ตอนที่ 95 ส่งคืน
ตอนที่ 95
ส่งคืน
"พวกเจ้า...เป็นใคร"ทันทีที่กวีเดินเข้าไปในบ้านของตระกูลดีแลนซึ่งเป็นบ้านของเจ้าเมืองคนเก่าที่มอบตำแหน่งให้กับกวี เหล่าทหารที่ทำหน้าปกป้องบ้านตระกูลดีแลนอยู่ก็เข้ามาขวางเอาไว้ทันที แม้จะเลเวลไม่สูง แต่มาร์โก้ ดีแลน ก็เป็นขุนนางที่ได้รับความไว้ใจให้ไปปกครองเมืองการ์กันที่กำลังแย่ อย่างน้อยครอบครัวก็น่าจะเป็นขุนนางเช่นกัน
"ผมชื่อกวีครับ ปัจจุบันเป็นเจ้าเมืองของเมืองการ์กัน"กวีตอบด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรไม่ถือสาอะไรอีกฝ่ายแม้แต่น้อย เพียงแต่ทันทีที่กวีแนะนำตัวออกไป ทหารที่ยืนอยู่เบื้องหน้าก็มีสีหน้าตกใจออกมาทันที
"เจ้าเมืองการ์กัน…."ทหารคนนั้นมองไปที่อกเสื้อของกวี ตราสัญลักษณ์ของเจ้าเมือง สามารถแสดงหรือปิดเอาไว้ได้ตลอดเวลา ตั้งแต่จะเดินเข้าไปในบ้านตระกูลดีแลนกวีก็เปิดแสดงตราเจ้าเมืองเอาไว้แล้ว
"ผมจะไปรายงานท่านหัวหน้าตระกูล กรุณารอสักครู่"นายทหารคนนั้นตอบพลางหันหลังวิ่งเข้าไปในบ้านทันที เรื่องที่คุณชายตระกูลดีแลนเสียชีวิตไปแล้ว และได้มอบหมายตำแหน่งเจ้าเมืองให้กับนักผจญภัยคนหนึ่งนั้นดังไปทั่วเมืองหลวงแล้ว การที่นักผจญภัยแสดงตราเจ้าเมืองต่อหน้าแบบนี้ก็คงไม่ผิดตัวแน่ๆ เขาคือคนที่รับตำแหน่งต่อจากมาร์โก้แน่นอน
"พี่กวี เป็นตรามังกรสามหัวจริงๆด้วย"ไอช่ามองไปที่หน้าประตูบ้านของตระกูลดีแลนก่อนจะชี้ไปที่ตรามังกรที่ติดเอาไว้ที่ประตู
"สามเลยงั้นเหรอ"กวีเลิกคิ้วด้วยท่าทีประหลาดใจ ระบบขุนนางของอาณาจักรทริชแบ่งออกเป็น 5 ระดับ โดยตราของอาณาจักรทริชนั้นจะใช้เป็นรูปมังกรทะเลสัตว์ในตำนานของอาณาจักร โดยขุนนางขั้นแรกนั้นจะมีตรามังกรหัวเดียวประดับยศ ยิ่งหัวของมังกรมีมากเท่าไหร่ก็หมายถึงยศที่สูงขึ้นเท่านั้น
"สามนี่แปลกเหรอคะ"น้ำหวานถามด้วยท่าทีสงสัยไม่ต่างกัน ในกลุ่มนี้เกรงว่าจะมีแค่น้ำหวานกับไอช่าเท่านั้นที่ไม่รู้เรื่องระบบขุนนางของทริชเสียเท่าไหร่
"ไม่แปลกหรอก แค่สูงกว่าที่คิดเอาไว้"กวีตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ ไม่นึกเลยว่าตระกูลของมาร์โก้จะเป็นถึงขุนนางระดับสามเศียรแบบนี้
"เชิญ ท่านเจ้าบ้านให้ท่านเข้าพบได้"รอเพียงอึดใจเดียว ทหารคนเดิมก็วิ่งกลับมาพร้อมคำอนุญาตให้เข้าไปในตัวบ้านได้
.
.
.
