บทที่ 26 อันตราย
บทที่ 26 อันตราย
กลุ่มคนทั้งสี่คนกำลังเดินไปตามทางที่เต็มไปด้วยโคลนแห้งอย่างเงียบ ๆ พวกเขาเดินตามคนยักษ์อย่างช้า ๆ
"บัดซบ ฉันนี้มันโง่จริง ๆ ! ฉินหยุน ไม่ว่าจะมองยังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่มีจะมีร้านอาหารอยู่ในที่แห่งนี้ !"
บรรยากาศบนเส้นทางเต็มไปด้วยความอึดอัด ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังของฉินหยุน ตัดสินใจพูดคุยเพื่อลดบรรยากาศนี้ลง
"โอ้ ใช่แล้ว เป็นไปได้ไม่ว่าเพราะเขารู้สึกไม่พอใจที่เราปฏิเสธความรักที่เขามอบให้เรากัน ?"
"ฉันคิดว่า ถ้าไอ้เจ้าตัวใหญ่นี้มีรอยสักละก็ ฉันเชื่อแน่ ๆ ว่าเขาต้องเป็นมาเฟีย" ตันเจียน พูดสิ่งที่คิด
"อย่าพูดแบบนั้น ... ฉันไปเห็นในกลุ่มพูดคุย ฉันจึงคิดว่าเราน่าจะปลอดภัย แม้แต่คนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองชิงเฉิงยังนั่งเฮลิคอปเตอร์มาเพื่อกินอาหารที่นี่เลย" ฉินหยุนกล่าวด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย
ฉินหยุนเป็นพนักงานบริษัท เงินเดือนของเขาอยู่ที่ประมาณ 10,000 หยวน แต่เหตุผลที่เขายอมจ่ายด้วยเลือดครั้งนี้เพราะว่า ตันเจียน
"เจ้านาย ผมพาลูกค้ามา" ไป่เซียงอยู่หน้าประตูและตะโกนออกไปด้วยเสียงดังสนั่น
"เข้าใจแล้ว เดียวจะมีกลุ่มลูกค้ามาเพิ่มอีก เราจะเริ่มกินหลังจากที่นายพาพวกเขามาที่นี่จากหมู่บ้านก่อน" เสียงเป่ยเฟิงกล่าวขึ้นเบา ๆ ในห้องครัว
ไป่เซียงนำกลุ่มของฉินหยุนเข้าห้องทานอาหารก่อนที่จะกลับไปที่หมู่บ้าน
"การตกแต่งนี้มันช่างสุดยอดจริง ๆ !"
ตอนแรกกลุ่มของฉินหยุนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเห็นบ้านที่ดูเก่า ๆ เมื่อตอนที่มองจากภายนอก เขาคิดว่าภายในก็ไม่น่าจะต่างกัน อย่างไรก็ตาม ใครจะคิดว่ามันจะเหมือนโลกภายในที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงขนาดนี้ !
ไม่น่าแปลกที่พวกเขาจะเข้าใจผิด ลานกว้างที่ใหญ่และว่างเปล่าขนาดนี้ แปลงไม้รก ๆ วันพืชรก ๆ และต้นไทรที่อยู่กลางลานนั่นอีก
หมาป่าตัวเล็ก ๆ สองตัววิ่งวนไปรอบ ๆ แปลงดอกไม้ มันเห่าและวิ่งเล่นเข้าไปในโคลน
จากนั้นไม่นาน กลุ่มลูกค้ากลุ่มที่สองก็มาถึง เป็นกลุ่มเด็กผู้หญิงสี่คน จากความเข้าใจของเขา สาว ๆ พวกนี้ดูแล้วไม่น่าจะชอบที่นี่
เป่ยเฟิงรู้สึกประหลาดใจชั่วครู่ แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจอื่น ๆ
สำหรับมื้อเช้า เป่ยเฟิงเพิ่มปริมาณอาหารและทำเมนูง่าย ๆ เขาทำอาหารเพียง 3 จาน กับซุปเท่านั้น
เป่ยเฟิงนำส่วนที่เหลือจากการเตรียมลูกค้าเพื่อเป็นของเขากับไป่เซียง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเขามองไปที่ร่างของไป่เซียง เขาก็ลังเลเล็กน้อยก่นที่จะเอื้อมมื้อออกไปตักบางส่วนของลูกค้า หลังจากนั่นเขาก็ใช้ทัพพีตักอาหารหลายครั้งจากจานลูกค้าเพื่อเอามาไว้บนจานของไป่เซียง
ถึงอย่างนั่นเป่ยเฟิงก็ยังคงประเมินความหิวกระหายของไป่เซียงพลาด !
โดยปกติคนจะตักข้าวออกจากชามข้าวของพวกเขา เมื่อจะกิน
ตรงกันข้ามกับไป่เซียง เขาอาจจะดูเหมือนตักข้าว แต่สำหรับเป่ยเฟิง นั่นมันคือการกอดชามข้าวและกินโดยตรง !
