ระบบใช้จ่ายตอนที่242
บทที่ 242: 8 หลักสูตรชั้นนำของหลานเซียง
ลุงหัวหน้าคนนี้ มาที่นี้เพื่อพูดเรื่องลับสุดยอดจริงเหรอ?
"ถ้าเป็นอย่างนี้" หงต้าหลี่ถามอย่างระมัดระวังว่า “ลุงหัวหน้าครับ ความลับสุดยอดที่คุณลุงจะพูดคืออะไรกันแน่?”
“เอ่อ มันก็ไม่มีอะไรหรอกที่จะบอก ดู ๆ แล้วตอนนี้สิ่งที่ดีที่สุด คือให้หงต้าหลี่เป็นผู้นำ”
ในขณะที่ลุงหัวหน้าพูด ลุงหัวหน้าก็หันไปด้านข้างและตะโกนเสียงดัง “ฮุยโจวเข้ามา!”
มู่ฮุยโจวปรากฏตัวที่ทางเข้าห้องทันที “ครับ หัวหน้า”
“เรียกยามรักษาความปลอดภัยมาที่นี่ ห้ามให้ใครแอบเข้ามาในระยะ 20 เมตร รอบ ๆ บริเวณนี้ ไปได้” หัวหน้าโบกมือ
“รับทราบครับผม!” มู่ฮุยโจวออกไปทันที
โอ้ พระเจ้า เกิดอะไรขึ้น? เพราะฉันถามเกี่ยวกับความลับสุดยอดนี้ใช่ไหม?
แต่การรู้มากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี การไม่รู้ความลับ มันคงจะดีซะกว่า! ถ้าอย่างนั้น ถ้าฉันทำภารกิจไม่สำเร็จ ฉันจะถูกประหารชีวิตไหม? ฉันแค่อยากถลุงเงินและใช้จ่ายอย่างมีความสุขแค่นั้นเอง ฉันไม่อยากมีส่วนร่วมทำเรื่องยุ่งเหยิงเหล่านี้เลยนะ!
หงต้าหลี่น้ำตาไหลอาบแก้ม
แต่ ณ เวลานี้เขาคัดค้านได้เหรอ? คงไม่ได้...
“ลุงหัวหน้าครับ ทุกอย่างมันโอเคไหมครับ?” ทันใดนั้นมู่ฮุยโจวก็กลับมาอย่างรวดเร็ว “ผมได้ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบภายในระยะ 30 เมตรแล้วครับ ไม่มีอุปกรณ์สื่อสารใด ๆ สัญญาณดาวเทียมถูกตัดขาดแล้ว และรับประกันว่าจะไม่มีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นครับ!”
“ดี ออกไปได้แล้ว” ลุงหัวหน้าโบกมืออีกครั้งและมู่ฮุยโจวก็ออกไปทันที
“อืม ตอนนี้ที่นี่ปลอดภัยแล้ว สิ่งที่ฉันกำลังจะพูดต่อไปนี้ มันอาจทำให้เธอประหลาดใจ แต่..” ลุงหัวหน้ายิ้มและพูดว่า “ฉันหวังว่าเธอจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะในภายหลัง มันอาจจะเป็นปัญหาร้ายแรง ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดนะ”
ไม่ว่าอะไรก็มาเถอะ ฉันพร้อมแล้ว!