"เจ้าคือเจ้าเมืองคนใหม่สินะ"หลังจากกวีเดินเข้ามาในตัวบ้าน คนใช้ของบ้านตระกูลดีแลนก็พากวีเดินเข้าไปในสวนด้านหลังตรงจุดที่แสงแดดยามบ่ายกำลังอุ่นสบาย ที่นั่นมีหญิงชราท่าทางใจดีคนหนึ่งกำลังนั่งดื่มชาอยู่ท่ามกลางสวนอันกว้างใหญ่ดูแล้วรู้สึกเหงาอย่างประหลาด
"ครับ ผมชื่อกวีครับ"กวีตอบพลางก้มหัวลงเล็กน้อยเป็นการทักทาย
"ได้ยินว่าฝ่าบาทเรียกตัวเจ้ามาที่นี่ ทำไมถึงได้แวะมาหาข้าก่อนล่ะ"หญิงชราถามพลางผายมือเพื่อบอกให้กวีนั่งลง หญิงชราคนนี้ดูใจดี แต่ก็นิ่งสงบอย่างมาก ท่าทางสมกับเป็นขุนนางจริงๆ
"เพราะข้ามีของที่ต้องนำมาให้ท่านครับ ท่านมาทิลด้า"กวีพูดพลางนำจดหมายออกมาจากกระเป๋า
"ระหว่างกำลังเก็บของในห้องของท่านมาร์โก้ ผมก็พบกับจดหมายฉบับนี้เข้า ผมคิดว่าควรจะส่งมันให้ถึงมือผู้รับ"กวีพูดจบก็วางจดหมายลงบนโต๊ะช้าๆ
กึก…
ทันทีที่เห็นจดหมาย มือของหญิงชราก็ชะงักไป ลายมือบนจดหมายเป็นของมาร์โก้หลานชายคนเดียวของเธอไม่ผิดแน่ เธอที่เพิ่งจะเสียหลานชายไปเพราะสงครามเห็นจดหมายฉบับนั้นก็เสียความมั่นคงรีบหยิบจดหมายขึ้นมาอ่านทันที
เนื้อหาในจดหมายนั้นเป็นการสั่งเสียของมาร์โก้ ดีแลน ตัวเขาก่อนเริ่มสงครามเกิดความรู้สึกกังวลก็เลยทิ้งจดหมายฉบับนี้เอาไว้เผื่อเขาเป็นอะไรไป ในเนื้อหาจดหมายยังเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนสงคราม รวมทั้งเรื่องการตัดสินใจจะมอบตำแหน่งเจ้าเมืองให้กับนักผจญภัยคนหนึ่งที่เข้ามาช่วยเหลือตนเอาไว้
"เจ้าเด็กโง่"มาทิลด้าอ่านจดหมายจบก็พับมันเก็บในสภาพเดิมด้วยมือที่สั่นเทา แม้จะพยายามแค่ไหนแต่ที่ขอบตาของเธอก็ยังมีน้ำตาซึมออกมาอยู่ดี
"ขอโทษด้วยที่ทำให้เห็นสภาพไม่น่าดู เรื่องที่หลานของข้าส่งมอบตำแหน่งเจ้าเมืองให้เจ้า ข้าเข้าใจแล้ว"มาทิลด้าหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาก่อนจะใส่จดหมายลงซองอย่างทะนุถนอม
"ไม่เป็นไรครับ ท่านมาร์โก้ช่วยเหลือผมเอาไว้มากเช่นกัน การเสียท่านไปเป็นความเสียหายใหญ่หลวงของเมืองการ์กันและอาณาจักรทริชจริงๆ"กวีตอบพลางแสดงสีหน้าเสียใจออกมา
"อย่างนั้นเหรอ ที่เมืองการ์กันเด็กคนนั้นทำหน้าที่ได้ดีสินะ"มาทิลด้าพอพูดเรื่องหลานก็แสดงท่าทีอ่อนโยนออกมาต่างจากตอนแรกมาก นอกจากจะถามกวีที่อยู่ตรงหน้าแล้วเธอยังมองไปทางพวกนาตาลีและเรย์ที่อยู่ด้านหลังอีกด้วย
"ครับ เพราะท่านเข้ามาปกครอง เมืองการ์กันที่กำลังเละเทะเพราะฝีมือของนักผจญภัยแย่ๆก็เลยกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช่แค่กับชาวเมือง นักผจญภัยอย่างพวกเราเองก็ชื่นชมที่ท่านทำกับเมือง"เรย์ตอบออกมาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยไม่ต่างกัน เช่นเดียวกับนาตาลีที่แทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว
