่าทำไมตระกูลถึงยังเก็บบ้านหลังเก่า ๆ นี้ไว้ ทำไมพวกเขาจะต้องรักษาแผ่นจาลึกไว้ที่บ้านหลังนั้นด้วย ?" เนี่ยยุนรู้สึกสงสัยในตัวเอง