บทที่ 107 ตบหัวแล้วลูบหลัง !
บทที่ 107 ตบหัวแล้วลูบหลัง !
ด้วยเหตุนี้ เป่ยเฟิงจึงได้นอนหลับยาว ๆ จนถึง 5 โมงเย็น เขาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าร่างกายอบอุ่นและสบายอย่างมาก
เซลล์ทั้งหมดในร่างของเขาแยกออกหลายต่อหลายครั้งในหลายชั่วโมงมานี้ มันได้ขับเอาเซลล์ที่ตายแล้วออกมาทางผิวหนังทั้งหมด
แม้ว่าเขาจะดูเหมือนผอมราวกับไม้ไผ่ที่พร้อมจะปริวไปตามแรงลม แต่สภาพตอนนี้มันก็ดูดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนที่เหลือแค่หนังหุ้มกระดูก
"ดูเหมือนว่าช่วงนี้ฉันจะต้องกินอะไรมาก ๆ แต่ก็ดีที่ว่ามันทำให้ร่างกายของฉันแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น !"
เป่ยเฟิงพึมพำในขณะที่ได้ยินเสียงคำรามดังออกมาจากท้องของเขา
ตอนนี้ร่างของเขาค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่สิ่งที่ขาดไปมันคือพลังงาน ยกตัวอย่างเช่นรถสปอร์ตที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ไม่ว่ามันจะเร็วแค่ไหนก็ตามมันก็ไม่มีประโยชน์ถ้าหากขาดเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพพอ
"ถึงฉันจะโชคร้ายสุด ๆ ในวันเดียว แต่มันก็คุ้มค่ากับการที่ทำให้บรรลุเคล็ดการหายใจด้วยแสงระดับสูง มันชดเชยกับสิ่งที่ฉันเสียไปทั้งหมดได้ !"
เป่ยเฟิงรู้สึกดีมากเมื่อคิดถึงสิ่งที่ได้รับ โดยไม่ได้สนใจจำนวนเงินที่เสียไปเลยแม้แต่น้อย !
เขาคิดว่าหากเขาไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น .. บางทีเขาอาจจะไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ !
เป่ยเฟิงลงไปที่ชั้นใต้ดินก่อนจะหั่นเนื้อออกมา 50-60 จินแล้วนำขึ้นไปทำอาหารให้กับไป่เซียงและพวกที่เหลือ
หลังจากนั้นเขาก็ไปอาบน้ำ
'ดูเหมือนฉันจะสูงขึ้นมานิดหน่อย ?'
เป่ยเฟิงยืนอยู่หน้ากระจกแล้วคิดกับตัวเอง
ผิวของเขาตอนนี้มันขาวราวกับหยก แม้ว่าร่างจะดูผอมมากแต่มันก็เต็มไปด้วยพลังงานมหาศาล !
แสงอาทิตย์ในตอนบ่ายนั้นมันให้ผลลัพธ์ที่น่าตกใจมาก หากเทียบกับแสงอาทิตย์ในตอนเช้ามันก็เหมือนกับฝนตกในฤดูใบไม้ผลิ กับ พายุฝนในฤดูร้อน
แม้ว่าทั้งสองจะคล้าย ๆ กัน แต่ประโยชน์ของพวกมันนั่นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง !
"หึหึ จิ้งจอกน้อย ได้เวลาที่เราต้องมาชำระแค้นกันแล้ว !"
เป่ยเฟิงยิ้มอย่างชั่วร้ายในขณะที่ใส่เสื้อผ้า
เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ลืมว่าจิ้งจอกน้อยตัวนี้สร้างปัญหามาให้เขามากแค่ไหน ตอนนี้เขามีภูมิคุ้มกันกับความสามารถของมันแล้ว เขาสามารถจับตัวมันได้แล้ว !
