บทที่ 17 มายา
บทที่ 17 มายา
ดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่อยู่สูงบนท้องฟ้า มันส่องแสงแดดอันเจิดจ้าออกมาทำให้พื้นดินเกิดคลื่นความร้อนลอยออกมา หวังจุนรู้สึกหนาวไปจนถึงขั้นที่ว่าหัวใจเขาราวกับโดนแช่แข็งในทะเลสาบน้ำแข็งเมื่อเขามองไปที่กล้ามแขนของเหลาชิ
"บัดซบ ! ฉันเพิ่งเห็นรูปร่างเขาชัด ๆ เขาไปทำอะไรมากัน ?! นี้มันเรื่องตลกอะไรกัน ! เขาคงไม่ใช่คนในตำนานที่ว่ามีแรงเท่ากับม้าแข่ง มีหน้าอกที่ถ้าเอาหินมาทุบแต่มันจะแตกแทน หรือ คนที่มีพลังมากพอจะเปิดขวดด้วยดอกเบญจมาศ ใช่ไหม ?" [1]
"เอิ่ม โทษที ฉันคิดว่าเจ้าของร้านที่นายพูดถึงคือฉันนะ ... " เป่ยเฟิงเดินเข้ามาระหว่างหวังจุนกับเตียวเหลาชิ แล้วพูดเบา ๆ
"เอ๊ะ ? นาย .. หลานเฟิง ?! ฮ่าฮ่า ! ไอ้เด็กเลว แกกลับมาตอนไหนกัน ? " ตาของเตียวเหลาชิหรี่ลงพร้อมกับรอยยิ้มด้วยความยินดีเมื่อเขาเห็นชายหนุ่มที่เดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง
"ลุง เตียว !"
เป่ยเฟิงหันมาทักทายลุงเตียวด้วยความเคารพ
'ฟิ้ว ! ทันเวลาพอดี ! อันตรายจริง ๆ มันน่าจะจบแล้วใช่ไหม ? ช่างเป็นเจ้าของร้านที่น่านับถือจริง ๆ เลือกมาถูกเวลาสำคัญพอดี ! '
หวังจุนชื่นชมยินดีในใจเมื่อเขาเห็นเป่ยเฟิง การจ้องมองของเขาราวกับเขาเห็นผู้ช่วยชีวิตของเขา ตอนนี้หัวเข่าของหวังจุนกำลังสั่นอยู่เล็กน้อย เขาค่อย ๆ ทำใจเย็นแล้วก้าวถอยหลัง เมื่อกี้เกือบจะมีหมัดที่ดูเหมือนเหล็กกำลังจะต่อยหน้าเขาพอดี ดีที่ฉันไม่กลัวจนล้มไปซะก่อน
"แกมาถึงตอนไหน ไอ้เด็กเลว ? อยากน้อยแกน่าจะมาบอกฉันบ้าง ว่าแกกลับมาแล้ว มาที่บ้านลุงสิเดียวลุงจะเลี้ยงข้าวแกเอง !"
"เฮ้อ !" เตียวเหลาชิถอนหายใจอย่างหนักหน่วง
"ลุง เตียว มีอะไรเกิดขึ้น ? ทำไมลุงถึงต้องถอนหายใจ ?" เป่ยเฟิงถามอย่างมึนงง
"ฉันถอนหายใจก็เพราะมันน่าเสียดายที่แกกลับมาช้าเกินไป เพราะลูกสาวสุดที่รักของฉันเพิ่งแต่งงานออกไป ! ถ้าแกกลับมาก่อนหน้านี้เร็วซักหน่อยฉันคงแนะนำเธอให้แกแล้ว !"
เหลาชิรู้สึกเสียดายอย่างมาก เขาเฝ้าดูเป่ยเฟิงเติบโตขึ้นมาและเขาก็รู้ว่าเด็กนี้ไม่เลว แต่น่าเสียดาย
'ลุงเตียว หยุดพูดเรื่องตลกเถอะ ... โชคดีที่สวรรค์สงสารฉันเลยให้ฉันกลับมาช้า'
ในขณะที่เหลาชิกำลังพูดถึงลูกสาวของเขา แต่ไม่ใช่กับเป่ยเฟิงที่กำลังนึกถึงภาพลักษณ์หญิงสาวกอริลลาน่ากลัวที่ปรากฏขึ้นมาในใจเขา ถ้าเป็นเขาที่ได้แต่งละก็เขาคิดว่าเขาอาจจะได้หลบหนีหายไปจากที่นี่ตลอดกาลเลยก็ได้ โชคดีที่สวรรค์เมตตาเขาไว้
"ไม่ต้องห่วงลุงเตียว .. บางทีผมก็คิดว่าผมเป็นพวกไม่ค่อยมีโชคซักเท่าไหร่ บางทีมันอาจจะเป็นเวรกรรมของพวกเราก็ได้ !"
