บทที่ 44 สวรรค์จะทำลายเหล่าผู้ที่มองไม่เห็นตัวเอง
บทที่ 44 สวรรค์จะทำลายเหล่าผู้ที่มองไม่เห็นตัวเอง
"จู้อิงซี : เทียน ซี-ฟาง " : "อ่า" ขงจื้อกล่าว "ไม่มีความโศกเศร้าใดมากกว่าความตายของจิตใจ - สำหรับการตายของร่างกายมันเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ " [1] สิ่งที่เศร้าที่สุดจะเกิดขึ้นกับบุคคลที่หัวใจแห้งเหี่ยว หากปราศจากความเชื่อ หรือความตั้งใจที่ถูกทำลาย จะทำให้รู้สึกว่าการตายของร่างกายนั้นดีกว่าการตายของวิญญาณ คือเรื่องจริง
ยุนเทียนไม่มีความรู้สึกอีกแล้ว มันไม่มีประโยชน์อีกต่อไปที่จะมีความหวังว่าเขาจะถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ต่อไปนี้เขาจะกลายเป็ยคนที่ไร้จิตใจ
ถึงแม้ว่าจิตใจของเขาจะถูกทำลายไปแล้ว แต่ยุนนานก็ไม่เต็มใจที่จะปล่อยทาสคนใหม่นี้ไปง่าย ๆ เขาต้องทำยังไงต่อดี ? ทำยังไงให้มันฟังคำพูดของเขา ! เขานำเข็มสีเงินมาใกล้ ๆ หนังสือสัญญาเพื่อที่จะผูกจิตวิญญาณไว้
ในขณะนั้นเอง สายเบ็ดตกปลาที่ดูบาง ๆ ก็หล่นลงมาจากฟากฟ้าด้วยความเร็วที่น่าตกใจ !
ดูเหมือนว่ากฏฟิสิกส์จะทำอะไรมันไม่ได้เลย มันเหวี่ยงตัวเองไปที่สุสานโบราณ ปกติแล้ว มันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะหล่นลงไปด้วยความเร็วระดับนี้ จะต้องยกตัวอย่างก่อนเช่นว่า กฏแรงโน้มถ่วงเคยบอกไว้ว่าวัตถุทั้งหมดจะมีความเร็วที่ตกถึงพื้นเท่ากันหากไม่คำนึงถึงน้ำหนักตราบใดที่แรงโน้มถ้วงไม่เปลี่ยนแปลง [2]
ในพริบตา สายเบ็ดตาปลาก็พุ่งผ่านท้องฟ้าแล้วหล่นไปที่หนังสือสัญญา
"เอ๊ะ ? ใครกัน ! แกมีผู้ช่วยหนุนหลังหรือยังไงกัน ?" ยุนนานตะโกนด้วยความโกรธ เขาจับหนังสือในมืออย่างแน่น
จากมุมมองของเขา แม้ว่ายุนเทียนจะมีคนมาช่วยเขาก็ตาม แต่การฝึกฝนของเขาต่ำเกินไป ไม่อย่างงั้นคงไม่มีเหตุผลที่จะซ่อนหัวแล้วแสดงหางโดยการใช้เทคนิคหลอกหลวงแบบนี้เพื่อขโมยสมบัติของเขา
"โอ้ ! เหมือนฉันจะตกอะไรได้บางอย่าง !"
เป่ยเฟิงตื่นเต้นอย่างมาก เขาลุกขึ้นแล้วหมุนแกนเบ็ดอย่างเร็ว
"บังอาจ !"
ยุนนานโกรธอย่างมาก เขารู้สึกได้ว่าแรงที่ดึงหนังสือมันเพิ่มมากขึ้นจนเขาแทบจะยื้อไม่ไหว
ไม่มีใครรู้ว่าหนังสือนี้ทำมาจากวัสดุอะไร แต่มันดูเหมือนไม่ใช่หนังสือธรรมดา ๆ เพราะมันโดนดึงไปมาด้วยแรงที่น่าสะพรึงกลัวทั้งสองโดยมีมันเป็นจุดศูนย์กลาง แต่มันก็ยังไม่เป็นอะไร
"โว้วว ทำไมตัวที่ฉันตกได้มันหนักขนาดนี้ ?"
