บทที่ 31 ประวัติขาวสะอาด
บทที่ 31 ประวัติขาวสะอาด
กลุ่มโจรทื่มีประวัติฉาวโฉ่ที่หลบหนีกฏหมายมานาน ถูกใส่กุญแจมือและนำขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ตำรวจ แน่นอนว่าสิ่งที่เป่ยเฟิงทำก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เขาจึงเดินทางไปยังสถานีตำรวจด้วยเฮลิคอปเตอร์เช่นกัน ข้อแตกต่างอย่างเดียวนั่นคือเขาไม่ได้ถูกใส่กุญแจมือ
ผู้โดยสารที่เหลือก็กำลังเดินทางไปที่สถานีตำรวจ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่กองกำลังพิเศษอื่นๆ
***
"ชื่อ ?"
เจ้าหน้าที่มองดูเป่ยเฟิงตรงข้าม และถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"เป่ยเฟิง" เป่ยเฟิงตอบอย่างไม่เต็มใจ
'มันเป็นสิ่งที่ฉันควรจะได้รับ เพราะฉันฆ่าคนสองคนด้วยมือคู่นี้ไปแล้ว ...' เป่ยเฟิงคิดอย่างโง่งมในขณะที่มองลงมาที่มือ
หลังจากสอบปากคำได้สองสามรอบ พร้อมกับคำให้การของผู้โดยสาร เป่ยเฟิงจึงถูกปล่อยตัวออกมาในที่สุด เขาได้รับรางวัลคนดีโดยชอบธรรมและรางวัลความกล้าหาญ นอกจากนั้นเขายังได้รับเงินรางวัลอีก 130,000 หยวน ! อย่างไรก็ตามคงต้องรอไประยะหนึ่งก่อนที่เขาจะได้รับเงิน
เป่ยเฟิงเดินออกมาจากสถานีตำรวจ หายใจเข้าลึก ๆ และเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยแววตาเศร้าโศกในดวงตาของเขา ราวกับว่าเขาตัดขาดจากโลกภายนอกมาเป็นเวลานาน
"คน ๆ นี้ .. ไม่ใช่คนธรรมดา !" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งลูบคางของเขาในขณะที่มองไปที่ร่างของเป่ยเฟิง เขากระซิบกับลูกน้องข้าง ๆเขา
"หัวหน้า เราแค่ตรวจสอบเขาแปปเดียว ถึงแม้เขาจะฆ่าเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั่นมันก็ไม่น่าจะถูกปล่อยตัวเร็วขนาดนี้นะครับ ?" ลูกน้องถามด้วยความขุ่นเคือง
"นายไม่คิดว่าเขาดูสงบเกินไปงั้นหรอ นอกจากนี้ หัวหน้าโจรที่ตายแล้วมันตายเหมือนมันถูกทุบ ! นายคิดว่ามันแรงมากแค่ไหนกันถึงจะทำแบบนั้นได้ ? สิ่งที่แปลกที่สุดคือความจริงที่ว่าพยานไม่เห็นวิธีที่เขาใช้ฆ่าพวกโจร !"
หัวหน้าของหน่วยอาชญากรรมร้ายแรง หนานซิน อธิบายส่วนที่เหลือให้ฟัง
"ถ้าอย่างนั้น ทำไมเราถึงไม่จับตัวเขา ? บางทีเขาอาจจะเป็นคนที่น่ากลัวเช่นกัน !" มีคนถามขึ้นมา
"จับ ? พื้นหลังของเขาละ ? เขาเป็นคนที่มีพื้นหลังที่ขาวสะอาด และอีกอย่างเขาช่วยเราแก้ไขปัญหามาเยอะพอแล้ว มันไม่ใช่เรื่องดีที่เราจะตรวจสอบเขาที่นี่ ..."
หลังจากนั้นไม่นาน หนานซิน ก็ปล่อยให้ลูกน้องในทีมคิดเงียบ ๆ
***
เป่ยเฟิงนอนลงบนเตียง มองไปที่เพดานของห้องพักโรงแรมเล็กๆ แปลกตาในเมืองเฉิงตู เขาไม่สามารถหลับได้เลยไม่ว่าจะพยายามซักแค่ไหน
ทุกครั้งที่เขาหลับตา เขาจะนึกถึงภาพที่โจรตายปรากฏขึ้นมาในใจของเขา
"ฉันเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ..."