เป่ยเฟิงไม่ได้กระพริบตาในขณะที่พูดเหมือนกับเขาเป็นฝ่ายผิดเล็กน้อย เขาเกาหลังหัวด้วยความเขินอาย และขุ่นเคือง
"ใช่ไหม ใช่ไหม ? เพราะว่าหว่านเอ๋อเป็นคนดีและสวยมาก แต่โชคร้ายที่แกไม่มีโชคได้อยู่เคียงข้างเธอ ฮ่าฮ่าฮ่า"
เหลาชิหัวเราะด้วยความภูมิใจ เขาไม่มีอะไรที่น่าภาคภูมิใจไปกว่าการได้มีลูกสาวที่ยอดเยี่ยมแบบนี้แล้ว !
หวังจุนยืนอยู่ข้าง ๆ เขาไม่กล้าแทรกการพูดคุยของพวกเขา มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเปลี่ยนหัวของพวกเขาในตอนนี้ บางทีถ้าเขาเปิดปากพูดในตอนนี้ เขาอาจจะถูกหมายหัวจากเหลาชิอีกครั้งก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้นเขาอาจจะไม่มีน้ำตาไหลอีกแล้วถ้าเขาร้องไห้ !
"อ่า ลุงเตียว ผมมีแขกที่ต้องบริการวันนี้ เอาไว้คุยกันวันหลัง .. ผมว่าจะชวนลุงไปกินอาหารที่บ้านผมในครั้งหน้า"
เป่ยเฟิงเห็นสังเกตุเห็นความเงียบไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ เขากำลังนึกถึงบุคคลผู้โชคร้ายที่ได้แต่งงานกับหว่านเอ๋อ เมื่อไม่กี่ปีที่เขาเห็นหว่านเอ๋อครั้งล่าสุด ดูเหมือนมือของเธอมันหนาขึ้นจนจะเท่าต้นขาของเขาอยู่แล้ว
"ก็ได้ เราจะคุยกันครั้งหน้า !" เหลาชิพยักหน้าและเดินจากไป
"เอ๊ะ ? เดียวนะ .. เหมือนฉันลืมอะไรไป ?"
เหลาชิหยุดฝีเท้าแล้วหันหลังมาพึมพำกับตัวเอง
'บัดซบ ! เขาจะหยุดเพื่ออะไร ?! ขออย่าให้เขาจำฉันได้ !'
หวังจุนรู้สึกใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เขากำลังอธิษฐานกับพระเจ้าและเทพทุก ๆ องค์
"ช่างมัน ฉันจำไม่ได้" เหลาชิส่ายหน้าด้วยความลังเล แล้วเดินต่อไปเรื่อย ๆ
"ฮุ๊ย ขอบคุณสวรรค์จริง ๆ ที่พี่ชายเจ้าของร้านมาพอดี ! ไม่งั้นตอนนี้ผมคงกลายเป็นศพหมูอ้วน 180 กิโลอยู่ที่นี่และกลายเป็นบาร์บีคิวภายใต้แสงอาทิตย์ที่ไม่มีความปราณีนี้ !" ไขมันหวังจุน พึมพำอย่างรุนแรง เขาตบหน้าอกตัวเองเบา ๆ ความสะเทือนใจและความกลัว ปรากฏออกมาผ่านใบหน้าของเขา
'บัดซบ อย่ามาล้อเล่นน่า !'
ผู้ชายคนนี้มีน้ำหนักมากกว่า 180 กิโล ! แกเป็นเบเฮมอทหรือยังไง แกไม่ตายเลยหรือยังไง ?
