บทที่ 277
รุ่งเช้ามาถึงกองกำลังทหารจำนวนไม่น้อยเคลื่อนทัพออกจากเมืองเฟิ่งหลง มีทั้งพวกที่นั่งบนหลังสัตว์อสูรและเดินเท้า ด้านท้ายของขบวนมีกองกำลังใหม่สี่สิบเอ็ดคนก้าวเดินติดปิดขบวนบางคนใช้ม้าและใช้สัตว์อสูร เนี่ยฟงยังคงเดินทางอย่างปกติเสียงย้ำเท้าเป็นจังหวะดังลั่น แสงแดดค่อยๆแผดเผาร่างกายอย่างช้าๆทั้งหมดเดินทางเกือบครึ่งค่อนวันก็พบกับค่ายทหารขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้าของเขาหินรอบด้านเป็นกระโจมหนังสัตว์ตั้งอยู่มีทหารหลายร้อยคนกำลังฝึกร่ายรำเพลงดาบอยู่ด้านหน้าของกระโจม ส่วนอีกฝั่งมีทหารหลายร้อยคนเช่นกันที่กำลังมุงดูบางอย่างพร้อมกับตะโกนเสียงดัง ทหารที่อยู่ด้านหน้าของขบวนค่อยๆแยกตัวออกไปหลงเหลือเพียงกลุ่มของกองกำลังใหม่ที่รับเข้ามายืนงุนงงอยู่บริเวณทางเข้า เหยียนอู่ก้าวเดินมายังด้านหน้าส่วนด้านหลังมีชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งเดินตามมา
“เป็นอย่างไรบ้างที่พักใหม่ของพวกเจ้า เอาละข้ามีบางอย่างแนะนำ”
เหยียนอู่ก้าวเท้าซ้ายเบี่ยงตัวหลบออกมาพร้อมกับยกมือขวา
“พวกเจ้าคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับชายผู้นี้ แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่ทราบ ชายผู้นี้มีนามว่าล่งซือ จะเป็นคนฝึกฝนพวกเจ้าเหล่าทหารใหม่เอง”
หลายคนตะโกนโห่ร้องอย่างดีใจ ทันใดนั้นชายผู้มีนามว่าล่งซือก็ชี้นิ้วมือขวาออกมา
“เมื่อวานข้ายินมาว่ามีการประลองที่เมืองเฟิ่งหลง ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าเจ้าทำอย่างไรถึงจัดการซิวเจียงได้”
หลายคนได้ยินเช่นนั้นก็แหวกทางเป็นช่องให้แก่เนี่ยฟง ตัวเขาเองได้แต่ส่ายศีรษะไปมาก้าวเดินออกมา
“เป็นข้าเองที่จัดการคุณชายซิวเจียงเมื่อวาน”
ล่งซือจ้องมองชายหนุ่มด้านหน้าอย่างไม่วางตา
“เจ้ามีนามว่าเนี่ยฟง”
“เป็นข้าเองขอรับ”
สิ้นเสียงกล่าวของเนี่ยฟงล่งซือก็ถีบเท้าพุ่งเข้าหาเนี่ยฟงอย่างรวดเร็ว ง้างหมัดขวาต่อยออกมา เนี่ยฟงโยกตัวหลบไปด้านหลังล่งซือกลับดึงหมัดขวากลับยกเท้าซ้ายฟาดลงมา เนี่ยฟงหมุนตัวหลบไปทางซ้ายถีบเท้าขวาเข้าประชิดต่อยหมัดซ้ายออกไป ล่งซือรีบงอแขนขวาพร้อมกับโคจรลมปราณเข้าต้านรับแต่ก็ต้องขมวดคิ้วได้ยินเสียงดังสนั่นทางซ้ายของตน เนี่ยฟงใช้ความเร็วพุ่งอ้อมตัวมาทางซ้ายพร้อมกับต่อยหมัดขวาออกไป เปรี้ยง ล่งซือถึงกับกระเด็นออกไปทางขวาถึงสามก้าว เมื่อหันไปมองก็พบว่าชายหนุ่มด้านหน้าหายไป เนี่ยฟงรีบพุ่งเข้าประชิด ใช้เท้าซ้ายเหยียบไปที่เท้าขวาของล่งซือพร้อมกับต่อยหมัดขวาเข้าที่หน้าท้อง เปรี้ยง ล่งซือรับรู้ถึงความเจ็บปวดกัดฟันกำมือทั้งสองทุบลงมาแต่ทว่ากลับทุบลงพื้นดิน เปรี้ยง เนี่ยฟงเตะเท้าขวาไปที่ใบหน้าของล่งซือเสียงดังสนั่น เปรี้ยง กระเด็นออกไปด้านหลัง เลือดสีแดงฉานไหลออกมาจากจมูกที่บี้แบน