เป่ยเฟิงขมวดคิ้ว กล้ามเนื้อทุกส่วนบนร่างกายของเขาพองตัวขึ้น มันตอบสนองเมื่อเขาดึงขึ้น ต้องเข้าใจก่อนว่าน้ำหนักของสิ่งที่ถูกตกได้โดยเบ็ดคันนี้ มันจะเหลือเพียงหนึ่งในสิบเท่านั้น
ตัวอย่างเช่นของที่หนัก 3,000 จิน เมื่อตกได้จะเหลือแค่ 300 จินเท่านั้น มันจะกลับเป็นเมื่อเดิมก็ต่อเมื่อถูกเอาตะขอออกแล้วเท่านั้น
แรงที่ใช้ดึงของเป่ยเฟิงตอนนี้มีมากกว่า 300 จิน ! และเขาก็ยังไม่สามารถเอามันขึ้นมาได้ !
เขาไม่สามารถปล่อยมือหรือเบ็ดได้ พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเบ็ดคันนี้ในเมื่อมันสามารถทะลุไปอีกโลกได้ แล้วมันจะไม่เอาเขาไปด้วยงั้นหรอหากเขาถูกมันลากเข้าไปด้วย !
"อ๊าาา ! บัดซบ ไอ้ขึ้ขลาด ทำไมแกไม่โผล่หัวออกมา !"
ยุนนานอยู่ในสภาพที่คล้ายกัน รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไป ทั้งตัวของเขาแดงไปหมด เส้นเลือดปูดปรากฏขึ้นที่มือ เขาใช้พลังภายในธาตุหยินเพื่อรวมพลังไว้ที่ฝ่ามือ เพื่อที่จะดึงหนังสือเล่มนี้ไว้
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะตะโกนแค่ไหน โกรธมากเท่าไหร่ มันก็เสียเวลาเปล่า ๆ เพราะไม่มีแม้แต่คนเดียวที่โผล่ออกมา !
กว่ายี่สิบนาทีที่หน้าผากของเป่ยเฟิงเต็มไปด้วยเหงื่อขนาดเท่าลูกปัด เขาไม่สามารถที่จะเช็ดเหงื่อที่ไหลเข้ามาในตาของเขาได้ ทั้งตัวของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ตอนนี้เขาดูเหมือนหมาจรจัดที่ติดอยู่ท่ามกลางสายฝน
เป่ยเฟิงไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะมีสภาพที่เลวร้ายแบบนี้ ปกติเมื่อเขาตกปลามันจะต้องเป็นอะไรที่ง่าย ๆ แค่ดึงก็จบ ตอนนี้เขารู้สึกว่ากล้ามแขนกับกล้ามเนื้อของเขาเริ่มที่จะเป็นตะคริวแล้ว
ยุนนานอยู่ในสถาพที่แย่ยิ่งกว่าเดิม ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาพที่เลวร้าย แต่พลังภายในธาตุหยินของเขายังมีเหลืออยู่ มันยังไม่ถึงขีดจำกัดของเขา ครึ่งชั่วโมงของการต่อสู้ที่รุนแรงและระยะยาวนี้ มันเป็นเหมือนโคมไฟที่มีน้ำมันเก่าและเปลวไฟของมันก็กระพริบเหมือนเชื้อเพลิงที่ใกล้จะหมด
"ฟู่ !"
ยุนนานถุยน้ำลายเลือดของเขาออกมา ลมหายใจของเขาอยู่ในวิกฤติอันตราย
พลังภายในธาตุหยินของเขาถูกใช้อย่างเต็มที่ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากพลังภายในของเขา ยุนนานก็จะแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเขาต้องการแสวงหาความแข็งแกร่งเขาจึงต้องการหนังสือเล่มนี้เพื่อที่จะแข็งแกร่งต่อไป !
ในอีกด้านของสายเบ็ด เป่ยเฟิงที่กำลังยื้ออยู่เขารู้สึกได้ว่าแรงต่อต้านได้หายไปอย่างกระทันหัน เหมือนว่าเหยื่อที่เขาจับได้จะหมดแรงไปแล้ว เขาจึงรีบดึงเบ็ดขึ้นมาทันที
ขณะที่เฝ้าดูหนังสือที่มีค่าที่สุดของเขาบินผ่านท้องฟ้า ยุนนานผู้ซึ้งลมหายใจของเขากลับมาเป็นปกติ ถ่มน้ำลายเป็นเลือดออกมาอีกครั้ง
เขาใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อสร้างสมบัติชิ้นนี้ และตอนนี้เขาได้สูญเสียมันไป !
"บัดซบ ! มันเป็นเพราะแก ! เพราะแกทำให้ฉันสูญเสียหนังสือจิตวิญญาณที่มีค่าที่สุดของฉัน เป็นเพราะแกคนเดียว !"