เป่ยเฟิงมองด้วยความไม่เชื่อไปที่ร่างของหวังจุน
"ถึงฉันจะไม่มา ยังไงนายก็ไม่มีทางตายด้วยเรื่องแค่นี้หรอก" เป่ยเฟิงตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
"อ่า ผมรู้ ! ฉันมันแย่จริง ๆ ผมกำลังคิดอยู่เลยว่าเจ้าของร้านที่สร้างกฏไร้สาระพวกนี้จะมีนิสัยยังไง ?" หวังจุนกำลังคิดอยู่
"เราจะไปที่ร้านกันเลยไหม ?" หวังจุนถาม
"ฉันขอเวลาเดียว เดียวขอโทรหาบางคนก่อน"
เป่ยเฟิงเดินออกมาไม่นานเขาก็โทรหาคนที่จะมากินอาหารมื้อกลางวันนี้อีกอีกกลุ่ม
"สวัสดี ? พวกคุณอยู่ไหนกันละ ?"
"เรามาถึงแล้ว คุณอยู่ไหนล่ะ ?"
เสียงที่ฟังแล้วสดชื่นเหมือนน้ำในฤดูใบไม้ผลิดังออกมา
"ฉันอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้าน มันมีรถสองคันจอดอยู่ คึนนึงเป็น Volkswagen อีกคันเป็น Rolls Royce..."
เป่ยเฟิงประหลาดใจเล็กน้อย พวกเขามาถึงแล้ว ? นอกจากนี้ยังมีรถที่ไม่สามารถเห็นได้ที่นี่ทั้ง 2 คันอีก
"เว้นแต่ ...."
เป่ยเฟิงมองไปที่รถ Rolls Royce
"คุณเป็นเจ้าของร้านใช่ไหม ?"
สองสาวแต่งชุดลำลอง ถ้าให้คะแนนละก็ 9/10 พวกเขากำลังเดินออกมาจากรถ Rolls Royce ทั้งสองดูเหมือนกันมากราวกับพวกเธอเป็นพี่น้องกัน !
ชายวัยกลางคนเดินออกมาเบื้องหลังของสาวสวยทั้งสองคน
"อืม"
เป่ยเฟิงพยักหน้าแรง ๆ เกิดแสงเจิดจ้าในดวงตาของเขาเมื่อมองไปที่สาวสวยที่กำลังเดินมา เป่ยเฟิงกำลังพิจารณาเงียบ ๆ ถึงความงามของพวกเธอ ! อย่างไงก็ตาม เขาตกใจไปเพียงชั่วครู่เท่านั่น เขาสลัดความคิดไม่ดีออกไปแล้วทำใบหน้าให้กลับสู่ความปกติ
สาวสวยทั้งสองช่างแตกต่างจากชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างหลังพวกเธอจริง ๆ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ใช่พี่น้องกัน เขาเลื่อนสายตาไปมองที่มือของพวกเธอในเสี้ยววินาที [2]
"ช่างเป็นพี่น้องสาวสวยที่น่าทึ่งจริง ๆ !"
หวังจุนกำลังพยายามที่จะขยายดวงตาของเขาเพื่อจะได้มองชัด ๆ แต่ความพยายามนั้นมันก็ไร้ผล เพราะมันมีไขมากรอบตาของเขามากเกินไป !
"โอ้ พระเจ้า ! นี้มันสาวสวยสุดยอด ! สมบูรณ์แบบ ! พวกเธอเป็นคนจากตระกูลไหนกัน ?" หลี่เหว่ยไม่สามารถกระพริบตาได้ในขณะที่เขามองด้วยความรักไปยังสาวสวยทั้งสอง
"ฮึ้มม ! มันไม่เห็นจะสุดยอดตรงไหน !" หญิงสาวที่มีไขมันเล็กน้อยบนหน้าของเธอพูดด้วยความรำคาญ
"ฮี่ ๆ พวกนายทั้งสองควรหยุดได้แล้วนะ ดูสิน้ำลายไหลออกมาจากปากพวกนายกันแล้ว ..." สาวสวยอีกคนพูดขึ้นด้วยยอมยิ้มบิดเบี้ยวบนหน้าเธอ
'เอ๊ะ ? ช่างเป็นดวงตาที่บริสุทธิ์จริง ๆ ! เขาดูตกใจจริง ๆ เมื่อเขามองมาที่เรา แต่หลังจากนั้นเขาก็กลับเป็นปกติได้ในทันที ...' หวังหยุย คิดกับตัวเธอเอง
'ผู้ชายคนนี้แตกต่างจากคนอื่น ๆ ปกติเมื่อผู้ชายมองมาที่ฉัน พวกเขาจะมองด้วยสายตาลามก หรือ ปรารถนาที่อยากจะเป็นเจ้าของ แต่สายตาของเขามันช่างดูสงบ และไม่แยแสต่อสิ่งใดเลย' หวังหยุน คิดเช่นเดียวกัน ในเวลาเดียวกันเธอก็รู้สึกรังเกียจสายตาที่มองมาจาก หวังยุน กับ หลี่เหว่ยมากขึ้น
"เอาละ ในเมื่อมากันพร้อมแล้วก็ไปกันเถอะ " เป่ยเฟิงพูดพร้อมหันหลังเดินจากไป
"การมาครั้งนี้ไม่เสียเที่ยวแล้ว ! ในเมื่อได้เจอกับนางฟ้าแสนสวยทั้งสอง เพียงแค่เราได้พบพวกเธอแค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว !"
