บทที่ 19 ซุปหัวปลานมข้นสำราญใจ
บทที่ 19 ซุปหัวปลานมข้นสำราญใจ
ข้อความนี้เป็นเหมือนหินที่ถูกโยนลงบนทะเลสาบอันเงียบสงบ ทำให้เกิดระลอกคลื่นบนพื้นผิวของมัน !
"โว้ว ! นี้มันของจริงดิ ?"
"ตามที่คิดไว้ ! พวกคนรวยชอบทำอะไรเว่อ ๆ ! แม้แต่การไปกินอาหารกลางวัน !"
"ฉันสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างเถ้าแก่กับหวังเจียน... บางที เขาอาจะเป็นลูกนอกสมรส ?" คนในเน็ตกล่าวออกมาทันที
"หืม .. เขาอาจจะเป็นลูกนอกสมรสของหวังเจียนจริง ๆ ... ดูวิธีที่เขาคุยแล้วหัวเราะมีความสุขด้วยกันนั้นสิ !" อีกคนกล่าว
ทฤษฏีตำนานนี้ถูกกุขึ้นมา มันเหมือนไฟป่า มันกระจายไปทั่วในฟอลั่มอินเทอร์เน็ตด้วยแรงกระตุ้น ในเวลาไม่กี่นาที มีการแชร์เกินกว่า 10,000 ครั้ง !
"นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน อย่าบอกฉันนะว่าผู้ชายคนนี้เป็นพี่ชายของฉันจริง ๆ ?"
ในท้ายที่สุดแม้แต่ลูกชายของหวังเจียนก็ได้แสดงออกอย่างน่าเกลียดบนใบหน้าของเขาเมื่อได้ยินข่าวลือพวกนี้
เขารู้นิสัยของพ่อเขาดี เมื่อไหร่กันที่เขาจะทำดีกับคนนอก ?
เป่ยเฟิงยังคงปรุงอาหารอยู่ในครัว เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะกลายเป็นลูกนอกสมรสของหวังเจียน
เพราะห้องอาหารถูกจับจองไว้หมดแล้ว นั่นดังเป่ยเฟิงจึงให้หวังเจียนนั่งที่ใต้ต้นไทรแทน
เมื่อถึงเวลาที่เขาเตรียมน้ำซุปหัวปลาเทลงหม้อ จากนั่นเติมน้ำลงไป ทำให้น้ำซุปสีขาวมีกลิ่นหอมอย่างมาก
หลังจากนั้นเขาเทลงชามขนาดใหญ่ที่เคยใช้ตุ๋นไก่กับซอสสีน้ำตาลก่อนหน้านี้ก่อนจะนำออกไปเสิร์ฟ
"หลานเฟิง นี้สำหรับอาหารที่คุณเลี้ยงผมมื้อสุดท้ายนี้ มันน่าอายเกินไปถ้าผมจะมาด้วยมือเปล่า" หวังเจียนหยิบกระเป๋าจากหลิวซุยด้วยรอยยิ้ม
"คุณหวัง คุณสุภาพเกินไปแล้ว ! คุณช่วยผมไว้มาก ที่ผมสามารถตอบแทนได้ก็มีแค่การทำอาหารให้เท่านั้น ! ผมจะรับของขวัญชิ้นนี้ได้ยังไง ?"
เป่ยเฟิงไม่ใช่คนที่อ่อนน้อมถ่อมตน แต่เขาก็ไม่หยิ่งหรือไม่สุภาพเกินไป เขารู้สึกว่าหวังเจียนช่วยเขาไว้มากแล้ว ดังนั่นเขาจึงไม่ยอมรับของขวัญนี้ แต่วางมันไว้บนโต๊ะแทน
"ฮ่า ๆ มันไม่ได้มากเกินเลย รับมันไปซะ มันเป็นบางอย่างที่นายต้องมีในตอนนี้" หวังเจียนหัวเราะ โดยปกติแล้วเขาเป็นคนที่ปฏิเสธที่จะให้ของขวัญจากคนอื่น แต่นี้เป็นครั้งแรกที่เขาพยายามมอบของขวัญให้คนอื่น และเขาก็ถูกปฏิเสธ !