เป่ยเฟิงเดินกลับมาที่ห้องใต้ดินแล้วตรงไปยังมุมที่จิ้งจอกน้อยนอนอยู่ในกล่องรองเท้าเล็ก ๆ จากนั้นเขาก็ถอดตะขอออกมาจากใบหูของมัน
ด้วยความคิดของเขา เบ็ดตกปลาหยกขาวก็กลับเข้ามาในร่าง เป่ยเฟิงหยิบจิ้งจอกน้อยขึ้นมาแล้วพามันออกไปที่ลานกว้างอย่างสบาย ๆ เพื่อรอให้มันตื่นขึ้นมา
"มิ้วว ?" [1]
ไม่กี่นาทีต่อมาจิ้งจอกตัวน้อยก็ตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ มันสำรวจสภาพแวดล้อมของมันอย่างช้า ๆ ก่อนจะร้องไห้ออกมา
ทันใดนั่นมันก็เริ่มรู้สึกอยากจะหนีออกไป แต่อย่างไรก็ตามมันก็พบว่ามันไม่สามารถหนีไปได้เพราะมันถูกจับตัวไว้ มันจึงทรุดตัวลงแล้วก้มหัวของมันอย่างไม่มีชีวิตชีวา
เป่ยเฟิงมองมันด้วยความตกใจ ก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ ในใจ 'ดูเหมือนเพื่อนตัวน้อยจะมีประสบการณ์ไม่น้อยกับการแกล้งตาย ...'
เขาจับมันเล่นด้วยความสนุกสนาน เขาอยากรู้ว่ามันจะแกล้งตายได้นานแค่ไหนกัน ?
ครึ่งชั่วโมงต่อมาจิ้งจอกน้อยก็ลืมตาอย่างช้า ๆ ก่อนจะมองไปรอบ ๆ แล้วมันก็ได้รับการต้อนรับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มราวกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยโครงกระดูกที่น่ากลัว
ความประหลาดใจปรากฏในดวงตาของจิ้งจอกน้อย มันมองเป่ยเฟิงเต็มไปด้วย .. ความไม่เข้าใจ !
จากมุมมองของเป่ยเฟิงตอนนี้ จิ้งจอกน้อยมันกำลังกังวลและไม่เข้าใจว่าทำไมมนุษย์คนนี้ยังมีชีวิตอยู่ได้ !
"จิ้งจอกน้อย แกสร้างปัญหาให้ฉันแต่แกคิดว่ามันจะมีครั้งที่สองงั้นเหรอ หึหึ ความสามารถของแกมันไร้ประโยชน์แล้ว !"
เป่ยเฟิงดีดนิ้วเบา ๆ กับหน้าผากของมัน ทำให้มันขู่ออกมาด้วยความโกรธ
หลังจากนั้นจิ้งจอกน้อยก็หยุดต่อต้านเขา มันแสดงความน่าสงสารออกมาแทน ดวงตาของมันเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความเศร้าใจราวกับว่ามันคือจิ้งจอกน้อยที่ไร้เดียงสาที่โลกทอดทิ้งให้อยู่ในป่าเพียงลำพัง
"โอ้ น่าสงสาร ลืมมันไปซะ ฉันจะปล่อยแกไปก่อน"
เป่ยเฟิงรู้สึกถึงความรู้สึกบางอย่างที่ผุดขึ้นมาในใจของเขา เขาเริ่มคลายการจับของมันแล้ว
'เอ๊ะ ? เดียวนะ มันมีอะไรแปลก ๆ !'
เป่ยเฟิงกรอกตาไปชั่วครู่ ใช่แล้วเขาไม่ใช่คนที่จะสงสารใครง่าย ๆ !
