ระบบใช้จ่ายตอนที่246
บทที่ 246: ความคิดที่ยอดเยี่ยม
"ฮ่าฮ่าฮ่า!" หงต้าหลี่ตบไหล่ของเขาอย่างรุนแรง “ยังไงซะ.. ทำไมถึงพูดเรื่องไร้สาระกับฉัน ในเมื่อทุกคนรู้ว่าฉันเป็นอาเสี่ยอัจฉริยะด้วยนะ แค่ใช้เงินนิดหน่อยก็ไม่มีอะไรมากอยู่แล้ว จริงสิ นำทีมของนายมาที่นี่ในวันพรุ่งนี้นะ อาคารนี้ยังมีพื้นที่ว่างอยู่ พวกนายสามารถทำงานที่นี่ก่อนที่เราจะจัดหาที่ดีๆให้แล้วกัน ยังไงซะชั้นที่ 4 ถึงชั้นที่ 7 ยังว่างเปล่า นายจะเลือกชั้นไหนก็ได้ หากนายต้องการผู้ช่วย,วัสดุและอื่น ๆ ก็แค่บอกมา”
“เอ่อ…” หลีอวนเฉิงรู้สึกงุนงงเล็กน้อย เขาได้เงินทุน 20 ล้านอย่างนั้นเหรอ? ตอนแรกเขาคิดว่ามันก็ดีแล้ว ถ้าเขาสามารถได้เงินทุนประมาน 2-3 ล้าน แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับเงินทุนมูลค่ามากเป็นสิบเท่าแบบนี้
"ครับ!" ไม่จำเป็นต้องลังเล เขาควรรวบรวมทีมของเขาและย้ายมาที่นี่ หลีอวนเฉิงพยักหน้าทันทีและพูดว่า “ผมจะพาทีมงานของผมทั้งหมดมาที่นี่พรุ่งนี้ เวลา 8.00 น. ครับ!”
"ดี ตามนั้น!" หงต้าหลี่ชอบในทัศนคติของเขา “เมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะให้ทิปเงินพวกนาย คนละ 10,000 หยวน เป็นเงินค่าขนม!”
ดูนี่ ดูสิ นี้คือท่านนายน้อยในอุดมคติ! ให้เงินค่าขนมคนละ 10,000 หยวน!
ที่จริงแล้วทีมของหลีอวนเฉิงเป็นทีมที่เต็มกำลังคนแล้ว การขอรับสปอนเซอร์ไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา แต่ถ้าสมมุติพวกเขาเข้าสู่วงการบันเทิงและมีชื่อเสียงจริง ๆ โดยการที่เล่นเกมหรือถ่ายทำภาพยนตร์ พวกเขาจะไม่ลงเอยในสภาพที่น่าสมเพชเช่นนี้แน่นอน อย่างน้อยการได้รับเงิน 10,000 หยวน เป็นค่าขนมก็ไม่ยาก
ปัญหาคือคนกลุ่มนี้มีความรู้สึก พวกเขาไม่เต็มใจที่จะถูกใครควบคุม
ความคิดของพวกเขา คือพวกเขาคิดที่จะสร้างสิ่งประดิษฐ์ของตัวเอง สปอนเซอร์ไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาสร้างได้ แต่เพียงแค่รับผิดชอบในการให้เงินพวกเขา แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นจะมีประโยชน์หรือไม่นั้นไม่สามารถรับประกันได้
ดังนั้นบริษัทใดก็ตามที่ต้องการให้สปอนเซอร์ทีมเขา บริษัทต้องให้เงินพวกเขา แต่ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ แค่จ่ายเงินให้เขา?
นั่นเป็นผลให้ทีมของหลีอวนเฉิงไม่มีคนสนับสนุน ...
แต่ตอนนี้หงต้าหลี่ที่เป็นอาเสี่ยอัจฉริยะ เป็นผู้สนับสนุนและทั้งสองฝ่ายต่างก็พอใจ
หงต้าหลี่ไม่ได้กังวลกับสิ่งที่พวกเขาจะสร้างและพัฒนา ตราบใดที่เขาสนุกกับการใช้จ่าย เขาไม่กังวลอะไรเลย เขามีความสุขมากที่พวกเขาต้องการเงิน หมายความว่ามันจะง่ายสำหรับเขาที่จะทำภารกิจให้สำเร็จ หลีอวนเฉิงก็มีความสุขเช่นกัน นั่นหมายความว่าพวกเขาสามารถค้นคว้าทำอะไรก็ได้ หลีอวนเฉิงและทีมงานของเขาไม่ได้หวังผลประโยชน์ แต่แค่ไม่ต้องมากังวลกับเงิน หากพวกเขาต้องการหาเงินจริง ๆ พวกเขาคงไม่ต้องลงเอยในสภาพเช่นนี้
ถึงแบบนั้นหงต้าหลี่ก็ยังไม่พอใจ เขาถามหลินหยูหยินตรง ๆ ว่า “หยูหยิน ทำไมเธอไม่ร่วมมือกับพวกเขาล่ะ?”
