ระบบใช้จ่ายตอนที่241
บทที่ 241: ลุงหัวหน้า
สิบนาที อืม ก็ไม่ใช่เวลาที่นานขนาดนั้น
หงต้าหลี่พยักหน้าและยิ้ม "โอเค ฉันจะรอนายโทรมาล่ะกัน” หงต้าหลี่วางสายโทรศัพท์ของเขาและมู่ฮุยโจวก็เดินออกไป
เขาไม่ชอบตอนที่อยู่ในห้องเล็ก ๆ นี้เลย เมื่อมู่ฮุยโจวไปแล้ว เขาก็ยิ้มทันที ไอ้เสือขาวที่รอเขาอยู่ก็ได้ถามอย่างสงสัยว่า “บอสครับ อะไรที่ทำให้บอสมีความสุขได้ขนาดนี้เหรอครับ?”
มู่ฮุยโจวหัวเราะเสียงดัง เขาพูดว่า "ฮ่าฮ่าฮ่า! เขาคือมาสคอตของเมืองเทียนจิงแน่นอน ปัญหาที่เรากังวลมาตลอด 2 ปี ท่านนายน้อยต้าหลี่ก็ได้ตัดสินอย่างง่ายดาย ฮ่าฮ่าฮ่า! ข่าวดี นี่เป็นข่าวดีแน่นอน!”
ไวท์วูล์ฟตกใจ "บอสหมายถึง.. คุณหลินหยูหยินใช่ไหมครับ?"
"ก็ใช่น่ะสิ"
มู่ฮุยโจวพาไวท์วูล์ฟไปยังสถานที่ที่ไม่มีผู้คนและกระซิบคุยต่อ “นายรู้ไหมว่าหลินหยูหยินเป็นกีค เธอเป็นคนที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่สุดในรัฐสวรรค์ จริง ๆ แล้วเธอมีชื่อเล่นอีกชื่อหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้” [กีค=ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี]
ไวท์วูล์ฟถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เธอเป็นกีค เรื่องนี้ผมรู้แล้ว แต่เธอมีฉายาอื่นด้วยเหรอครับ?”
มู่ฮุยโจวพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เธอคือทหาร! กีค!”
ไวท์วูล์ฟตกตะลึงทันที “ทหารกีค! หลินหยูหยินคนนั้นเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทหารงั้นเหรอครับ?!”
มู่ฮุยโจวตอบว่า “ก็อะไรทำนองนั้นล่ะ สิ่งที่เธอเข้าไปยุ่งก่อนหน้านี้ เป็นการจู่โจมสายฟ้าแลบ นายอยากรู้ไหมว่าเพราะอะไรทำไมประเทศถึงต้องการให้เราปกป้องหลินหยูหยินน่ะเหรอ? การปกป้องเธอเป็นหนึ่งเหตุผลที่สำคัญ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เธอทำร้ายผู้บริสุทธิ์!”
“หลินหยูหยินไม่มียีนรับรู้ทางอารมณ์หรือพวกไร้ความรู้สึก เธอชอบศึกษาเทคโนโลยีทางการทหาร ปัญหา คือ มันยากที่จะควบคุมเธอและเราทำได้แค่พยายามบังคับให้เธออยู่ในทิศทางที่เราตั้งใจ ก่อนหน้านี้เราคิดที่จะรอให้เธออายุมากกว่านี้และพยายามโน้มน้าวให้เธอเข้าร่วมสถาบันวิทยาศาสตร์ทหารแห่งชาติ แต่ถ้าเธอไม่เต็มใจ เราก็ทำอะไรไม่ได้
“แต่ตอนนี้มันต่างออกไป! เธอและหงต้าหลี่ร่วมมือกันสร้างโรงเรียนแห่งนี้ขึ้นใหม่ตามแบบของป้อมทหาร! นายรู้จักป้อมทหารไหม? เธอยังวางแผนที่จะสร้างซุปเปอร์ปืนแม่เหล็กไฟฟ้าติดกำแพงด้วย! ซุปเปอร์ปืนแม่เหล็กไฟฟ้า!”
