บทที่ 23 เพิ่งหนีออกมาจากโรงพยาบาลบ้า ?
บทที่ 23 เพิ่งหนีออกมาจากโรงพยาบาลบ้า ?
"เมื่อกี้นี้มันอะไรกัน ?"
โจคังพึมพำด้วยความไม่เชื่อ เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาดแน่ ๆ เขาเห็นแสงสีทองมันที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ! ถึงแม้จะกระพริบตาถี่ ๆ แต่เขาก็มั่นใจว่าเขาเห็นได้อย่างชัดเจน
'ดูเหมือนว่าฉันจะเจอผู้เชี่ยวชาญเข้าแล้ว !' ความคิดบางอย่างโผล่ขึ้นมาในใจของโจคัง
"พี่ใหญ่คัง คน ๆ นี้ดูเหมือน ..."
"หุบปาก !"
เตียวเหลียงกำลังจะบอกว่าผู้ชายคนนี้น่าจะมีปัญหาทางจิตบางอย่าง มันจะดูฉลาดกว่าที่จะอยู่ห่างจากเขา อย่างไงก็ตามเมื่อพวกเธอกำลังจะบอกเขา โจคังก็ด่าสวนกลับมาทันที
"พี่ใหญ่คัง ?"
เตียวเหลียงดูเหมือนคนโง่ทันที เธอไม่เข้าใจว่าทำไมโจคังถึงสั่งให้เธอปิดปาก
"เงียบ และ รอ" โจคังไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม เขาแสดงออกทางใบหน้าของเขาอย่างรุนแรง
เตียวเหลียงเติบโตขึ้นมาพร้อมกับโจคัง ถึงจะไม่รู้ว่าโจคังทำไมถึงพูดแบบนี้ แต่เธอก็ยังเชื่อมั่นในตัวเขา
ถึงแม้ว่าจะรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก แต่ทั้งสองสาวก็เงียบไป
ส่วนเป่ยเฟิง ช่วยไม่ได้ที่เขาจะพูดแบบโจคังสำหรับพวกเพื่อนของเขา ทันใดนั้นก็มีแสงเท่าดินสอบินตรงเข้ามาที่จมูกของเขาอีกครั้ง ทำให้เขาต้องให้ความสำคัญกับร่างกายของเขาก่อน
เมื่อแสงแดดเข้าสู่ร่างกาย มันเหมือนกับว่ามีลาวาร้อน ๆ ไหลเข้าไปในร่างของเขา
ได้ยินเสียงที่ร้อนระอุทุกครั้งที่แสงแดดสีทองทะลุผ่าน แหล่งที่มาของเสียงคือเลือดของเขา พวกมันระเหยออกทันทีที่ได้สัมผัสกับพลังหยางที่รุนแรง
เลือดซึ้งตอนนี้กลายเป็นไปไอน้ำลอยอยู่ภายในหลอดเลือดของเป่ยเฟิง มันทำให้ความดันโลหิตของเขาค่อย ๆ ลดลง อย่างไงก็ตามในช่วงเวลาสำคัญนั้น พลังงานของผลเลือดต้นกำเนิดที่ซ่อนในร่างกายของเขาก็ถูกบีบบังคับให้แสดงออกมาเพื่อเติมเลือดและพลังภายในของเป่ยเฟิง !