เป่ยเฟิงคิดอย่างไม่แยแส เขามั่นใจว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในอดีต เขาคงจะทำตามที่พวกมันสั่งอย่างแน่นอน
แต่เพราะเขายอมเสี่ยงดวง เขาไม่อยากให้ชีวิตขึ้นอยู่กับความเมตตาของพวกโจร
ความคิดที่หนักหน่วงวิ่งผ่านเข้ามาในใจของเป่ยเฟิงไม่หยุดหย่อน จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ หลับไป
หลังจากผ่านพ้นคืนนี้ไป เป่ยเฟิงลุกขึ้นมาเหมือนเครื่องจักร เขาลุกขึ้นมาก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น เขาตื่นในเวลานี้เป็นกิจวัตรประจำวันของเขาไปแล้ว
เป่ยเฟิงดึงผ่าม่าน เปิดหน้าต่างออก และเริ่มฝึกฝนตอนเช้าปกติ
บางทีอาจเพราะการเปลี่ยนแปลงความคิดและการเชื่อมั่นของเขาในเหตุการณ์ของพวกโจร ทำให้การฝึกเคล็ดการหายใจด้วยแสงของเขาราบรื่นยิ่งขึ้น
สิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกลำบากนั่นคือความแข็งแรงของร่างกายที่ยังไม่สามารถรับน้ำหนักของเย็นสุดขั้วได้
"กึก กึก !"
เสียงดังสนั่นดังออกมาจากร่างกายของเป่ยเฟิง ในขณะที่กล้ามเนื้อของเขาขยายและหดตัวอย่างผิดปกติ มันเหมือนคลื่นที่วุ่นวายอย่างมาก
ช่องท้องของเป่ยเฟิงหดหายไปในขณะที่เขาหายใจเข้าลึก ๆ ราวกับว่ากำลังตอบสนองต่อคำร้องของเขา แสงแดดสีทองที่มีความหน้าเท่าดินสอยิงเข้ามาในจมูกของเขา
ในไม่ช้าความร้อนก็ลุกลามแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเป่ยเฟิง ทำให้เย็นสุดขั้วปล่อยคื่นพลังภายในธาตุน้ำแข็งออกมา ราบกับว่ามันพบเจอศัตรูตามธรรมชาติของมัน
พลังที่แตกต่างกันทั้งสองกำลังเผชิญหน้ากัน พวกมันไม่เต็มใจที่จะถอยให้กัน เป่ยเฟิงจึงต้องทุกข์ทรมานอีกครั้ง ความรู้สึกของพลังธาตุน้ำแข็งและธาตุไฟที่แผ่ไปทั่วร่างกายเขา มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการด้วยซ้ำ !
การแช่แข็งของพลังภายในธาตุน้ำแข็งเจาะลงไปในกระดูกของเขา กลับกัน พลังภายในธาตุหยางก็ได้พองเนื้อตัวของเขา
เชลล์ในร่างกายถูกทำลายและสร้างขึ้นใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า มันเกิดขึ้นจาก ไฟและน้ำแข็ง ทำให้เซลล์ใหม่มันดูแข็งแรงกว่ารุ่นเก่า ๆ อย่างมาก !
ในที่สุด หลังจากไหลเวียนพลังแสงสีทองครบสามสิบหกรอบ พลังของแสงก็หมดไป แล้วด้วยเหตุนี้เย็นสุดขั้วจึงได้สงบลง
เมื่อเป่ยเฟิงลืมตาขึ้น มีแสงสีขาวจาง ๆ ปรากฏในตาของเขา ก่อนที่มันจะหายไป
ชั้นของเลวสีดำมันโผล่ขึ้นมาบนร่างกายของเป่ยเฟิง มันมีกลิ่นที่น่าขยะแขยงอย่างมาก เป่ยเฟิงรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำทันที เขาขัดร่างกายของเขาถึงสามรอบก่อนที่จะนอนลงในอ่างอาบน้ำ
ขณะที่เขานอนในอ่าง ครึ่งหนึ่งลอยอยู่ด้านบนมีฟองสบู่เต็มไปหมด เป่ยเฟิงได้เปิดระบบในใจของเขา
เผ่ามนุษย์ : เป่ยเฟิง
พละกำลัง : 15
ความเร็ว : 14
สภาพจิตใจ : 17
เคล็ดการหายใจด้วยแสง : ชำนาญปานกลาง
อาวุธ :เย็นสุดขั้ว(สมบัติระดับ 2)
ชาวประมงระดับ 1 ประสบการณ์ : 1,800 / 10,000
"ใครจะคิดว่าเคล็ดการหายใจด้วยแสงกับความพยศของเย็นสุดขั้วมันจะทำให้การก้าวหน้าในการฝึกฝนมันส่งผลได้ขนาดนี้ !"