เมื่อรู้สึกถึงโอกาสในการหนี จิ้งจอกน้อยมันก็พยายามดิ้นอย่างสุดกำลังเพื่อที่จะเป็นอิสระ
"จิ้งจอกน้อยตัวนี้มีพลังจิตน่ากลัวมาก ฉันเกือบจะหลงกลมันแล้ว !" เป่ยเฟิงเดาะลิ้นด้วยความไม่พอใจ เขาจับมันแน่นยิ่งขึ้นแล้วมองจิ้งจอกน้อยอย่างคาดโทษ
เมื่อรู้ถึงอันตรายในสายตาของเป่ยเฟิง จิ้งจอกน้อยก็หยุดดิ้นรน 'ไม่มีอะไรที่ฉันจะทำได้แล้ว มันไม่มีประโยชน์อีกแล้ว เอาเลยทำตามที่แกต้องการสิ !'
เมื่อเห็นการแสดงออกของจิ้งจอกน้อย เป่ยเฟิงก็หัวเราะก่อนจะหยิบผลไม้จากอุ้งเท้าของมันออกมาด้วยความไม่เต็มใจของจิ้งจอกน้อย เขาตัดมันออกเป็นสองส่วน เป่ยเฟิงสามารถมองเห็นเมล็ดของมันที่เหมือนหิมะสีขาวจำนวนมากได้ในนั้น แต่ละอันมีแวววาวและเหมือนคริสตัลอย่างมาก มันมีกลิ่นหอม ๆ ที่ช่วยทำให้ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น
"แก๊ก !"
เป่ยเฟิงไม่สามารถต่อต้านข้าวที่เรียกว่า 'ข้าวแม่น้ำขาว' ให้ใส่ปากของเขาได้เลย เขาหยิบมันออกมาเล็กน้อยก่อนจะใส่เข้าไปในปาก มันมีพลังงานธรรมชาติและความบริสุทธิ์อยู่ในปากของเขา
รสชาติมันไม่หนักนัก แต่มันก็ติดที่ลิ้นเป็นเวลานานก่อนที่จะไหลเข้าไปในคอ
เป่ยเฟิงเก็บผลไม้ชิ้นนี้ไว้เพือที่จะปลูกในอนาคต
"มิ้ว !"
จิ้งจอกตัวน้อยไม่สามารถมองเฉย ๆ ได้อีกต่อไป มันตื่นตระหนกเมื่อเห็นผลไม้ของมันค่อย ๆ ถูกเป่ยเฟิงกินลงไป
เป่ยเฟิงยิ้มออกมาอย่างน่ากลัวในขณะทีโบกผลไม้ไปมากับจิ้งจอกน้อย "แกต้องการมัน ? ถ้าแกต้องการมัน แกก็บอกมันมาก่อน ... แกน่าจะรู้ว่ามันคืออะไรใช่ไหม ? หืม ในเมื่อแกไม่ยอมบอกงั้นก็แปลว่าแกไม่ต้องการมันอีกแล้วใช่ไหม ? ไม่เป็นไรเดียวฉันจะกินมันเอง .."
เป่ยเฟิงหัวเราะอย่างชั่วร้ายในขณะที่เอาเข้าปากไปอีกเม็ด จากนั้นเขาก็เคี้ยวด้วยเสียงดัง
'ไอ้มนุษย์น่ารังเกียจ !' จิ้งจอกน้อยเปิดปากออกมาแล้วกัดไปที่มือของเป่ยเฟิง
แต่อย่างไรก็ตาม มันได้ใช้พลังทั้งหมดในการกัดนี้แต่ก็ไม่สามารถเรียกเลือดจากมนุษย์ผู้นี้ได้เลย ! ผิวของมันจะหนาไปแล้ว ! [2]
เป่ยเฟิงหัวเราะออกมาแล้วปล่อยมัน เขามองไปที่มือของเขาที่มีหมาตัวเล็ก ๆ ลอยไปในอากาศในขณะที่กัดมือของมนุษย์ตรงหน้ามันด้วยความเกลียดชัง
"เพื่อนตัวน้อย แกหิวใช่ไหม ? กินนี้สิ"
เป่ยเฟิงปล่อยมันลงมาก่อนจะวางผลไม้อีกครึ่งไว้ที่มือ ก่อนที่จะลูบหัวจิ้งจอกน้อย
จิ้งจอกน้อยมันตกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมองไปที่เป่ยเฟิงพร้อมกับดวงตาสับสน
"มิ้ว !"