เซลล์นับไม่ถ้วนในร่างกายของเป่ยเฟิง มันไม่เต็มใจที่จะล้าหลัง พวกมันแต่ละตัวดูดซับพลังงานเท่าที่จะทำได้
เมื่อพวกมันไม่สามารถดูดซับได้อีกแล้ว พวกมันจะใช้พลังงานทั้งหมดที่มีอยู่ในเซลล์เหล่านี้สร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าที่เคยมีมา ! สำหรับเซลล์เก่า ๆ จะกลายเป็นเปลือกอันว่างเปล่า พวกมันจะถูกล้างออกด้วยการไหลเวียนของเลือดและเกิดขึ้นมาใหม่บนผิวของเขาในรูปแบบของเหลวสีเทาสกปรก
ความเร็วในการเติมเลือดของผลเลือดต้นกำเนิดมันเกินกว่าที่แสงสีทองจะระเหยทัน พลังงานในร่างของเป่ยเฟิงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
มันต้องใช้เวลาไหลเวียนรอบร่างกายของเป่ยเฟิงถึงสามสิบหกรอบ ก่อนที่แสงสีทองจะถูกดูดซับได้อย่างสมบูรณ์
ในช่วงเวลาสั้น ๆ หนึ่งในสามของเลือดของเป่ยเฟิงถูกระเหยหายไป !
หากไม่ได้รับการช่วยเหลือของผลเลือดต้นกำเนิดที่เติมเลือดให้เขาแม้ว่าจะเสร็จสิ้นจากการดูดซับแสงสีทองแล้ว เขาก็อาจจะจบลงที่เสียชีวิตหรือต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองเดือนพักฟื้นก่อนที่เขาจะสามารถกลับมาฝึกเคล็ดการหายใจด้วยแสงได้อีกครั้ง
"ฮ๊าาาาาาาาาาาา !"
ขณะที่เป่ยเฟิงเปิดตาของเขา เขากระพริบทั้งที่ในตามีแสงเจิดจ้าเป็นประกายอยู่ เขาเปิดปากของเขาออกมาด้วยเสียงคำรามเหมือนเสียงคำรามของกับเสือหรือมังกร !
มีควันสีขาวไหลออกมาพร้อมกับเสียงคำราม ในขณะที่พวกมันถูกพ่นออกมาจากปากของเป่ยเฟิง มันกระจายไปทั่วหลังจากที่ถูกพ่นห่างจากร่างของเขาไม่กี่เมตร !
กลุ่มของโจคังปิดหูของเขาทันที พวกเขารู้สึกปวดหูและสยดสยองมากเมื่อได้ยินเป่ยเฟิงคำรามออกมา หลังจากที่เสียงค่อย ๆ จางหายไปแล้วทั้งกลุ่มก็จ้องมองไปที่เป่ยเฟิงด้วยความกลัวในสายตาพวกเขา
หูของพวกเขายังคงก้องและได้ยินเสียงคำรามอยู่ในใจพวกเขา
"โอ้ ตอนนี้พวกนายจะถามอะไรนะ ?" เป่ยเฟิงหันกลับมาพร้อมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
"อ่าา ! พี่ชาย โปรดยอมรับคำขอโทษจากพวกเราด้วย พวกเราติดอยู่บนภูเขานี้มาครึ่งวันแล้ว ทุกคงจึงกังวลอย่างมาก .."
ใบหน้าของโจคังดูเศร้าเล็กน้อย เขารีบอธิบายเมื่อรู้สึกตัวได้ว่าเป่ยเฟิงได้ยินคำพูดของพวกเขาทั้งหมด
"ไม่มีปัญหา มาเถอะ ฉันจะพาพวกนายลงภูเขานี้เอง"
เป่ยเฟิงไม่ใช่คนอคติ เขาไม่สนใจเรื่องนี้ เขายิ้มด้วยความไม่กังวลกับกลุ่มของโจคังและพาพวกเขาลงภูเขา
"พี่ใหญ่คัง ทำไมพี่ถึงสุภาพกับคนนี้ด้วย ? พี่สามารถให้เงินเขาซักร้อยหยวนเพื่อให้เขานำทางพวกเราลงก็ได้นี้ ...'