เป่ยเฟิงพลิกตัวด้วยความประหลาดใจในขณะที่เขาลุกออกจากอ่างอาบน้ำ เขามองตัวเองในกระจก ถึงแม้ว่าการฝึกเคล็ดการหายใจด้วยแสงจะไม่ใช่เคล็ดการฝึกฝนธรรมดา แต่เมื่อรวมมันกับพลังภายในธาตุน้ำแข็งของเย็นสุดขั้วมันก็ส่งผลกระทบมากขึ้นเรื่อย ๆ ! ราบกับว่ามันไม่พอใจอย่างที่เป็น ! แน่นอนว่าการรวมของทั้งสองอย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ง่าย ๆ แน่นอน !
ร่างกายของเขาตอนนี้ดูยืดหยุนอย่างมาก ผิวขาวดูดี บนท้องของเขามีขนมปังหกก้อนอยู่ โดยมีสองก้อนเห็นได้ชัดกว่าก้อนอื่นๆ มองไปที่กล้ามเนื้อตรงกระดูกเชิงกราน จะเห็นเป็นรูปตัว V เป่ยเฟิงพอใจอย่างมากในขณะที่มองตัวเองในกระจก
'แม้ว่าฉันจะดูเหมือนเด็กผู้หญิง แต่มันก็พัฒนาไปมากกว่าเมื่อก่อนถ้าเทียบกับความอ่อนแอในอดีต !'
เป่ยเฟิง กำและงอหมัดของเขาอย่างช้า ๆ เขารู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นในร่างกายของเขา เขารู้สึกดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน !
ตอนนี้ร่างกายของเขาอาจจะบอกได้ว่ามันเกินกว่าคนปกติไปแล้ว การเตะและต่อยของเขาน่าจะมีแรงประมาณอยูที่ 300-400 kgF! [1]
รอยยิ้มอันพึงพอใจปรากฏบนหน้าของเป่ยเฟิง ในขณะที่เขานอนลงบนเตียงนุ่มๆ และเปิดทีวีดู
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณตี 5 ไม่มีใครอยู่บนถนนเลย มันดูค่อยข้างเงียบมาก
เวลาประมาณ 9.00 น. เป่ยเฟิงแต่งชุดไปกินอาหารเช้าที่ร้านข้างถนน เขาซื้อแพ๊คสีแดงจากร้านค้าใกล้ๆ [2]
งานแต่งงานเป็นวันพรุ่งนี้ ดังนั่นเป่ยเฟิงจึงมีเวลาให้เตรียมตัว
อย่างไรก็ตาม หลังจากเดินรอบเมืองอย่างไม่หยุดหย่อน เป่ยเฟิงก็ไปยืนอยู่บนกลางถนนและเกาหัว ในเมืองนี้มันไม่ค่อยมีอะไรมากไปกว่าที่เขาคิดไว้เลย
"ตั๋วหนึ่งใบ ข้าวโพดคั่วขนาดใหญ่ โค้กขวดใหญ่"
หลังจากคิดซักพัก เป่ยเฟิงก็เลือกที่จะไปดูหนังฆ่าเวลา
หญิงสาวที่เคาเตอร์มองที่เป่ยเฟิงด้วยความประหลาดใจบนหน้าของเธอ โดยปกติคนจะมาดูหนังเป็นคู่หรือกับเพื่อน มันค่อนข้างหายากที่จะมีคนมาดูหนังเพียงคนเดียว
เป่ยเฟิงหาที่นั่งแล้วนั่งลง
ข้าง ๆ เขา มีคู่รักนั่งอยู่ ผู้ชายแต่งชุดสูทและใส่นาฬิกา Longines มันมีราคาประมาณ 30,000 หยวน บนข้อมือของเขา ! ชายคนนี้ดูดีอย่างมาก และผู้หญิงเองก็ดูงดงามไม่น้อยเช่นกัน มันทำให้คู่อื่นรู้สึกอิจฉาอย่างมาก !
หญิงสาวที่นั่งข้าว ๆ เป่ยเฟิง มีความสง่างามตามฉบับของผู้หญิงเจียงหนาน บางทีอาจพวกเขาอาจเป็นคนเจียงหนานทั้งคู่ ทั้งสอดกอดกันและทำเหมือนคู่รักที่รักกันมาก
เป่ยเฟิงเพียงแค่มองพวกเขาสั้น ๆ ก่อนที่จะไม่ให้ความสำคัญกับพวกเขาอีกต่อไป เขาหันกลับไปดูหนังต่ออย่างเงียบ ๆ
หลังจากนั่นหนังผ่านไปครึ่งเรื่อง ผู้หญิงที่ลุกข้าง ๆ ก็ลุกออกไปเข้าห้องน้ำ
"ที่รัก ความคืบหน้าระหว่างคุณกับเธอเป็นอย่างไงบ้าง ?"