แน่นอนว่าไม่ได้พูดเกินจริงเลย อย่างไรก็ตาม ความจุของกระเพาะเขามันน่ากลัวมาก เป่ยเฟิงได้แต่จ้องมองในขณะที่ไป่เซียงกินชามที่สาม
"อุ้บบ ! ผมอิ่มแล้ว !" ไป่เซียงถูท้องป่องของเขาด้วยยอมยิ้มโง่ ๆ และความใสซื่อบนใบหน้าของเขา
"..." เป่ยเฟิงไม่รู้จะพูดยังไงดี
'ถ้านายยังไม่อิ่ม ฉันไม่ต้องทำข้าวให้อีกซักหม้อหรือยังไง ?'
"ปัง ปัง ปัง !"
"มีใครอยู่ไหม"
เป่ยเฟิงกลืนอาหารคำสุดท้ายเมื่อได้ยินเสียงเคาะจากประตูหน้า
"โฮ่ง ! โฮ่ง !"
เจ้าหมาที่กลัวหัวหดทั้งสองมันหดตัวอยู่มุมหนึ่งขณะเห่าด้วยความกลัว
เป่ยเฟิงขมวดคิ้วและลุกขึ้น ไป่เซียงลังเลชั่วคู่ก่อนจะตามเป่ยเฟิงไป
"พี่ใหญ่ เด็กคนนี้มันคิดจะซ่อนตัวจากเราใช่ไหม ฉันคิดว่ามันไม่อยากออกมาแน่ ๆ !" หลังจากเคาะเสร็จ ชายที่เคาะก็วิ่งไปหาอีกคนที่อยู่ด้านหลัง พูดด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม
"ฮึ้มม แอบงั้นเหรอ ? เราจะเคาะต่อไป แต่อย่าให้ประตูพังก็พอ !'
หลี่ซานลูบคางและสั่งด้วยเสียงเย็นชา
เหตุผลที่หลี่ซานกล่าวท้ายประโยคนั้น เพราะเขาได้รับคำสั่งมาจากหัวหน้าของเขาอีกที : พวกแกห้ามทำลายส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านเก่า ๆ นี้เด็ดขาด !
"ได้เลย !"
เซียงเหลียง วิ่งกลับไปที่ประตู อย่างไรก็ตามก่อนที่มือของเขาจะทุบประตู ประตูก็ถูกเปิดออก
กำปั้นของเขาค้างไว้กลางอากาศก่อนที่จะค่อย ๆ ก้าวถอยหลัง
"หน่อยแก ในที่สุดก็กล้าออกมาแล้ว ? พี่ใหญ่ ! มันออกมาแล้ว ! " เซียงเหลียงตะโกนไปข้างหลัง
"โอ้ ? พวกอันธพาล ?"
เป่ยเฟิงขมวดคิ้วเมื่อมองไปที่กลุ่มคนที่รวมตัวด้านหน้าประตู
"เด็กน้อย นายควรจะรู้ว่าเจ้านายของฉันชอบบ้านหลังนี้ มันจะจะดีไม่น้อยถ้านายยอมเชื่อฟังเรา เพื่อที่จะขายบ้านหลังนี้ ไม่อย่างงั้น ..."
"แล้วจะทำไมล่ะ ?"
ไป่เซียงเดินตามหลังเป่ยเฟิง เขาเกาหัวของเขาช้า ๆ เขาอยากรู้จริง ๆเมื่อได้ยินคำพูดที่ยังพูดไม่เสร็จของหลี่ซาน และถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเขาไม่ฟัง
เขายืนอยู่ตรงกลางประตู และจ้องมองไปที่กลุ่มของหลี่ซาน เสมือนเทพพิทักษ์ประตูของวิหาร
'มารดามันเถอะ ! ไอ้กล้ามใหญ่นี้มันมายังไง ?!'
หลี่ซานเหลือบมองไปที่ร่างของเขาและกลุ่มของเขา แล้วเทียบกับไป่เซียง ในขณะที่เขารู้ว่าหากเขาไม่รุกรานไป่เซียง อีกฝ่ายก็จะไม่ทำอะไรพวกเขา !
'ต้องทำให้ไอ้ยักษ์นี้ใจเย็นลงก่อน ไม่อย่างงั้นมันคงจะดูเหมือนพ่อรังแกลูกชาย ใช่ไหม ?'
ทันทีที่กลุ่มหลี่ซานสงบสติลง ใบหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
"ฮ่า ๆ น้องชาย เกี่ยวกับข้อตกลงนี้ ถ้านายยินดี เจ้านายของเราจะให้เงินนายสองล้านหยวนสำหรับบ้านเก่า ๆ นี้ !" หลี่ซานมองไปที่เป่ยเฟิง หลังจากนั้นในความคิดของเขา เงินสองล้านหยวน มันเป็นเงินจำนวนมาก ! ไม่มีทางที่ไอ้เด็กนี้จะปฏิเสธเงินจำนวนมากเพื่อตึกแถวเก่า ๆ นี้แน่นอน !