"โอ้" หลินหยูหยินนักเทคโนโลยีที่ไร้อารมณ์คนนี้ เธอไม่ได้คิดแผนการหรือวางแผนเฉพาะเจาะจงในการวิจัยในอนาคตไว้ ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าเห็นด้วยโดยไม่ได้คิดอะไร “โอเค ไม่มีปัญหาในการค้นคว้า”
"ฮ่าฮ่าฮ่า! หลีอวนเฉิงใช่ไหม? จากนี้ไปฉันจะเรียกนายว่าพี่หลีแล้วกัน" หงต้าหลี่ตบไหล่หลีอวนเฉิง “ขอให้เราทั้งคู่มีความสุขในการทำงานร่วมกันในอนาคต!”
“ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข!” หลีอวนเฉิงมีความสุขมาก “ผมจะไม่ทำให้ท่านนายน้อยผิดหวังอย่างแน่นอนครับ”
"โอเค!"
สุดท้ายนี้ หงต้าหลี่ได้ตั้งชื่อห้องทดลองว่า ห้องปฏิบัติการแฟนท็อม เพื่อเป็นการรำลึกถึงอนิเมะเรื่อง Mazinger Z ในชีวิตที่แล้วของเขา จากนั้นหลีอวนเฉิงและหลินหยูหยินต่างก็ไม่มีความคิดเห็นใด ๆ กับชื่อ ...
แต่นี้เป็นการจัดตั้งห้องปฏิบัติการวิจัยวิทยาศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างห้องแฟนท็อม
“พี่หลี” เนื่องจากได้ตั้งชื่อห้องปฏิบัติการแล้ว หงต้าหลี่จึงถามพวกเขาว่ากำลังค้นคว้าเรื่องอะไร “อืม ก่อนหน้านี้ฉันเห็นว่าเทคโนโลยีฉายภาพเสมือนจริงที่ทีมของพี่ผลิตนั้นค่อนข้างสมบูรณ์ แล้วทำไมตอนนี้พี่ถึงยังขาดเงินอีก?”
คนอื่น ๆ ก็สงสัยเช่นกัน
ใช่แล้ว ในระหว่างการประมูลเทคโนโลยีของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะยังขาดอยู่นิดหน่อย แต่พวกเขาก็ยังมีเงินสองล้านหยวนที่หงต้าหลี่จ่าย แต่ตอนนี้เงินยังไม่พอ? มันไม่สมเหตุสมผล ...
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หลีอวนเฉิงก็รู้สึกอายเล็กน้อย "จริง ๆ แล้ว สินค้าที่เราขายให้กับท่านนายน้อยเป็นสินค้าที่ยังไม่สมบูรณ์ครับ ท่านควรทราบว่าชุดเทคโนโลยีที่ซื้อไปนั้นสามารถแสดงเห็นผลงานคร่าว ๆ เท่านั้น แต่ยังมีรายละเอียดอีกมากมายที่ยังไม่สมบูรณ์ครับ”
หงต้าหลี่ไม่ค่อยแน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลินหยูหยินน่าจะรู้ “อืม ใช่ มันสามารถแสดงผลโครงร่างคร่าว ๆ เท่านั้น ในหลายมุมยังไม่สามารถแสดงได้ เช่น นิ้ว”
“อ่า ฉันเข้าใจแล้ว” คราวนี้หงต้าหลี่ก็เข้าใจ “งั้นหมายความว่าที่พี่ขายระบบนี้ให้ มันสามารถแสดงให้เห็นเพียงแค่โครงร่างคร่าว ๆ ตัวอย่างเช่น เมื่อฉันขยับข้อศอก มันจะดูเหมือนชิ้นส่วนไม้หรือหุ่นยนต์ที่เคลื่อนไหวใช่ไหม?”