พรู้ดดด —— !!! เสือขาวแทบสำลักน้ำเมื่อได้ยินมู่ฮุยโจวบอก และเขาเกือบสำลักน้ำลายตัวเองตาย เขาได้แต่ตอบไปอย่างกลัวๆว่า “แน่ใจใช่ไหมครับ? นี้มันใช่โรงเรียนจริง ๆ เหรอ? สร้างปืนแม่เหล็กไฟฟ้าขนาดใหญ่บนกำแพงโรงเรียนเนี่ยนะ?!”
มู่ฮุยโจวทำอะไรไม่ถูก “หงต้าหลี่ทำเพื่อความสนุกล้วน ๆ เมื่อหงต้าหลี่และหลินหยูหยินร่วมมือกันแบบนี้ พวกเขาทำให้ทุกอย่างดูครบองค์ประกอบ มันยังเร็วเกินไปที่จะกังวลในตอนนี้ เอ่อ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันต้องรายงานให้เบื้องบนรู้”
หลังจากที่เขาปิดมือถือ มู่ฮุยโจวก็หันกลับมามองไวท์วูล์ฟ “หัวหน้าบอกว่าเขาจะมาที่นี่เร็ว ๆ นี้”
เสือขาวเหงื่อแตกพลั่ก “เขากำลังจะมา… ดูเหมือนว่าคราวนี้จะเป็นเรื่องจริง…”
เหตุผลที่เขาพูดแบบนี้ก็เพราะว่า.. ถ้าสามารถทำให้หัวหน้ามาที่นี่ได้ นั่นหมายความว่าสถานที่นี้อาจดูเหมือนโรงเรียน แต่จริง ๆ แล้ว ... มันอาจจะเป็นสถานที่พิเศษก็ได้ อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้ที่คนทั่วไปจะรู้ว่าสถานที่นี้คืออะไร
หลังจากนั้นไม่นานเสียงเฮลิคอปเตอร์ก็ดังขึ้นและหลังจากที่ลงจอดก็มีชายวัยกลางคน ในวัยห้าสิบปีต้น ๆ ค่อย ๆ ลงมา ชายคนนี้ดูธรรมดามากในชุดลำลองสีเทา แต่ดวงตาของเขาคมมาก มู่ฮุยโจวรีบทักทายเขา “หัวหน้า”
หัวหน้าพยักหน้าและถามว่า “อืม หงต้าหลี่อยู่ที่ไหน?”
มู่ฮุยโจวชี้ไปที่บ้านหลังเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลเกินไป “เขาอยู่ในบ้านหลังเล็กข้างหน้าครับ มีเต่าดำอยู่ที่นั่นด้วย”
หัวหน้าก็ได้ยิ้ม "ฮ่าฮ่า เจ้าเด็กคนนี้ เขาคือมาสคอตของเมืองเทียนจิงจริง ๆ เขาคิดจะสร้างมันขึ้นมาจริง ๆ สินะ เอ่อ ที่บอกว่าเขากำลังจะเปลี่ยนโรงเรียนให้กลายเป็นเมืองป้อมปราการ? แล้วหลินหยูหยินก็ร่วมมือด้วยงั้นเหรอ?”
มู่ฮุยโจวพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ครับ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกระตือรือร้นกับมันมาก”
หัวหน้าโบกมือและพูดว่า “พาฉันไปที่นั่น ไปดูกันว่าพวกเขาสร้างอะไรบ้าง”
ไวท์วูล์ฟอยู่เพื่อปกป้องสถานที่ ในขณะที่หัวหน้าและมู่ฮุยโจวเดินไปที่บ้านหลังเล็ก เมื่อพวกเขาเข้าไปในบ้าน มู่ฮุยโจวพูดว่า “ท่านนายน้อยต้าหลี่ครับ นี่คือหัวหน้าสำนักของเรา ไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อเขาหรอกครับ เรียกเขาว่าหัวหน้าก็ได้ครับ”
บุคคลที่สามารถทำให้มู่ฮุยโจวเรียกว่าหัวหน้านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หงต้าหลี่รีบเข้าไปหาพวกเขาและพูดคุยอย่างไพเราะ “สวัสดีครับลุงหัวหน้า เชิญนั่งก่อนครับ ฮ่าฮ่า อัยยา ลุงหัวหน้าเห็นว่าคุณดูมีอิทธิพล คุณจะต้องเป็นใครสักคนแน่ ๆ สถานที่แห่งนี้ดูโทรมไปหน่อย แต่เป็นเกียรติอย่างมากครับที่ลุงหัวหน้ามาที่นี่ ผมไม่รู้จะพูดยังไงเลย”
ทุกคนรอบ ๆ อ้าปากค้างเมื่อพวกเขาฟังหงต้าหลี่พูด พวกเขาเคยเห็นคนหน้าด้านมาก่อน แต่ไม่เคยเห็นคนที่หน้าด้านหนาเท่าผนังกำแพงขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงอยากสร้างกำแพงขนาดใหญ่ ...