โจวชานชาน หญิงสาวคนหนึ่งเดินด้านหลังถามด้วยเสียงเบา ๆ
"เธอไม่เข้าใจหรอก มันมีคนไม่กี่คนที่ไม่สนใจเงินไม่กี่ร้อยหยวนอยู่" โจคังหยุดและพูดต่อว่า "ให้มันจบแค่นี้ อย่าไปพูดถึงมันอีกเลย"
ทำไมโจคังถึงต้องกลัวและดูเคารพคน ๆ นี้มากด้วย ? อีกสามคนสับสนอย่างมาก
ในบรรดาสามคน เตียวเหลียงเป็นคนเดียวที่ดูเหมือนพยายามคิดว่า คน ๆ นี้ไม่ใช่คนดูง่าย ๆ อย่างแรกต้องเข้าใจก่อนว่าโจคังไม่ใช่ใครอื่นแต่เขาคือลูกชายของนายกเทศมนตรี !
การขึ้นที่สูงเป็นเรื่องง่ายในขณะที่การตกต่ำเป็นเรื่องยาก [1] นอกจากนี้เป่ยเฟิงกำลังนำพวกเขาลงไปในเส้นทางที่ขรุขระ เขาเคยชินกับมันจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา แต่มันไม่ใช่กับพวกสาว ๆ แน่นอน
ระหว่างทางอาจเป็นเพราะความหงุดหงิด โจวชานชานจึงทำหน้ารังเกียจตัวเป่ยเฟิง แต่เขาก็ไม่สนใจ เขาสามารถควบคุมอารมณ์ของเขาได้ และไม่เคยกังวัลเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
หน้าผากของโจคังเต็มไปด้วยเส้นสีดำ ในขณะที่เขามองโจวชานชาน ผู้หญิงคนนี้เกิดมาไม่มีสมองหรือยังไง?
"เรามาถึงตีนเขาแล้ว เดินไปตามเส้นทางนี้แล้วพวกคุณจะเห็นถนนที่ทอดไปถึงหมู่บ้านชิงหลิง
เป่ยเฟิงไม่ได้หยุดยั้งลมหายใจขณะที่ชี้ตรงไปที่เส้นทางโคลนหลังบ้าน
"ขอบคุณมากพี่ชาย พวกเราขอพักกินข้าวที่นี้ก่อนได้ไหม ? ไม่ต้องห่วงเรามีเงินจ่ายให้ !" โจคังมองเป่ยเฟิงและถาม
"แน่นอน มื้อละ 1,600 หยวนต่อมื้อ" เป่ยเฟิงมองไปที่โจคังและพูดตอบทันที
"อะไรนะ ? นี้มันปล้นกันชัด ๆ !" โจวชานชานตระโกนด้วยความโกรธ
"หุบปาก !" โจคังรู้สึกหัวใจของเขาเย็บเชียบ ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงไม่ฟังเขาบ้าง !
สถานที่นี้อยู่ห่างไกลมาก ๆ ถ้าพวกเขาถูกปล้นจริง ๆ คงเพราะปากโง่ ๆ ของเธอแน่ ๆ มันจะทำให้พวกเขาไม่สามารถร้องไห้ได้ !
"ตกลง !" โจคังพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
"เมื่อพวกเรากินเสร็จแล้ว เธอก็หาทางกลับด้วยตัวเองซะ" โจคังมองไปรอบ ๆ และเน้นบอกกับโจวชานชานที่กำลังคลุ้มคลั่ง
ตอนแรกโจคังรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูดี เธอดูหยิ่งและสวยงาม แม้ว่าบางครั้งจะงี่เง่าก็ตาม เขาพบว่าเขาชอบเธอตั้งแต่ที่เจอครั้งแรก แต่ดูเหมือนเขาจะตัดสินใจเธอน้อยเกินไป หญิงคนที่เขาชอบคนนี้ไม่ช้าก็เร็ว จะถูกลงเอยด้วยการทำให้เขาเดือดร้อนซะมากกว่า
"ฮือออ ฮืออ พี่ใหญ่คัง ฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไปป ! ฮือออ"
โจวชานชานเริ่มรู้สึกตัว มันเป็นความพยายามอย่างมากกว่าที่เธอจะ 'จับ' ลูกชายคนรวยรุ่นที่สองนี้ได้ แม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอจะดูไม่ก้าวหน้าเท่าไหร่ แต่โจวชานชานก็คิดว่าตัวเองเป็นแฟนของโจคัง !