“อันที่จริงความลับสุดยอดของฉันนี้ มันเกี่ยวข้องกับโรงเรียนของเธอ” ลุงหัวหน้าพูดช้า ๆ ว่า “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับแผนการพัฒนาระดับชาติ เพื่อเน้นความสามารถของตัวนักเรียน แต่เรายังไม่สามารถหานักเรียนที่เหมาะสมได้ เนื่องจากคนที่สมัครเรียนจะต้องเก่งมากและอำพรางตัวเองได้ เพื่อไม่ให้คนนอกสงสัย ยิ่งไปกว่านั้นบุคคลนั้นจะต้องไม่ทะเยอทะยานและไม่หวังผลประโยชน์ส่วนตัว รวมทั้งไม่วางแผนต่าง ๆ และจะต้องไม่เล่ห์เหลี่ยม”
*เอ่อ ผมคือคนที่ลุงหัวหน้าตามหาอย่างนั้นเหรอ? ผมเป็นแค่อาเสี่ยธรรมดาเองนะครับ *
แต่ดูดีๆเหมือนเขาจะด่าว่าฉันโง่ทางอ้อมนะเนี่ย ...
ลุงหัวหน้าพูดต่อ “ก่อนหน้านี้เราล้มเหลวในการตามหาคนแบบนั้น แต่ตอนนี้เธอก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว ฉันเลยมาหาตัวเธอด้วยตัวเอง”
“ฮ่าฮ่า จริงๆแล้ว ไม่ว่าเธอจะสร้างโรงเรียนใหญ่โตแค่ไหน พวกเราก็ไม่ได้สนใจหรอก”
“ครับ” หงต้าหลี่รู้สึกท้อแท้เล็กน้อย “ผมเป็นแค่อาเสี่ย เอ่อ ผมเป็นคนธรรมดา พึ่งจะอายุ 18 ปี แต่ตอนนี้ผมก็โตพอที่จะเป็นอาเสี่ยใหญ่แล้ว แต่ความลับสุดยอดนี้คืออะไร คุณลุงยังไม่ได้พูดเลยนะ”
“อย่าห่วงเลย ฉันกำลังจะบอก” ลุงหัวหน้าพูดช้า ๆ ว่า “ความลับสุดยอดของฉัน ก็คือ.. โรงเรียนหลานเซียงแห่งนี้ยังไงล่ะ”
บ้าอะไรเนี่ย เขากำลังจะบอกว่า โรงเรียนที่ฉันเป็นคนสร้าง คือความลับสุดยอดของเขาอย่างนั้นเหรอ? เขามีปัญหาอะไรเนี่ย?!
สักพัก.. ลุงหัวหน้าก็พูดต่อ “แน่นอน โรงเรียนหลานเซียงแห่งนี้ได้รับการตั้งชื่ออย่างไม่เป็นทางการ ความลับสุดยอดของเราคือโรงเรียน แต่มันแตกต่างจากสิ่งที่เธอคิด โรงเรียนของเรานี้จะมี 8 หลักสูตร ได้แก่ การศึกษาสาขาดิจิทัล,การศึกษาด้านศิลปะการปรุงอาหาร,ช่างซ่อมรถจักรกล,ช่างเครื่องจักรขุด,สไตลิสต์,ช่างไฟฟ้า,ช่างไฟฟ้าไร้สาย และ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์”
เมื่อพูดถึงจุดนี้ หงต้าหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้ “ทั้งหมดเป็นหลักสูตรที่ดีมาก อย่าบอกนะว่าพ่อครัวก็เป็นผู้มีความสามารถระดับแนวหน้าของประเทศ ต้องการคนดูแลด้วยสินะครับ… ดูเหมือนว่าผมจะไม่ได้สร้างโรงเรียนมาไร้ประโยชน์…”
“ฮ่าฮ่า เด็กน้อย ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ” ลุงหัวหน้าหัวเราะและพูดว่า “ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ฉันจะมาที่นี่เพื่อพูดจนเสียงแหบทำไมกันล่ะ?”