หัวหน้าหัวเราะในขณะที่เขาพูดว่า “ฮ่าฮ่า น่ายินดีที่ได้เจอเธอ เอาล่ะ คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปก่อนได้ไหม? ฉันต้องการคุยกับต้าหลี่และหยูหยิน ขอโทษด้วยนะ”
ไม่มีใครกล้าอยู่ต่อหลังจากที่หัวหน้าพูดแบบนั้น พวกเขาออกจากบ้านไปรอข้างนอกทันที
เมื่อมีเพียงหงต้าหลี่และหยูหยินอยู่ในห้อง หัวหน้าก็พูดพร้อมรอยยิ้มว่า "ต้าหลี่ อ่า เธอจากตระกูลหงสินะ เป็นตระกูลที่มีอิทธิพลในรัฐสวรรค์ ฉันจะไม่พูดอะไรมาก ฉันมาตามที่ฉันได้ยินมาว่าพวกเธอตั้งใจที่จะขยายและสร้างโรงเรียนกับคุณหยูหยิน เธอมีแผนเฉพาะอะไรไหม?”
เขาหมายถึงอะไร บรรพบุรุษ หงจุนเป็นพ่อผู้ก่อตั้ง ฉันอยู่ที่นี่เพราะความสัมพันธ์นี้เท่านั้น ถ้าเป็นคนอื่นจะไม่พูดอะไรกับพวกเขาแบบนี้ บอกทีว่าเขาคิดจะทำอะไร เขาจะร่วมมือด้วยหรือไม่เห็นด้วย
หงต้าหลี่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร เขายิ้มและพูดว่า “ลุงหัวหน้า ผมแค่อยากสร้างโรงเรียนให้ใหญ่ขึ้น มันน่าสนุกดี ลุงก็รู้ว่าสิ่งที่ผมสามารถทำได้คืออะไร ผมไม่รู้อะไรเลย นอกจากการใช้เงิน…”
หัวหน้าสำนักหัวเราะเบา ๆ “ดีแล้วที่รู้จักใช้เงิน คนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่คนใจแคบ พวกเขาเป็นคนที่เต็มใจจ่ายเงินมากมาย ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าคนที่ประสบความสำเร็จเริ่มจากการเป็นคนใจแคบ ฮ่าฮ่า เธอรู้วิธีถลุงเงินและนั่นคือสิ่งที่ฉันเห็นในตัวเธอ บอกฉันทีว่าคราวนี้เธอตั้งใจจะใช้เงินยังไง?”
บ้าไปแล้ว ฉันได้รับคำชมเรื่องการถลุงเงินงั้นเหรอ?
หงต้าหลี่รู้สึกได้ทันทีว่าลุงหัวหน้าชื่นชอบเขามาก อย่างไรก็ตามควรรีบบอกเขาเร็ว ๆ ว่าพวกเขาตั้งใจจะทำอะไร “เอาล่ะ ลุงหัวหน้า เราจะสร้างกำแพงหนาเพื่อล้อมรอบโรงเรียน หนาจนรถสองคันวิ่งคู่กันได้ ความคิดของหยูหยิน คือ สร้างปืนแม่เหล็กไฟฟ้าขนาดใหญ่สิบหรือยี่สิบกระบอก…”
หัวหน้ามองไปที่หน้าจอแล็ปท็อปของหลินหยูหยิน “ดี พวกเธอตั้งใจจะสร้างกำแพงเหมือนกำแพงเหล็กที่เหมือนในหนังนิยายวิทยาศาสตร์ใช่ไหม?”