หวังจุนพยักหน้าแรง ๆ แล้วพูดออกมา เขายังอยู่ในอาการตกใจอยู่เลย
มีคำโบราณเคยว่าไว้ว่า เมื่อคุณได้เห็นสิ่งสวยงาม มันก็เพียงพอแล้วที่จะเติมเต็มทุกอย่าง หวังจุนเห็นด้วยกับคำพูดนี้
'พวกเธอทั้งสวยน่าจะมาจากตระกูลที่ร่ำรวย ต่อให้ฉันพยายามตลอดชีวิตก็ยังคงล้มเหลวที่จะจับจองหัวใจของคนใดคนหนึ่ง แต่อย่างน้อยฉันก็ควรจะลองมัน '
ดวงตาของหลี่เหว่ยกระพริบด้วยความหลงไหลในขณะที่เขาคิดถึงวิธีเข้าหาผู้หญิงทั้งสองคน
*****
หลังจากที่ออกเดินทางไม่นาน หวังจุนกับหลี่เหว่ยก็ตื่นจากความฝันอันสวยงามของพวกเขา เมื่อความจริงก็คือพวกเขาเหมือนเหยื่อบนถนนที่เดินไปไม่มีที่สิ้นสุด เขาจะต้องเดินต่อไปเรื่อย ๆ แบบนี้ ร้านบัดซบ ทำไมมันไกลขนาดนี้กัน ?!
"เจ้าของร้าน อีกไกลไหมกว่าจะถึงร้านอาหารของคุณ ? ทำไมเรายังไม่ถึงอีก ?"
หวังยุย ไม่สามารถทำอะไรได้หลังจากเดินมากว่า 10 นาทีก็ถามขึ้น
"ใกล้ถึงแล้ว" เป่ยเฟิงตอบหลังจากคิดสักครู่ เดินมาแค่ 10 นาทีเอง ไม่เห็นจะนาน ใช่ไหม ? ทำไมพวกดูเหมือนซอมบี้จัง แค่เดินมานิดเดียวเท่านั้น ?
"อ๊า ! ไม่ไหวแล้ว ฉันไม่ต่อไม่ไหวแล้ว !"
อีก 20 นาทีต่อมา หวังหยุนตอนนี้เธอนั่งล้มลง เข่าของเธอบวมอย่างมาก แล้วเธอก็ไม่ยอมลุกไปไหนอีกแล้ว
"มันอยู่ข้างหน้านี้เอง .. เรากำลังจะไปถึงในอีกไม่กี่นาที !" เป่ยเฟิงขอโทษแล้วชี้ไปที่บ้านเก่า ๆ ที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล
"อีกไม่กี่นาที ?! อะไรคือความไว้วางใจกันระหว่างเพื่อนมนุษย์กัน ?! ตอนนี้ฉันหิวจนจะกินหมาได้ทั้งตัวแล้ว !"
หวังจุนเหลือบตามอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเจ้าของร้านถึงใช้เวลาในการไปหาเขาที่ทางเข้าหมู่บ้าน นานมากก ! ไม่ใช่ว่าเขาเดินช้า แต่เพราะทางมันไกลเกินไปต่างหาก !
***************
[1] TL/N : เบญจมาศเป็นคำแสลงว่าทวารหนัก ครับ :D
[2] ED/N : ผู้เขียนหมายถึงดูแตกต่างกัน / ไม่เหมือนครอบครัวเดียวกัน