หวังเจียนวางมันไว้แล้วยืนยันอีกครั้ง เป่ยเฟิงทำได้แค่รับของมาไว้เท่านั้น
หลังจากเปิดออกมาแล้ว เขาเห็นกระดาษหนึ่งใบในนั้น นี้ทำให้เขาอยากรู้อยากเห็นทันที เขาดึงออกมาแล้วตระหนักได้ว่ากระดาษแผ่นนี้มันคือใบอนุญาตประกอบธุรกิจ !
"ขอบคุณมากครับคุณหวัง ผมกำลังต้องการเจ้าสิ่งนี้พอดี !"
คนกลัวที่จะได้ชื่อเสียง เช่นเดียวกับหมูที่กลัวจะได้ไขมัน ![1]
เป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นราชาปีศาจ แต่มันยากที่จะผ่านลูกสมุนของเขาไป
ธุรกิจของเขาไม่มีใบอนุญาตจริง ๆ เกี่ยวกับข้อบังคับสำหรับการขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหาร มันเป็นเรื่องที่เข้มงวดมาก ดังนั้นถ้าเจ้าหน้ามาสอบสวนเขา เขาจะถูกบังคับให้ปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ของเขาทันที
"ในเมื่อหลานยอมรับของขวัญจากลุงแล้ว หลานต้องเอาใจใส่พิเศษเวลาทำอาหาร เข้าใจไหม !" หวังเจียนหัวเราะและเลียริมฝีมือด้วยความหวัง
"ฮ่าฮ่า ! ไม่ต้องเป็นห่วงครับคุณหวัง ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน !" เป่ยเฟิงตอบอย่างมั่นใจ
เป่ยเฟิงเปิดฝาชามใบใหญ่ ทำให้มีควันสีขาวพวยพุ่งออกมาพร้อมกับกลิ่นอ่อน ๆ และหอมหวาน !
ซุปหัวปลาชามนี้เป็นชามที่เป่ยเฟิงตั้งใจทำพิเศษ เขาเคยทำอาหารมานับครั้งไม่ถ้วนในตอนเด็ก ๆ และเขาถนัดอย่างมากในการทำอาหารชามนี้
เนื่องจากพวกมันเป็นของเหลือทิ้ง ปกติคนทั่วไปจะไม่กินหัวปลากัน และเนื่องจากครอบครัวของเป่ยเฟิงค่อนข้างยากจน ทำให้ทุกครั้งที่เขาจับปลาได้ เขาจะนำหัวปลาที่เหลือไปทำซุป ยังไงก็ตามมันก็ยังคงมีความอร่อยและใช้ค่าใช้จ่ายน้อยมากในการทำ ปู่ของเป่ยเฟิงชอบทำอาหารจานนี้เป็นพิเศษ ถึงเขาจะไม่พูดแต่สามารถดูได้จากรสชาติของน้ำซุปที่เขาทำเสร็จได้ มันถึงระดับที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยม !
ในทำนองเดียวกัน เป่ยเฟิงก็ประสบความสำเร็จอย่างมากในทำการอาหารชามนี้ โดยไม่ต้องเพิ่มเครื่องเทศใด ๆ น้ำซุปก็ยังเบาและไม่มีกลิ่นคาวปลาเลย
"หืม ! ซุปนี้สุดยอด !" ดวงตาของหวังเจียนสว่างไสวด้วยความรื่นรมย์ ในขณะที่เขาได้กลิ่นหอมสดชื่นจากน้ำซุป
โดยปกติแล้วอาหารอะไรก็ตามที่ทำจากปลา ส่วนใหญ่จะมีกลิ่นคาวและที่ได้กลิ่นชัดเจนที่สุดคือตรงส่วนหัวปลา ไม่ว่ามันจะถูกปรุงสุกดีแค่ไหน หรือไม่ว่าวิธีอะไรก็ตาม มันก็ยังคงไม่สามารถดับกลิ่นจากหัวปลาได้
น้ำซุปหัวปลาชามนี้มันมีสีขาวนวลเหมือนน้ำนม เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ปรุงอะไรเลย หรือก็คือใส่เครื่องปรุงรสเพื่อที่จะกำจัดความดิบของปลา ดูแล้วมันน่าอร่อยมาก !
ถึงอย่างงั้น มันก็ไม่ได้กลิ่นเหม็นคาวเลยในชามนี้ มันมีแต่กลิ่นหอมออกมาจากน้ำซูปหัวปลาเท่านั้น !
"อ่าาา ! อร่อยยยย !"