"........"โชคดีที่อ้อนพาน้ำหวานออกมาก่อน ไม่อย่างนั้นคนแสดงสีหน้าไม่เป็นอย่างน้ำหวานอาจจะทำให้ท่านมาทิลด้าสงสัยได้ ก็นะ มันช่วยไม่ได้นี่นา กวีไม่เท่าไหร่น้ำหวานเคยเห็นมาแล้ว แต่นาตาลีกับเรย์นี่ก็เล่นละครได้ทันทีเหมือนกันงั้นเหรอ โดยเฉพาะเรย์ที่พูดออกมาเป็นฉากๆอย่างกับอยู่ในเหตุการณ์ ไม่ใช่ว่านายเพิ่งจะเข้ามาในเมืองการ์กันหลังจากนั้นหรอกเหรอ
แล้วจดหมายนั่น ก็เป็นจดหมายปลอมที่ให้คนของเรย์ปลอมลายมือเอาไม่ใช่หรือไง คำสั่งเสียอะไรนั่นไม่มีแต่แรกแล้วคนที่เอาเอกสารไปสลับในห้องของเจ้าเมืองอย่างน้ำหวานรู้ดี
"ดีจริงๆ อย่างน้อยเด็กคนนั้นก็ไม่ทำให้เสียชื่อตระกูลดีแลน"มาทิลด้ายิ้มออกมาบางๆด้วยท่าทีโล่งอก การมอบตำแหน่งให้คนนอกอย่างนักผจญภัยเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนพูดกันหนาปากมาหลายวันแล้ว บ้างก็ว่าไม่เหมาะสมและด่าทอว่ามาร์โก้ไร้หัวคิด แต่ได้เห็นท่าทีของเหล่านักผจญภัยที่รับตำแหน่งต่อจากหลานตนเองแล้วในที่สุดมาทิลด้าก็ปล่อยวางได้เสียที ยามนี้เธอได้แต่เพียงเชื่อว่าหลานตัวเองเลือกคนไม่ผิดเท่านั้น
"ท่านมาทิลด้า….นอกจากจดหมายแล้วผมยังมีของที่อยากจะให้ท่านรับเอาไว้ด้วย"กวีพูดพลางนำกล่องใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋า กระเป๋าของผู้เล่นสามารถใส่ไอเทมได้มากมายหลายชนิด ของในห้องเจ้าเมืองกวีสามารถยัดใส่กล่องใบหนึ่งแล้วเอาใส่กระเป๋าเดินทางมาได้อย่างสบายมาก
"นี่มัน ของของเด็กคนนั้น"มาทิลด้าเบิกตากว้างก่อนจะมองของในกล่องด้วยท่าทีตกใจ มาร์โก้เดินทางไปเมืองการ์กันตัวเปล่าเพราะต้องไปรับตำแหน่งเจ้าเมืองกะทันหัน สมบัติติดตัวเลยมีไม่มาก แต่ในของเหล่านี้ก็มีของที่เป็นของมาร์โก้แน่ๆอยู่ อย่างจดหมายที่เธอส่งให้มาร์โก้แม้คนสมัยนี้จะไม่ใช้จดหมายกันแล้วก็ตาม รวมถึงของประดับห้องที่เธอเลือกให้มาร์โก้เองกับมือก็ด้วย
"พวกเราไม่ทราบว่าพิธีศพของที่นี่จัดกันแบบไหน แต่ที่ที่พวกเราจากมาของเหล่านี้ล้วนเป็นของที่เต็มไปด้วยความทรงจำของผู้ตาย ผมคิดว่าการนำมันมาให้ท่านเหมาะสมแล้ว"กวีตอบพลางวางสมบัติของมาร์โก้เอาไว้ ของในนี้บางชิ้นก็เป็นของมีค่า อย่างดาบประจำตัวของมาร์โก้ที่ได้รับมาจากองค์จักรพรรดิ กวีไม่คิดจะแตะต้องสมบัติอะไรของมาร์โก้นอกจากคทาของเมืองการ์กันเท่านั้น
“ไม่หรอก แบบนี้ถูกแล้ว”มาทิลด้าพูดพลางนำดาบของมาร์โก้ขึ้นมากอดเอาไว้แน่น