ดวงตาของหงต้าหลี่สว่างขึ้น "ใช่ ใช่! ลุงหัวหน้าคิดว่าไง?"
ลุงหัวหน้าก็ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และพยักหน้า “ก็โอเคนะ แต่โดยส่วนตัวแล้ว ฉันคิดว่ามันไม่ควรใหญ่เกินไป ลองคิดดูสิว่าโรงเรียนของเธอใหญ่แค่ไหน? การสร้างกำแพงใหญ่ ๆ แบบนี้ มันยากที่จะเปลี่ยนโครงสร้างอื่น ๆ หากเธอตั้งใจจะขยายพื้นที่ในอนาคตก็จะยาก นอกจากนี้ ถ้าลองทำเป็นเมืองโบราณ ที่ดินในกำแพงก็จะดูเล็กเกินไป ถ้าจะพัฒนา มันจะพัฒนาได้ยากทั้งภายในและภายนอกกำแพง ว่าไหม?”
“นั่นก็จริง…” สิ่งที่หัวหน้าพูดนั้นสมเหตุสมผล หากกำแพงล้อมรอบพื้นที่เล็กเกินไป การพัฒนาก็จะมีขีดจำกัด ถ้ามันใหญ่เกินไปก็ไม่ง่ายที่จะวางแผนพัฒนา หงต้าหลี่เสยผมของเขาและถามว่า “หากเป็นอย่างนี้ สิ่งที่ลุงหัวหน้าจะพูดคือ…”
“พยายามอย่าสร้างกำแพงปิดจนสุด” หัวหน้าชี้ไปที่จุดสองสามจุดบนหน้าจอ “ตั้งที่นี่และสร้างจุดเปลี่ยน เท่าที่จะทำได้ พยายามอย่าใช้กำแพงมากไป แล้วก็ถ้าเธอสามารถเปลี่ยนมาสร้างร้านของใช้แนวไซไฟต่าง ๆ ได้นั่นจะดีมาก ลองคิดดูสิ ถ้าเธอกำลังสร้างโรงเรียน น่าจะมีร้านค้าสักสองสามร้านนะ ว่าไหม? ถ้ามีแค่โรงเรียน จะเรียกว่าเป็นเมืองได้ยังไง?”
หงต้าหลี่ไม่ได้โง่ เขาก็ฉลาดพอตัว “ลุงหัวหน้า คุณหมายถึงใช้ร้านค้าเป็นกำแพงเมืองเหรอ? มันก็ง่ายต่อการพัฒนาในอนาคต เราสามารถใช้จุดเปลี่ยนเพื่อพัฒนาในทุกทิศทาง ใช่ไหม? หากเราขยายออกไปอีก สิ่งที่เราต้องทำคือสร้างจุดเปลี่ยนให้มากขึ้นสินะครับ?”
ลุงหัวหน้ายิ้มและพูดว่า “ฮ่าฮ่า เป็นเรื่องง่ายจริง ๆ ที่คุยกับคนฉลาด ด้วยวิธีนี้ เส้นทางการจราจรที่ต้าหลี่พูดก็จะถูกสร้างขึ้นและจะขยายออกไปทีละเล็กทีละน้อยได้ ในอนาคต ถ้าจะสร้างพื้นที่ขยายต่อก็เป็นเรื่องง่าย”
หงต้าหลี่ยิ้มแย้มแจ่มใส "อืม ดีมาก เยี่ยมไปเลย!" หัวหน้าให้คำแนะนำที่ดีมาก ร้านค้าเป็นเหมือนกำแพงเมืองและขายของเกี่ยวกับไซไฟ นอกจากนี้ยังสะดวกที่จะขยายในอนาคต โรงเรียนอยู่ด้านในและทำเป็นเมืองด้านนอก วะฮ่าฮ่าฮ่า
"ฮ่าฮ่า ว่าแต่เธอตั้งใจจะสร้างโรงเรียนยังไง?" ลุงหัวหน้าพูดต่อ “อย่างแรกเลยฉันมาเพื่ออยากรู้ว่าพวกเธอตั้งใจจะทำอะไร จากนั้นเราจะพูดคุยกันในเชิงลึก ฉันมาที่นี่ เพราะต้องการมาคุยถึงเรื่องลับสุดยอด หลังจากที่พวกเธอบอกความตั้งใจแล้ว ฉันจะบอกเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมฉันถึงมาในวันนี้”
ลุงคนนี้มาพร้อมกับข้อความลับสุดยอดจริง ๆ! อะไรกันเนี้ย? น่าตกใจซะจริง!