หลังจากลังเลบางอย่าง มันก็เดินไปข้างหน้าแล้วเอาลิ้นสีชมพูเลียไปเบา ๆ ในจุดที่มันกัดเป่ยเฟิง
"ฮ่า ๆ ใช่แล้ว หัวตบแล้วลูบหลัง นี้มันคือเทคนิคที่เรียกว่าเทคนิคของพระเจ้า !"
เป่ยเฟิงหัวเราะอย่างสบายใจเมื่อเห็นความเป็นมิตรของจิ้งจอกน้อย
ใช่แล้ว เป่ยเฟิงให้ความสำคัญกับ จิ้งจอก หายนะจากธรรมชาติของมนุษย์มาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวมันหรือความสามารถของมัน !
ตอนนี้เขาสามารถทำให้มันเป็นมิตรได้แล้ว เขาสามารถใช้ความสามารถของมันเพื่อสาปแช่งใครก็ได้ที่กล้าตอแยกับเขาในอนาคต !
จิ้งจอกน้อยกินผลไม้อย่างสบายใจ หลังจากกินเสร็จแล้วมันก็กระโดดไปที่ไหล่ของเป่ยเฟิงก่อนจะวางตัวลงนอนสบาย ๆ โดยเอาหัวหันหน้าไปที่เป่ยเฟิง
มันยอมรับเป่ยเฟิงแล้ว แม้จะรู้ว่าความตั้งใจของมนุษย์คนนี้จะไม่ดีนัก แต่มันก็ไม่สำคัญ เพราะในที่สุดมันก็จะไม่เหงาอีกต่อไป !
สำหรับจิ้งจอก หายนะจากธรรมชาติของมนุษย์ มันเป็นสัตว์พิเศษ มันฉลาดและสามารถลอกเลียนแบบการกระทำของมนุยษ์ได้อย่างน่ากลัว สุนัขจิ้งจอกทุกตัวมีโอกาสที่จะออกลูกหรือพัฒนาเป็น จิ้งจอก หายนะจากธรรมชาติของมนุษย์ได้ แต่จิ้งจอก หายนะจากธรรมชาติของมนุษย์กลับไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ไม่ว่าจะผลิตลูกออกมาเท่าไหร่ สุดท้ายพวกมันก็ไม่สามารถเป็นจิ้งจอก หายนะจากธรรมชาติของมนุษย์ได้
ดังนั้น ช่วงเวลาที่จิ้งจอกน้อยตัวนี้ได้กลายเป็น จิ้งจอก หายนะจากธรรมชาติของมนุษย์ มันก็ใช้ชีวิตด้วยความเหงาอย่างมาก ไม่ว่าจะสัตว์ตัวไหนก็ตามที่เข้ามาหามัน สุดท้ายพวกมันก็จะเจอกับความโชคร้ายแบบแปลก ๆ แต่ตอนนี้มีคนไม่กลัวมันรวมทั้งยินดีที่จะเป็นเพื่อนมัน สำหรับมันแล้วนี้คล้าย ๆ กับการหาชีวิตคู่ได้แล้ว
ในขณะที่เป่ยเฟิงเกาหูของจิ้งจอกน้อย เขาก็รู้สึกมีความสุขในใจอย่างมาก จิ้งจอกน้อยที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ในมือของเขาแล้ว !
[1] TL/N : เสียงร้องของจิ้งจอกครับ ไม่รู้ทำไมนึกถึงเพลง "What dose the fox say ?"
[2] ED/N : น่าจะเหมือนกับหน้าด้าน ไม่ก็ผิวโคตรหนา