“ร่างของพวกเราพอตายก็จะกลับคืนสู่สวรรค์ทันที ไม่มีสิ่งใดหลงเหลือเอาไว้ พิธีศพของพวกเราก็เลยนำของที่คนๆนั้นเคยใช้มาวางประดับโต๊ะบูชาเท่านั้นเอง”มาทิลด้าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆก่อนจะวางดาบของมาร์โก้ลงไปในกล่องอีกรอบ
“คงเป็นพิธีที่สำคัญมากเลยนะครับ”กวียิ้มออกมาด้วยท่าทีเศร้าๆเช่นเดียวกันเล่นเอาน้ำหวานที่อยู่ด้านหลังไม่ทราบว่าควรมอบรางวัลอะไรให้กวีดี แม้กวีจะไม่ใช่คนลงมือสังหาร แต่คนที่สั่งฆ่ามาร์โก้ก็คือตัวกวีเอง พออีกวันก็เอาจดหมายปลอมพร้อมข้าวของเครื่องใช้มาคืนครอบครัวแล้วทำตัวเป็นผู้เสียหายได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“โชคดีจริงๆที่ของพวกนี้กลับมาทัน พวกเราจะจัดพิธีกันในคืนพรุ่งนี้ ถ้าเธอว่างก็มาเข้าร่วมสิ”มาทิลด้าเสนอพลางมองไปทางกวีด้วยท่าทีอ่อนโยนต่างจากตอนแรกที่ได้เห็นกวีเลย ตอนนี้ในสายตามาทิลด้ากวีกลายเป็นตัวแทนของหลายชายไปเสียแล้ว
“ขอบคุณมากครับ พวกเราจะเข้าร่วมด้วย”กวีพยักหน้ารับก่อนจะช่วยเข้าไปปลอบใจมาทิลด้าอีกพักใหญ่ หลังจากนั้นมาทิลด้าก็พากวีและคนอื่นๆไปทานอาหารร่วมกันและพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างกวีกับมาร์โก้เพื่อรำลึกความหลัง แม้จะเรียกน้ำตาไปหน่อยแต่มาทิลด้าก็อยากจะฟังมันด้วยตนเอง แม้ไม่ทราบว่านี่เป็นแผนให้กวีเล่าเรื่องออกมาหรือไม่ แต่ต่อให้เป็นแผนจริง กวีก็เตรียมตัวมาดีไม่น้อย แม้จดหมายลาตายของมาร์โก้จะไม่ได้มีจริง แต่ก็มีจดหมายของมาทิลด้าที่ส่งมาคุยโต้ตอบกับมาร์โก้อยู่หลายฉบับ กวีอ่านเนื้อหาพวกนั้นแล้วจับใจความที่มาร์โก้ต้องการจะเล่า แล้วเอามาคุยกับมาทิลด้าได้อย่างแนบเนียน
.
.
.
“คุณกวี ทำไมคราวนี้ถึงมีเด็กใหม่มาด้วยล่ะ”หลังจากทุกคนออกมากันหมดแล้ว อ้อน ที่เดินมาคู่กับน้ำหวานก็เอ่ยปากถามออกมาด้วยท่าทีสงสัย น้ำหวาน แม้จะอ่านสถานการณ์ได้พอใช้ แต่กลับแสดงท่าทีต่อหน้ามาทิลด้าได้ไม่แนบเนียนนัก แม้สำหรับคนอื่นๆแล้วอาจจะถือว่าทำได้ดี แต่หากกำลังโดนจ้องจับผิดจริงๆมีหวังความแตกแน่ๆ
“ก็...เรื่องที่จะฝากคุณอ้อนไงครับ”กวีตอบพลางยิ้มออกมาบางๆ แต่แค่นั้นอ้อนก็เหมือนจะเข้าใจในทันทีแล้วว่ากวีหมายถึงอะไร
“งั้นก็ได้ น้องชื่อน้ำหวานใช่ไหมคะ”อ้อนหันมาทางน้ำหวานก่อนจะมองน้ำหวานตั้งแต่หัวจรดเท้า เรื่องหน้าตาและเสน่ห์ดึงดูดไม่มีปัญหาเลย เหลือแค่ชั้นเชิงเท่านั้น
“ค่ะ....”น้ำหวานตอบด้วยท่าทีลนๆไม่น้อย อย่างที่บอกอ้อนเป็นไอดอลของสาวๆสายนี้ทั้งนั้น ตอนนี้เธอตื่นเต้นที่ได้เจออ้อนมากกว่าตอนเจอไอช่าซะอีก
“พอเริ่มงานแล้วน้ำหวานตามติดพี่ไว้นะ”อ้อนตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีมั่นใจ นี่จะให้น้ำหวานไปทำอะไรกันแน่....