"ก็จริง" หงต้าหลี่พยักหน้า
ในที่สุดลุงหัวหน้าก็พูดถึงแรงจูงใจที่แท้จริงของเขาในการมาหาครั้งนี้ “การศึกษาสาขาดิจิทัลเป็นหลักสูตรการควบคุมเครื่องจักรแบบมนุษย์ การศึกษาศิลปะการทำอาหาร คือ การผลิตอาวุธเคมี ช่างซ่อมรถจักรกล คือ การผลิตเครื่องบินรบสำหรับสงครามหนัก ช่างเครื่องจักรขุด ทำเครื่องจักรกลขั้นสูงประเภทหนึ่งเกี่ยวกับเครื่องบินรบ สไตลิสต์ คือ การอำพรางและปลอมตัว ช่างไฟฟ้า คือ การออกแบบอาวุธเลเซอร์และอาวุธอนุภาคพลังงานสูง ช่างไฟฟ้าไร้สาย คือ ต้องเรียนทักษะเครื่องตรวจจับและระบบแจ้งเตือนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์เกี่ยวข้องกับการแฮ็กต่าง ๆ”
หงต้าหลี่: "..."
ลุงหัวหน้าพูดต่อว่า “ปัจจุบันรัฐสวรรค์ของเราถูกเมริกา,รัฐจาบัน,ยูโรปาและประเทศอื่น ๆ สอดแนมอย่างใกล้ชิด การเคลื่อนไหวแค่เพียงเล็กน้อยของพวกเราไม่สามารถหลุดรอดสายตาของพวกเขาได้อย่างแน่นอน ปัจจุบันการย้ายถิ่นฐานเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากและผู้ที่มีความสามารถจำนวนมากไม่เต็มใจที่จะกลับมาหลังจากที่พวกเขาไปต่างประเทศ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของกลุ่มคนที่มีความสามารถในอนาคตของเรา เราต้องค้นหาคนที่ซื่อสัตย์และดูแลพวกเขาไว้ให้ได้
“สำหรับโรงเรียนหลานเซียงของเธอ การที่รับสมัครเด็กนักเรียนจากพื้นที่ยากไร้หรือบนภูเขาโดยที่ไม่เก็บค่าเล่าเรียน พวกเขาที่ไม่เคยได้สัมผัสกับโลกมนุษย์ที่น่าตื่นตาแบบนี้ พวกเขาส่วนใหญ่มักไม่โลภมากและยิ่งไปกว่านั้น เธอยังสนับสนุนค่าอาหารและที่พักให้ฟรี ยกเว้นค่าเล่าเรียนของพวกเขา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายมากที่จะพัฒนาพวกเขา เพราะพวกเขาจะต้องภักดีกับเราแน่”
“ยิ่งไปกว่านั้นเธอเป็นคนอัจฉริยะและเธอก็ได้ก่อตั้งโรงเรียนนี้ขึ้นมาได้สมบูรณ์แบบ เพื่อประโยชน์ในการใช้จ่ายและถลุงเงิน ถึงมันจะดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ แต่ก็สามารถเบี่ยงเบนความสนใจของคนจากประเทศอื่น ๆ ทั้งในการออกแบบและสร้างเมืองแห่งนี้ ดังนั้นฉันคิดว่า.. ฉันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้วใช่มั้ย?”
นี่… ฟังดูเหมือนเมืองไซไฟจริงๆ…
หน้าผากของหงต้าหลี่เต็มไปด้วยเหงื่อ “ที่คุณลุงจะบอกก็คือ พื้นที่นี้จะเป็นโรงเรียนของผม แต่ในความเป็นจริงมันจะเป็นอาณาจักรเทคโนโลยีใต้ดินใช่ไหมครับ?”
“เทคโนโลยีใต้ดิน?” เมื่อได้ยินสิ่งที่หงต้าหลี่พูด ลุงหัวหน้าก็หัวเราะทันทีและพูดว่า “เธออ่านนิยายมากเกินไปรึเปล่า? ในความเป็นจริงเทคโนโลยีพวกนี้ก็มีกระจายไปทั่วโลก แต่กุญแจสำคัญของปัญหาอยู่ที่ผลการวิจัย”
ในขณะที่เขาพูด เขาชี้ไปที่หลินหยูหยิน “ยกตัวอย่างคือ เธอให้หยูหยินใช้เครื่องอุปกรณ์ฉายภาพเสมือนจริงใช่ไหม? และเธอก็ได้ซื้อมาจากงานประมูลในราคาสองล้านหยวน”
นี่เป็นเรื่องจริงและมีคนจำนวนมากรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ หงต้าหลี่พยักหน้า “ใช่ แล้วยังไงต่อครับ?”