ยุนนานไม่สามารถหาฝ่ายตรงข้ามเจอได้ เขาจึงนำความโกรธทั้งหมดระบายไปที่ยุนเทียน
ถ้าไม่มีหนังสือจิตวิญญาณ เขาก็ไม่มีทางที่จะควบคุมยุนเทียนได้ ในกรณีแบบนี้ ชีวิตของยุนเทียนคงจบด้วยการกลายเป็นคนไม่มีจิตใจเท่านั้น
ขณะที่เขาคิดบางอย่างได้ ยุนหนานชี้นิ้วของเขาไปที่คอของยุนเทียน ทันใดนั้นก็มีโซ่ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า มีความโกรธกระพริบออกมาจากตาของยุนนาน หลังจากนั่นเขาก็พาร่างของเขาหายไปจากสุสานโบราณ
**
เป่ยเฟิงกำลังหมุนรอกอย่างบ้าคลั่ง หนังสือจิตวิญญาณเป็นเสมือนภาพเงาที่ถูกดึงขึ้นท้องฟ้า
ในที่สุดก็ได้มีบางอย่างโผล่ออกมาจากบ่อน้ำโบราณ !
"ดิ๊ง ! สมบัติระดับ 2 ! หนังสือจิตวิญญาณ (สามารถเก็บแก่นแท้ของหัวใจลงในหน้าที่ว่างเปล่าของหนังสือได้ เพื่อควบคุมเจ้าของเลือดหรือก็คือการกลายเป็นทาสจิตวิญญาณ จิตวิญญาณทาสจะไม่สามารถต่อต้านหรือทรยศคำสั่งคุณได้ มีเพียงคุณเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้ว่าเขาจะอยู่หรือตาย ช่องว่างที่เหลือตอนนี้ : 12 !)
วิธีการทำสัญญา : หยดเลือดลงในหน้าแรกและหน้าสุดท้ายของหนังสือจิตวิญญาณเพื่อผูกมัดเข้ากับตัวเอง
หมายเหตุ : การบังคับให้บุคคลที่มีอำนาจทางจิตใจสูงกว่าเจ้าของสัญญา จะส่งผลให้หนังสือสัญญาเสียหาย !
ประสบการณ์ที่ได้รับ : 1,200 ! ขาดประสบการณ์เพื่อเข้าถึงชาวประมง ระดับ 2 : 5,700 !"
" ฮ่าฮ่า ! นี้มันเหมือนโยนถ่านลงไปในหิมะ การส่งหมอนให้เมื่อง่วงนอน !"
เป่ยเฟิงแสดงออกอย่างแปลก ๆ บนใบหน้าของเขา เขากำลังคิดถึงวิธีที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งเพื่อใช้หยุดคู่ต่อสู้ของเขา สิ่งที่เขาขาดจริง ๆ คือกลุ่มคนที่เขาไว้ใจได้อย่างวางใจ และตอนนี้เหมือนโชคจะเข้าข้าง หนังสือสัญญาจิตวิญญาณเล่มนี้เหมาะกับแผนการปัจจุบันของเขามาก !
"นี้ต้องเป็นสิ่งที่สวรรค์ส่งมาให้ฉัน !"
ตาของเป่ยเฟิงสว่างไสวไปด้วยความตื่นเต้น ด้วยหนังสือจิตวิญญาณนี้มันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะสร้างกลุ่มคนที่จงรักภักดีแม้ต้องเผชิญหน้ากับความตาย !
ความคิดเดียวอาจตัดสินชีวิตและความตายของทาสจิตวิญญาณได้ มันไม่จำเป็นที่ต้องกังวลเรื่องคนทรยศ !
เป่ยเฟิงหาเข็มแล้วจิ้มไปที่นิ้วกลางเบา ๆ หยดเลือดของเขาหยดลงบนหน้าแรกและหน้าสุดท้ายของหนังสือจิตวิญญาณตามคำแนะนำของระบบตกปลา
"ปุ้ง !"