ทั้งสองยืนจ้องมองกันอยู่นานหลายสิบลมหายใจ ผู้คนรอบด้านถึงกับนิ่งเงียบจ้องมองอย่างไม่วางตา แน่นอนว่าการปะทะของทั้งสองเป็นที่ได้รับความสนใจจากทหารรอบด้านเพราะล่งซือเองก็เป็นยอดฝีมือของที่นี่เช่นกัน แต่ทว่าถูกชายหนุ่มทุบตีกระเด็นออกมา ล่งซือใช้มือขวาหักจมูกให้เข้าที่พร้อมกับสั่งเลือดที่คลั่งอยู่ด้านในออกมา ทันใดนั้นเองก็เห็นดาบคู่ใจของล่งซือปรากฏออกมาที่มือขวา เนี่ยฟงเองก็สะบัดมือขวานำแส้แข็งสีดำออกมาถือไว้เช่นกัน ทันใดนั้นเป็นล่งซือที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เสียงดาบและแส้แข็งปะทะกันดังลั่น ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับ เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เป็นล่งซือที่จากรุกเป็นต้านรับอยู่นานมือขวาที่จับดาบเริ่มที่จะไร้ความรู้สึกไม่นานก็เสียท่า เนี่ยฟงฟาดหวดแส้แข็ง เคร้ง ดาบในมือขวาถูกสะบัดออกไปเขาจึงพุ่งเข้าประชิดพร้อมกับฟาดหวดแส้แข็งเข้าไปที่ท้องอย่างถนัดถนี่ เปรี้ยง ล่งซือถึงกับกระเด็นออกไปด้านหลังกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง หลายคนจ้องมองดูล่งซืออย่างไม่เชื่อสายตา
ล่งซือสะบัดมือขวาเก็บดาบพร้อมกับนำง้าวเหล็กออกมาถือแต่ทว่าครั้งนี้เป็นเนี่ยฟงเองที่พุ่งเข้าหาก่อน เขาโยกตัวพุ่งหลบง้าวเหล็กที่จ้วงแทงเข้ามา มีบางครั้งที่ต้องยกแส้แข็งต้านรับ เขาพยายามอยู่นานที่จะเข้าประชิดแต่เพราะความต่างของอาวุธเขาจึงเสียเปรียบอยู่ไม่น้อย ทันทีที่จะหลบถอยล่งซือเองก็พุ่งเข้ามาทำได้แต่เพียงใช้แส้แข็งปัดป้องออกไป เคร้ง เคร้ง เคร้ง ทันใดนั้นเองเป็นจังหวะที่ล่งซือฟาดหวดง้าวในแนวขวาง เนี่ยฟงแสยะยิ้มหมุนตัวฟาดหวดแส้แข็งในมือเข้าต้านรับ เคร้ง หลังจากนั้นก็หมุนตัวอีกครั้ง เคร้ง ครั้งที่สามเป็นล่งซือที่ต้องตื่นตกใจเพราะชายหนุ่มด้านหน้าเข้ามากระชิดตัวอีกแล้ว เนี่ยฟงฟาดหวดแส้แข็งออกไปเป็นจังหวะเดียวกับที่ล่งซือถีบเท้าถอย ล่งซือยกยิ้มเล็กน้อยที่สามารถหลบออกมาได้ทันแต่ก็ต้องรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ขาซ้าย เมื่อก้มลงมองก็พบว่ามีแส้อ่อนสีดำพันรัดขาตัวเองเอาไว้ แต่ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมามองก็พบกับหมัดขวาต่อยเข้ามา เปรี้ยง ใบหน้าสะบัดไปทางซ้าย เนี่ยฟงไม่รีรอง้างหมัดขวาต่อยเข้าไปที่ท้องอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ทันใดนั้นเขาก็รับรู้ว่ามีบางอย่างฉุดรั้งแขนขวาเอาไว้ เมื่อหันมามองก็พบว่าเป็นเหยียนอู่ที่เข้ามาห้ามเสียก่อน
“พอเถอะ ชายผู้นั้นพ่ายแพ้ต่อเจ้าแล้ว”
เนี่ยฟงรีบหยุดมือสะบัดมือซ้ายที่เปลี่ยนมาถือแส้แข็งหลังจากนั้นก็ก้มศีรษะให้เหยียนอู่แล้วเดินถอยออกมา
“เอาละทุกคนแยกย้ายการประลองจบลงแล้ว พาล่งซือไปรักษาตัวซะ”
เนี่ยฟงรับรู้ได้อย่างดีว่ามีหลายคนแผ่ลมปราณออกมาตรวจสอบ เขาจึงแผ่ลมปราณเข้ากดดันคนพวกนั้น มีหลายคนที่อยู่ๆก็ล้มลงไปนอนกับพื้นจ้องมองเนี่ยฟงอย่างไม่วางตา เหยียนอู่เองก็พอจะรับรู้ได้แต่ส่านศีรษะไปมา
“พอได้แล้วไอ้หนู หากมากไปกว่านั้นเจ้าจะอยู่ที่นี่ลำบาก”
เนี่ยฟงรีบสลายแรงกดดันหันมาก้มศีรษะให้เหยียนอู่อีกครั้ง
“ต้องขออภัยขอรับ”