“เทคโนโลยีฉายภาพเสมือนจริง ลองคิดภาพตามนะ” ลุงหัวหน้ายิ้มและพูดว่า “ในตอนนั้นพวกเราก็ตกใจและเรารู้แค่ว่าต้าหลี่มีเทคโนโลยีฉายภาพเสมือนจริงอยู่ในมือหลังจากได้มาจากการประมูล นี้คือเทคโนโลยีฉายภาพเสมือนจริง แล้วทั้งหมดที่เธอชื้อมาก็ เพราะอยากถลุงเงินและทำเพื่อความสนุกเท่านั้นเองเหรอ?”
“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นไม่ใช่เหรอครับ?” หงต้าหลี่สับสน
“ฮ่าฮ่า ขอฉันพูดหน่อยนะ” ลุงหัวหน้าเหยียดแขนออกและขยับนิ้ว “เธอคิดว่าฉันกำลังทำอะไร?”
“ลุงกำลังยืดเส้นยืดสาย!” หงต้าหลี่ตอบ “ลุงหัวหน้า มือของลุงอ่อนแรงเหรอ?”
“เด็กน้อยเอ้ย ฉันยังสุขภาพแข็งแรง” ลุงหัวหน้าโกรธ เขาพูดว่า “เธอคิดไม่ออกเหรอ ลองจินตนาการสิ? ลองคิดดูว่าถ้าฉันมีเทคโนโลยีฉายภาพเสมือนจริงไว้ในมือจะเป็นยังไง?”
“ฉันสามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการด้วยคอมพิวเตอร์”
หงต้าหลี่ถามว่า “แล้วยังไงต่อครับ?”
"คิดใหม่อีกครั้งสิ" ลุงหัวหน้ายังคงพูดให้เขาคิด “แล้วถ้าฉันใช้การเคลื่อนไหวนี้เพื่อควบคุมแขนกลผ่านคอมพิวเตอร์ล่ะ?”
“นี่…” หงต้าหลี่คิดตาม ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น “ลุงหัวหน้า รัฐสวรรค์ของเรากำลังจะผลิตกันดั้มเหรอครับ?!”
"กันดั้ม อะไรงั้นเหรอ?" ลุงหัวหน้างงมากกับคำศัพท์ใหม่นี้
เอ่อ ฉันลืมไปว่าโลกนี้แตกต่างจากโลกที่เคยอยู่ มันเลยไม่มีคำศัพท์นี้ หงต้าหลี่เลยเปลี่ยนคำ “มันเหมือนกับอาวุธที่ใช้ในตัวมนุษย์และเป็นประเภทที่มนุษย์ใช้เพื่อให้ตัวเองว่องไวขึ้นไงครับ!”
“ฮ่าฮ่า เธอกำลังพูดถึงหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้ในการต่อสู้ใช่ไหม?” ลุงหัวหน้ายิ้มและพูดว่า “จริง ๆ แล้วในช่วงสงคราม หุ่นยนต์ขนาดใหญ่แบบนั้นไม่เหมาะที่จะนำมาใช้งาน หุ่นยนต์มันมีขนาดใหญ่เกินไปและโดนจู่โจมได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้นในปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่ามันไม่สามารถว่องไวเหมือนมนุษย์ ดังนั้นในทางทฤษฎี การนำหุ่นยนต์ประเภทนี้มาใช้ยังคงเป็นเรื่องยาก”
มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?