หงต้าหลี่จ้องมองไปที่ดวงตาของลุงหัวหน้า เขาไม่สามารถควบคุมเราได้เหมือนปืนใช่ไหม? ฉันต้องระวังให้มากขึ้น!
“ดีครับ ตอนแรกผมวางแผนที่จะสร้างโรงเรียนนี้ให้กับน้องสาวของผม หลินซี่ฉวน คุณต้องรู้จักเธอ” หงต้าหลี่พูดต่อว่า “น้องสาวของผมชอบเล่นเกม ดังนั้นผมจึงตัดสินใจสร้างโรงเรียนที่เธอสามารถเข้าเรียนได้โดยไม่ต้องเครียดมาก อย่างไรก็ตามมันไม่ได้สร้างความแตกต่างมากนัก ไม่ว่าเธอจะเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นในโรงเรียนหรือไม่ก็ตาม ความรู้พื้นฐานมันก็เพียงพอแล้ว เริ่มแรกผมต้องการสร้างโรงเรียนที่รวมโรงเรียนประถม มัธยมต้นและมัธยมปลายเข้าด้วยกัน และเราสามารถให้การศึกษาแก่เด็กที่ยากไร้ในพื้นที่ชนบทได้”
หัวหน้าถามอย่างยิ้ม ๆ ว่า “จริงเหรอ? อาเสี่ยน้อย เธออัจฉริยะจริง ๆ มาสคอตเมืองเทียนจิงของเราต้องการทำความดีเพื่อสังคมจริงเหรอ?”
หงต้าหลี่พูดอย่างไร้เดียงสาว่า “ก็ใช่สิครับ ผมสร้างโรงเรียนสำหรับนักเรียนคนเดียวไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”
หัวหน้าหัวเราะออกมาดังลั่น "ฮ่าฮ่า ดีแล้ว เธอเคยคิดที่จะรวมมหาวิทยาลัยด้วยไหม? ฉันจำได้ว่าเริ่มต้นแผนการ คือ การสร้างโรงเรียนอาชีวศึกษาใช่ไหม? โรงเรียนอาชีวศึกษาหลานเซียง?”
หงต้าหลี่เกาจมูก “อืม อะไรประมานนั้นล่ะครับ เด็ก ๆ จากชนบทไม่มีปัญหา เราได้จัดหาที่พักอาหารและการศึกษาให้พวกเขาฟรี แต่ผมคงดูแลพวกเขาทั้งชีวิตคงไม่ได้ ใช่ไหมล่ะ? ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาก็คือการเรียนรู้ทักษะที่หนึ่งหรือสอง เพื่อที่พวกเขาจะได้หางานในอนาคตได้ง่ายและถ้าพวกเขาเก่ง ผมก็เอาพวกเขามาทำงานกับผม โรงเรียนไม่ได้มีไว้เพื่อหารายได้ซะหน่อย”
หัวหน้ายิ้มให้ “ฮ่าฮ่า ต้าหลี่ช่างจิตใจดีจริง นั่นคือสิ่งที่ฉันชอบที่สุดเกี่ยวกับตัวเธอเลยนะ โรงเรียนประถม มัธยมต้น มัธยมปลายและมหาวิทยาลัยรวมกัน ข่าวที่ฉันได้ยินมาจากเธอในวันนี้ มันช่างเยี่ยมมากซะจริง!”