รสชาติที่นุ่มนวลที่สดใหม่ของปลาผสมกับความเนียนนุ่มของเต้าหู้ มันได้ผสมกันอย่างลงตัวเป็นรสชาติที่อร่อยมาก ขณะเดียวกันหวังเจียนก็ตักน้ำซุปขึ้นมาอีกช้อน
ขณะที่น้ำซุปอุ่น ๆ ไหลลงคอของเขา มันยังคงมีกลิ่นและรสชาติของความหวานลงเหลืออยู่ที่ลิ้นของเขา จากนั่นก็ค่อย ๆ แผ่นกระจายไปทั่วทุกมุมปากของเขา
หลังจากที่ได้ชิมจนพอใจแล้ว หวังเจียนก็ค่อย ๆ เปลี่ยนจากการกินแบบทะนุทะนอมกลายเป็นตะกละตะกามแทน เป่ยเฟิงและหลิวซุยได้เข้าร่วมด้วย พวกเขาทั้งสามลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ที่พวกเขาทำก็คืออยากจะเอาตัวเองลงไปแช่ในชามนี้ซะ
ในขณะที่ทั้งสามกำลังอยู่ในงานเลี้ยงพวกเขา หวังหยุยและหวังหยุนก็เดินมาที่โต๊ะของเป่ยเฟิง หลังจากที่พวกเธอกินเสร็จแล้ว
สำหรับผู้หญิง ไม่ว่าพวกเธออยากจะเติมเต็มกระเพาะของพวกเธอมากแค่ไหน ถึงมันจะอร่อยมากแค่ไหนก็ตาม พวกเธอก็ไม่สามารถยัดพวกมันได้หมด เพราะกระเพาะของพวกเธอมันเล็กเกินไป
"เอ๊ะ ? ยอดนักสู้ !"
หลิวซุยในขณะที่กำลังยุ่งอยู่กับหัวปลาชิ้นใหญ่ของเขา เงยหน้าขึ้นมาแล้ววางตะเกียบลง เขามองไปที่คนที่กำลังจะเดินมาทางนี้ทั้งสาม
'โอ้ ? ใครจะคิดว่าจะมียอดนักสู้อยู่แถวนี้อีกคน ...'
หวูโปจิ ได้สังเกตเห็นหลิวซุยด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะมีเจตนาดีหรือไม่ พวกเขาทั้งสองก็ไม่เคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น
"เถ้าแก่ อาหารของคุณดีมากเลย ! แต่ทำไมถึงมีแต่จานเนื้อละ ?" หวังหยุนเดินมาหาเป่ยเฟิงแล้วบ่นทันที
"อืม .. ฉันจะคิดเกี่ยวกับอาหารแบบอื่น ๆ ในอนาคตละกัน ..."
เป่ยเฟิงกล่าวอย่างคลุมเครือ เอาจริง ๆ เขาก็อยากทำอาหารจานอื่น ๆ เช่นกัน แต่เขาไม่สามารถทำได้ เพราะเขาไม่มีวัตถุดิบนั่นเอง !
"จริงเหรอ ? คุณต้องบอกพวกเราเป็นคนแรกนะเมื่อถึงเวลานั้น ตกลงไหม ?" หวังหยุนมีความยินดีอย่างมาก จากนั่นพูดต่อว่า "เอาล่ะ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้ .. ฉันควรจะโอนเงินส่วนที่เหลือไปในบัญชี WeChat ของคุณใช่ไหม ?"
หวังหยุนหยิบโทรศัพท์สีชมพูอ่อน ๆ ขนาดเล็กขึ้นมา แล้วเอามันให้เป่ยเฟิงดู
"อืม" เป่ยเฟิงพยักหน้า
"โอเค ในเมื่อคุยกันเสร็จแล้ว ตอนนี้ได้เวลาที่พวกเราต้องไปแล้ว" หวังหยุนกล่าวลาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"อืม แล้วแวะมาอุดหนุนใหม่ครั้งหน้า คุณกำลังจะหาทางกลับไปใช่ไหม ? คุณต้องเดินไปตามถนนเล็ก ๆ ตรงนั่น มันไกลมากก ผมไม่ไปส่งหรอกนะ .." เป่ยเฟิงกล่าวอย่างจริงจัง
'นี้มันเถ้าแก่อะไรเนี่ย !'