"ใช่ครับ" หลีอวนเฉิงอธิบายว่า "มีพื้นที่ไม่มากในชุดนั้น ซึ่งใช้ในการค้นหาเฉพาะและมีเพียงประมาณ 120 ไฟล์ ซึ่ง 120 ไฟล์เหล่านั้นสามารถบอกโครงร่างคร่าว ๆ ของบุคคล จากนั้นเมื่อเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์มันสามารถกระตุ้นการเคลื่อนไหวของบุคคล"
"แต่เห็นได้ชัดว่านี่ยังไม่พอ" หลีอวนเฉิงยังคงพูดว่า "ท่านนายน้อยครับ เกี่ยวกับชุดเทคโนโลยีนั้น ส่วนที่ยากที่สุดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของคน เช่น นิ้วมือ,ผม และส่วนที่เล็ก ๆ แม้ว่าโฮโลแกรมบนคอมพิวเตอร์สามารถย้ายข้อต่อตามธรรมชาติได้ แต่ในส่วนอวัยวะเล็ก ๆ ของคนจริง ๆ เช่น นิ้ว เป็นส่วนที่สําคัญที่สุดที่ยังขาด"
"ดังนั้นหลังจากที่เราได้รับเงินการวิจัยในภายหลัง เราจะมุ่งเน้นไปสร้างไฟล์ตรงนี้ เพื่อที่ข้อต่อขนาดเล็กและผิวด้านนอกจะได้ดูสมูธขึ้น"
เมื่อพูดถึงจุดนี้ ดวงตาของหลีอวนเฉิงก็เปล่งประกาย "เมื่อเราเสร็จสิ้นเรื่องนี้ คนที่สวมชุดสูทนี้จะสามารถเคลื่อนไหวสะท้อนเข้าไปในคอมพิวเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ! เฉพาะในขั้นตอนนี้ คือการฉายเสมือนจริงที่สมบูรณ์!"
เมื่อเขาพูดแบบนี้ ทุกคนก็เข้าใจ
แต่หงต้าหลี่ได้ของประมูลชิ้นนั้นอย่างไม่เสร็จสมบูรณ์ ชุดเทคโนโลยีที่ไม่เสร็จสมบูรณ์ดี การเคลื่อนไหวที่สะท้อนให้เห็นในคอมพิวเตอร์คล้ายกับหุ่นยนต์
แต่เมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นการวิจัย คนที่สวมชุดสูทนั้นจะสะท้อนให้เห็นในคอมพิวเตอร์และจะคล้ายกับคนจริง ๆ สามารถที่จะเคลื่อนไหวเหมือนมนุษย์จริง ๆ ได้
ในเวลานี้ถังมู่ซินถามเบา ๆ ว่า "แต่ว่าเทคโนโลยีนี้ฟังดูเหลือเชื่อมาก คําถามคือมันใช้ยังไง? หากเราอยากเคลื่อนไหวบุคคลในคอมพิวเตอร์หรือบางสิ่งบางอย่าง เราสามารถบันทึกได้จากคนจริง ๆ แล้วทําไมต้องทําแบบนั้นด้วยล่ะ?"
คําถามของเธอนั้นง่ายและตรงไปตรงมามาก แต่นี่เป็นส่วนที่หลีอวนเฉิงและทีมของเขารู้สึกอับอายมากที่สุด พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าเทคโนโลยีนี้ใช้ทำอะไร
สิ่งที่มู่ซินถามนั้นไม่ผิด แค่ใส่การเคลื่อนไหวของบุคคลลงในคอมพิวเตอร์ แต่มีวิธีที่ง่ายกว่ามากในการทําเช่นนั้น เพียงแค่ใช้เครื่องบันทึก ...
ดังนั้นหลีอวนเฉิงเลยรู้สึกอาย "เอ่อ... เรายังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลยครับ... " เมื่อพูดถึงจุดนี้ เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อย "แต่ผมเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้ มีประโยชน์ในตัวของมัน มันมีประโยชน์ 100% ครับ!"
เมื่อทุกคนเห็นความกังวลของเขา ทุกคนก็หัวเราะทันที หลิงเสี่ยวหยี่พูดว่า "แล้วคนอื่นแน่ใจที่จะใช้เทคโนโลยีนี้เหรอ ขนาดเจ้าตัวยังไม่รู้ว่าทำอะไรได้บ้างเลย เฮ้อ ..."