"เราเจอกันในฐานะเพื่อน ดังเรามาคุยกันดี ๆ อย่าทำให้ฉันเห็นฉากเมื่อกี้อีก ฉันแน่ว่านะว่าคุณคงทำตัวดีขึ้นตอนนี้ ใช่ไหม ?" การแสดงออกของโจคังไม่ได้เปลี่ยนไปเมื่อเขาพูด แต่คำพูดของเขารู้สึกเย็นเหมือนอยู่ในฤดูหนาว
"ฉันเข้าใจแล้ว แน่นอนคุณจะต้องเสียใจ !"
โจวชานชานเช็ดน้ำตาของเธอ เธอมองไปที่โจวคังครั้งสุดท้ายก่อนจะวิ่งออกไป
"พี่ใหญ่คัง ..." เตียวเหลียงลังเลที่จะพูด เสียงของเขาราวกับมีอะไรที่จะพูดออกมา
"ปล่อยเธอไป มาเถอะ มากินกันดีกว่า"
โจคังไม่ได้รู้สึกเสียใจกับการจากไปของโจวชานชาน สำหรับเด็กสาวที่เขาชอบ เพียงแค่เขาพูดคำเดียว พวกเธอก็จะแห่กันมาหาเขาแล้ว
เป่ยเฟิงดูอย่างเงียบ ๆ เขารู้สึกทึ่งกับฉากดราม่าเล็กน้อย
เขาดูผู้หญิงที่เดินออกไปด้วยความพึงพอใจ นอกจากนี้มันยังช่วยให้เขาหายใจได้สะดวกมาขึ้นอีก เขารู้สึกรำคาญกับการแสดงตลกก่อนหน้านี้ของเธอมาก !
"มีสองห้องให้ที่ใช้กินอาหาร เลือกหนึ่งในสองจากนั่นก็รอสักครู่" เป่ยเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนนุ่ม
กลุ่มของโจวคังไม่ได้คัดค้านและเลือกห้องพักโดยตรง
"ช่างเป็นห้องทานอาหารที่สวยงามอะไรขนาดนี้ !"
ตาของโจวคังสว่างขึ้น ตามที่เขาคิดผู้เชี่ยวชาญคนนี้ วิธีการออกแบบห้องของเขามันทำให้เขาดูเหมือนคนที่ฉลาดและเป็นผู้เติมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
เป่ยเฟิงไม่ได้ตั้งใจที่จะรับลูกค้าในตอนเช้า อย่างไงก็ตามมันก็เกิดขึ้นเพราะตัวเขาเองก็ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย ตั้งแต่เขากำลังเริ่มทำอาหารเพื่อหารายได้นี้ ถือว่าเป็นความโชคดีของโจคังอย่างมาก
ในไม่ช้า ไก่เคี่ยวเผือกก็ถูกนำออกมาจากกระทะใหญ่ หลังจากนั้นก็หั่นปลานึ่งเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงถาด ถึงจะมีแค่สองจานแต่มันก็มีปริมาณเยอะมาก !
เป่ยเฟิงนำบางส่วนไว้กินเอง และนำที่เหลือให้กับโจคังและเพื่อนของเขา
เขาไม่ได้ทำซุปในครั้งนี้เพราะมันใช้เวลามากเกินไป ถึงแม้ว่าเขาจะเริ่มทำอาหารก็ตามที มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงเพื่อทำมัน
[1] TL/N : เป็นวลี ครับ ตรงนี้แปลยากๆ ไม่เหมือนกันกับต้นฉบับ เลยขอไม่แปลละกัน : D