"ไม่ขาย ! ไม่ว่าจะให้ราคาเท่าไหร่ก็ ไม่ขาย" เป่ยเฟิงปฏิเสธข้อเสนอพิเศษนี้ทันทีโดยไม่ฟังคำพูดใด ๆ
"น้องชาย ไม่คิดเรื่องนี้สักหน่อยเหรอ ?" ใบหน้าของหลี่ซานเริ่มดูเย็นชา เขาพูดด้วยเสียงข่มขู่
"ไม่ขาย มีอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ไปให้พ้น ๆ ด้วย" หัวใจของเป่ยเฟิงไม่ได้รับผลกระทบจากการข่มขู่ของอีกฝ่าย เขาสะบัดแขนในเชิงขับไล่พวกเขาออกไป
"แล้วอย่ามาเสียใจเมื่อมันสายไป !" หลี่ซานรวบรวมความกล้าของเขาและพูดออกไปก่อนที่จะนำคนของเขากลับ
"ไร้สาระจริง ๆ ! คนพวกนี้เป็นใคร ? ถ้าไป่เซียงไม่ได้อยู่ที่นี่วันนี้ ฉันอาจจะต้องทนทุกข์ทรมานสักหน่อยละมั่ง ..." เป่ยเฟิงคิดอย่างเงียบ ๆ กับตัวเอง
'มีบางคนพยายามที่จะซื้อบ้านหลังนี้มาก่อน ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นการสร้างบ้านพักในวันหยุดหรือบางอย่าง ดูเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะจบง่าย ๆ แบบนั้นแล้วมั้ง ...'
ถ้าคิดอย่างจริงจัง หากอีกฝ่ายอยากจะสร้างบ้านพักวันหยุดที่นี่ พวกเขาก็น่าจะสร้างบ้านพักแถวนี้ในไม่กี่ปีก่อนหน้านี้แล้ว ทำไมพวกเขาต้องรอจนกว่าพวกเขาจะได้รับบ้านหลังนี้ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มสร้าง ?
'เว้นแต่ ... มันมีแรงจูงใจบางอย่าง ?'
เป่ยเฟิงคิดลึกลงไป ในช่วงเวลาที่เขาเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด เขาได้พยายามคาดดาดถึงแผนการบางอย่าง !
'พวกเขาไม่ยอมจบง่าย ๆ แน่นอน พวกเขาจะต้องกลับมาอีกครั้ง !'
ความรู้สึกกังวัลเกิดขึ้นในใจของเป่ยเฟิง คราวนี้ศัตรูแค่มาหยั่งเชิงเขา แน่นอนว่าครั้งต่อพวกเขาคงไม่จบแค่นี้แน่นอน
"พี่ใหญ่ เราจะให้เป็นแบบนี้หรอ ?" เซียงเหลียง ถามโง่ๆ
"แกคิดว่าเราจะทำอะไรได้อีก ? คนฉลาดจะไม่ยอมสู้กับเขา ! แกเห็นไอ้ยักษ์ข้างหลังเขาไหม ? แกล้มมันได้หรือเปล่า ?' หลี่ซานยิ่งกระสุนคำถามใส่เซียงเหลียงอย่างเย็นชา
"นี้ .. ฉันคิดว่าเราคงต้องปล่อยมันไปก่อน ..."
ภาพของไป่เซียงร่างยักษ์ มือที่เหมือนกระทะนั่น หากมันได้จับคอของเขาแล้วละก็ ... เขากลืนน้ำลายด้วยความกังวล
"เราจะรอคืนนี้ และแอบเข้าไปในบ้านหลังนั้นเพื่อสอนบทเรียนให้เด็กน้อยนั่น !"
"ถ้ามันไม่ขายให้เรา เราก็จะทำจนกว่ามันจะขาย ฮึ้ม ฉันอยากให้เวลานั้นมาถึงไว ๆ แล้วสิ !"
หลี่ซานพูดด้วยความเย็นชา เขาเป็นคนไร้ปราณีในสายตาคนอื่น ๆ ถ้าผู้ชายตัวใหญ่นั้นไม่ได้อยู่ตรงนั้นตอนบ่าย เขาคงจะสั่งสอนเป่ยเฟิงไปแล้ว
หลังจากที่เป่ยเฟิงส่งแขกของเขา เขาได้ให้ไป่เซียงช่วยเขาในการทำความสะอาด ล้างจาน และงานอื่น ๆ สำหรับทั้งสองคน มันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับเป่ยเฟิงที่จะทำความสะอาดพวกมันเสร็จก่อนเวลาที่เคยทำ
"ไม่มีอะไรให้ช่วยไปจนถึงตอนบ่ายแล้ว นายสามารถกลับไปได้ หรือจะพักที่นี่ก็ได้ นายเลือกห้องที่ว่างอยู่ได้เลย ฉันจะกลับมาหลังจากนายเลือกห้องเสร็จแล้ว" เป่ยเฟิงบอกไป่เซียงด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
"ครับ ผมจะกลับไปก่อนแล้วนำของมาที่นี่ทันที !" ไป่เซียงพยักหน้าอย่างโง่งม เขาดูดีใจอย่างมาก โดยดูได้จากใบหน้าของเขา อย่างไรก็ตาม มันดูตลกมากเมื่อรวมกับออร่าแรงกดดันจากร่างกายอันใหญ่โตของเขา