ยุนนานกำลังวิ่งในถิ่นทุรกันดานที่รกร้าง เขาคุกเข่าหอบหายใจอย่างหนัก สีหน้าของเขามืดมน เมื่อสักครู่เขารู้สึกได้ว่าเครื่องหมายจิตวิญญาณของเขาถูกลบล้างอย่างสมบูรณ์ไปจากหนังสือจิตวิญญาณ มันจึงทำให้เขาทุกข์ทรมานอย่างมาก
"อย่าให้ข้ารู้ว่าใครเป็นคนทำ ! ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่หยุดจนกว่ามันจะตาย !" เสียงตะโกนหงุดหงิดดังก้องอยู่ในที่รกร้างว่างเปล่า ทำให้นกและแมลงทุกชนิดตกใจ
เป่ยเฟิงมองดูหยดเลือดบนหนังสือสัญญาจิตวิญญาณก่อนที่มันจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทันใดนั้นเขารู้สึกได้ถึงการเชื่อมโยงระหว่างเขากับหนังสือจิตวิญญาณ
รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏบนหน้าของเป่ยเฟิง เขาเก็บหนังสือจิตวิญญาณนี้ไว้ข้าง ๆ ไข่มุกสะเทือนฟ้า
เป่ยเฟิงมองเสือผ้าที่เปียกโชกของเขาก่อนจะถอนหายใจอย่างหนัก บางทีมันอาจถึงเวลาแล้วที่เขาต้องหาซื้อเสื้อผ้าเพิ่มเติม ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งวิ่งมาทั้งวัน
ระหว่างที่รอให้ไป่เซียงกลับมาพร้อมกับเลือดหมู เป่ยเฟิงจึงใช้เวลาอาบน้ำนานกว่าปกติ ก่อนที่จะไปเตรียมอาหารกลางวัน
เขารู้สึกว่ากุ้งอมตะเหมาะกับเขามากที่สุด นอกจากมันจะทำง่ายแล้ว มันยังอร่อยด้วย ! นอกจากนี้เขายังไม่ต้องหุงข้าวอีกต่างหาก !
คนขึ้เกียจคือคนประเสริฐ เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยนอกจากวางเนื้อไว้ในกระทะเท่านั้น
บางทีอาจเป็นเพราะเป่ยเฟิงใช้พลังงานมากเกินไป ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยอย่างมาก เขากินส่วนของเขาหมดจนรู้สึกอิ่มเอิบอย่างมาก
ตรงกันข้ามกับไป่เซียง ที่เนื้อลดลงไปเล็กน้อยเท่านั้น เป่ยเฟิงมองไปที่ไป่เซียงแล้วคิดบางอย่างเกี่ยวกับพลังลึกลับที่ซ่อนอยู่ในร่างของเขา
จากมุมมองของเขา แม้ว่าไป่เซียงอาจจะดูโง่ไม่น้อย แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่โหดร้าย ไหนจะพลังที่อยู่ในร่างของเขาอีก
เป่ยเฟิงคิดว่าไป่เซียงน่าจะเกิดมาพร้อมกับพลังมหาศาลและความสามารถในการฝึกตน
มีคำกล่าวไว้ว่า : ไม่มีทางที่ความรักหรือความเกลียดชังจะเกิดขึ้นโดยไร้เหตุผล
เขาไม่ใช่ญาติของไป่เซียง ฐานะจริง ๆ ของพวกเขาคือเจ้านายและลูกน้องเท่านั้น เป่ยเฟิงไม่ได้บอกเกี่ยวกับเรื่องกุ้งอมตะนี้กับไป่เซียงทั้งหมด มันเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะทำตัวเหมือนคนรับใช้ ไม่ว่ายังไงเขาก็ถือว่านี้คือการหว่านเมล็ดด้านบวกให้กับไป่เซียงมากกว่า ใครจะรู้ว่าเขาอาจเป็นคนสำคัญในอนาคตก็ได้
เป่ยเฟิงไม่สามารถโทษความจริงข้อนี้ได้ หลังจากนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสวรรค์ที่จะทำลายผู้ที่ไม่มองไม่เห็นตัวเอง !
การพิจารณาให้ความสำคัญกับคน ๆ หนึ่ง หากชายคนนั่นไม่มีสามารถที่จะดูแลตัวเองได้ สุดท้ายเขาก็จะกลายเป็นขอทานอยู่ข้างถนน จริงไหม ?
หลังจากที่กินอาหารเสร็จแล้ว เป่ยเฟิงก็ได้มอบหมายบางอย่างให้ไป่เซียง ก่อนที่เขาออกไปพร้อมกับกระเป๋าในมือของเขา
[1] TL/N : สำนวนโดยขงจื่อชื่อ จู้อิงซี จู้อิงโจว เป็นที่รู้จักกันดีใน จู้อิงซี ("Master Zhuang") เป็นนักปรัชญาชาวจีนที่มีอินธิพลอย่างมากในศตวรรษที่ ในช่วงเวลาการต่อสู้กับสหรัฐ
[2] ED/N : กฏของฟิสิก