ใบหน้าของหงต้าหลี่เต็มไปด้วยน้ำตา การขับกันดั้มเพื่อต่อสู้ในทะเลแห่งดวงดาวเป็นความฝันของผู้ชายทุกคนไม่ใช่เหรอ? สิ่งที่ลุงหัวหน้าพูดก็ทำให้หงต้าหลี่หมดหนทาง!
“ฮ่าฮ่า เรื่องนี้ให้หลินหยูหยินบอกให้ชัดเจนจะดีกว่า” ลุงหัวหน้าชี้ไปที่หลินหยูหยิน “ให้เธอตอบจะดีที่สุด”
“นี่…” หงต้าหลี่ถามหลินหยูหยิน “การใช้หุ่นยนต์ในการต่อสู้ มันเป็นไปไม่ได้เหรอ?”
"เอ่อ.." หลินหยูหยินยังคงจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ในขณะที่เธอตอบว่า “มีข้อบกพร่องอยู่ 5 จุด ในการใช้หุ่นยนต์ต่อสู้ หากข้อบกพร่องเหล่านี้ไม่ได้รับการแก้ไข หุ่นยนต์ก็จะกลายเป็นเป้าในสนามรบเท่านั้น”
“แบบนี้ก็ไม่ดีสิ!” หงต้าหลี่ตกใจ
"ใช่" สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่สุด หลินหยูหยินสามารถอธิบายได้ “อย่างแรก คือ การอำพรางตัว หุ่นยนต์ขนาดใหญ่มีชิ้นส่วนมากเกินไปและหุ่นยนต์ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์จะมีลักษณะซับซ้อนสะดุดตา เช่นเดียวกับดวงอาทิตย์ที่เหมือนเป็นสัญญาณแถบเรดาร์และแสงที่มองเห็นได้ รูปลักษณ์ภายนอกที่ซับซ้อนเป็นพิเศษไม่ต้องผ่านการออกแบบใด ๆ จะทำให้การระบุตัวตนของเป้าหมายเพิ่มขึ้นสิบเท่าเป็นสิบเท่า”
สิ่งที่เธอหมายถึงก็คือ ถ้าสร้างหุ่นยนต์ขนาดใหญ่จริง ๆ มันจะเป็นเป้าของอีกฝ่ายในสนามรบ และเรดาร์ก็จะกำหนดจุดเป้าหมายพร้อมกับโดนจู่โจมแน่นอน และแม้แต่หลับตา ก็จะโดนยิงขีปนาวุธ
“ข้อที่สอง ความคล่องแคล่ว ความคล่องแคล่วของหุ่นยนต์ขนาดใหญ่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุด เมื่อเผชิญหน้ากับขีปนาวุธจากเครื่องบินขับไล่ของอีกฝ่าย เป็นไปไม่ได้ที่หุ่นยนต์ขนาดใหญ่จะหลบหลีกได้ทัน ยิ่งไปกว่านั้นความเร็วในการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์ไม่สามารถเข้าถึงเครื่องบินได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงเป็นแค่เป้ายิงของศัตรูเท่านั้น หากเราต้องการความเร็วในการหลบหลีกจริง ๆ ก็จะต้องจัดการตัวเครื่องจักร ทำรูปทรงให้กระชับง่าย ๆ เพราะข้อต่อมีระดับความต้านทานน้อย”
จุดนี้ง่ายมาก
ตัวอย่างเช่น คุณรู้ว่าหุ่นยนต์เหล็กที่สูงเท่าคนจะแข็งมาก เพราะความแข็งแรงของเหล็กเพียงพอที่จะรองรับขนาดที่ใหญ่
อย่างไรก็ตามเมื่อหุ่นยนต์มีความสูงเพิ่มขึ้น 10 ถึง 20 เมตร ข้อต่อจะอ่อนแอ ดังนั้นเมื่อมันกระโดดขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่แขนและขาของมันจะลอยตามแรงกระโดด ...