"น่าขายหน้า! ทําให้ฉันขายหน้าจริงๆ!" แต่จู่ ๆ หงต้าหลี่ก็ส่ายหัวไปมา "พวกพี่เข้าใจสิ่งที่เรียกว่าความโรแมนติก 2D ไหม? พี่เข้าใจสิ่งที่เรียกว่าความฝันของชาวกีคไหม? ถ้าพี่ไม่เข้าใจ ก็ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ในมุมมองของฉัน เทคโนโลยีฉายภาพเสมือนจริงนี้ มันสุดยอดจริง ๆ! สุดยอดจริงๆ! มันเหลือเชื่อมาก!"
ถังมู่ซินไม่มั่นใจ "แล้วต้าหลี่ นายบอกเราได้ไหมว่าเทคโนโลยีนี้สุดยอดยังไง? แม้ว่ามันจะสามารถเปลี่ยนคนจาก 3 มิติ เป็น 2 มิติแล้วไง? ถ้างี้เราก็จ้างใครบางคนทําอนิเมะได้นินา ฝีมือการวาดของนักวาดก็ไม่ได้แย่สักหน่อย!"
หงต้าหลี่ส่ายหัว "มันเทียบไม่ได้ ไม่ใกล้เคียงกันเลย! ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันแค่นึกถึงบางอย่าง เทคโนโลยีนี้มันมีประโยชน์มาก มันจะต้องมีประโยชน์ เทคโนโลยีนี้มีมานานแล้ว!"
"นายพูดจริงเหรอ?" เมื่อได้ยินคําพูดของหงต้าหลี่ ทุกคนก็ไม่เข้าใจ แม้ว่าเทคโนโลยีนี้ฟังดูเหลือเชื่อมาก แต่การใช้งานจริงในโลกแห่งความจริงนั้นมันใช้น้อยมาก แต่หงต้าหลี่กลับบอกว่ามันอยู่มานานแล้ว เขาเลยทําให้ทุกคนประหลาดใจมาก
"แน่นอน มันเป็นเรื่องจริง!" หงต้าหลี่หัวเราะเสียงดังและพูดว่า "ทุกคนยังจําตัวการ์ตูนเสมือนที่ฉันพูดถึงได้ไหม ที่ชื่อ ฮัตสึเนะ มิคุ? เมื่อเทคโนโลยีนี้เสร็จสมบูรณ์ ตัวการ์ตูนฮัตสิเนะ มิคุ จะโผล่ออกมา!"
"ฮัทสึเนะ มิคุ?" ถังมู่ซินพูดย้ำชื่อสองสามครั้งและจู่ ๆ ก็ถามว่า "ต้าหลี่ชื่อนี้หมายถึงน้องสาวในอนาคตที่เหมือนหยูหยินเหรอ?"
"ฮ่าฮ่า ประมานนั้น!" ดวงตาของหงต้าหลี่ประกายแวววาว "หยูหยินไม่มีเทคโนโลยีฉายภาพโฮโลแกรม ซินซิน ลองคิดดู ถ้าฉันใช้เทคโนโลยีฉายภาพเสมือนจริงนี้เพื่อเปลี่ยนผู้คนจากชีวิตจริงเป็นตัวการ์ตูน 2 มิติ ทั้งในการร้องเพลงและเต้นรํา จากนั้นใช้เทคโนโลยีฉายภาพโฮโลแกรมนี้ฉายภาพ เธอคิดว่าผลจะเป็นยังไง?"
"นี่..." การได้ยินหงต้าหลี่พูดแบบนี้ ทุกคนประหลาดใจ
สิ่งที่เขาพูดคือการนํา 2 มิติมาอยู่ต่อหน้าผู้คน จุดที่พวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าอันไหนเป็นของจริงและไม่จริง!
2 มิติจะปรากฏใน 3 มิติ!?
โอ้ อะไรกันเนี้ย มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก! พวกเขาตื่นเต้นที่คิดตามสิ่งที่หงต้าหลี่พูด!
ทุกคนประหลาดใจ ถังมู่ซินมองไปที่หงต้าหลี่ด้วยสายตาที่ปลื้มปริ่ม "ต้าหลี่ นายสุดยอดไปเลย! ดีมาก ฉันจะไปเรียนเต้นตอนนี้เลย ถ้าฉันสวมชุดสูทนั้นและเต้นรํา ฉันจะสามารถกลายเป็นตัวการ์ตูน 2 มิติได้ใช่ไหม?"
"ใช่แล้ว" หงต้าหลี่พยักหน้าและพูดว่า "ซินซิน เธอจะสามารถทำอะไรก็ได้ ลองคิดถึงตัวการ์ตูน 2 มิติที่ปรากฏต่อหน้าทุกคนดูสิ ลองคิดดูสิว่าพวกเขาจะประหลาดใจแค่ไหน!?"