“ช่างเถอะ ตอนนี้เจ้าติดตามข้ามาก่อน”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับเดินติดตามเหยียนอู่ออกไป ไม่นานทั้งสองก็มาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของกระโจมหลังหนึ่ง ด้านหน้ามีทหารประจำการอยู่สี่นายถือหอกเหล็กอยู่ในมือ เนี่ยฟงรับรู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองตนอยู่ ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินเข้าไปด้านในกระโจม ทหารสี่นายก็จ้วงแทงหอกเหล็กในมือเข้าหาเนี่ยฟง หอกเหล็กปะทะกับพื้นดินเสียงดังทว่าหาจ้วงแทงถูกตัวชายหนุ่มด้านหน้า
“แปลกจริง ข้ามาที่นี่ไม่ถึงสองเค่อมีแต่ปัญหา”
เนี่ยฟงเร่งโคจรลมปราณใช้ออกด้วยทักษะจิตแห่งเทพ ทหารทั้งสี่นายหยุดชะงักนิ่ง ง้างหมัดขวาต่อยเข้าที่ปลายคางของทหารทั้งสี่ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เหยียนอู่ได้ยินเสียงจากด้านหลังรีบหันไปมองเพื่อจะห้ามแต่ทว่าก็ต้องตื่นตกใจที่ทหารทั้งสี่ลงไปนอนกับพื้น เนี่ยฟงก้มศีรษะอีกครั้ง
“ต้องขออภัยขอรับ”
เหยียนอู่ได้แต่ส่ายศีรษะไปมาหลังจากนั้นก็พาเนี่ยฟงเดินเข้าไปในกระโจม ด้านในหาได้มีการตกแต่งอย่างใดมีเพียงโต๊ะไม้อยู่ตรงกลาง ด้านหลังเป็นเตียงนอนด้านขวามีหอก ง้าว ทวน ตั้งอยู่ส่วนอีกฝั่งเป็นโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ถูกจัดทำเป็นแผนที่ขนาดใหญ่มีทั้งภูเขาและแม่น้ำ ด้านหน้าตรงโต๊ะไม้มีชายฉกรรจ์สวมชุดสีเทานั่งเขียนบางอย่างอยู่ ทันใดนั้นเองเหยียนอู่ก็เอ่ยวาจาออกมา
“พี่ใหญ่ข้ากลับมาแล้ว”
ชายผู้นั้นเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับยกยิ้มตอบรับ
“เหยียนอู่เจ้ากลับมาแล้ว ว่าแต่เจ้าพาใครมาด้วย”
“ชายผู้นี้มีนามว่าเนี่ยฟง มาที่นี่ไม่ถึงสองเค่อก็จัดล่งซือจนลงไปนอนกับพื้น ข้าเห็นว่าเขามีความสามารถจึงนำเขามาแนะนำต่อท่านพี่ขอรับ”
เนี่ยฟงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบก้มคราวะ
“คารวะท่านเหมาหนานขอรับ”
สิ้นเสียงกล่าวของเนี่ยฟงชายฉกรรจ์ที่ถูกเรียกขานว่าเหมาหนานก็หัวเราะดังลั่น
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้ามีนามว่าเหมาหนาน”
“เรื่องนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า ท่านเหยียนอู่มีพี่น้องสามคน ท่านเหมาหนานพี่ใหญ่ ท่านเหยียนอู่พี่รอง หลงจวินน้องเล็ก เรื่องนี้ผู้คนที่เมืองเฟิ่งหลงต่างกล่าวขานเรื่องรวมขอพวกท่านเป็นอย่างดี ตัวข้ามีความสงสัยอยู่อย่างหนึ่งจะขอเอ่ยถามต่อพวกท่านทั้งสองได้หรือไม่”
“เอาเถอะเจ้าจะสอบถามสิ่งใด”
“ที่ข้าสงสัยก็คือตัวท่านเอง น่าแปลกเหตุใดตัวท่านถึงได้มีกลิ่นของสตรีเพศกัน”
สิ้นเสียงกล่าวเหมาหนานที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็แสดงอาการบางอย่างออกมา ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงตบมือดังลั่นมาจากด้านหลัง
“ข้าชอบไอ้หนูนี่นัก ช่างสังเกตไม่น้อย เห็นทีครั้งนี้ข้าคงชนะการพนันเสียแล้วพี่ใหญ่ พี่รอง”
เนี่ยฟงหันไปมองทางด้านหน้าของกระโจมก็พบชายฉกรรจ์สองคนเดินเข้ามาสวมชุดเกราะเต็มตัว
“เหมยฟางเจ้าต้องไปฝึกปลอมตัวใหม่เสียแล้ว”
ชายผู้นั้นหันมาจ้องมองเนี่ยฟง
“ว่าแต่เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าชายผู้นั้นเป็นตัวปลอม”
“กลิ่นตัวขอรับ ชายผู้นั้นมีกลิ่นตัวคล้ายสตรีหาใช้บุรุษเช่นพวกเรา”
หลายคนจ้องมองมาที่เนี่ยฟงอย่างไม่วางตา
“หญิงสาวมักจะอาบน้ำบ่อยต่างจากบุรุษเช่นพวกเราขอรับ”