หน้าผากของทุกคนขมวดพร้อมกัน แม้แต่หวังเจียนกับหลิวซุยก็แสดงความไม่เชื่อผ่านหน้าพวกเขา
'ผู้ชายคนนี้มี EQ เท่าไหร่กัน ? คุณก็รู้ว่ามันไกลและอันตราย คุณก็ยังจะลากเรามาที่นี่ !' หวังหยุยสาปแช่งในใจ
"ชิ ไอ้คนงี่เง่า" หวังหยุยกรอกตาแล้วบ่นกับตัวเอง
ทั้งสองสาวบ่นเสียงแหบเบา ๆ แล้วจากไป
"เฮ้ นายน่าจะดูแข็งแกร่งนิดหน่อยนะ มันคงจะดีถ้าทดสอบด้วยตัวเอง เอาไว้เจอกันครั้งหน้าแล้วเรามาลองดูกันดีกว่า" หวูโปจิหยุดแล้วหันมาดูด้วยความท้าทายต่อหลิวซุย ก่อนที่จะตามทั้งสองสาวออกไป
"แน่นอน !"
หลิวซุยก็เต็มไปด้วยจิตวิญญาณในการต่อสู้เช่นกัน ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาและไม่ใช่ที่นี่ มันไม่ใช่ความคิดที่ดีนักที่เขาจะยืนขึ้นและท้าทายตรงนี้
"หืม.. ดูเหมือนผู้หญิงทั้งสองคนนั่นคงมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา .. ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเธอมาก่อนเลย หรือว่าเธอมาจากเมืองอื่นกัน ?"
หวังเจียนตกใจอย่างมากเมื่อเขาได้ยินการสนทนาระหว่าง หลิวซุยและหวูโปจิ เขารู้ว่าหลิวซุยแข็งแกร่งแค่ไหน คนที่แม้แต่หลิวซุยรับค้าทำด้วยความจริงจัง เขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ !
หลิวซุยถึงจะดูผอมและอ่อนแอ แต่ถ้าใครรู้จักเขาจะรู้ได้วาเขามีพลังในการทำลายล้างมากแค่ไหน พวกมันซ่อนอยู่ในกรอบที่ดูผอมและดูอ่อนแอ นั่น !
การชกเพียงครั้งเดียวของเขามันเพียงพอที่จะทะลุผ่านต้นไม้ที่หนา 30 เซนติเมตร และการเตะเพียงครั้งเดียวจะทำให้เกิดรอยยุบขนาดใหญ่ในแผ่นหล็กหนา 5 เซนติเมตร !
เป่ยเฟิงรู้สึกสับสนกับบทสนทนาทั้งหมด อย่างไงก็ตามถึงเขาจะอยากรู้อยากเห็นมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ได้ถามหลิวซุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะทุกคนมีความลับของตัวเองเสมอ
หลังจากเวลาผ่านไปโดยไม่มีใครมาขัดจังหวะ กลุ่มของหวังจุนก็กินเสร็จแล้ว หลังจากจ่ายเงินที่เหลือแล้วพวกเขาก็ถูกทิ้งให้ดูแลตัวเองเช่นกัน
กับกลุ่มของหวังจุน เมื่อได้มากินอาหารที่เดียวกับคนที่รวยที่สุดในเมืองชิงเฉิง มันเป็นเรื่องที่เขาสามารถโอ้อวดได้ไปอีกนาน
หลังจากที่กินเสร็จแล้ว หวังเจียนก็จากไปพร้อมกับหลิวซุยด้วยเฮลิคอปเตอร์ กับสถานะของหวังเจียนมีหลายอย่างที่เขาต้องกลับไปทำในบริษัทชิงเฉิง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถอยู่คุยกับเป่ยเฟิงได้นานนัก
ในที่สุดเป่ยเฟิงก็ทิ้งถูกให้อยู่ตามลำพัง เขาเริ่มทำความสะอาดห้องอาหาร จาน เครื่องใช้ทั้งหมด แท้จริงแล้วเขารู้สึกเจ็บปวดและมีความสุขไปพร้อมกัน
ความสุขนั้นก็คือเขาทำเงินได้ 3,200 ในช่วงเที่ยงวันเดียว แต่ความเจ็บปวดนั่นก็แน่นอน มันคือความน่าเบื่อที่เขาต้องมาล้างจานและเครื่องใช้พวกนี้ทั้งหมดตัวคนเดียว !
[1] Tl/N : หมูที่ระวังอ้วน เพราะถ้ามันอ้วนขึ้น ๆ มันจะถูกฆ่าทันที