มีหญิงสาวอีกคนโผล่มานั่งข้าง ๆ ผู้ชายคนนั่น เธอเอนตัวลงบนเขาและกระซิบถาม
"สบายใจได้ เธอเป็นคนใจง่ายเกินไป อีกไม่กี่วันฉันจะบอกกับเธอว่าธุรกิจของฉันกำลังมีปัญหาทางการเงิน ฉันจะพยายามขอยืมเงินจากเธอ" ชายคนนั้นพูดด้วยรอยยิ้มแจ่มใส
"ระวังตัวไว้ อย่าให้เธอจับเราได้ละกัน !"
ชายคนนั้นงมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง และหลังจากที่มั่นใจว่าไม่มีใครเห็น เขาก็เอามือจับหน้าอกของผู้หญิงคนนั้น แล้วเริ่มขย้ำมัน
ทั้งสองรู้สึกว่าที่ ๆ พวกเขานั่งมันมืดมาก มันมีเพียงความสว่างจากโรงหนังเท่านั้นที่พอจะมองเห็นได้ว่าพวกเขานั่งกันอยู่ นอกจากนี้เสียงในโรงหนังก็ดังมาก ทำให้พวกเขาแน่ใจว่าไม่มีใครได้ยินการพูดคุยของพวกเขา
'บัดซบ! พวกแกกล้าทำตัวแบบนี้ต่อผู้ชายโสดแบบฉันงั้นเหรอ ? แกตาย !'
ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังนัวเนียกัน สายตาดูเหนือกว่าของเป่ยเฟิงก็มองลงมา เขาได้ยินทุกอย่างและเขาจะไม่ทน ตัวเขาเองเป็นคนที่โดดเดี่ยวมานาน นอกจากนี้ตอนนี้เขายังอยู่ระหว่างการไปร่วมงานแต่งงานของอดีตแฟนของเขาอีก
'พวกแกมันน่าเกลียดมาก แต่ก็ดีที่มีความกล้าที่จะเล่นกับพวกผู้หญิงแบบนี้ ! พ่อของแกคนนี้หล่อกว่าแกด้วยซ้ำ แต่ทำไมฉันยังโสดอยู่ !'
อารมณ์ของเป่ยเฟิงพรุ่งพร่าน เขาลุกขึ้นยืนอย่างกระทันหันแล้วเดินไปที่ทางเข้าโรงหนัง
"เฮ้ คนสวย คุณจำผมไม่ได้หรอก ผมที่นั่งข้าง ๆ คุณไง โอ้อย่าสงสัยผม มันสำคัญที่ว่าคนที่นั่งข้างคุณตอนนี้เป็นแฟนคุณใช่ไหม ?"
เป่ยเฟิงเดินไปหาหญิงสาวที่กำลังกลับจากห้องน้ำ
"ใช่ เขาเป็นแฟนฉัน .. มะ มีอะไรงั้นเหรอ ?" เธอมองไปที่เป่ยเฟิงด้วยความระแวง
"ตอนนี้หลังจากที่คุณไปเข้าห้องน้ำ ผมเห็นแฟนหนุ่มของคุณนั่งอยู่กับผู้หญิงข้าง ๆ เขากอดกันและนัวเนียกันในขณะที่คุณไม่อยู่ ผมไม่สามารถทนมองได้ ผมได้ยินมาอีกว่าพวกไร้ยางอายพวกนี้จะโกงเงินคุณ เขาจะอ้างว่าธุรกิจของเขากำลังมีปัญหาหลังจากผ่านไปแล้ว 2-3 วัน แล้วแต่ว่าคุณจะเชื่อผมหรือไม่ แต่ผมมาบอกคุณเพราะกลัวว่าเดียวคุณจะเสียใจในภายหลัง ..."
หลังจากพูดจบ เป่ยเฟิงก็วางมือของเขาไว้ด้านหลังแล้วเดินออกไปเรื่อย ๆ เขาส่ายหัวให้กับภาพของคนโง่ พวกนั้น
'เฮ้อ รู้สึกดีจังที่ได้ทำความดีแบบนี้'
แน่นอนว่า สิ่งที่เป่ยเฟิงไม่อาจยอมรับได้คือเขาอิจฉาผู้ชายคนนั้นอย่างมาก !